เขียน จากพี่โต้ง ถึง น้อง "เกียรติ สิทธีอมร" ผู้มาเหนือเมฆ จำนำข้าว ขัดหลัก WTO

เรียน น้องเกียรติ สิทธีอมร

อดีตผู้แทนการค้าใน รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

แม้เราจะไม่ได้พบกันนานพอสมควร แต่ผมก็ยังมีความปราถนาดีกับท่านในฐานะที่ท่านเป็นรุ่นน้องจากโรงเรียนเดียวกันกับผมอยู่เสมอ

ทุกครั้งที่ผมได้ยินเรื่องคดีภาษีของบริษัทบุหรี่ฟิลลิปมอร์ริสผมก็นึกถึงท่านและหวังลึกๆ ว่าท่านไม่เคยไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และผู้คนทั่วไปก็อาจจะลืมๆ เรื่องนี้ไปแล้ว ครั้งนี้ก็เช่นกันครับ เรื่องนี้กลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้งว่า อัยการสูงสุดกำลังจะทำในสิ่งที่ควร หรือไม่อย่างไรกับคดีนี้

ในขณะที่ติดตามข่าวสารของคดีนี้ ก็นึกถึงท่านอีก และคาดว่าท่านจะทำตัวเงียบๆ ให้คนลืมๆ ผมกลับคาดผิด เพราะท่านมาเหนือเมฆด้วยการ พลิกมุม ไปพูดเรื่อง องค์การการค้าโลก World Trade Organization (WTO) ที่ควรเป็นเรื่องถนัดของอดีตผู้แทนการค้า กับ โครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลผม ด้วยผมเป็นห่วงท่าน ไม่อยากให้ใครทั้งนั้นมาตำหนิต่อว่า ศิษย์โรงเรียนเดียวกันว่า "โชว์โง่" ด้วยไปเข้าใจผิดว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ขัดต่อหลักการ WTO นี่โชคดีนะที่ท่านไม่ได้พูดว่า โครงการสินเชื่อชะลอการขาย จำนำยุ้งฉาง ของรัฐบาลนี้ ขัด WTO มิฉะนั้นอาจมีคนไปเยี่ยมท่านที่บ้าน เพื่อขอทานกาแฟด้วย

ขอใช้โอกาสนี้เรียนชี้แจงให้ท่านสบายใจนะครับว่า WTO จะไม่มีวันมาเล่นงานประเทศไทยจากโครงการับจำนำข้าวเปลือกฯ เพราะโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรที่มุ่งผลักดันให้ราคาตลาดของสินค้าเกษตรมีราคาดีขึ้น กว่าการที่ปล่อยให้กลไกตลาดทำงานแบบไม่มีประสิทธิภาพและไม่เป็นธรรมน่ะ ไม่เป็นการขัดต่อหลักการ WTO เนื่องจากมิใช่การอุดหนุนที่ทำให้ สามารถนำสินค้าเกษตรไปขายแข่งขัน กับประเทศอื่นในราคาที่ต่ำ ในทางตรงกันข้าม โครงการรับจำนำฯ จะเกิดเป็นกลไกเสริมที่ทำให้ทั้งเอกชน และรัฐบาลต้องพยายามส่งออกสินค้าเกษตรในราคาที่สูงขึ้น ประเทศผู้ผลิตคู่แข่งขันย่อมไม่มีความทุกข์ หรือความเสียหายใดๆ ไปร้องเรียน WTO

ถ้าอธิบายเท่านี้แล้ว ยังไม่เห็นภาพชัด ท่านอาจลองสอบถามไปที่ สถาบันวิจัย TDRI ว่า มีโครงการแบบที่ พ่อค้าเอกชน สามารถซื้อสินค้าเกษตร จากเกษตรกร ได้ในราคาถูกๆ จนผู้ส่งออกสามารถไปขายตัดราคากับประเทศคู่แข่งได้ โดยให้เกษตรกรไปแบมือรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ตามราคาประกันไหม แล้วท่านน่าจะได้คำตอบดังนี้คือ

"โครงการประกันรายได้ของรัฐบาลประชาธิปัตย์ เป็นการชดเชยแก่เกษตรกร ที่ส่งผลให้ผู้ส่งออกสามารถส่งออกในราคาถูกๆ ไปตัดราคาประเทศคู่แข่งได้ จึงเป็นการชดเชยการส่งออก (Export Subsidy) ที่เสี่ยงต่อ การขัดหลักการของ WTO " เว้นแต่จะไม่กล้าพูดความจริง

ถ้าคิดออกว่าใช่ อย่างที่ผมเรียนมา ก็ฝากบอกเขาด้วยว่า อย่าเสี่ยงไปเสนอให้ใครทำ โครงการประกันรายได้อีก แต่ถ้าเห็นว่าไม่ใช่ก็วิสัชชนามาให้กระจ่าง เพื่อประโยชน์ของสาธารณชนที่จะได้ไม่เข้าใจอะไรผิดๆ

รักเสมอ

จากพี่โต้ง กิตติรัตน์ ณ ระนอง

5 พ.ย.2558

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1446702217
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่