JJNY : กรธ.เล็งนับคะแนนแบบสัดส่วนผสม "แพ้ - ชนะ"เขตนับคะแนนหมด

กระทู้คำถาม


นายนรชิต สิงหเสนี โฆษก กรธ.แถลงว่า ที่ประชุมกรธ. ได้มีการพิจารณาข้อเสนอเกี่ยวกับวิธีการคำนวณผลการเลือกตั้ง หลังจากได้รับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อให้ได้สูตรการคำนวณที่สามารถสะท้อนคะแนนนิยมของพรรคการเมืองอย่างแท้จริงเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและอยู่บนพื้นฐานทุกคะแนนเสียงของประชาชนมีความหมาย

โดยที่ประชุมมีแนวโน้มปรับวิธีการคิดคะแนนระบบการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมใหม่ ซึ่งคงหลักการใช้บัตรเลือกตั้งเพียงใบเดียวเช่นเดิม แต่วิธีการนับคะแนนจะใช้ระบบที่คล้ายการคำนวณแบบสัดส่วนผสม (Mixed-Member Proportional : MMP) แบบคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน เสนอไว้ แต่จะให้ยอดจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อตายตัวที่ 150 คนโดยไม่มีโอเวอร์แฮง

"วิธีนี้ทุกพรรคจะมีที่นั่ง ส.ส. ใกล้เคียงกับความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมืองนั้นมากที่สุด จึงไม่มีปัญหาเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบ ขณะที่ตอบสนองความต้องการของคนไทยที่ชอบดูตัวบุคคลในการเลือก ขณะที่คะแนนที่ได้ก็สามารถประยุกต์ให้เป็นของพรรค ส่วนพรรคก็ต้องเฟ้นหาผู้สมัครอย่างดี และสามารถอธิบายชี้แจงนโยบายของพรรคแทนพรรคได้ อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณายังไม่ได้ข้อยุติ" นายนรชิตกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า อนุกรรมการศึกษาโครงสร้างฝ่ายนิติบัญญัติ กรธ. ได้เสนอหลักการคำนวณระบบเลือกตั้ง ส.ส.แบบจัดสรรปันส่วนผสมแบบใหม่ ให้ทาง กรธ.พิจารณาแล้ว และเห็นด้วยในหลักการระดับหนึ่งกับคณะอนุกรรมการฯที่เสนอให้การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะไม่นับแยกกันระหว่างผู้สมัคร ส.ส.ที่ชนะและแพ้การเลือกตั้งเหมือนก่อนหน้านี้ แต่จะให้นับคะแนนผู้สมัคร ส.ส.ทั้งผู้ชนะและแพ้รวมกันทั้งประเทศ เพื่อหาที่นั่ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เป็นการสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนที่นิยมเลือกพรรคการเมือง โดยจะให้ประชาชนลงคะแนนเลือกตั้งในบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขต 350 เขตเพียงใบเดียว พร้อมกับนำคะแนน ส.ส.แบ่งเขตทั้งประเทศมาจัดสรรเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ จำนวน 150 ที่นั่ง ซึ่งพรรคการเมืองที่ชนะในเขตเลือกตั้ง ยังมีโอกาสได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเช่นเดิม และพรรคที่แพ้ในเขตเลือกตั้งก็จะยังได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า กรธ.ยืนยันว่าการทบทวนการคิดคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากเดิมที่จะนับเฉพาะคะแนนผู้สมัคร ส.ส.ที่แพ้ เพื่อลดความกังวลที่มีข่าวว่าพรรคการเมืองใหญ่จะไปตั้งพรรคตัวแทนหรือนอมินีขึ้นมา และยังเป็นการรับฟังเสียงของพรรคการเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับการนับคะแนนเฉพาะผู้ที่แพ้การเลือกตั้ง ทั้งนี้ อนุกรรมการฯยังต้องนำระบบการคำนวณ ส.ส.แบบใหม่นี้ไปศึกษาเพิ่มเติม เพื่อไปวิเคราะห์ดูว่าจะมีปัญหาในการนำมาใช้กับการเลือกตั้งหรือไม่
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ผมเคยได้ทำการทดลองเอาผลของปี 54 มาคำนวนในกติกาใหม่ของคุณมีชัย มันสรุปผลออกมาได้ตามนี้ครับ



พรรคเพื่อไทย 3,159,386 คะแนน
พรรคประชาธิปัตย์ 2,425,427 คะแนน
พรรคชาติไทยพัฒนา 636,296 คะแนน
พรรคภูมิใจไทย 1,685,940 คะแนน
พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 604,182 คะแนน
พรรคมาตุภูมิ 127,444 คะแนน
พรรคกิจสังคม 11,716 คะแนน


คะแนนรวมในระบบปาร์ตี้ลิสต์ทุกพรรค = 8,650,391 คะแนน

เพื่อไทย 125*3,159,386/8,650,391 = 46 คน
ประชาธิปัตย์  125*2,425,427/8,650,391 = 35 คน
ชาติไทยพัฒนา 125* 636,296/8,650,391 = 9 คน
ภูมิใจไทย 125*1,685,940/8,650,391 = 24 คน
ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 125*604,182/8,650,391 = 9 คน
มาตุภูมิ 125*127,444/8,650,391 = 2 คน
กิจสังคม ไม่ได้ที่นั่ง

ตารางสรุปจำนวนเพิ่มขึ้น-ลดลง ของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยชุนเทียน


ส่วนจำนวน ส.ส. ทั้ง สองระบบ ผมขอสรุปภาพรวมดังนี้ครับ

- พรรคเพื่อไทย (พท.) เดิมได้ส.ส.265 ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 250 คน ลดลง 15 คน
- พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เดิมได้ส.ส. 159  ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 150 คน ลดลง 9 คน
- พรรคภูมิใจไทย (ภท.)เดิมได้ส.ส.34 ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 53 คน เพิ่มขึ้น 19 คน
- พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เดิมได้ส.ส.19 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 24 คน เพิ่มขึ้น 5 คน
- พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (ชพน.) เดิมได้ส.ส. 7 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 14 คน เพิ่มขึ้น 7 คน
- พรรคพลังชล (พช.) เดิมได้ส.ส.7คน  ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 6 คน ลดลง 1 คน
- พรรครักประเทศไทย (ร.ป.ท.) เดิมได้ส.ส. 4 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 4 คน
- พรรคมาตุภูมิ (มภ) เดิมได้ส.ส.2  ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 2 คน ไม่เปลี่ยนแปลง
- พรรคมหาชน (พมช.) เดิมได้ส.ส. 1 คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 1 คน
- พรรคประชาธิปไตยใหม่ (ปธม.) เดิมได้ส.ส.1คน ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 1 คน
- พรรครักษ์สันติ (รส.) เดิมได้ส.ส.1คน  ตามกติกาคุณมีชัยได้ ส.ส. 0 คน ลดลง 1 คน

- ตามกติกาที่ว่านี้ หากเรายึดหลักมารยาทตามกติกาประชาธิปไตยสากล พรรคเพื่อไทยก็ยังจะคงมีสิทธิ์ที่เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล เพราะได้จำนวน ส.ส. เข้าสภามากที่สุดเหมือนเดิม แม้จำนวนจะลดลงบ้างเล็กน้อย  ในทางกลับกันหากใช้หลักกลไกรัฐสภาแบบ(แบบไทยๆ) ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยพูดไว้ โดยการร่วมมือกับพรรคเล็กเพื่อจัดตั้งรัฐบาลเหมือนกัน โดยโดดเดี่ยวพรรคเพื่อไทยให้เป็นฝ่ายค้าพรรคเดียวเพื่อหลีกเลี่ยงม็อบชัตดาวน์ประเทศซ้ำซาก ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยคะแนนจะไปจบอยู่ที่  250 : 250

- ล่าสุดทราบข่าวมาว่า จะเพิ่มจำนวน ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ เป็น 150 คน และลดจำนวน ส.ส. เขตลดลงเหลือ 350 เขต  โดยส่วนตัวผมยิ่งรู้สึกไม่เห็นด้วยขึ้นไปอีก เพราะนับวันยิ่งเละเทะ ออกทะเลไปเรื่อยครับ สงสารประเทศไทยครับผม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่