คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ผมเคยได้ทำการทดลองเอาผลของปี 54 มาคำนวนในกติกาใหม่ของคุณมีชัย มันสรุปผลออกมาได้ตามนี้ครับ
พรรคเพื่อไทย 3,159,386 คะแนน
พรรคประชาธิปัตย์ 2,425,427 คะแนน
พรรคชาติไทยพัฒนา 636,296 คะแนน
พรรคภูมิใจไทย 1,685,940 คะแนน
พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 604,182 คะแนน
พรรคมาตุภูมิ 127,444 คะแนน
พรรคกิจสังคม 11,716 คะแนน
คะแนนรวมในระบบปาร์ตี้ลิสต์ทุกพรรค = 8,650,391 คะแนน
เพื่อไทย 125*3,159,386/8,650,391 = 46 คน
ประชาธิปัตย์ 125*2,425,427/8,650,391 = 35 คน
ชาติไทยพัฒนา 125* 636,296/8,650,391 = 9 คน
ภูมิใจไทย 125*1,685,940/8,650,391 = 24 คน
ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 125*604,182/8,650,391 = 9 คน
มาตุภูมิ 125*127,444/8,650,391 = 2 คน
กิจสังคม ไม่ได้ที่นั่ง
ตารางสรุปจำนวนเพิ่มขึ้น-ลดลง ของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยชุนเทียน

ส่วนจำนวน ส.ส. ทั้ง สองระบบ ผมขอสรุปภาพรวมดังนี้ครับ
- พรรคเพื่อไทย (พท.) เดิมได้ส.ส.265 ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 250 คน ลดลง 15 คน
- พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เดิมได้ส.ส. 159 ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 150 คน ลดลง 9 คน
- พรรคภูมิใจไทย (ภท.)เดิมได้ส.ส.34 ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 53 คน เพิ่มขึ้น 19 คน
- พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เดิมได้ส.ส.19 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 24 คน เพิ่มขึ้น 5 คน
- พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (ชพน.) เดิมได้ส.ส. 7 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 14 คน เพิ่มขึ้น 7 คน
- พรรคพลังชล (พช.) เดิมได้ส.ส.7คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 6 คน ลดลง 1 คน
- พรรครักประเทศไทย (ร.ป.ท.) เดิมได้ส.ส. 4 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 4 คน
- พรรคมาตุภูมิ (มภ) เดิมได้ส.ส.2 ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 2 คน ไม่เปลี่ยนแปลง
- พรรคมหาชน (พมช.) เดิมได้ส.ส. 1 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 1 คน
- พรรคประชาธิปไตยใหม่ (ปธม.) เดิมได้ส.ส.1คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 1 คน
- พรรครักษ์สันติ (รส.) เดิมได้ส.ส.1คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 1 คน
- ตามกติกาที่ว่านี้ หากเรายึดหลักมารยาทตามกติกาประชาธิปไตยสากล พรรคเพื่อไทยก็ยังจะคงมีสิทธิ์ที่เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล เพราะได้จำนวน ส.ส. เข้าสภามากที่สุดเหมือนเดิม แม้จำนวนจะลดลงบ้างเล็กน้อย ในทางกลับกันหากใช้หลักกลไกรัฐสภาแบบ(แบบไทยๆ) ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยพูดไว้ โดยการร่วมมือกับพรรคเล็กเพื่อจัดตั้งรัฐบาลเหมือนกัน โดยโดดเดี่ยวพรรคเพื่อไทยให้เป็นฝ่ายค้าพรรคเดียวเพื่อหลีกเลี่ยงม็อบชัตดาวน์ประเทศซ้ำซาก ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยคะแนนจะไปจบอยู่ที่ 250 : 250
- ล่าสุดทราบข่าวมาว่า จะเพิ่มจำนวน ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ เป็น 150 คน และลดจำนวน ส.ส. เขตลดลงเหลือ 350 เขต โดยส่วนตัวผมยิ่งรู้สึกไม่เห็นด้วยขึ้นไปอีก เพราะนับวันยิ่งเละเทะ ออกทะเลไปเรื่อยครับ สงสารประเทศไทยครับผม
พรรคเพื่อไทย 3,159,386 คะแนน
พรรคประชาธิปัตย์ 2,425,427 คะแนน
พรรคชาติไทยพัฒนา 636,296 คะแนน
พรรคภูมิใจไทย 1,685,940 คะแนน
พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 604,182 คะแนน
พรรคมาตุภูมิ 127,444 คะแนน
พรรคกิจสังคม 11,716 คะแนน
คะแนนรวมในระบบปาร์ตี้ลิสต์ทุกพรรค = 8,650,391 คะแนน
เพื่อไทย 125*3,159,386/8,650,391 = 46 คน
ประชาธิปัตย์ 125*2,425,427/8,650,391 = 35 คน
ชาติไทยพัฒนา 125* 636,296/8,650,391 = 9 คน
ภูมิใจไทย 125*1,685,940/8,650,391 = 24 คน
ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 125*604,182/8,650,391 = 9 คน
มาตุภูมิ 125*127,444/8,650,391 = 2 คน
กิจสังคม ไม่ได้ที่นั่ง
ตารางสรุปจำนวนเพิ่มขึ้น-ลดลง ของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยชุนเทียน

ส่วนจำนวน ส.ส. ทั้ง สองระบบ ผมขอสรุปภาพรวมดังนี้ครับ
- พรรคเพื่อไทย (พท.) เดิมได้ส.ส.265 ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 250 คน ลดลง 15 คน
- พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เดิมได้ส.ส. 159 ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 150 คน ลดลง 9 คน
- พรรคภูมิใจไทย (ภท.)เดิมได้ส.ส.34 ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 53 คน เพิ่มขึ้น 19 คน
- พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เดิมได้ส.ส.19 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 24 คน เพิ่มขึ้น 5 คน
- พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (ชพน.) เดิมได้ส.ส. 7 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 14 คน เพิ่มขึ้น 7 คน
- พรรคพลังชล (พช.) เดิมได้ส.ส.7คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 6 คน ลดลง 1 คน
- พรรครักประเทศไทย (ร.ป.ท.) เดิมได้ส.ส. 4 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 4 คน
- พรรคมาตุภูมิ (มภ) เดิมได้ส.ส.2 ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 2 คน ไม่เปลี่ยนแปลง
- พรรคมหาชน (พมช.) เดิมได้ส.ส. 1 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 1 คน
- พรรคประชาธิปไตยใหม่ (ปธม.) เดิมได้ส.ส.1คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 1 คน
- พรรครักษ์สันติ (รส.) เดิมได้ส.ส.1คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 1 คน
- ตามกติกาที่ว่านี้ หากเรายึดหลักมารยาทตามกติกาประชาธิปไตยสากล พรรคเพื่อไทยก็ยังจะคงมีสิทธิ์ที่เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล เพราะได้จำนวน ส.ส. เข้าสภามากที่สุดเหมือนเดิม แม้จำนวนจะลดลงบ้างเล็กน้อย ในทางกลับกันหากใช้หลักกลไกรัฐสภาแบบ(แบบไทยๆ) ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยพูดไว้ โดยการร่วมมือกับพรรคเล็กเพื่อจัดตั้งรัฐบาลเหมือนกัน โดยโดดเดี่ยวพรรคเพื่อไทยให้เป็นฝ่ายค้าพรรคเดียวเพื่อหลีกเลี่ยงม็อบชัตดาวน์ประเทศซ้ำซาก ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยคะแนนจะไปจบอยู่ที่ 250 : 250
- ล่าสุดทราบข่าวมาว่า จะเพิ่มจำนวน ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ เป็น 150 คน และลดจำนวน ส.ส. เขตลดลงเหลือ 350 เขต โดยส่วนตัวผมยิ่งรู้สึกไม่เห็นด้วยขึ้นไปอีก เพราะนับวันยิ่งเละเทะ ออกทะเลไปเรื่อยครับ สงสารประเทศไทยครับผม
แสดงความคิดเห็น
JJNY : กรธ.เล็งนับคะแนนแบบสัดส่วนผสม "แพ้ - ชนะ"เขตนับคะแนนหมด
นายนรชิต สิงหเสนี โฆษก กรธ.แถลงว่า ที่ประชุมกรธ. ได้มีการพิจารณาข้อเสนอเกี่ยวกับวิธีการคำนวณผลการเลือกตั้ง หลังจากได้รับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อให้ได้สูตรการคำนวณที่สามารถสะท้อนคะแนนนิยมของพรรคการเมืองอย่างแท้จริงเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและอยู่บนพื้นฐานทุกคะแนนเสียงของประชาชนมีความหมาย
โดยที่ประชุมมีแนวโน้มปรับวิธีการคิดคะแนนระบบการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมใหม่ ซึ่งคงหลักการใช้บัตรเลือกตั้งเพียงใบเดียวเช่นเดิม แต่วิธีการนับคะแนนจะใช้ระบบที่คล้ายการคำนวณแบบสัดส่วนผสม (Mixed-Member Proportional : MMP) แบบคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน เสนอไว้ แต่จะให้ยอดจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อตายตัวที่ 150 คนโดยไม่มีโอเวอร์แฮง
"วิธีนี้ทุกพรรคจะมีที่นั่ง ส.ส. ใกล้เคียงกับความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมืองนั้นมากที่สุด จึงไม่มีปัญหาเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบ ขณะที่ตอบสนองความต้องการของคนไทยที่ชอบดูตัวบุคคลในการเลือก ขณะที่คะแนนที่ได้ก็สามารถประยุกต์ให้เป็นของพรรค ส่วนพรรคก็ต้องเฟ้นหาผู้สมัครอย่างดี และสามารถอธิบายชี้แจงนโยบายของพรรคแทนพรรคได้ อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณายังไม่ได้ข้อยุติ" นายนรชิตกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า อนุกรรมการศึกษาโครงสร้างฝ่ายนิติบัญญัติ กรธ. ได้เสนอหลักการคำนวณระบบเลือกตั้ง ส.ส.แบบจัดสรรปันส่วนผสมแบบใหม่ ให้ทาง กรธ.พิจารณาแล้ว และเห็นด้วยในหลักการระดับหนึ่งกับคณะอนุกรรมการฯที่เสนอให้การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะไม่นับแยกกันระหว่างผู้สมัคร ส.ส.ที่ชนะและแพ้การเลือกตั้งเหมือนก่อนหน้านี้ แต่จะให้นับคะแนนผู้สมัคร ส.ส.ทั้งผู้ชนะและแพ้รวมกันทั้งประเทศ เพื่อหาที่นั่ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เป็นการสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนที่นิยมเลือกพรรคการเมือง โดยจะให้ประชาชนลงคะแนนเลือกตั้งในบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขต 350 เขตเพียงใบเดียว พร้อมกับนำคะแนน ส.ส.แบ่งเขตทั้งประเทศมาจัดสรรเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ จำนวน 150 ที่นั่ง ซึ่งพรรคการเมืองที่ชนะในเขตเลือกตั้ง ยังมีโอกาสได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเช่นเดิม และพรรคที่แพ้ในเขตเลือกตั้งก็จะยังได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า กรธ.ยืนยันว่าการทบทวนการคิดคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากเดิมที่จะนับเฉพาะคะแนนผู้สมัคร ส.ส.ที่แพ้ เพื่อลดความกังวลที่มีข่าวว่าพรรคการเมืองใหญ่จะไปตั้งพรรคตัวแทนหรือนอมินีขึ้นมา และยังเป็นการรับฟังเสียงของพรรคการเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับการนับคะแนนเฉพาะผู้ที่แพ้การเลือกตั้ง ทั้งนี้ อนุกรรมการฯยังต้องนำระบบการคำนวณ ส.ส.แบบใหม่นี้ไปศึกษาเพิ่มเติม เพื่อไปวิเคราะห์ดูว่าจะมีปัญหาในการนำมาใช้กับการเลือกตั้งหรือไม่