หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม
สมัยหนึ่งพวกทหารอากาศไปนมัสการหลวงปู่ตื้อ และคงมีเหตุไม่ชอบมาพากลอย่างไร
หลวงปู่ตื้อผลุนผลันลุกขึ้นเดินไปฉี่ใส่ตอไม้ และกล่าวห้วน ๆ กับพวกนั้นว่า
“คนเราถ้ามันจะขลัง ต้องขลังกระทั่งเยี่ยว เอ้า..ยิง”
ทหารพวกนั้นซัดซัลโวใส่ตอไม้ ปรากฏว่าไม่ออกสักนัด นี่นับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน แม้กระทั่งฉี่ยังทำให้ทหารยิงปืนไม่ออก
นอกจากนั้นแล้วก็มีบ้างที่พวกลูกศิษย์บางคนคิดพิเรนทร์เล่นแปลก ๆ บางคนถึงกับเอาเส้นเกศาของหลวงปู่ตื้อที่ท่านโกนทิ้งแล้ว เอาไปลองยิงดู ปรากฏว่ายิงไม่ออก !
พอลงมือยิง ปืนไม่ลั่น ก็รีบมาบอกหลวงปู่ตื้ออีกเช่นกัน เพื่อหวังว่าจะให้หลวงปู่ชมที่ตนเองค้นพบความมหัศจรรย์ ถือว่าเป็นคุณความดีเกิดขึ้นกับตัว
" หลวงปู่...หลวงปู่ครับ ผมลองเอาปืนยิงเส้นเกศาของหลวงปู่ดู มันยิงไม่ออกนะครับหลวงปู่ "
หลวงปู่ตื้อ ย้อนถามเสียงดังว่า
" ผมกูไปลักควายพ่อหรือ ผมของกูไปนอนกับแม่หรือ เอาผมกูไปยิงทำไม ทำอย่างนี้แสดงว่าไม่เชื่อกันนะสิ "
แม้หลวงปู่ท่านจนจะกล่าวด้วยคำพูดที่ดุดัน แต่สีหน้าอาการสงบเงียบ แสดงชัดว่า การดุด่าของท่านมิได้เป็นไปด้วยอารมณ์ปุถุชน แต่เป็นการเตือนสติ ให้พิจารณาถึงสิ่งอันควรไม่ควร
อี

สะกดว่า อออ่างสระอี อออีอี ตอเต่าสระออ ตอออตอ หอลอสระแอ หอรอแอแหล
อุบาสิกาท่านหนึ่ง มีความซาบซึ้งดื่มด่ำในธรรมที่หลวงปู่ตื้อแสดงอย่างยิ่ง เมื่อเทศน์จบลง อุบาสิกาท่านนี้ก็คลานคล้อยเข้าไปเบื้องหน้าธรรมาสน์ที่ท่านนั่งแสดงธรรม พนมมือนมัสการกราบเรียนหลวงปู่ว่า
"หลวงปู่เจ้าค่ะ อีฉันได้ฟังหลวงปู่เทศนาแล้ว เบากายเบาใจเหลือเกิน อีฉันปล่อยวางได้หมดแล้วเจ้าค่ะ"
"อนุโมทนาด้วยคุณโยม ที่เกิดดวงตาเห็นธรรม"
"อีฉันไม่ยึดมั่นถือมั่นอีกต่อไปแล้วเจ้าค่ะหลวงปู่"
หลวงปู่ตื้อนิ่งไปนิดหนึ่ง ก่อนจะพูดเสียงดังฟังชัดว่า
"อี

!" สะกดว่า อออ่างสระอี อออีอี ตอเต่าสระออ ตอออตอ หอลอสระแอ หอรอแอแหล
สิ้นคำหลวงปู่ อุบาสิกาท่านนั้นถึงกับหน้าแดงก่ำทั้งโกรธทั้งอาย ต่อว่าหลวงปู่ตื้อเสียงสั่นว่า ทำไมท่านจึงมาด่าว่าตนท่ามกลางสาธารณชนเช่นนี้
หลวงปู่ตื้อได้แต่หัวเราะหึ ๆ ไม่อธิบายโต้ตอบอะไร ขณะที่คนทั้งศาลาหัวเราะกันครืน เพราะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า อุบาสิกาปล่อยวางอะไรไม่ได้เลย และยังยึดมั่นตัวตนของตนอย่างเหนียวแน่นครบถ้วน
__________________
ประวัติ หลวงตามหาบัว ตอนที่92 -

ลัวหลวงปู่ตื้อ

ความลี้ลับของจิต (หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม)
วัดอรัญญวิเวก บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
******************************************
ในคราวที่พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป ได้อยู่ปรนนิบัติ หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ที่วัดธรรมสามัคคีนั้น หลวงพ่อเปลี่ยน ปญฺญาปทีโปได้รับการสั่งสอนแนะนำถึงความลี้ลับของจิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนั่งภาวนา เมื่อเกิดเห็นนิมิตบางอย่างขึ้น แม้จะออกจากสมาธิมาแล้ว ขณะเมื่อเดินบิณฑบาต ก็ยังมองเห็น “สิ่งประหลาดๆ” อยู่เนืองๆ
หลวงปู่ตื้อ ท่านสอนสั่งในเรื่องนิมิตที่เกิดขึ้น ว่านิมิตนั้นจำแนกไปหลายประการ จิตของนักปฏิบัติมีหลายขั้นตอนตามนิสัยบารมีของแต่ละคน
พูดถึงผู้มีสมาธิดี จิตใจบริสุทธิ์สะอาด ก็จะปรากฏนิมิตที่แจ่มใส เป็นไปด้วยอำนาจฌาน และอำนาจแห่งญาณ
ตอนที่หลวงพ่อเปลี่ยน ออกเดินบิณฑบาตตามหลังหลวงปู่ตื้อ และพระภิกษุสงฆ์องค์อื่นๆ ท่านมองเห็นผู้คนในลักษณะต่างๆ ที่ไม่เหมือนกับที่ตาเราเห็น ตอนแรกๆ ก็คิดว่าเราไปสร้างนิมิตเอาเอง พอนานๆ ไปก็เห็นว่าเราพบเรื่องจริงเข้าแล้ว จึงได้นำมากราบเรียนปรึกษากับหลวงปู่ตื้อ แล้วท่านให้ข้อคิด ดังนี้
๑. ถ้านิมิตเห็นบุคคลธรรมดานุ่งห่มผ้าสีเหลืองเดินเข้ามาหา แสดงว่าจิตของบุคคลเหล่านั้นเป็นผู้มีศีล ๕ อยู่เป็นปกติ มีสมาธิ มีการปฏิบัติศีลอย่างสม่ำเสมอ ละเว้นจากการทำชั่ว มีใจเป็นพระ เป็นธรรม
๒. ถ้านิมิตเห็นบุคคลธรรมดานุ่งห่มด้วยผ้าขาว แสดงว่าจิตของบุคคลนั้นมีศีล ๕ เป็นปกติ และมีใจเป็นเทพเทวดา
๓. ถ้านิมิตเห็นบุคคลธรรมดานุ่งห่มเสื้อผ้าขาด ผิวคล้ำไม่มี สง่าราศี แสดงว่าจิตของบุคคลนั้นตกต่ำลงไปกว่าความเป็นคน คือ มีความคิดแต่จะทำความชั่ว
๔. ถ้านิมิตเห็นบุคคลที่ใส่เสื้อผ้าดำสนิท จิตของเขามีศีลที่ไม่บริสุทธิ์ ใจหยาบ
ที่ต่ำไปกว่านั้น คือ จะเห็นเป็นลักษณะของเดรัจฉาน เช่น ควาย ต่ำลงไปก็เป็นสุนัข ต่ำลงไปก็เป็นสัตว์ประเภทเลื้อยคลาน เช่น งู เป็นต้น
หลวงพ่อเปลี่ยนได้รับการบอกเล่าเช่นนี้จากหลวงปู่ตื้อ นับว่าเป็นประโยชน์ยิ่งนัก
เพลงแหล่ชีวประวัติ หลวงปู่ติ้อ อจลธัมโม
“คนเราถ้ามันจะขลัง ต้องขลังกระทั่งเยี่ยว เอ้า..ยิง”
สมัยหนึ่งพวกทหารอากาศไปนมัสการหลวงปู่ตื้อ และคงมีเหตุไม่ชอบมาพากลอย่างไร
หลวงปู่ตื้อผลุนผลันลุกขึ้นเดินไปฉี่ใส่ตอไม้ และกล่าวห้วน ๆ กับพวกนั้นว่า
“คนเราถ้ามันจะขลัง ต้องขลังกระทั่งเยี่ยว เอ้า..ยิง”
ทหารพวกนั้นซัดซัลโวใส่ตอไม้ ปรากฏว่าไม่ออกสักนัด นี่นับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน แม้กระทั่งฉี่ยังทำให้ทหารยิงปืนไม่ออก
นอกจากนั้นแล้วก็มีบ้างที่พวกลูกศิษย์บางคนคิดพิเรนทร์เล่นแปลก ๆ บางคนถึงกับเอาเส้นเกศาของหลวงปู่ตื้อที่ท่านโกนทิ้งแล้ว เอาไปลองยิงดู ปรากฏว่ายิงไม่ออก !
พอลงมือยิง ปืนไม่ลั่น ก็รีบมาบอกหลวงปู่ตื้ออีกเช่นกัน เพื่อหวังว่าจะให้หลวงปู่ชมที่ตนเองค้นพบความมหัศจรรย์ ถือว่าเป็นคุณความดีเกิดขึ้นกับตัว
" หลวงปู่...หลวงปู่ครับ ผมลองเอาปืนยิงเส้นเกศาของหลวงปู่ดู มันยิงไม่ออกนะครับหลวงปู่ "
หลวงปู่ตื้อ ย้อนถามเสียงดังว่า
" ผมกูไปลักควายพ่อหรือ ผมของกูไปนอนกับแม่หรือ เอาผมกูไปยิงทำไม ทำอย่างนี้แสดงว่าไม่เชื่อกันนะสิ "
แม้หลวงปู่ท่านจนจะกล่าวด้วยคำพูดที่ดุดัน แต่สีหน้าอาการสงบเงียบ แสดงชัดว่า การดุด่าของท่านมิได้เป็นไปด้วยอารมณ์ปุถุชน แต่เป็นการเตือนสติ ให้พิจารณาถึงสิ่งอันควรไม่ควร
อี
อุบาสิกาท่านหนึ่ง มีความซาบซึ้งดื่มด่ำในธรรมที่หลวงปู่ตื้อแสดงอย่างยิ่ง เมื่อเทศน์จบลง อุบาสิกาท่านนี้ก็คลานคล้อยเข้าไปเบื้องหน้าธรรมาสน์ที่ท่านนั่งแสดงธรรม พนมมือนมัสการกราบเรียนหลวงปู่ว่า
"หลวงปู่เจ้าค่ะ อีฉันได้ฟังหลวงปู่เทศนาแล้ว เบากายเบาใจเหลือเกิน อีฉันปล่อยวางได้หมดแล้วเจ้าค่ะ"
"อนุโมทนาด้วยคุณโยม ที่เกิดดวงตาเห็นธรรม"
"อีฉันไม่ยึดมั่นถือมั่นอีกต่อไปแล้วเจ้าค่ะหลวงปู่"
หลวงปู่ตื้อนิ่งไปนิดหนึ่ง ก่อนจะพูดเสียงดังฟังชัดว่า
"อี
สิ้นคำหลวงปู่ อุบาสิกาท่านนั้นถึงกับหน้าแดงก่ำทั้งโกรธทั้งอาย ต่อว่าหลวงปู่ตื้อเสียงสั่นว่า ทำไมท่านจึงมาด่าว่าตนท่ามกลางสาธารณชนเช่นนี้
หลวงปู่ตื้อได้แต่หัวเราะหึ ๆ ไม่อธิบายโต้ตอบอะไร ขณะที่คนทั้งศาลาหัวเราะกันครืน เพราะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า อุบาสิกาปล่อยวางอะไรไม่ได้เลย และยังยึดมั่นตัวตนของตนอย่างเหนียวแน่นครบถ้วน
__________________
ประวัติ หลวงตามหาบัว ตอนที่92 -
ความลี้ลับของจิต (หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม)
วัดอรัญญวิเวก บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
******************************************
ในคราวที่พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป ได้อยู่ปรนนิบัติ หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ที่วัดธรรมสามัคคีนั้น หลวงพ่อเปลี่ยน ปญฺญาปทีโปได้รับการสั่งสอนแนะนำถึงความลี้ลับของจิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนั่งภาวนา เมื่อเกิดเห็นนิมิตบางอย่างขึ้น แม้จะออกจากสมาธิมาแล้ว ขณะเมื่อเดินบิณฑบาต ก็ยังมองเห็น “สิ่งประหลาดๆ” อยู่เนืองๆ
หลวงปู่ตื้อ ท่านสอนสั่งในเรื่องนิมิตที่เกิดขึ้น ว่านิมิตนั้นจำแนกไปหลายประการ จิตของนักปฏิบัติมีหลายขั้นตอนตามนิสัยบารมีของแต่ละคน
พูดถึงผู้มีสมาธิดี จิตใจบริสุทธิ์สะอาด ก็จะปรากฏนิมิตที่แจ่มใส เป็นไปด้วยอำนาจฌาน และอำนาจแห่งญาณ
ตอนที่หลวงพ่อเปลี่ยน ออกเดินบิณฑบาตตามหลังหลวงปู่ตื้อ และพระภิกษุสงฆ์องค์อื่นๆ ท่านมองเห็นผู้คนในลักษณะต่างๆ ที่ไม่เหมือนกับที่ตาเราเห็น ตอนแรกๆ ก็คิดว่าเราไปสร้างนิมิตเอาเอง พอนานๆ ไปก็เห็นว่าเราพบเรื่องจริงเข้าแล้ว จึงได้นำมากราบเรียนปรึกษากับหลวงปู่ตื้อ แล้วท่านให้ข้อคิด ดังนี้
๑. ถ้านิมิตเห็นบุคคลธรรมดานุ่งห่มผ้าสีเหลืองเดินเข้ามาหา แสดงว่าจิตของบุคคลเหล่านั้นเป็นผู้มีศีล ๕ อยู่เป็นปกติ มีสมาธิ มีการปฏิบัติศีลอย่างสม่ำเสมอ ละเว้นจากการทำชั่ว มีใจเป็นพระ เป็นธรรม
๒. ถ้านิมิตเห็นบุคคลธรรมดานุ่งห่มด้วยผ้าขาว แสดงว่าจิตของบุคคลนั้นมีศีล ๕ เป็นปกติ และมีใจเป็นเทพเทวดา
๓. ถ้านิมิตเห็นบุคคลธรรมดานุ่งห่มเสื้อผ้าขาด ผิวคล้ำไม่มี สง่าราศี แสดงว่าจิตของบุคคลนั้นตกต่ำลงไปกว่าความเป็นคน คือ มีความคิดแต่จะทำความชั่ว
๔. ถ้านิมิตเห็นบุคคลที่ใส่เสื้อผ้าดำสนิท จิตของเขามีศีลที่ไม่บริสุทธิ์ ใจหยาบ
ที่ต่ำไปกว่านั้น คือ จะเห็นเป็นลักษณะของเดรัจฉาน เช่น ควาย ต่ำลงไปก็เป็นสุนัข ต่ำลงไปก็เป็นสัตว์ประเภทเลื้อยคลาน เช่น งู เป็นต้น
หลวงพ่อเปลี่ยนได้รับการบอกเล่าเช่นนี้จากหลวงปู่ตื้อ นับว่าเป็นประโยชน์ยิ่งนัก
เพลงแหล่ชีวประวัติ หลวงปู่ติ้อ อจลธัมโม