ทริปนี้เกิดจาก Request ของคุณพ่อเราเองที่ท่านอยากไปนอนพักผ่อนริมแม่น้ำ ลูกอย่างเราเลยจัดให้ เตรียมตัวล่วงหน้าประมาณ 2 เดือนโดยการหาข้อมูลจาก pantip นี้แหละค่ะ พอเราไปมาแล้วประทับใจและไม่เคยเห็นรีวิวมาก่อน ก็เลยถือโอกาสมาตอบแทนชาว pantip ค่ะ
ทริปนี้เราไปช่วงวันหยุดยาววันปิยมหาราชที่ผ่านมานี้ค่ะ ไปกัน 5 คนออกเดินทางตอน 7 โมงเช้า เลือกเส้นทางถนนเพชรเกษมเพราะคาดว่าถนนบรมราชชนนีรถน่าจะเยอะกว่า ซึ่งก็จริงนะคะ รถมากแต่พอเคลื่อนตัวได้ แวะทานมื้อเช้าเล็กน้อยแถวๆ นครชัยศรี เพราะจุดแรกที่เราจะไปคือ ร้านพริกแกง ที่อ.ลาดหญ้า ร้านนี้ตามรอยรายการคู่เลิฟตะลอนทัวร์ค่ะ ขึ้นชื่อเรื่องความเผ็ด แต่บ้านเรากินเผ็ดไม่เก่ง 555 แต่ก็ยังไปลองเพราะต้องการชิม ไข่เจียวซาลาเปาค่ะ ร้านหาไม่ยาก แต่บอกไม่ถูกเลยตัวเมืองกาญมาไม่ไกลค่ะ
ร้านพริกแกง พิกัด 14.098305, 99.411673
มีไก่รวนเค็ม ไข่เจียวซาลาเปา เนื้อกวางผัดน้ำมันหอย และปลาช่อนนึ่ง น้ำจิ้มอร่อยมากค่ะ อาหารรสชาติดี คนเยอะเหมือนกันเราไปถึงเที่ยงพอดี ไม่ได้ลองอาหารเผ็ดแต่พอได้กลิ่นเผ็ดจากในครัวก็แซ่บแล้วค่ะ
พออิ่มเราก็ไปเที่ยวถ้ำกระแซกันก่อน แดดแรงนิดนึง พาพ่อไปเที่ยวกัน เห็นหลังคาเขียวๆ ริมน้ำไม๊คะ คืนนี้เราจะพักกันที่นั่นแหละค่ะ
ถ้ำกระแซ พิกัด 14.106185, 99.165798
ไป check in ที่บ้านริมแคว แพริมน้ำ กันค่ะ เราทราบมาว่าเราสามารถโทรให้รีสอร์ทเอาเรือมารับเราที่ถ้ำกระแซข้ามไปได้เลย แต่เห็นทางลงแล้วชันเกินไปสำหรับคุณพ่อเรา เราก็เลยขับรถอ้อมกันไปค่ะ บ้านริมแควแพริมน้ำเป็นรีสอร์ทที่ใหญ่มากเลยค่ะ มีพื้นที่เยอะและอยู่ในจุดที่ดีมากๆ เลย เราเลือกพักแพริมน้ำแบบปรับอากาศชื่อ แพชงโค เราคิดว่าน่าจะเป็นแพที่ดีที่สุดของรีสอร์ท และยังใหม่มาก อยู่ในจุดที่ดีมากเลย ไปชมกัน
บ้านริมแพ แควริมน้ำ 14.101135, 99.165854
แพหนึ่งเรือนมี 2 ห้องติดกันนะคะ เราก็จองทั้ง 2 ห้องเลย อ้อ...เราจองมาในราคาแพคเกจต่อหัว เป็นค่าที่พัก อาหารเย็น อาหารมื้อดึก อาหารเช้า และกิจกรรมค่ะ แว๊บแรกเมื่อเปิดห้อง
ห้องพักกว้างขวางกว่าที่เราคิดไว้ ในห้องพักมีทีวี ตู้เย็น แอร์ กาต้มน้ำ มี Day bed ริมน้ำให้นั่งชิวด้วยค่ะ
มุมจาก Day bed มีโต๊ะทำงานให้ด้วย
ออกมาที่ระเบียง highlight ของห้องนี้ วิวสะพานรถไฟริมหน้าผากันเต็มๆ
ที่ระเบียงมีเก้าอี้ให้นั่งพักผ่อน มีลมโชยมาน้อยๆ ถ้าลมแรงกว่านี้น่าจะเยี่ยมไปเลยค่ะ
ถ่ายรูปกันหน่อย พ่ออยากนอนริมน้ำ ลูกจัดให้นอนบนน้ำเลยดีกว่า
มาดูห้องน้ำกันค่ะ ค่อนข้าง surprised ที่มีตู้อาบน้ำด้วย น้ำแรงใช้ได้ แต่ Rain shower ชำรุดเลยไม่ได้ใช้ มีเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ ห้องน้ำออกแบบให้เป็นกระจกแล้วติดสติ๊กเกอร์บังสายตาก็ทำให้ห้องน้ำไม่มืดด้วยค่ะ
นั่งพักผ่อนได้ซักพัก เราก็ได้ยินเสียงหวูดรถไฟ รถไฟมาแล้วววววว
เห็นได้ว่า คนบนรถไฟก็ถ่ายรูปเรา เราก็ถ่ายรูปเค้าคืน รถไฟวิ่งช้าๆ นะคะ ถ่ายรูปเพลินเลย
มีเวลานั่งทำมิวสิกด้วย 555
ได้เวลากิจกรรมแล้ว ประมาณบ่าย 3 โมงครึ่งมีกิจกรรมล่องแพ แต่เราเลือกไปรอบ 2 คือ 4 โมงเย็นค่ะ พ่อกับพี่สาวเราไม่อยากเปียกก็เลยได้นั่งเรือไป ส่วนเรา สามีเราและน้องสาวก็ไปลงแพเปียกกันเลย ขอบอกว่าพนักงานที่พาเราไป entertain เก่งมากค่ะ คุยสนุกฮากันตลอดทาง
คุณสามีเราขอลองกล้อง OMD EM1 ว่าโดนน้ำได้ เอากล้องลงไปด้วย ก็เลยได้รูปเด็ดในน้ำด้วยนะคะ ใช้วิธียกกล้องเหนือน้ำไว้นะคะ ไม่หาญกล้าเอาลงน้ำ
น้ำไหลพัดเรากลับไปที่แพ อ้อเรือลากเรามาไกลประมาณ 2 กิโลเมตร ในขณะที่ลอยคอกันอยู่ (ให้อารมณ์ไททานิคล่มมากๆ ชูชีพลอยเต็มไปหมด) ก็จะมีน้อง staff คอยดูแลแขกและให้คำแนะนำว่าให้ว่ายชิดขวาชิดซ้ายเพื่อไม่ให้ชนตลิ่ง ดีมากค่ะ จะมีช่วงนึงที่น้ำตื้นก็สามารถลุกขึ้นยืนได้ด้วย เห็นวิวทางรถไฟในมุมมองพิเศษด้วย
ตอนล่องก็สนุกดีนะคะ แต่ตอนปีนขึ้นจากน้ำนี่ก็เหนื่อยใช้ได้เลยค่ะ อาบน้ำอาบท่าเสร็จเราก็ทานมื้อเย็นกัน ก่อนไปรถไฟมาอีกแล้ว เปิดไฟด้วยคราวนี้
อาหารเย็นเริ่ม 6 โมงครึ่งแต่พอเราไปถึงเค้ากินกันไปหมดล่ะ เป็นไลน์บุฟเฟ่ต์นะคะ อาหารก็ธรรมดาค่ะไม่ดีไม่แย่ เราชอบอันนี้ผัดผักรวมหมูกรอบสั่งทำกันใหม่ๆ
ทางรีสอร์ทมีกิจกรรมบนเวทีคอย entertain ลูกค้าขณะรับประทานอาหารด้วยนะคะ พิธีกรฮาดีค่ะ มีเกมให้เล่นด้วย แขกวันนี้เยอะมากค่ะ มีกลุ่มใหญ่รถบัสมาด้วย แต่ก็โอเคนะคะไม่วุ่นวายมาก พอทานเสร็จเราก็กลับห้องรอโชว์แสงสีเสียงบนสะพานทางรถไฟด้วยตอน 3 ทุ่ม ห้องเราอยู่หน้าอยู่แล้วเลยมานั่งชมกันที่ระเบียงบ้านเลย ก็มีแสงโชว์ พร้อมเสียงบรรยาย มีเสียงปืนด้วย เราก็สงสัยนะคะว่า ไม่รบกวนคนอื่นเหรอ ยิงไปโดนใครไม๊ แต่มันก็อาจจะไม่ใช่ปืน คงจะเป็นแค่เสียง effect ก็ได้ คือไม่ค่อยชอบตรงที่มีเสียงปืนนี่แหละค่ะ ตบท้ายด้วยพลุเล็กน้อย
หลังจากโชว์ก็มีกิจกรรมรอบกองไฟ และผับต่อนะคะ แต่เราไม่ได้ไป มืข้าวต้มมื้อดึกให้ตอน 3 ทุ่มด้วย แต่เราไม่ได้ไปแจม
พักผ่อนกันไปจนเช้า แพไม่โยกอะไรนะคะ นอนสบาย มีเสียงน้ำไหลกล่อมด้วย นอนสบาย เช้ามาเราก็ไปลุ้นว่าจะหนาวไม๊ มีหมอกลอยหน่อยๆ แค่นั้นเอง และรถไฟก็มาอีกแล้ว
ไปทานอาหารเช้า ไลน์บุฟเฟ่ต์เหมือนเดิม ถูกใจสุดก็ขนมครกนี่แหละค่ะ คุณพ่อเราจัดกันไป 11 คู่ เราก็กินไปเยอะเหมือนกัน ชอบมากหากินยากแล้วที่กรุงเทพ อันนี้เป็นแบบโบราณที่เราเคยกินตอนเด็กๆ อ่ะค่ะ ไม่ได้กรอบแบบสมัยนี้
[CR] พาพ่อเที่ยวกาญจนบุรี พักแพริมน้ำ วิวสะพานรถไฟสายมรณะ
ทริปนี้เราไปช่วงวันหยุดยาววันปิยมหาราชที่ผ่านมานี้ค่ะ ไปกัน 5 คนออกเดินทางตอน 7 โมงเช้า เลือกเส้นทางถนนเพชรเกษมเพราะคาดว่าถนนบรมราชชนนีรถน่าจะเยอะกว่า ซึ่งก็จริงนะคะ รถมากแต่พอเคลื่อนตัวได้ แวะทานมื้อเช้าเล็กน้อยแถวๆ นครชัยศรี เพราะจุดแรกที่เราจะไปคือ ร้านพริกแกง ที่อ.ลาดหญ้า ร้านนี้ตามรอยรายการคู่เลิฟตะลอนทัวร์ค่ะ ขึ้นชื่อเรื่องความเผ็ด แต่บ้านเรากินเผ็ดไม่เก่ง 555 แต่ก็ยังไปลองเพราะต้องการชิม ไข่เจียวซาลาเปาค่ะ ร้านหาไม่ยาก แต่บอกไม่ถูกเลยตัวเมืองกาญมาไม่ไกลค่ะ
ร้านพริกแกง พิกัด 14.098305, 99.411673
มีไก่รวนเค็ม ไข่เจียวซาลาเปา เนื้อกวางผัดน้ำมันหอย และปลาช่อนนึ่ง น้ำจิ้มอร่อยมากค่ะ อาหารรสชาติดี คนเยอะเหมือนกันเราไปถึงเที่ยงพอดี ไม่ได้ลองอาหารเผ็ดแต่พอได้กลิ่นเผ็ดจากในครัวก็แซ่บแล้วค่ะ
พออิ่มเราก็ไปเที่ยวถ้ำกระแซกันก่อน แดดแรงนิดนึง พาพ่อไปเที่ยวกัน เห็นหลังคาเขียวๆ ริมน้ำไม๊คะ คืนนี้เราจะพักกันที่นั่นแหละค่ะ
ถ้ำกระแซ พิกัด 14.106185, 99.165798
ไป check in ที่บ้านริมแคว แพริมน้ำ กันค่ะ เราทราบมาว่าเราสามารถโทรให้รีสอร์ทเอาเรือมารับเราที่ถ้ำกระแซข้ามไปได้เลย แต่เห็นทางลงแล้วชันเกินไปสำหรับคุณพ่อเรา เราก็เลยขับรถอ้อมกันไปค่ะ บ้านริมแควแพริมน้ำเป็นรีสอร์ทที่ใหญ่มากเลยค่ะ มีพื้นที่เยอะและอยู่ในจุดที่ดีมากๆ เลย เราเลือกพักแพริมน้ำแบบปรับอากาศชื่อ แพชงโค เราคิดว่าน่าจะเป็นแพที่ดีที่สุดของรีสอร์ท และยังใหม่มาก อยู่ในจุดที่ดีมากเลย ไปชมกัน
บ้านริมแพ แควริมน้ำ 14.101135, 99.165854
แพหนึ่งเรือนมี 2 ห้องติดกันนะคะ เราก็จองทั้ง 2 ห้องเลย อ้อ...เราจองมาในราคาแพคเกจต่อหัว เป็นค่าที่พัก อาหารเย็น อาหารมื้อดึก อาหารเช้า และกิจกรรมค่ะ แว๊บแรกเมื่อเปิดห้อง
ห้องพักกว้างขวางกว่าที่เราคิดไว้ ในห้องพักมีทีวี ตู้เย็น แอร์ กาต้มน้ำ มี Day bed ริมน้ำให้นั่งชิวด้วยค่ะ
มุมจาก Day bed มีโต๊ะทำงานให้ด้วย
ออกมาที่ระเบียง highlight ของห้องนี้ วิวสะพานรถไฟริมหน้าผากันเต็มๆ
ที่ระเบียงมีเก้าอี้ให้นั่งพักผ่อน มีลมโชยมาน้อยๆ ถ้าลมแรงกว่านี้น่าจะเยี่ยมไปเลยค่ะ
ถ่ายรูปกันหน่อย พ่ออยากนอนริมน้ำ ลูกจัดให้นอนบนน้ำเลยดีกว่า
มาดูห้องน้ำกันค่ะ ค่อนข้าง surprised ที่มีตู้อาบน้ำด้วย น้ำแรงใช้ได้ แต่ Rain shower ชำรุดเลยไม่ได้ใช้ มีเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ ห้องน้ำออกแบบให้เป็นกระจกแล้วติดสติ๊กเกอร์บังสายตาก็ทำให้ห้องน้ำไม่มืดด้วยค่ะ
นั่งพักผ่อนได้ซักพัก เราก็ได้ยินเสียงหวูดรถไฟ รถไฟมาแล้วววววว
เห็นได้ว่า คนบนรถไฟก็ถ่ายรูปเรา เราก็ถ่ายรูปเค้าคืน รถไฟวิ่งช้าๆ นะคะ ถ่ายรูปเพลินเลย
มีเวลานั่งทำมิวสิกด้วย 555
ได้เวลากิจกรรมแล้ว ประมาณบ่าย 3 โมงครึ่งมีกิจกรรมล่องแพ แต่เราเลือกไปรอบ 2 คือ 4 โมงเย็นค่ะ พ่อกับพี่สาวเราไม่อยากเปียกก็เลยได้นั่งเรือไป ส่วนเรา สามีเราและน้องสาวก็ไปลงแพเปียกกันเลย ขอบอกว่าพนักงานที่พาเราไป entertain เก่งมากค่ะ คุยสนุกฮากันตลอดทาง
คุณสามีเราขอลองกล้อง OMD EM1 ว่าโดนน้ำได้ เอากล้องลงไปด้วย ก็เลยได้รูปเด็ดในน้ำด้วยนะคะ ใช้วิธียกกล้องเหนือน้ำไว้นะคะ ไม่หาญกล้าเอาลงน้ำ
น้ำไหลพัดเรากลับไปที่แพ อ้อเรือลากเรามาไกลประมาณ 2 กิโลเมตร ในขณะที่ลอยคอกันอยู่ (ให้อารมณ์ไททานิคล่มมากๆ ชูชีพลอยเต็มไปหมด) ก็จะมีน้อง staff คอยดูแลแขกและให้คำแนะนำว่าให้ว่ายชิดขวาชิดซ้ายเพื่อไม่ให้ชนตลิ่ง ดีมากค่ะ จะมีช่วงนึงที่น้ำตื้นก็สามารถลุกขึ้นยืนได้ด้วย เห็นวิวทางรถไฟในมุมมองพิเศษด้วย
ตอนล่องก็สนุกดีนะคะ แต่ตอนปีนขึ้นจากน้ำนี่ก็เหนื่อยใช้ได้เลยค่ะ อาบน้ำอาบท่าเสร็จเราก็ทานมื้อเย็นกัน ก่อนไปรถไฟมาอีกแล้ว เปิดไฟด้วยคราวนี้
อาหารเย็นเริ่ม 6 โมงครึ่งแต่พอเราไปถึงเค้ากินกันไปหมดล่ะ เป็นไลน์บุฟเฟ่ต์นะคะ อาหารก็ธรรมดาค่ะไม่ดีไม่แย่ เราชอบอันนี้ผัดผักรวมหมูกรอบสั่งทำกันใหม่ๆ
ทางรีสอร์ทมีกิจกรรมบนเวทีคอย entertain ลูกค้าขณะรับประทานอาหารด้วยนะคะ พิธีกรฮาดีค่ะ มีเกมให้เล่นด้วย แขกวันนี้เยอะมากค่ะ มีกลุ่มใหญ่รถบัสมาด้วย แต่ก็โอเคนะคะไม่วุ่นวายมาก พอทานเสร็จเราก็กลับห้องรอโชว์แสงสีเสียงบนสะพานทางรถไฟด้วยตอน 3 ทุ่ม ห้องเราอยู่หน้าอยู่แล้วเลยมานั่งชมกันที่ระเบียงบ้านเลย ก็มีแสงโชว์ พร้อมเสียงบรรยาย มีเสียงปืนด้วย เราก็สงสัยนะคะว่า ไม่รบกวนคนอื่นเหรอ ยิงไปโดนใครไม๊ แต่มันก็อาจจะไม่ใช่ปืน คงจะเป็นแค่เสียง effect ก็ได้ คือไม่ค่อยชอบตรงที่มีเสียงปืนนี่แหละค่ะ ตบท้ายด้วยพลุเล็กน้อย
หลังจากโชว์ก็มีกิจกรรมรอบกองไฟ และผับต่อนะคะ แต่เราไม่ได้ไป มืข้าวต้มมื้อดึกให้ตอน 3 ทุ่มด้วย แต่เราไม่ได้ไปแจม
พักผ่อนกันไปจนเช้า แพไม่โยกอะไรนะคะ นอนสบาย มีเสียงน้ำไหลกล่อมด้วย นอนสบาย เช้ามาเราก็ไปลุ้นว่าจะหนาวไม๊ มีหมอกลอยหน่อยๆ แค่นั้นเอง และรถไฟก็มาอีกแล้ว
ไปทานอาหารเช้า ไลน์บุฟเฟ่ต์เหมือนเดิม ถูกใจสุดก็ขนมครกนี่แหละค่ะ คุณพ่อเราจัดกันไป 11 คู่ เราก็กินไปเยอะเหมือนกัน ชอบมากหากินยากแล้วที่กรุงเทพ อันนี้เป็นแบบโบราณที่เราเคยกินตอนเด็กๆ อ่ะค่ะ ไม่ได้กรอบแบบสมัยนี้