"อยากไปที่แปลกๆจัง" เราตอบคำถามที่แม่ถามว่าปีนี้อยากไปไหน
"แต่ไม่รู้ที่ไหนดีอ้ะ..."
หลังจากหาข้อมูลกันอยู่พักใหญ่ เราก็ได้ข้อสรุป เป็นแคว้นตอนใต้ของสเปน
"อันดาลูเซีย"
อย่างไรก็ตาม ขอสารภาพว่าเคยได้ยินชื่อของแคว้นนี้ไม่เกินห้าครั้งในชีวิต
แต่เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่เขตอันดาลูเซีย ความน่ารักก็เตะตัดขาจนหัวทิ่มหัวตำ
{การพบกัน}
อันดาลูเซียต้อนรับเราอย่างน่ารักด้วยท้องฟ้าสีฟ้าใส ทุ่งดอกทานตะวันสีเหลืองสด ต้นมะกอกยืนเรียงเป็นแถว
บ้านสีขาว หลังคาดินเผา และต้นยี่โถริมทางที่ออกดอกแน่นอยู่ริมถนน
โอ่ยยย ทั้งหมดที่กล่าวมาคือภูมิประเทศในฝันของเราเลย
รู้สึกเหมือนโรคแพ้ความเมดิเตอเรเนียนกำเริบหนักมาก 5555
ครั้งนี้ เราเดินทางกันสามคนพ่อแม่ลูก กับไกด์ชาวสเปนอีกหนึ่งคน
ทริปนี้เกิดแบบกะทันหันไปซะทุกอย่าง เราจองทัวร์ก่อนเดินทางแค่ห้าชั่วโมง เนื่องจากทัวร์เก่ามีปัญหาต้องยกเลิกกะทันหัน
ทัวร์นี้เป็นทัวร์ท้องถิ่น ราคาไม่แพง ไกด์ของเราชื่อ อะฮฺหมัด ดูอินดี้และฮิปปี้มาก
เราแอบเก็บความสงสัยในบุคลิกแปลกๆของเขาที่ดูต่างจากชาวสเปนทั่วไปไว้เงียบๆ
ที่ๆเราประทับใจที่สุดในทริปคือเมือง Granada
ขอรีวิวกระโดดข้ามทุกเมืองที่ผ่านมาอย่างลำเอียงสุดๆ
เมืองนี้ต้อนรับเราด้วยอากาศเย็น ภูเขาสูง เมืองสีขาว แค่นี้ก็เหมือนจะพอแล้วที่จะประทับใจ
ไกด์ของเราเป็นคนเมืองนี้ เราเข้าใจบุคลิกแปลกๆ ความฮิปสเตอร์และอินดี้ของเขาได้ในทันทีที่ได้รู้จักกับ Granada
ถ้าเป็นคน กรานาดาคงเป็นมนุษย์ที่มีสเน่ห์และแปลกพอตัว
ที่นี่เหมือนจานสีที่รวมวัฒนธรรมสีสันหลากหลายไว้ด้วยกัน ผสมกันไปมา ออกมาแล้วดูแปลกตาดี
ที่นี่เป็นศูนย์รวมของชาวมุสลิม คริสเตียน แอฟริกัน ฮิปปี้ และยิปซี ไว้ด้วยกัน
แต่ละกลุ่มมีสไตล์ที่ชัดเจนมาก และรักษาสไตล์ของตัวเองไว้ได้อย่างเหนียวแน่น เป็นตัวของตัวเองเต็มที่แบบไม่แคร์ใคร
ไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น โหยยย เมืองอะไร อย่างเท่เลย
ที่แรกในกรานาดาที่ไกด์พาเราไป คือ แลนด์มาร์คสำคัญของเมือง พระราชวัง Al-Hambra
อะฮฺหมัดบอกให้เรารอข้างนอก จะไปซื้อตั๋วให้ เรายืนรอกันสักแปป มีชายหญิงชาวสเปนสองคนเดินเข้ามาหาทำท่าเหมือนรู้จักเรา
ผู้ชายใส่กางเกงสีฟ้าอ่อนๆ เป็ฯโทนสีที่ไม่ค่อยเคยเห็นใครใส่ เขาทักขึ้น "มากับอะฮฺหมัดใช่ไหม"
"หืมมม...อ่า ใช่ค่ะ" รู้ได้ไงอ่า แล้วยูเป็นใครเนี่ยยย
สรุป.
ทั้งสองคนเป็นพ่อแม่ของไกด์เราเอง เป็นทัวร์ไกด์ทั้งคู่ 55555555555
เขามาชวนเรา บอกว่าเขากำลังจะพาลูกทัวร์สองสามคนเข้าไปชมวัง ให้เราเดินกับเขาก็ได้จะได้ไม่หลง และดูได้ครบ
เพราะเดี๋ยวอะฮฺหมัดจะไม่ได้เข้าไปด้วย
เราก็ตอบตกลง โอเค ...
พอไกด์ของเราเดินออกมา ทำหน้างง มากกกกก "เอ้า ไปเจอกันได้ไง แล้วพ่อกับแม่มาอยู่นี่ได้ไง แล้วรู้จักกันแล้วหรอ"
555555 แตกตื่นมาก ไกด์เราท่าทางคล้ายพ่อเขามาก ท่าเดินก็เหมือนกัน ท่าเกาหัวยังเหมือน
เราคิดแล้วแอบฮาอยู่คนเดียว
ทันใดนั้น แม่เราก็สังเกตเห็นบางอย่าง...
"ยูใส่กางเกงสีเดียวกันเลย" พร้อมชี้ไปที่กางเกงของอะฮฺหมัดกับพ่อ
ทั้งวงระเบิดเสียงหัวเราะ แม่แอบกระซิบ
"เกิดมาไม่เคยเห็นใครใส่สีนี้ พอเจอก็ใส่เหมือนกันทั้งพ่อลูกเลย" 55555
อินดี้กันทั้งครอบครัวจริงๆ
ตอนที่เข้าไปชมวัง ทั้งสองดูแลเราดีมากกกก ชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ตลอด
จบเรื่องนี้ก็คุยต่อ นู่นนี่นั่นไปเรื่อย
นี่แหละ...สไตล์ของคนกรานาดา จากการอยู่ที่นี่มา...สี่ ชม. ถ้วน
เราสังเกตได้ว่าชาวกรานาดาค่อนข้างเปิดกว้าง ชอบคุย ชอบแลกเปลี่ยนความคิดในเรื่องต่างๆ
ซึ่งเป็นบุคลิกที่ต่างจากชาวสเปนในเมืองใหญ่อื่นๆมาก
อันดาลูเซียนี้ อินดี้มาก
"แต่ไม่รู้ที่ไหนดีอ้ะ..."
หลังจากหาข้อมูลกันอยู่พักใหญ่ เราก็ได้ข้อสรุป เป็นแคว้นตอนใต้ของสเปน
"อันดาลูเซีย"
อย่างไรก็ตาม ขอสารภาพว่าเคยได้ยินชื่อของแคว้นนี้ไม่เกินห้าครั้งในชีวิต
แต่เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่เขตอันดาลูเซีย ความน่ารักก็เตะตัดขาจนหัวทิ่มหัวตำ
{การพบกัน}
อันดาลูเซียต้อนรับเราอย่างน่ารักด้วยท้องฟ้าสีฟ้าใส ทุ่งดอกทานตะวันสีเหลืองสด ต้นมะกอกยืนเรียงเป็นแถว
บ้านสีขาว หลังคาดินเผา และต้นยี่โถริมทางที่ออกดอกแน่นอยู่ริมถนน
โอ่ยยย ทั้งหมดที่กล่าวมาคือภูมิประเทศในฝันของเราเลย
รู้สึกเหมือนโรคแพ้ความเมดิเตอเรเนียนกำเริบหนักมาก 5555
ครั้งนี้ เราเดินทางกันสามคนพ่อแม่ลูก กับไกด์ชาวสเปนอีกหนึ่งคน
ทริปนี้เกิดแบบกะทันหันไปซะทุกอย่าง เราจองทัวร์ก่อนเดินทางแค่ห้าชั่วโมง เนื่องจากทัวร์เก่ามีปัญหาต้องยกเลิกกะทันหัน
ทัวร์นี้เป็นทัวร์ท้องถิ่น ราคาไม่แพง ไกด์ของเราชื่อ อะฮฺหมัด ดูอินดี้และฮิปปี้มาก
เราแอบเก็บความสงสัยในบุคลิกแปลกๆของเขาที่ดูต่างจากชาวสเปนทั่วไปไว้เงียบๆ
ที่ๆเราประทับใจที่สุดในทริปคือเมือง Granada
ขอรีวิวกระโดดข้ามทุกเมืองที่ผ่านมาอย่างลำเอียงสุดๆ
เมืองนี้ต้อนรับเราด้วยอากาศเย็น ภูเขาสูง เมืองสีขาว แค่นี้ก็เหมือนจะพอแล้วที่จะประทับใจ
ไกด์ของเราเป็นคนเมืองนี้ เราเข้าใจบุคลิกแปลกๆ ความฮิปสเตอร์และอินดี้ของเขาได้ในทันทีที่ได้รู้จักกับ Granada
ถ้าเป็นคน กรานาดาคงเป็นมนุษย์ที่มีสเน่ห์และแปลกพอตัว
ที่นี่เหมือนจานสีที่รวมวัฒนธรรมสีสันหลากหลายไว้ด้วยกัน ผสมกันไปมา ออกมาแล้วดูแปลกตาดี
ที่นี่เป็นศูนย์รวมของชาวมุสลิม คริสเตียน แอฟริกัน ฮิปปี้ และยิปซี ไว้ด้วยกัน
แต่ละกลุ่มมีสไตล์ที่ชัดเจนมาก และรักษาสไตล์ของตัวเองไว้ได้อย่างเหนียวแน่น เป็นตัวของตัวเองเต็มที่แบบไม่แคร์ใคร
ไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น โหยยย เมืองอะไร อย่างเท่เลย
ที่แรกในกรานาดาที่ไกด์พาเราไป คือ แลนด์มาร์คสำคัญของเมือง พระราชวัง Al-Hambra
อะฮฺหมัดบอกให้เรารอข้างนอก จะไปซื้อตั๋วให้ เรายืนรอกันสักแปป มีชายหญิงชาวสเปนสองคนเดินเข้ามาหาทำท่าเหมือนรู้จักเรา
ผู้ชายใส่กางเกงสีฟ้าอ่อนๆ เป็ฯโทนสีที่ไม่ค่อยเคยเห็นใครใส่ เขาทักขึ้น "มากับอะฮฺหมัดใช่ไหม"
"หืมมม...อ่า ใช่ค่ะ" รู้ได้ไงอ่า แล้วยูเป็นใครเนี่ยยย
สรุป.
ทั้งสองคนเป็นพ่อแม่ของไกด์เราเอง เป็นทัวร์ไกด์ทั้งคู่ 55555555555
เขามาชวนเรา บอกว่าเขากำลังจะพาลูกทัวร์สองสามคนเข้าไปชมวัง ให้เราเดินกับเขาก็ได้จะได้ไม่หลง และดูได้ครบ
เพราะเดี๋ยวอะฮฺหมัดจะไม่ได้เข้าไปด้วย
เราก็ตอบตกลง โอเค ...
พอไกด์ของเราเดินออกมา ทำหน้างง มากกกกก "เอ้า ไปเจอกันได้ไง แล้วพ่อกับแม่มาอยู่นี่ได้ไง แล้วรู้จักกันแล้วหรอ"
555555 แตกตื่นมาก ไกด์เราท่าทางคล้ายพ่อเขามาก ท่าเดินก็เหมือนกัน ท่าเกาหัวยังเหมือน
เราคิดแล้วแอบฮาอยู่คนเดียว
ทันใดนั้น แม่เราก็สังเกตเห็นบางอย่าง...
"ยูใส่กางเกงสีเดียวกันเลย" พร้อมชี้ไปที่กางเกงของอะฮฺหมัดกับพ่อ
ทั้งวงระเบิดเสียงหัวเราะ แม่แอบกระซิบ
"เกิดมาไม่เคยเห็นใครใส่สีนี้ พอเจอก็ใส่เหมือนกันทั้งพ่อลูกเลย" 55555
อินดี้กันทั้งครอบครัวจริงๆ
ตอนที่เข้าไปชมวัง ทั้งสองดูแลเราดีมากกกก ชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ตลอด
จบเรื่องนี้ก็คุยต่อ นู่นนี่นั่นไปเรื่อย
นี่แหละ...สไตล์ของคนกรานาดา จากการอยู่ที่นี่มา...สี่ ชม. ถ้วน
เราสังเกตได้ว่าชาวกรานาดาค่อนข้างเปิดกว้าง ชอบคุย ชอบแลกเปลี่ยนความคิดในเรื่องต่างๆ
ซึ่งเป็นบุคลิกที่ต่างจากชาวสเปนในเมืองใหญ่อื่นๆมาก