ส่วนมากเราจะเห็นกระทู้ที่ แชร์ประสบการณ์ การประหยัด อดออม ลดรายจ่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่ผมกลับคิดว่า การประหยัดที่มากเกินไปนั้น ทำให้คนส่วนใหญ่ลืมที่จะกันเงินไว้ส่วนนึง เพื่อลงทุนในการ 'พัฒนาตนเอง' ซึ่งเป็นจุดที่สำคัญมากที่จะทำให้เรา มีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น
ตอนนี้ทำงานมาได้ 2 ปีครึ่งแล้วหลังเรียนจบ ซึ่งก็ยังถือว่าค่อนข้างเด็กอยู่มากในวัยทำงาน พอเริ่มทำงานแล้ว โอ้โหห มองโลกเปลี่ยนไปเลย ที่เปลี่ยนไปมากที่สุดคือ เห็นคุณค่าของเงินมากขึ้นมากกกกกกก เพราะกว่าจะได้มานี่ มันช่างยากลำบาก แน่นอน ถ้าอยากรวยก็ต้องประหยัดจริงไหม? จขกท ก็เหมือนกัน
ทำงานปีแรก
ตั้งแต่เริ่มทำงานก็พยายามออมเงินเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ลงทุนในการพัฒนาตนเองไปด้วย ที่ จขกท ทำคือเรียนภาษา พอไปสอบได้คะแนนดี ก็ได้ปรับเงินเพิ่ม ตอนนี้ก็กำลังเรียนอีกภาษานึง (ทำด้านส่งออก ภาษาสำคัญ)
ทำงานปีที่สอง
เนื่องจากเราพยายามพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ผลงานปีแรกเลยเด่นเข้าตาผู้ใหญ่ เลยได้ปรับเงินพิเศษบวกเข้าไปอีกในเงินเดือน (นอกเหนือจากโบนัสและปรับเงินประจำปี)
สถานะเงินออม
เงินออมปีแรกได้จากทางเดียวคือ การประหยัด ซึ่งก็ถือว่าน่าพอใจ
เงินออมปีที่สองได้จากสองทาง คือ การประหยัด และเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น ผลคือเงินออมเราก็เพิ่มสูงขึ้น เพราะเราพยายามคงรายจ่ายไว้เท่าเดิม
เงินออมปีต่อไป คือ หวังให้เพิ่มขึ้นจากรายได้ที่สูงขึ้น (มากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไป)
ถามว่าไม่พัฒนาตัวเองได้ไหม? มันก็ได้นะ แต่คิดว่ารายได้เราก็คงนิ่งอยู่กับที่ ไม่ก็ขึ้นแค่นิดหน่อยในแต่ละปี (จากการปรับเงินประจำปี) แล้วถามว่า เงินเฟ้อก็วิ่งไปเรื่อยๆทุกปี เงิน 100 บาทในวันนี้จะมีค่าน้อยลงไปเรื่อยๆในอนาคต ดังนั้นส่วนตัวคิดว่า การประหยัดคือการทำให้ไม่จน แต่ก็ไม่ทำให้รวย ถ้าเราหาเงินเพิ่มได้มากเรื่อยๆ ในขณะที่คุมค่าใช้จ่ายให้อยู่ที่เดิม อันนี้ผมว่าน่าจาทำให้รวยมากกว่า
เพื่อนๆคิดว่ายังไงครับ
ประหยัดอย่างเดียวไม่ทำให้รวย ต้อง "ประหยัด + หาเงินเพิ่ม" ถึงจะรวย คำพูดนี้คิดว่าจริงไหม?
ตอนนี้ทำงานมาได้ 2 ปีครึ่งแล้วหลังเรียนจบ ซึ่งก็ยังถือว่าค่อนข้างเด็กอยู่มากในวัยทำงาน พอเริ่มทำงานแล้ว โอ้โหห มองโลกเปลี่ยนไปเลย ที่เปลี่ยนไปมากที่สุดคือ เห็นคุณค่าของเงินมากขึ้นมากกกกกกก เพราะกว่าจะได้มานี่ มันช่างยากลำบาก แน่นอน ถ้าอยากรวยก็ต้องประหยัดจริงไหม? จขกท ก็เหมือนกัน
ทำงานปีแรก
ตั้งแต่เริ่มทำงานก็พยายามออมเงินเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ลงทุนในการพัฒนาตนเองไปด้วย ที่ จขกท ทำคือเรียนภาษา พอไปสอบได้คะแนนดี ก็ได้ปรับเงินเพิ่ม ตอนนี้ก็กำลังเรียนอีกภาษานึง (ทำด้านส่งออก ภาษาสำคัญ)
ทำงานปีที่สอง
เนื่องจากเราพยายามพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ผลงานปีแรกเลยเด่นเข้าตาผู้ใหญ่ เลยได้ปรับเงินพิเศษบวกเข้าไปอีกในเงินเดือน (นอกเหนือจากโบนัสและปรับเงินประจำปี)
สถานะเงินออม
เงินออมปีแรกได้จากทางเดียวคือ การประหยัด ซึ่งก็ถือว่าน่าพอใจ
เงินออมปีที่สองได้จากสองทาง คือ การประหยัด และเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น ผลคือเงินออมเราก็เพิ่มสูงขึ้น เพราะเราพยายามคงรายจ่ายไว้เท่าเดิม
เงินออมปีต่อไป คือ หวังให้เพิ่มขึ้นจากรายได้ที่สูงขึ้น (มากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไป)
ถามว่าไม่พัฒนาตัวเองได้ไหม? มันก็ได้นะ แต่คิดว่ารายได้เราก็คงนิ่งอยู่กับที่ ไม่ก็ขึ้นแค่นิดหน่อยในแต่ละปี (จากการปรับเงินประจำปี) แล้วถามว่า เงินเฟ้อก็วิ่งไปเรื่อยๆทุกปี เงิน 100 บาทในวันนี้จะมีค่าน้อยลงไปเรื่อยๆในอนาคต ดังนั้นส่วนตัวคิดว่า การประหยัดคือการทำให้ไม่จน แต่ก็ไม่ทำให้รวย ถ้าเราหาเงินเพิ่มได้มากเรื่อยๆ ในขณะที่คุมค่าใช้จ่ายให้อยู่ที่เดิม อันนี้ผมว่าน่าจาทำให้รวยมากกว่า
เพื่อนๆคิดว่ายังไงครับ