สวัสดีครับนี่เป็นกระทู้แรกของผม นะครับ
ผมอายุ 30 ครับ ทำงานเป็นพนักงานบริษัทครับ เรื่องมันเริ่มจากเมื่อ 10 เดือนที่แล้วผมได้มีโอกาสพบกับผู้หญิงคนนึงครับ จากโปรแกรมแชท บีทอร์ค
หลังจากรู้จักกันสักพัก เราก็เริ่มคบกัน พอเดือนที่ 2 เข้าเดือนที่ 3 ของๆ เธอก็เริ่มเข้ามาอยู่ในห้องผมทีละนิดๆ และ เธอก็ย้ายเข้ามาอยู่ในห้องผมเต็มตัว แต่ผมก็ไม่ได้มองว่านั่นคือปัญหาครับ ปัญหาคือ โปรไฟล์เธอเธอแสดงตัวว่าเธอมีเงิน พอมาอยู่กับผมบอกว่า อยากช่วยแบ่งเบาภาระผมจะได้เก็บตัง เพราะตัวผมเองตอนนี้ก็มีผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ส่งที่บ้าน และเช่าหออยู่ด้วยครับ
เราเลยตัดสินใจร่วมกันว่าจะให้เธอเป็นคนจ่ายค่ารถ ประมาณ 5000 บาท ตอนแรกผมให้เธอช่วยเท่าที่ช่วยได้ เธอบอกไม่เป็นไรเพราะเธอไม่มีภาระ และยินดีช่วย เวลาผ่านไป 2 เดือนบริษัท ไฟแนนซ์รถแจ้งผมว่า ผมค้างค่างวดรถ 2 เดือน ผมบอกว่าเห้ยมันไม่น่าจะเป็นไปได้นะ เลย ถามแฟน ซึ่งแฟนบอกว่า
จ่ายแล้ว แถมมีหลักฐานการโอนเงินเป็นใบโอนผ่านธนาคาร ที่ไม่ชัดเลย 2 ใบ และบอกว่าเด๋วจะแฟกซ์ 2 ใบนี้ ไปให้ไฟแนนซ์ บอกผมว่าอย่าซีเรียสเดี๋ยว เค้าจัดการให้
พอผ่านไปเดือนที่ 3 ธนาคารโทรมาอีกบอกว่า ผมค้าง 3 งวด ผมเริ่มไม่ไหวแล้ว ทะเลาะกันชุดใหญ่ ผมบอกเค้าว่ารถนี่ผมซื้อจากโครงการรถคันแรก
เป้นเชื่อญาติ สุดท้ายถ้ารถมีปัญหาญาติผมจะต้องติดแบล็คลิส ญาติผม แม่ผม ต้องทะเลาะกันแน่ ผมจะต้องออกจากงานเพราะไม่มีรถไปทำงาน เนื่องจากผมเป็นเซลล์ ยังไงก็ต้องมีรถในการทำงาน เธอก็ยังยืนยันว่าเธอน่ะจ่ายแล้วแน่นอน น่าจะมีปัญหาเรื่องแฟกซ์ที่ทิสโก้ไม่ได้รับ ผมโทรไปทะเลาะกับธนาคารทิสโก้หลายครั้ง เค้ายืนยันว่า ที่เราบอกส่งแฟคไป 3-4 ครั้งเค้าไม่ได้รับเลย ผมตามแฟน สุดท้าย แฟน แฟกซ์ไป มีคนโทรมาเสียงไม่ชัดมากๆ เบามากๆ บอกว่ามาจากธนาคารทิสโก้ ได้รับเอกสารแล้วนะคะ อ่ะ ผมคิดว่าน่าจะจบแล้ว แต่คุณกะลังคิดใช่มั้ยว่ามันต้องมีเดือนที่ 4
เดือนที่ 4 มาเลยครับ ก่อนเดือนที่ 4 ธนาคาร แจ้งว่าจะเข้าเดือนที 4 แล้วถ้าไม่ส่งอีกเค้าจะยึดรถ อ่าวละยังไง นี่ผมถามถึงคนจากทิสโก้ว่ามีคนชื่อนี้บอกได้รับแฟกซ์แล้วนี่เค้าบอกไม่มีคนชื่อนี้ ไม่เคยมีการได้รับเอกสารใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าไม่จ่าย ในสิ้นเดือนนี้เค้าต้องส่งยึดรถแล้ว ผมโทรหาแฟน แฟนบอกจะส่งให้ใหม่เด๋วนี้เลย อีกครึ่งชม มีเบอร์ ปริศนาโทรมาอีกบอกได้รับ แฟกซ์แล้ว พอวางสายผม เข้าเว็บ TOT เช้คว่าเบอร์มาจากไหน สรุปว่ามาจากตู้สารธารณะ ไม่ได้มาจากตึกหรือธนาคารทิสโก้แต่อย่างใด
วันนั้น ผมเลยจ่ายตัดออกไป 2 งวดเพื่อรักษารถไว้ และคืนนั้นทะเลาะกันผมขอเลิกกับเค้า เพราะผมเชื่อใจเค้าไม่ได้ เค้าสารภาพความจริงว่าไม่ได้จ่ายงวดรถให้ผมเพราะเค้าไม่มีเงิน และ ไม่กล้าบอกผมกลัวผมจะเลิก ผมบอกว่าผมไม่เลิกกะเค้าเพระาเค้าไม่มีตังนะ ผมไม่ได้คบคุณที่เงิน แต่จะเลิกเพราะเธอไม่พูดความจริง คืนนั้นกว่าจะได้นอน ดึกมาก เธอร้องไห้ร้องห่มขอโอกาสขอโอกาสอีกสักครั้งอย่าเลิกกะเค้าเลย เค้าจะปรับตัวเค้าจะแก้ตัว จะไม่เกิดขึ้นอีก
เราควรให้โอกาสคนเป็นครั้งที่ 2 แต่ไม่ควรมีครั้งที่ 3
ผ่านอีกไม่นาน มาบ้านผมจะซื้อที่ ที่ต่างจังหวัด เป็นที่ที่เลยบ้านผมที่ต่างจังหวัดไป สัก 200 เมตร เค้าขายอยู่ 1 ไร่(4 งาน) คนขายเป็นเพื่อนแม่ ปกติที่แถวนั้นเค้าขายกันงานละประมาณ 5 แสน บาท แต่เพื่อนแม่ผมร้อนเงินขาย 4 แสน บอกให้หาคนมาซื้อให้หน่อย แม่ผมเลยตัดสินใจเอา 2 งาน เพื่อนแม่เห้นแม่จะเอาเลยลดให้เหลือ งานละ 3 แสน สรุป 4 งาน 1.2 ล้าน แต่ต้องซื้อทั้งหมด แม่ผมเอา 2 งานและกำลังหาคนมาซื้อ ผมเลยถามแฟน (ไม่เข็ดไง) ว่าคุณพ่อเค้าสนใจมั้ย เนื่องจากคุณพ่อเค้าเป็นเจ้าของโรงงานเหล็ก และที่มันมีราคา ซื้อวันนี้ปักป้ายขายตอนเย็นยังได้กำไรเลย ยังไงก็ไม่ขาดทุน เค้าเลยโทรไปคุยกับพ่อ และสรุปมาว่าบอกว่าพ่อเค้าจะเอา ให้ผมพาเค้าไปดูที่และถ่ายรุปมา (ผมไม่เคยเจอพ่อเค้าหรือคุยกับพ่อเค้า เคยเจอแต่แม่และน้องชายเค้า)
หลังจากพาไปดูที่ สรุปว่าจะเอา นัดโอน 15 สิงหาคม 58 พอถึงวันนัดโอนเค้าบอกเงินไม่พร้อม พ่อเค้าไปต่างจังหวัดเนื่องจาก อากงป่วยขอเลื่อนเป็นต้นเดือนกันยา ผมต้องโทรไปขอโทษเพื่อนแม่ ขอโทษแม่ที่ผิดนัด พอถึงต้นเดือนกันยาบอกอากงเสียขอเลื่อนไปก่อน และ เพื่อเป็นการยืนยันกับเพื่อนแม่จะโอนมัดจำให้ก่อน 3 แสน ผ่านไปกลางเดือนกันยาเค้าก็ยังไม่ได้รับโอน ผมเช้คกับแฟน แฟนบอกว่าเลขาพ่อเขียนเลขบนเช็คผิด เลขสลับกันตัวเช็คเลยยังอยู่กับธนาคาร ธนาคารโอนเช็คเข้า บช เพื่อนแม่ไม่ได้ ผมบอกให้รีบแก้ไข บอกส่งเช็คใบใหม่ไปแล้ว ผมเช็คกับเพื่อนแม่เค้าบอกเงินยังไม่เข้า ผ่านไป 2-3 วันเงินก็ไม่เข้า
เพื่อนแม่เลยโทรไปว่าแม่ผม ประมาณว่า แม่ผมหลอกเค้าให้ลดราคาจาก 4 แสนเหลือ 3 แสน บอกว่าจะเอาหมด แต่เอาไม่หมด กลายเป็นปัญหาระดับครอบครัวแล้วตอนนี้ ผมเริ่มทะเลาะกับเค้าหนักมาก เพราะ เค้าทำให้ปัญหามาถึงแม่ผมซึ่งโดยปกติลูกๆ จะโพรเทคแม่มาก เพราะแม่เป็นโรคหัวใจไม่อยากให้แม่เครียด เลยไม่พาความเครียดไปให้แม่ แต่คราวนี้ผมชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน เอาปัญหาเข้าบ้านเต็มๆ
ผ่านมาถึงต้นเดือนตุลาคม เงินก็ยังไม่โอน บอกว่าพ่อเค้าซื้อไม่ได้แล้วตอนนี้ปวดหัวจี๊ดเลย ผมบอกแฟนให้บอกแม่เค้า( แม่กับพ่อแฟน แยกกันอยู่ เรื่องซื้อที่ เค้าบอกว่าอย่าบอกแม่เค้าเพราะแม่จะไม่ให้ซื้อแต่พ่ออยากได้ไว้เอง บอกไปเด๋วบ้านเค้าทะเลาะกัน ) เค้าบอกว่าเดี๋ยวลองคุยกับพ่อก่อน
บ่ายวันนั้น ป้าของแฟนผมโทรหาแม่ผมบอกว่าซื้อเองเพราะ พ่อแฟนจะไม่เอาแล้ว แล้วพูดเชิงดุถูกบ้านผมคงคิดว่าบ้านผมได้ค่านายหน้า หวังเงินจากบ้านเค้าซึ่งจิงๆ ไม่ใช่เลยแม่ไม่ได้บวกซักบาทเดียว
แฟนผมโทรไปขอโทษแม่ผม แม่ผมก็สอนเค้าบอกว่ามีอะไรต้องบอกกัน ต้องพูดความจริงเราเองก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ถ้าเราไม่บอกคนอื่นเค้าก็ไม่รู้ว่าจะต้องแก้ปัญหายังไง มาถึงตรงนี้ผมก็คิดนะว่าเรื่องน่าจะจบ แฟนผมอาจจะเสียเครดิตกับที่บ้านผมหน่อย แต่เราจะผ่านมันไปได้ด้วยกัน
14 ตุลาคม ผมถามแฟนว่าป้าแฟนจะไปโอนที่เมื่อไหร่ เค้าบอกเค้าไม่รู้ ผมบอกไม่ได้นะมันเกี่ยวกับบ้านพี่นะไปเช็คมาว่ายังไง หายไปครึ่งวัน สรุปป้าไม่เอา กลับมายืนที่เดิมที่ที่เคยคุ้นตา ทะเลาะกันอีกผมบอกเค้า ว่า ต้องบอกแม่เธอละล่ะ มันมีผลกระทบต่อบ้านพี่ด้วยนะ เค้าเป็นคนกลัวแม่มากแต่ผมบังคับยังไงก็ต้องบอก
ตอนบ่ายวันนั้น กลับมาร้องไห้มาเลยบอกว่าเเม่ดุว่าสร้างปัญหาได้ยังไง ถ้าจะซื้อก็ต้องไปดูก่อน เค้าคุยกะแม่เค้าบอกว่า คนขายคงไม่รอแล้วล่ะบอกปฏิเสธเค้าไปดีกว่ามั้ย แม่เค้าบอกแล้วแต่
คืนนั้นมาคุยกัน ผมบอกเห้ยย จะซื้อที่ครึ่งล้าน แม่จะไปดูก็ถูกแล้วนี่ โอนช้าหน่อยแต่เรารักษาคำพูด บ้านพี่จะได้มองเราไม่แย่ไปกว่านี้ไง พรุ่งนี้วันที่ 15 หยุดงานพาแม่ไปดุเลย เค้าบอกว่าจะส่งไลน์ไปบอกแม่ว่ายังไง
เช้าวันนี้ที่ 15 ตุลาคม ผมบอกสรุปแม่จะไปดูที่มั้ย เค้าบอกแม่ไม่ตอบมาเลยผมบอกว่าขอดูไลน์ที่ส่งไปให้แม่หน่อย สรุปเลย ไม่มี
แม่ยังไม่รู้ เค้าโกหก เพราะไม่กล่าบอกแม่กลัวแม่ว่า ผมเลยบอกเอ้าแล้วเพื่อนแม่พี่ เค้ามาว่าเเม่พี่อยู่เนี่ยเธอไม่กลัวบ้างหรอ นี่จะฆ่าแม่พี่ใช่มั้ย วันนั้นผมขอเลิกกับเธอเป็นครั้งที่ 2 เธอบอกขอโอกาสแก้ตัวอีกครั้งตอนเย็นเจอกัน บอกว่าจะพาแม่กับน้องชาย และแฟนน้องชาย รวม 4 คนไปดูที่ พรุ่งนี้และนอนค้างแถวนั้นเลย
วันที่ 16 ตุลาคม ผมต้องกลับบ้านไปก่อนเนื่องจากที่บ้านมีงานทำบุญวันที่ 17
10 โมงของวันที่ 16 เค้าโทรมาหาผมว่าออกมาจาก กทมแล้วนะ ผมบอกว่าถ้าดูที่ให้มา 16 นะ เพราะ 17 บ้านมีงานผมต้อนรับแม่เค้าไม่ได้ และมาถึงบ้านผม ถ้าไม่มาที่บ้านก็น่าเกลียดนะ สรุป 16 ไม่ได้เข้ามาดูที่บอกว่า น้องชายจะเที่ยวก่อน 17 จะเข้าไปดูผมไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร บอกเค้าว่าพี่ติดงานบ้านนะ แต่ถ้ามาถึงโทรมานะ เพราะห่างจากบ้านผม 200 เมตรเด๋วผมออกไปหา แม่เค้ามาจะไม่ออกไปเจอก็กระไร พอคืน 16 เค้าบอกว่าเค้าได้ที่พักแล้วที่พักสวยมากๆ อยากให้มาอยู่ด้วยกันจัง อากาศดีมากๆ ผมบอกว่าช่วยถ่ายรูปมาให้ดูหน่อย เค้าบอกว่าเด๋วส่งให้รูปอยุ่ในไอแพดน้อง อ่ะผมไม่ว่าอะไร
วันที่ 17 ที่บ้านมีงานทำบุญบ้านผมยุ่งแต่เช้าตอนเช้าได้คุยกับเค้าตอน 7 โมง เค้าบอกอากาศดีมากๆๆ ผมก็ขอรูปรีสอร์ทอีก กล้องเค้าก็ได้ ไม่ชัดไม่เป็นไร สุดท้ายก็ไม่ได้รูปเซลฟี่อีกไม่ได้รูปอะไรเลย ผมถามว่าจะมาดูที่ตอนไหน เค้าบอกสายๆ จะเข้าไป
พอสัก 10 โมงไปรับ ผมพระมา ผทไม่เป็นอันทำอะไรใจพะวง โทรหาเค้าว่ามาดูที่รึยัง เค้าไม่รับสายติดต่อได้อีกที เกือบเที่ยงตอนหลังผมไปส่งพระกลับวัด เค้าบอกแม่มาดูที่ละ เด๋วอีก ชั่วโมงให้คำตอบนะ ผมบอกเห้ยทำไมทำงี้ไหนบอกว่าจะโทรมาไง แล้วอยู่ที่ไหนจะออกไปหาเลย เค้าก็บอกว่า ตรงร้านที่เคยแวะซื้อผลไม้กันไง ผมขับรถไปหาเค้าเลยพอจะถึงบอกอยุ่ไหนเค้าบอกเค้าออกมาแล้ว น้องจะไปขับ ATV
ไม่อยากรอ ผมถามไปขับ ATV ที่ไหน เค้าตอบไม่ได้ติดต่อไม่ได้อีก
ผมกับพี่สาว คุยกันว่าน่าจะโดนหลอกแล้ว เลยไปคุยกับเเม่ว่า บ้านแฟนผมไม่เอาที่ ปรึกษาว่าจะเอายังไงกันดี แม่บอกว่าแม่จะกู้เงิน 6 แสน มาซื้อเองเพื่อรักษาเครดิตแม่ไว้ ณ.จุดจุดนี้ผมสร้างปัญหาให้ที่บ้านและสร้างหนี้ให้ที่บ้านอีก 6 แสน ผมไม่ไหวแล้วผมเลยโทรไปบอกเลิกกับเค้า เค้าว่าทำไมต้องเลิกกะเค้า เค้าอุตสาห์พาแม่มาดูที่นะ เพื่อรักษาความสัมพันธ์เรา ผมบอกเธอมาจริงๆ หรือ เค้าบอกจริงสิ
ผมเลยถามเค้าว่า ถนน หน้าบ้านพี่ที่ทำใหม่ เป็นลาดยางหรือคอนกรีต (จิงๆยังเป็นลูกลัง ดาวอังคารฝุ่นตลบอยู่)ถ้ามาดูที่ผ่านหน้าบ้านผมจริงยังไงก็ต้องรู้ เธอตอบว่าลาดยาง สรุปโกหกแน่ไม่ได้มาจริง เย็นวัน 17 ผมเตรียมตัวกลับ กทม มีคนชื่อชื่น เป็นผู้ชายโทรมาหาผมบอกว่าวันนี้ไปดูที่กับแม่แฟนผมมาชอบที่ตรงนี้อยากจะซื้อ ยังจะขายไหม แต่ขอเวลาสักอาทิตยืนะให้เค้าหาเงินก่อน ตอนนี้ผมรู้ละ ว่าเค้าพยายามสร้างหลักฐานพยานปลอม เลยบอกคุณชื่นว่าไม่ขายมีคนอื่นซื้อไปแล้ว
กลับมากทม ทะเลาะกันหนักมากๆๆๆ ทำท่าเก็บของจะย้ายออกผมไม่รั้ง สุดท้ายหิ้วของออกไปหายไปชั่วโมงนึงกลับเข้ามาใหม่ไม่ไป ขอโอกาสเถอะให้เค้าอยู่เถอะ เค้าจะปรับตัวจะแก้ไขผมยืนยันว่าเลิกแน่ๆ กลับบ้านเถอะกลับพรุ่งนี้ก็ได้ เดี๋ยวไปส่ง
18 ตุลาคม ผมบอกว่าจะไปส่งเค้าบอกขอเวลาเค้าทำใจหน่อยขออยู่ถึงสิ้นเดือน เห้นกะเค้าดูแลผมมาตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาและขอให้ปฏิบัติกับเค้าเหมือนเดิม ทำรับปาก พอ 31 ตุลาคมผมบอกว่าให้เค้ากลับบ้านเถอะ เค้าบอกทำไมต้องไล่เค้าเหมือนหมูเหมือนหมา ทำไมไม่ให้โอกาสเค้าทั้งๆที่ให้ได้
ผมบอกว่าผ่านมาก็ให้โอกาสจนไม่มีให้อีกแล้ว ไม่มีใครให้โอกาสในสิ่งที่เธอทำได้หรอก เค้าบอกให้ได้สิให้ได้เรื่องแค่นี้เอง ไม่รักกันแล้วหรอ มีคนอื่นใช่มั้ย ทำไม ทำไม ทำไม ต้องไล่เค้าผมบอกว่า ถ้าไม่ได้ไล่ เธอกำหนดวันมาเลยว่าจะกลับไปอยู่บ้านเมื่อไหร่ เค้าขอถึงวันที่ 3
พอถึงวันที่ 3 เธอนิ่งผมก็ไม่พูด พอวันที่ 4 ผมถามว่าจะกลับบ้านหรือยัง เธอบอกว่าเราไม่เลิกกันไม่ได้หรอ กลายเป้นว่าช่วงเวลาที่เหลือแล้วดีกับเธอ เะอคิดยังไงไม่รู้ แต่เหมือนว่าเรายังไปต่อได้ เเต่สมองสำคัญกว่าหัวใจยังไงมันก็ต้องเลิก ตอนนี้เธอยังไงก็ไม่ยอม ไม่กลับบ้าน
ตอนนี้ ผมไม่รู้แล้วว่าต้องทำยังไงตอนเย็นไม่อยากกลับห้อง ไม่อยากกลับไปเจอปัญหา ไม่อยากกลับไปเจอคนพูดไม่รู้เรื่อง คิดแต่เรื่องที่ตัวเองต้องการ ไม่สำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำไป คิดว่าก็ให้โอกาสเค้าสิแค่ยกโทษให้จะยากอะไร ตอนนี้ผมไม่รุ้จะทำยังไงแล้วครับ เหนื่อยมากๆ ไม่รุ้จะระบายกับใครเลยต้องมาพึ่งที่นี่
สุดท้ายนี่หากอ่านแล้วงง หรือผมเขียนไม่ถูกต้องยังไงขออภัยมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ และขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบยังไงครับ
เมื่อความรัก กลายเป็นการโกหก เมื่อความผูกพันกลายเป็นการยื้อเวลา
ผมอายุ 30 ครับ ทำงานเป็นพนักงานบริษัทครับ เรื่องมันเริ่มจากเมื่อ 10 เดือนที่แล้วผมได้มีโอกาสพบกับผู้หญิงคนนึงครับ จากโปรแกรมแชท บีทอร์ค
หลังจากรู้จักกันสักพัก เราก็เริ่มคบกัน พอเดือนที่ 2 เข้าเดือนที่ 3 ของๆ เธอก็เริ่มเข้ามาอยู่ในห้องผมทีละนิดๆ และ เธอก็ย้ายเข้ามาอยู่ในห้องผมเต็มตัว แต่ผมก็ไม่ได้มองว่านั่นคือปัญหาครับ ปัญหาคือ โปรไฟล์เธอเธอแสดงตัวว่าเธอมีเงิน พอมาอยู่กับผมบอกว่า อยากช่วยแบ่งเบาภาระผมจะได้เก็บตัง เพราะตัวผมเองตอนนี้ก็มีผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ส่งที่บ้าน และเช่าหออยู่ด้วยครับ
เราเลยตัดสินใจร่วมกันว่าจะให้เธอเป็นคนจ่ายค่ารถ ประมาณ 5000 บาท ตอนแรกผมให้เธอช่วยเท่าที่ช่วยได้ เธอบอกไม่เป็นไรเพราะเธอไม่มีภาระ และยินดีช่วย เวลาผ่านไป 2 เดือนบริษัท ไฟแนนซ์รถแจ้งผมว่า ผมค้างค่างวดรถ 2 เดือน ผมบอกว่าเห้ยมันไม่น่าจะเป็นไปได้นะ เลย ถามแฟน ซึ่งแฟนบอกว่า
จ่ายแล้ว แถมมีหลักฐานการโอนเงินเป็นใบโอนผ่านธนาคาร ที่ไม่ชัดเลย 2 ใบ และบอกว่าเด๋วจะแฟกซ์ 2 ใบนี้ ไปให้ไฟแนนซ์ บอกผมว่าอย่าซีเรียสเดี๋ยว เค้าจัดการให้
พอผ่านไปเดือนที่ 3 ธนาคารโทรมาอีกบอกว่า ผมค้าง 3 งวด ผมเริ่มไม่ไหวแล้ว ทะเลาะกันชุดใหญ่ ผมบอกเค้าว่ารถนี่ผมซื้อจากโครงการรถคันแรก
เป้นเชื่อญาติ สุดท้ายถ้ารถมีปัญหาญาติผมจะต้องติดแบล็คลิส ญาติผม แม่ผม ต้องทะเลาะกันแน่ ผมจะต้องออกจากงานเพราะไม่มีรถไปทำงาน เนื่องจากผมเป็นเซลล์ ยังไงก็ต้องมีรถในการทำงาน เธอก็ยังยืนยันว่าเธอน่ะจ่ายแล้วแน่นอน น่าจะมีปัญหาเรื่องแฟกซ์ที่ทิสโก้ไม่ได้รับ ผมโทรไปทะเลาะกับธนาคารทิสโก้หลายครั้ง เค้ายืนยันว่า ที่เราบอกส่งแฟคไป 3-4 ครั้งเค้าไม่ได้รับเลย ผมตามแฟน สุดท้าย แฟน แฟกซ์ไป มีคนโทรมาเสียงไม่ชัดมากๆ เบามากๆ บอกว่ามาจากธนาคารทิสโก้ ได้รับเอกสารแล้วนะคะ อ่ะ ผมคิดว่าน่าจะจบแล้ว แต่คุณกะลังคิดใช่มั้ยว่ามันต้องมีเดือนที่ 4
เดือนที่ 4 มาเลยครับ ก่อนเดือนที่ 4 ธนาคาร แจ้งว่าจะเข้าเดือนที 4 แล้วถ้าไม่ส่งอีกเค้าจะยึดรถ อ่าวละยังไง นี่ผมถามถึงคนจากทิสโก้ว่ามีคนชื่อนี้บอกได้รับแฟกซ์แล้วนี่เค้าบอกไม่มีคนชื่อนี้ ไม่เคยมีการได้รับเอกสารใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าไม่จ่าย ในสิ้นเดือนนี้เค้าต้องส่งยึดรถแล้ว ผมโทรหาแฟน แฟนบอกจะส่งให้ใหม่เด๋วนี้เลย อีกครึ่งชม มีเบอร์ ปริศนาโทรมาอีกบอกได้รับ แฟกซ์แล้ว พอวางสายผม เข้าเว็บ TOT เช้คว่าเบอร์มาจากไหน สรุปว่ามาจากตู้สารธารณะ ไม่ได้มาจากตึกหรือธนาคารทิสโก้แต่อย่างใด
วันนั้น ผมเลยจ่ายตัดออกไป 2 งวดเพื่อรักษารถไว้ และคืนนั้นทะเลาะกันผมขอเลิกกับเค้า เพราะผมเชื่อใจเค้าไม่ได้ เค้าสารภาพความจริงว่าไม่ได้จ่ายงวดรถให้ผมเพราะเค้าไม่มีเงิน และ ไม่กล้าบอกผมกลัวผมจะเลิก ผมบอกว่าผมไม่เลิกกะเค้าเพระาเค้าไม่มีตังนะ ผมไม่ได้คบคุณที่เงิน แต่จะเลิกเพราะเธอไม่พูดความจริง คืนนั้นกว่าจะได้นอน ดึกมาก เธอร้องไห้ร้องห่มขอโอกาสขอโอกาสอีกสักครั้งอย่าเลิกกะเค้าเลย เค้าจะปรับตัวเค้าจะแก้ตัว จะไม่เกิดขึ้นอีก
เราควรให้โอกาสคนเป็นครั้งที่ 2 แต่ไม่ควรมีครั้งที่ 3
ผ่านอีกไม่นาน มาบ้านผมจะซื้อที่ ที่ต่างจังหวัด เป็นที่ที่เลยบ้านผมที่ต่างจังหวัดไป สัก 200 เมตร เค้าขายอยู่ 1 ไร่(4 งาน) คนขายเป็นเพื่อนแม่ ปกติที่แถวนั้นเค้าขายกันงานละประมาณ 5 แสน บาท แต่เพื่อนแม่ผมร้อนเงินขาย 4 แสน บอกให้หาคนมาซื้อให้หน่อย แม่ผมเลยตัดสินใจเอา 2 งาน เพื่อนแม่เห้นแม่จะเอาเลยลดให้เหลือ งานละ 3 แสน สรุป 4 งาน 1.2 ล้าน แต่ต้องซื้อทั้งหมด แม่ผมเอา 2 งานและกำลังหาคนมาซื้อ ผมเลยถามแฟน (ไม่เข็ดไง) ว่าคุณพ่อเค้าสนใจมั้ย เนื่องจากคุณพ่อเค้าเป็นเจ้าของโรงงานเหล็ก และที่มันมีราคา ซื้อวันนี้ปักป้ายขายตอนเย็นยังได้กำไรเลย ยังไงก็ไม่ขาดทุน เค้าเลยโทรไปคุยกับพ่อ และสรุปมาว่าบอกว่าพ่อเค้าจะเอา ให้ผมพาเค้าไปดูที่และถ่ายรุปมา (ผมไม่เคยเจอพ่อเค้าหรือคุยกับพ่อเค้า เคยเจอแต่แม่และน้องชายเค้า)
หลังจากพาไปดูที่ สรุปว่าจะเอา นัดโอน 15 สิงหาคม 58 พอถึงวันนัดโอนเค้าบอกเงินไม่พร้อม พ่อเค้าไปต่างจังหวัดเนื่องจาก อากงป่วยขอเลื่อนเป็นต้นเดือนกันยา ผมต้องโทรไปขอโทษเพื่อนแม่ ขอโทษแม่ที่ผิดนัด พอถึงต้นเดือนกันยาบอกอากงเสียขอเลื่อนไปก่อน และ เพื่อเป็นการยืนยันกับเพื่อนแม่จะโอนมัดจำให้ก่อน 3 แสน ผ่านไปกลางเดือนกันยาเค้าก็ยังไม่ได้รับโอน ผมเช้คกับแฟน แฟนบอกว่าเลขาพ่อเขียนเลขบนเช็คผิด เลขสลับกันตัวเช็คเลยยังอยู่กับธนาคาร ธนาคารโอนเช็คเข้า บช เพื่อนแม่ไม่ได้ ผมบอกให้รีบแก้ไข บอกส่งเช็คใบใหม่ไปแล้ว ผมเช็คกับเพื่อนแม่เค้าบอกเงินยังไม่เข้า ผ่านไป 2-3 วันเงินก็ไม่เข้า
เพื่อนแม่เลยโทรไปว่าแม่ผม ประมาณว่า แม่ผมหลอกเค้าให้ลดราคาจาก 4 แสนเหลือ 3 แสน บอกว่าจะเอาหมด แต่เอาไม่หมด กลายเป็นปัญหาระดับครอบครัวแล้วตอนนี้ ผมเริ่มทะเลาะกับเค้าหนักมาก เพราะ เค้าทำให้ปัญหามาถึงแม่ผมซึ่งโดยปกติลูกๆ จะโพรเทคแม่มาก เพราะแม่เป็นโรคหัวใจไม่อยากให้แม่เครียด เลยไม่พาความเครียดไปให้แม่ แต่คราวนี้ผมชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน เอาปัญหาเข้าบ้านเต็มๆ
ผ่านมาถึงต้นเดือนตุลาคม เงินก็ยังไม่โอน บอกว่าพ่อเค้าซื้อไม่ได้แล้วตอนนี้ปวดหัวจี๊ดเลย ผมบอกแฟนให้บอกแม่เค้า( แม่กับพ่อแฟน แยกกันอยู่ เรื่องซื้อที่ เค้าบอกว่าอย่าบอกแม่เค้าเพราะแม่จะไม่ให้ซื้อแต่พ่ออยากได้ไว้เอง บอกไปเด๋วบ้านเค้าทะเลาะกัน ) เค้าบอกว่าเดี๋ยวลองคุยกับพ่อก่อน
บ่ายวันนั้น ป้าของแฟนผมโทรหาแม่ผมบอกว่าซื้อเองเพราะ พ่อแฟนจะไม่เอาแล้ว แล้วพูดเชิงดุถูกบ้านผมคงคิดว่าบ้านผมได้ค่านายหน้า หวังเงินจากบ้านเค้าซึ่งจิงๆ ไม่ใช่เลยแม่ไม่ได้บวกซักบาทเดียว
แฟนผมโทรไปขอโทษแม่ผม แม่ผมก็สอนเค้าบอกว่ามีอะไรต้องบอกกัน ต้องพูดความจริงเราเองก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ถ้าเราไม่บอกคนอื่นเค้าก็ไม่รู้ว่าจะต้องแก้ปัญหายังไง มาถึงตรงนี้ผมก็คิดนะว่าเรื่องน่าจะจบ แฟนผมอาจจะเสียเครดิตกับที่บ้านผมหน่อย แต่เราจะผ่านมันไปได้ด้วยกัน
14 ตุลาคม ผมถามแฟนว่าป้าแฟนจะไปโอนที่เมื่อไหร่ เค้าบอกเค้าไม่รู้ ผมบอกไม่ได้นะมันเกี่ยวกับบ้านพี่นะไปเช็คมาว่ายังไง หายไปครึ่งวัน สรุปป้าไม่เอา กลับมายืนที่เดิมที่ที่เคยคุ้นตา ทะเลาะกันอีกผมบอกเค้า ว่า ต้องบอกแม่เธอละล่ะ มันมีผลกระทบต่อบ้านพี่ด้วยนะ เค้าเป็นคนกลัวแม่มากแต่ผมบังคับยังไงก็ต้องบอก
ตอนบ่ายวันนั้น กลับมาร้องไห้มาเลยบอกว่าเเม่ดุว่าสร้างปัญหาได้ยังไง ถ้าจะซื้อก็ต้องไปดูก่อน เค้าคุยกะแม่เค้าบอกว่า คนขายคงไม่รอแล้วล่ะบอกปฏิเสธเค้าไปดีกว่ามั้ย แม่เค้าบอกแล้วแต่
คืนนั้นมาคุยกัน ผมบอกเห้ยย จะซื้อที่ครึ่งล้าน แม่จะไปดูก็ถูกแล้วนี่ โอนช้าหน่อยแต่เรารักษาคำพูด บ้านพี่จะได้มองเราไม่แย่ไปกว่านี้ไง พรุ่งนี้วันที่ 15 หยุดงานพาแม่ไปดุเลย เค้าบอกว่าจะส่งไลน์ไปบอกแม่ว่ายังไง
เช้าวันนี้ที่ 15 ตุลาคม ผมบอกสรุปแม่จะไปดูที่มั้ย เค้าบอกแม่ไม่ตอบมาเลยผมบอกว่าขอดูไลน์ที่ส่งไปให้แม่หน่อย สรุปเลย ไม่มี
แม่ยังไม่รู้ เค้าโกหก เพราะไม่กล่าบอกแม่กลัวแม่ว่า ผมเลยบอกเอ้าแล้วเพื่อนแม่พี่ เค้ามาว่าเเม่พี่อยู่เนี่ยเธอไม่กลัวบ้างหรอ นี่จะฆ่าแม่พี่ใช่มั้ย วันนั้นผมขอเลิกกับเธอเป็นครั้งที่ 2 เธอบอกขอโอกาสแก้ตัวอีกครั้งตอนเย็นเจอกัน บอกว่าจะพาแม่กับน้องชาย และแฟนน้องชาย รวม 4 คนไปดูที่ พรุ่งนี้และนอนค้างแถวนั้นเลย
วันที่ 16 ตุลาคม ผมต้องกลับบ้านไปก่อนเนื่องจากที่บ้านมีงานทำบุญวันที่ 17
10 โมงของวันที่ 16 เค้าโทรมาหาผมว่าออกมาจาก กทมแล้วนะ ผมบอกว่าถ้าดูที่ให้มา 16 นะ เพราะ 17 บ้านมีงานผมต้อนรับแม่เค้าไม่ได้ และมาถึงบ้านผม ถ้าไม่มาที่บ้านก็น่าเกลียดนะ สรุป 16 ไม่ได้เข้ามาดูที่บอกว่า น้องชายจะเที่ยวก่อน 17 จะเข้าไปดูผมไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร บอกเค้าว่าพี่ติดงานบ้านนะ แต่ถ้ามาถึงโทรมานะ เพราะห่างจากบ้านผม 200 เมตรเด๋วผมออกไปหา แม่เค้ามาจะไม่ออกไปเจอก็กระไร พอคืน 16 เค้าบอกว่าเค้าได้ที่พักแล้วที่พักสวยมากๆ อยากให้มาอยู่ด้วยกันจัง อากาศดีมากๆ ผมบอกว่าช่วยถ่ายรูปมาให้ดูหน่อย เค้าบอกว่าเด๋วส่งให้รูปอยุ่ในไอแพดน้อง อ่ะผมไม่ว่าอะไร
วันที่ 17 ที่บ้านมีงานทำบุญบ้านผมยุ่งแต่เช้าตอนเช้าได้คุยกับเค้าตอน 7 โมง เค้าบอกอากาศดีมากๆๆ ผมก็ขอรูปรีสอร์ทอีก กล้องเค้าก็ได้ ไม่ชัดไม่เป็นไร สุดท้ายก็ไม่ได้รูปเซลฟี่อีกไม่ได้รูปอะไรเลย ผมถามว่าจะมาดูที่ตอนไหน เค้าบอกสายๆ จะเข้าไป
พอสัก 10 โมงไปรับ ผมพระมา ผทไม่เป็นอันทำอะไรใจพะวง โทรหาเค้าว่ามาดูที่รึยัง เค้าไม่รับสายติดต่อได้อีกที เกือบเที่ยงตอนหลังผมไปส่งพระกลับวัด เค้าบอกแม่มาดูที่ละ เด๋วอีก ชั่วโมงให้คำตอบนะ ผมบอกเห้ยทำไมทำงี้ไหนบอกว่าจะโทรมาไง แล้วอยู่ที่ไหนจะออกไปหาเลย เค้าก็บอกว่า ตรงร้านที่เคยแวะซื้อผลไม้กันไง ผมขับรถไปหาเค้าเลยพอจะถึงบอกอยุ่ไหนเค้าบอกเค้าออกมาแล้ว น้องจะไปขับ ATV
ไม่อยากรอ ผมถามไปขับ ATV ที่ไหน เค้าตอบไม่ได้ติดต่อไม่ได้อีก
ผมกับพี่สาว คุยกันว่าน่าจะโดนหลอกแล้ว เลยไปคุยกับเเม่ว่า บ้านแฟนผมไม่เอาที่ ปรึกษาว่าจะเอายังไงกันดี แม่บอกว่าแม่จะกู้เงิน 6 แสน มาซื้อเองเพื่อรักษาเครดิตแม่ไว้ ณ.จุดจุดนี้ผมสร้างปัญหาให้ที่บ้านและสร้างหนี้ให้ที่บ้านอีก 6 แสน ผมไม่ไหวแล้วผมเลยโทรไปบอกเลิกกับเค้า เค้าว่าทำไมต้องเลิกกะเค้า เค้าอุตสาห์พาแม่มาดูที่นะ เพื่อรักษาความสัมพันธ์เรา ผมบอกเธอมาจริงๆ หรือ เค้าบอกจริงสิ
ผมเลยถามเค้าว่า ถนน หน้าบ้านพี่ที่ทำใหม่ เป็นลาดยางหรือคอนกรีต (จิงๆยังเป็นลูกลัง ดาวอังคารฝุ่นตลบอยู่)ถ้ามาดูที่ผ่านหน้าบ้านผมจริงยังไงก็ต้องรู้ เธอตอบว่าลาดยาง สรุปโกหกแน่ไม่ได้มาจริง เย็นวัน 17 ผมเตรียมตัวกลับ กทม มีคนชื่อชื่น เป็นผู้ชายโทรมาหาผมบอกว่าวันนี้ไปดูที่กับแม่แฟนผมมาชอบที่ตรงนี้อยากจะซื้อ ยังจะขายไหม แต่ขอเวลาสักอาทิตยืนะให้เค้าหาเงินก่อน ตอนนี้ผมรู้ละ ว่าเค้าพยายามสร้างหลักฐานพยานปลอม เลยบอกคุณชื่นว่าไม่ขายมีคนอื่นซื้อไปแล้ว
กลับมากทม ทะเลาะกันหนักมากๆๆๆ ทำท่าเก็บของจะย้ายออกผมไม่รั้ง สุดท้ายหิ้วของออกไปหายไปชั่วโมงนึงกลับเข้ามาใหม่ไม่ไป ขอโอกาสเถอะให้เค้าอยู่เถอะ เค้าจะปรับตัวจะแก้ไขผมยืนยันว่าเลิกแน่ๆ กลับบ้านเถอะกลับพรุ่งนี้ก็ได้ เดี๋ยวไปส่ง
18 ตุลาคม ผมบอกว่าจะไปส่งเค้าบอกขอเวลาเค้าทำใจหน่อยขออยู่ถึงสิ้นเดือน เห้นกะเค้าดูแลผมมาตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาและขอให้ปฏิบัติกับเค้าเหมือนเดิม ทำรับปาก พอ 31 ตุลาคมผมบอกว่าให้เค้ากลับบ้านเถอะ เค้าบอกทำไมต้องไล่เค้าเหมือนหมูเหมือนหมา ทำไมไม่ให้โอกาสเค้าทั้งๆที่ให้ได้
ผมบอกว่าผ่านมาก็ให้โอกาสจนไม่มีให้อีกแล้ว ไม่มีใครให้โอกาสในสิ่งที่เธอทำได้หรอก เค้าบอกให้ได้สิให้ได้เรื่องแค่นี้เอง ไม่รักกันแล้วหรอ มีคนอื่นใช่มั้ย ทำไม ทำไม ทำไม ต้องไล่เค้าผมบอกว่า ถ้าไม่ได้ไล่ เธอกำหนดวันมาเลยว่าจะกลับไปอยู่บ้านเมื่อไหร่ เค้าขอถึงวันที่ 3
พอถึงวันที่ 3 เธอนิ่งผมก็ไม่พูด พอวันที่ 4 ผมถามว่าจะกลับบ้านหรือยัง เธอบอกว่าเราไม่เลิกกันไม่ได้หรอ กลายเป้นว่าช่วงเวลาที่เหลือแล้วดีกับเธอ เะอคิดยังไงไม่รู้ แต่เหมือนว่าเรายังไปต่อได้ เเต่สมองสำคัญกว่าหัวใจยังไงมันก็ต้องเลิก ตอนนี้เธอยังไงก็ไม่ยอม ไม่กลับบ้าน
ตอนนี้ ผมไม่รู้แล้วว่าต้องทำยังไงตอนเย็นไม่อยากกลับห้อง ไม่อยากกลับไปเจอปัญหา ไม่อยากกลับไปเจอคนพูดไม่รู้เรื่อง คิดแต่เรื่องที่ตัวเองต้องการ ไม่สำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำไป คิดว่าก็ให้โอกาสเค้าสิแค่ยกโทษให้จะยากอะไร ตอนนี้ผมไม่รุ้จะทำยังไงแล้วครับ เหนื่อยมากๆ ไม่รุ้จะระบายกับใครเลยต้องมาพึ่งที่นี่
สุดท้ายนี่หากอ่านแล้วงง หรือผมเขียนไม่ถูกต้องยังไงขออภัยมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ และขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบยังไงครับ