::ท่องไปกับมินิไบค์คันเล็ก พาMSXไปลุย...ปิล็อก กางเต้นท์รับหมอกที่เนินช้างศึก แถมยังคึกลงไปเหมืองสมศักดิ์::

สองล้อของคุณ หนึ่งปีวิ่งกี่กิโลกันคะ สก๊อยกับคุณ Rider โดนแซวว่าเรียนเอกการท่องเที่ยวกันหรอ.. รถปีเดียว ปาเข้าไปสามหมื่นโล

ขี่เที่ยวล้วนๆค่ะ 555 วันหยุดทีไร จิตใจว้าวุ่น ต้องหาที่ขี่เที่ยวกันจนได้ จะใกล้จะไกล เราก็ขี่กันไปเรื่อยๆ

พอไปหลายๆที่เข้า หลายคนก็บอก..ทำรีวิวสิ คนอื่นที่เค้าอยากมา เค้าจะได้รู้ว่า MSX อย่างเราก็มาไหว

ถ้าใจกล้าและ...พอ (กรุณาเติมคำลงในช่องว่าง 55)

ประกอบกับครั้งนี้ เราไปร่วมแจมทริปกับก๊วน "พเนจร on bike" เลยทำให้มีรูปหลายๆมุมที่ปกติแล้วเวลาไปคันเดียวจะไม่มีโมเมนต์แบบนี้

เริ่มกันเลยเนอะ.. ตามที่ตั้งใจไว้ จุดหมายแรกของเราคือหมู่บ้านอีต่อง ชุมชนเล็กๆที่เราตั้งใจแวะเพื่อซื้อเสบียงขึ้นไปนอนนับดาวกันบนเนินช้างศึก

แต่ถ้าคุณเคยออกทริปกันหลายๆคัน จะรู้ว่าแผนที่วางไว้มักพลาดเสมอ 555 พวกเรานี่พลาดกันตั้งแต่เริ่ม ที่จุดนัดพบปั๊ม ปตท.บางใหญ่ กำหนดการเดิมคือล้อหมุนตี5  แต่ปรากฎว่ารถนำขบวนระบบไฟดันช็อต ใช้เวลาแก้ไขกันพักใหญ่ๆ กว่าจะได้ออกเดินทางกันจริงๆก็ปาเข้าไป 7โมงครึ่ง  


ทริปนี้มีสองล้อไปด้วยกันทั้งหมด 9คัน หลากหลายสัญชาติ ทั้ง MSX PCX Zoomer Waveก็มา พอไปถึงตัวเมืองกาญจนบุรีก็ยังมีแวะรับ Stallionsเจ้าถิ่น ซึ่งจะนำทางเราขึ้นเขา แถมยังมี R15ที่มาแบบอโลนแล้วคงเหงามาต่อท้ายด้วย 55 บวกกับรถตู้ขาซิ่ง ที่ทำหน้าที่หลากหลายมาก ทั้งขนของ  ทั้งเป็นรถปิดขบวน คอยระวังหลังให้ ต่อกันไปเป็นรถไฟที่ขบวนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

ขี่มาพักใหญ่ๆ เริ่มเมื่อยในระดับที่1 มองเห็นภูเขาเขียวๆกันบ้างแล้ว


แหงนมองท้องฟ้า เริ่มมีละอองฝนโปรยลงมา ทั้งๆที่แดดจ้าขนาดนี้เนี่ยนะ..อากาศที่นี่คาดเดาอะไรไม่ได้จริงๆ


ถนนช่วงแรกนี่ยังดีอยู่ค่ะ อากาศก็ดี๊ ดี แดดสวยฟ้าใส จนเชื่อสนิทใจแล้วว่า คงไม่โดนฝนกระหน่ำแน่ๆ


เรามาถึงตลาดทองผาภูมิกันเกือบๆบ่ายสอง ต้องปรับกำหนดการจากเดิมที่คิดว่าจะไปซื้อเสบียงที่หมู่บ้านอีต่อง มาซื้อกันที่นี่แทน เพราะกลัวว่ากว่าเราจะขึ้นไปถึง อาจไม่มีอะไรเหลือให้กินแล้ว มุมนี้สวยมาก ขนาดในตลาดข้างล่างน้ำยังใสฟินขนาดนี้เลย อยากไปเจอของจริงเร็วๆแล้ว


ออกจากตลาดทองผาภูมิมา เราก็เจอของจริงค่ะ 55 ฝนตกหนักมากถึงมากที่สุด แล้วดันมาตกหนักจังหวะเราขึ้นเขา คนนำทางของเราก็ไม่ค่อยอยากให้พักบ่อย เพราะเราผิดเวลาไปมากแล้ว ถ้ามืดกว่านี้เราอาจจะขึ้นกันไม่ถึง ฝนก็ยังไม่มีทีท่าจะหยุดง่ายๆ หลุมก็เยอะมากขึ้น

MSX เป็นรถที่คนออกแบบไม่ได้คิดว่า ในชีวิตจริงเราต้องเจอฝน 555 พ่อคุณเอ้ยย ดีดหนักมากก มีกันดีดนี่ลดความเลอะเทอะลงไปได้แค่ 30%เท่านั้น อีก 60%ไปตกที่เสื้อการ์ด และอีก 10%ที่กางเกงตามลำดับ ลุยกันไปชม.กว่า อยู่ดีๆฝนเลิกแกล้ง หายไปไหนไม่รู้  ผ่านโค้งที่ขึ้นมาถึงจุดชมวิว พื้นนี่แห้งสนิท ฟ้าใสไม่มีวี่แววว่าเคยมีฝน อะไรแว๊...  

รูปนี้ถ่ายตรงจุดชมวิวค่ะ สภาพคือยังงงไม่หาย ว่าฝนไปไหน ทิ้งหลักฐานไว้แค่หูเปียกๆบนหมวก 55


ปลายทางของเราอยู่ไม่ไกลแล้ว แต่หนทางยังลำบากมากขึ้น ถนนคอนกรีตเริ่มเปลี่ยนไป กลายเป็นทางโรยกรวด หลุมเยอะขึ้น โค้งชันมากขึ้น เหมือนทุกอย่างกำลังทดสอบความตั้งใจของเรา  


แล้วในที่สุด ก็มาถึงกันก่อนพระอาทิตย์ตกจนได้ รูปนี้ขออภัยไม่ชัดเลย มือไม้สั่นดีใจที่มาถึงซะที T T


รีบขึ้นมาบนเนินช้างศึก แสงจะหมดแล้ว


หมอกก็ฟุ้งมากเลย..


จากตอนนี้เราก็รีบสร้างแลนด์มาร์ค กางเต้นท์พักผ่อนกันค่ะ อากาศเย็นกำลังดี ไม่หนาวเกินไป ยังพออาบน้ำไหว 55 อยากบอกว่าดาวสวยมาก เสียดายไม่มีกล้องที่จะถ่ายให้เห็นได้ ความเหนื่อยทั้งหลายที่เจอมาตลอดวันกลายเป็นเรื่องเล่าขำขันในยามค่ำคืน ไม่กล้าตามฝัน ก็ไม่มีวันเจอจริงๆ รีบนอนกันดีกว่า จะได้มีแรงตื่นมาทักทายหมอกในตอนเช้า  

เช้าแล้วจ้าา เป็นเรื่องเล่าก็ดีอย่างนี้แหละ Skip ข้ามมาได้เลย 55 ออกมาล้างหน้าล้างตา เซย์ฮัลโหลพระอาทิตย์ดวงน้อยกัน


ข้ามสันเขาที่เห็นเป็นแนวตรงๆนี่ไป ก็เป็นเขตประเทศเพื่อนบ้านเราแล้วค่ะ Myanmar หรือ "พม่า" ที่เราๆคุ้นเคยกันนั่นเอง


เห็นธงชาติไทยที่ปักบอกเขตแดนอยู่ไกลๆ เอารูปหัวใจวงไว้ให้ดูค่ะ อิอิ รักเธอประเทศไทย..


หันกลับมาดูถนนที่เราฝ่าฟันขึ้นมากันเมื่อวาน พระอาทิตย์ดวงน้อยของเราเริ่มลอยขึ้นสูงแล้ว


เก็บภาพ Panorama มาด้วยค่ะ ชอบรูปนี้มาก เห็นบรรยากาศได้ 360องศาเลย


จุดสังเกตุการณ์ของทหาร ซึ่งกลายเป็นจุดชมวิวของนักท่องเที่ยวไปซะแล้วว


จากจุดเดิม มองย้อนกลับลงมา มุมที่คณะของเราปักหลักกางเต้นท์กัน วิวสวยมากจริงๆ


อาหารเช้าวันนี้ของเรา ทำข้าวต้มกินกันง่ายๆ แต่ที่ติดใจจนอยากบอกต่อคือ "ผัดเห็ดสามสหาย" จานนี้ซื้อมาจากหมู่บ้านอีต่องในราคา 100บาทถ้วน อร่อยมว๊ากกก แนะนำให้ลองค่ะ


แดดเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ ได้เวลาโบกมือลา ก่อนกลับลงมาขอแชะเป็นที่ระลึกกันอีกหนึ่งรูป ครั้งนึงเราเคยมาแล้วน้าา [แอบมีแมลงปอติดเฟรมมาด้วย มองเห็นกันมั๊ย อิอิ]


กำหนดการเดิมของเราวันนี้คือจะแวะเล่นน้ำตกจ๊อกกระดิ่น แล้วก็ค่อยๆขี่กลับกรุงเต้บกันค่ะ แต่บอกแล้วว่า ทริปเรามีเรื่องเหนือความคาดหมายเสมอ พอขี่กันลงมาถึงปากทางลงเหมืองสมศักดิ์ ทุกคันจอดลงมาหารือกันว่า อยากลงไปกินเค้กป้าเกล็นกันมั๊ย? หลายคนหลายความคิด บางคนก็ว่าไหนๆมาถึงตรงนี้แล้ว ลงไปลองกันดูซักตั้ง บางคนก็ว่า ทางมันเลวร้ายมากนะ ลงไปมีหวังพังแน่ๆ หัวหน้าทริปของเราไปหาข้อมูลมาจากหมู่บ้านอีต่อง ว่ารถอย่างเราคันเล็กๆ พอลงไหว ฝนก็ไม่ตกที่เหมืองมา 3-4 วันแล้ว มองหน้ากันไปมา สรุปว่าแบ่งออกเป็นสองทีม ทีมที่คิดว่าไม่ไหวก็ไปเล่นน้ำตกจ๊อกกระดิ่นรอก่อน แต่สายโหดอย่างคุณ Rider จะเหลือหรอคะ ลุยอยู่แล้ว ระยะทางตามป้ายคือ 5กิโล ผู้ร่วมทริปของเราคันนึงเคยเอา KSR มาลง เค้าเลยกลายเป็นท่านผู้นำไปในทันที ท่านผู้นำของเราบอกไว้ว่า ถ้าลงไปได้ซัก 2กิโล ก็รู้แล้วว่าที่เหลืออีก 3กิโลจะลงไหวมั๊ย 555 ตามมาดูตอนต่อไปค่ะ ว่าจะยังขำกันออกมั๊ย  


ผ่านโค้งแรกๆช่วงปากทางได้ไม่กี่โค้ง สก๊อยก็ต้องลงเดินกันแล้วค่ะ ทางยังเป็นคอนกรีตอยู่บ้างบางส่วน ต้องอ่านลายกันดีๆ พลาดไปลายอื่นนี่มีสะเทือนใจ


ผ่านจุดนั้นไปเป็นลูกรังล้วนๆค่ะ สภาพตามที่เห็น..


คุณ Rider ชี้ตัวผู้ต้องหา 55 มันเลอะจริงๆน้าา


ตามที่ท่านผู้นำว่าไว้ ว่าผ่าน2กิโลไปได้ อะไรๆจะดีขึ้น แต่สก๊อยว่ามันแย่ลงเรื่อยๆนะค๊า สโล๊ปตลอดทาง สก๊อยซ้อนมาไม่ได้ เดินแบกของปาดเหงื่อ ย่ำต๊อกตามๆกันไป จนผ่านช่วง 2กิโลแรกมา เพื่อจะมาถึงจุดที่มีป้ายเตือนว่า ทางมันจะแย่ลงอีก (เง้ออ มีแย่กว่านี้อีกหรอเนี่ย!!)


เราเลยตัดสินใจ Drop กระเป๋ากับของที่ไม่จำเป็นทิ้งไว้กลางทางค่ะ โปเตโต้มาเองเลย ไม่งั้นมีกลิ้งลงเขาทั้งคนทั้งของแน่นอน ทางก็ยังวิบากปนลำบากมากขึ้นอีก


และยังวิบากได้อีก จนมาถึงจุดที่พีคสุดๆ สก๊อยนี่เดินปาดน้ำตาแทนเหงื่อแล้วค่ะ ไม่ไหวแล้วจริงๆ ณ เวลานั้นเหนื่อยสุดพลัง เรื่องไม่จบง่ายๆเมื่อคุณ Rider หันกลับมาถามไถ่ ว่าไหวหรือเปล่า? เท่านั้นแหละ สก๊อยนี่ปล่อยโฮเลยค่ะ ดราม่าสุดฤทธิ์ (คุณ Rider เลยได้บทเรียนว่าอย่ามาโอ๋ตอนกำลังร้อง ยิ่งโอ๋ยิ่งร้องหนัก 55)


ข้อดีของการมาด้วยกันหลายๆคัน คือได้แบ่งปันกำลังใจให้กัน ช่วยเหลือดูแลมาตลอดทาง ในจุดที่คิดว่าตัวเองไม่ไหวแล้วจริงๆ การมีคนอื่นมาตบไหล่แล้วบอกว่า เฮ้ย..สู้นะ ไปด้วยกัน เท่านี้จริงๆที่ทำให้เรายังมีแรงฮึดไปต่อจนถึงจุดหมาย แล้วเราก็มาถึงกันจนได้

เหมืองสมศักดิ์..บ้านป้าเกล็น


ความพยายามของนักเดินทาง ที่ตั้งใจมาจนถึงจุดหมาย เห็นได้จากสติ๊กเกอร์นับร้อยชิ้นที่ฝากไว้ ครั้งนึงเราเคยไปหาป้าแล้วนะคะ


ผิดแผนนิดหน่อยอีกแล้ว เราลงมาเร็วเกินไป วันนี้ป้าเกล็นยังอบเค้กไม่เสร็จ เลยเก็บบรรยากาศในร้านเค้กของคุณป้ามาให้ดูกันค่ะ


ความทรงจำของผู้คนมากมายที่มีร่วมกับคุณป้า ปรากฎให้เห็นจากรูปถ่ายที่มีอยู่ทั่วทุกมุมร้าน


ชั้นวางเค้กโล่งๆ แอบเสียใจ รอบหน้า..ต้องมากินให้ได้เลย แต่คงต้องทำใจพักใหญ่ๆเรื่องทางที่จะลงมา


ต่อในเม้นนะคะ คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะยาวขนาดนี้ ใครที่หลวมตัวเข้ามาอ่าน คุณนี่พลาดแล้ว บ่นในใจได้นะคะว่า..ไม่น่าเลยตรู 555
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่