How To รู้ไว้ถึงที่มาที่ไปและเหตุผล ทำไมผู้ชายส่วนใหญ่มักกลัวเมีย..
ไอ้พวกที่ออกมาทำกล้าปากแข็ง บอกไม่กลัวๆ ไม่จริงๆ นั้นแหละ ตัวดีเลย ไอ้ผู้ชายคนนี้มันกลัวเมียสุดลิ่มทิ่มประตู และเมื่อกล่าวในห้องเพลงแห่งนี้ ซึ่งมีผู้ชายหลายท่านที่ยังไม่ได้แต่งงาน ผมจึงรวมความหมายไปถึง แฟน..ด้วย และใครที่ยังหาคนที่ใช่ไม่เจอ ก็เรียนรู้ไว้เป้นประสบการณ์ ซึ่งอ่านได้ทั้งชายและหญิง เพราะถ้าลองมองให้ดี ตรองให้แตก ความสามารถในการแสดงออกของชายหญิง มักเต็มล้นที่สุดตอนมาเชื่อมกัน โดยวิธีที่เรียกว่าการแต่งงาน หรือเป็นแฟนกัน
1. กลัวเมียเพราะผู้ชายกลัว "ประวัติศาสตร์"
ประวัติศาสตร์ประเภทไหน?
ก็ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยไง..
ลองมองในแง่นี้ เรา
(ขอใช้สรรพนามว่า”เรา”เพราะผมเชื่อว่าผู้ชายร้อยล่ะ90 กลัวเมีย)ต่างอาจเคยอกหักมาแล้วนักต่อนัก ไม่ก็สักครั้งในชีวิต คนบางคนไม่เคยมีแฟนมาก่อน เมื่อได้มาก็ยิ่งทะนุถนอม แม้ชายที่หล่อที่สุดในประเทศไทยคนหนึ่งอย่างศรราม เทพพิทักษ์ ยังเคยผิดหวังในความรักจนชีวิตเสียหลักหาทางกลับเกือบไม่ได้มาแล้ว
จึงนับประสาอะไรกับพวกหน้าพอพาไปวัดไปวา(แล้วปล่อยทิ้ง) ทั่วไปอย่างเรา
ความรู้สึกกระทบใจกับเรื่องราวที่เคยได้รับรู้มา แม้ไม่ใช่เรื่องตัวเองก็ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ ไม่ต้องพูดถึงพวกที่เจอมากับตัว
การโดนทิ้งจากสตรี เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้พวกเรา "
ยอม" พวกหล่อนอย่างว่าง่าย เพราะเกรงกลัวว่า พวกหล่อนจะทอดทิ้งเราไปหากเราไม่ยอม ดังนั้นเพศชายคือผู้ถูกรังแก เพราะเราหน้าเห่ย ขี้เกียจ บ้าบอล ฟังเพลงร็อค ติดเกมส์ อ่านหนังสือทั้งวัน ปากหมา(นี่เรื่องเกรียนสุดของแต่ละคน) เราจะมีปัญญาไปหาเมียสวยๆที่ไหนได้บ่อยๆ..จริงไหม
ประวัติศาสตร์สอนเรา หากเมิงเคยโดนทิ้งหนึ่งครั้ง.......เดี๋ยวมันจะมีอีก เราชายชาติทหาร ไม่บนบานศาลใด มุ่งมั่นเพ่งจ้อง มองเมียเหมือนพระแม่เจ้า ซึ่งเราไม่ยอมปล่อยพวกคุณให้ทิ้งพวกเราได้โดยง่ายอีกแล้ว ประสบการณ์สั่งสอน เราคือผู้สานต่อประวัติศาสตร์ ไม่เคยซ้ำ เพราะฉะนั้นเราจึงยอมทุกอย่าง เพราะอดีตอาจเคยแข็งขืน หุนหันพลันแล่น แม่คุณจึงแล่นออกจากเราไปโดยไม่ใยดี..
และเนื่องจาก ความสำนึกในรูปกาย(เรา) กับความดีงาม(เธอ) เราจึงพยายามทำทุกอย่างที่จะถนอมเธอให้อยู่กับเรานานๆ (โดยอาจแว่บไปหาคนอื่นเป็นระยะๆ ตราบใดที่ยังไม่โดนจับได้คาหนังคาเขา)
เราตระหนักถึงความน่ารักของเธอและที่ให้การดูแล เช่น การทำรายงานให้ การทำงานบ้านให้ การทำโน้นทำนี้อีกจิปาถะ ซึ่งผู้ชายอย่างเราไม่ค่อยจะใส่ใจและให้ความสำคัญ เราจึงพยายามยอมทุกอย่างเพื่อให้เธออยู่กับเราอย่างมีความสุข
ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ เป็นการต่อสู้ที่โหดร้ายสำหรับผู้พ่ายแพ้
ดังนั้น เรากลัว
เราจึงยอม..
2. กลัวเมียเพราะผู้ชายกลัว ไสยศาสตร์
คุณไม่กลัวบ้างหรือ?
คุณอาจเคยได้ยินเรื่องหูตาทิพย์ เสกของเข้าท้อง (ผู้ชายอย่างเราก็ทำกันได้)ควายธนู เรื่องลี้ลับ ไสยศาสตร์เป็นเรื่องของคนงมงาย..
แต่...ฉับพลันที่คุณไปเที่ยวกับหญิงอื่น กินเหล้ากับเพื่อน ไม่อาบน้ำ เท้าเหม็น..เราอาจผายลมบนรถเมล์ ไม่สละที่นั่งให้สตรีบนรถเมล์ อะไรก็ตามที่คุณทำลับหลังพวกเธอ หรือ อะไรก็ตาม...อะไรก็ตาม...
ผู้หญิงจะแสดงความสามารถด้านไสยศาตร์ออกมา..
อะไรก็ตามที่คุณปิดบังพวกเธอ
เธอรู้หมด..
คุณพระ..!!
เมียกรูรึศาลพระภูมิฟร่ะเนี๊ยะ..
เรื่องของเรื่องเป็นอย่างนี้ หากคุณหนีเธอไปเพื่อปลูกป่า อนุรักษ์พันธุ์ปลากัด ช่วยคนแก่เล่นโรลเลอร์เบลด หรืออะไรก็ตามที่เป็นความดีงามต่อสังคม เรดาห์พวกเธอจะไม่ใยดี เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณเล่นวินนิ่งเก่งกว่าทุกคนในหกอำเภอ(ขอย้อนอดีตตัวเองสักนิด555+) แต่ถ้าวันหนึ่ง หากคุณบอกเธอว่าจะไปติวหนังสือบ้านเพื่อน ไปงานศพต่างจังหวัด
อะไรก็ตามที่โกหกพกลม เรดาห์น่าสะพรึงอกสั่นขวัญแขวน เธอจะรู้เหมือนตาเห็น เล่าได้เป็นฉากเหมือนยืนอยู่ข้างกายในเหตุการณ์
เรื่องมันเป็นมาได้อย่างไร?
ผู้หญิงคงมีต่อมใต้สมองชนิดหนึ่ง คล้ายๆต่อมพินทูอิคารี ชื่อภาษาไทยคือ "ทำผิด กูบี้" เธอจะไล่เรียงความไม่ชอบของการกระทำ การโกหกหลอกลวงของคุณ ความเลวร้ายดุจป้ายขี้มูกบนรถเมล์ เธอจะพิพากษาพร้อมหลักฐานที่มองไม่เห็นพร้อมมูล แต่ที่สำคัญ 90 เปอร์เซ็น เธอพูดถูกโดยมีการตีความตามกฎหมายเข้าข้างตัวเธอ 100 เปอร์เซ็น หากคุณควงผู้หญิงอื่นไปกินข้าว เธอจะตีความตามรู้สึกว่าคุณมีเซ็กส์ ทั้งๆที่คนที่ฉวยโอกาสที่สุดอย่างคุณทำได้เพียง วางมือเฉียดๆบนโต๊ะอาหารเท่านั้นแหละ
เป็นได้ว่า เธอไวกับการดูดวงและไสยศาสตร์ ผู้หญิงเป็นเพศลึกลับเกินเข้าใจ และเธอก็ไวกับเรื่องลี้ลับ หรือว่าพวกเธอมีของดีติดตัว..ของเหนือธรรมชาติที่เรียกว่าสัญชาติญาณ ความเข้าใจยากของผู้หญิง อาจอยู่ที่เทพประจำตัว ที่ไม่ทำอะไรเลยนอกจากประทานเรดาห์และวาจาเชือดเฉือนมาเพื่อการจับผิด และร้อยทั้งร้อยเมื่อจับความผิดของเราได้ ไม่เคยมีใครพูดออกมาตรงๆ
มันจะเริ่มที่การหักเหลี่ยมเฉือนคม..
"ไปไหนมา" (ทั้งที่มันรู้อยู่แล้วว่าไปเที่ยว)
"ไปบ้านเพื่อน"
"ไปทำอะไร.."
"ก็ไปกินเหล้าตามประสาผู้ชาย.."
คำว่าประสาผู้ชายของเธอตีความทางไสยศาตร์ได้ว่า..
เรากำลังถามหา..ความตาย...
ไสยศาตร์ในโครโมโซม..
ดังนั้น เรากลัว
เราจึงยอม...
3 กลัวเมียเพราะผู้ชายกลัว.....เวรกรรม..
เวรกรรมมีจริง..
แม่เจ้า..
ผู้หญิงเป็นเผ่าพันธุ์เดียวในโลก ที่สามารถทำให้ผู้ชายกลับมาศรัทธาในพระเจ้า (ที่ประทานเธอมา) พวกเธอมิได้ทำให้พวกคุณห้อยพระ เล่นของ หรือไม่ก็ กลัวการทำความชั่วและมุ่งทำดี ทำให้เราเข้าวัด สวดมนต์ก่อนนอน ไหว้ศาลเจ้าและคิดถึงพระวันละสามครั้ง
แต่พวกเธอให้เราถือศีล (โดยเธอเป็นคนประทานให้) พวกเรากลัวในการทำความชั่วร้ายทั้งมวล พวกเรามุ่งทำดีเสมอ..
โดยเฉพาะทำตัวดีๆ..(คำนี้ได้ยินบ่อยมาในหมู่ผู้ชายอย่างเรา)
ผู้หญิงสามารถตอบสนองการกระทำของผู้ชายได้ดีกว่ากฎแห่งกรรม กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง..เธอไม่เคยละเว้นการกระทำใดๆให้พ้นผ่าน หากคุณพาเธอไปกินข้าว อาจได้หอมแก้มเป็นรางวัล หากคุณให้ของขวัญเธอ เธออาจมอบความรักมาให้บ้าง
แต่หากเมื่อใดคุณนอกใจ..เธอก็พร้อมจะควักมันออกมาดู..
ผู้หญิงมีกฎแรงดึงดูดทางเวรกรรมดังนี้
Women = (Men + Good thing) - Mistake
ประมาณว่า..ผู้หญิง เท่ากับ ผู้ชายและการกระทำดีๆ ลบออกด้วยความผิดพลาดของมัน(ซึ่งคูณด้วยสองเสมอ)..
กรณีนี้ ถ้า X (ผู้ชาย) มีการกระทำดีๆเท่ากับ 90 และมีความผิดพลาด 50(x2)
เมิงซวย..(แล้วครับ X)
ผู้หญิงตอบสนองต่อแรงกระทำภายนอกได้ดี เช่น การเอาใจใส่ ความรัก ความคิดถึง เราให้มากไปเท่าใด ก็จะได้กลับมาเท่านั้น (หรือมากกว่า) ในกรณีกลับกัน หากเป็นความเจ้าชู้ โกหก กะล่อน เอาแต่ใจ ให้ไปเท่าใด ไม่เคยให้กลับมาเท่าเดิม มีแต่บวกเพิ่มให้กลับมาเป็นเท่าตัว..
ทุกๆการกระทำ ไม่เลยเล็ดลอดจากเธอ
ความสามารถในการจดจำ(ความผิด)สูงมาก แต่การจดจำสิ่งดีๆของเธอก็มากเช่นกัน นั่นคือเหตุผลที่ทำไมหลายๆครั้งเธอหงุดหงิด คือ ค่าความดีของเรามันสูสีกับค่าความเลวร้าย และเธอกำลังคำนวณมันในใจอยู่ เมื่อยังหาค่าไม่ได้เพราะตัวแปรบางอย่างเช่น ไม่มาสายตอนนัด ซื้อดอกไม้ให้ในวันวาเลนไทน์ เล่นกีตาร์ให้ฟัง ยังอยู่ในสมการ เธอเลยฉุนเฉียวในการคำนวณ
เอาเป็นว่า ทำดีไว้ก่อนเถอะ เวรกรรม..มันมีจริง...
ดังนั้น เรากลัว
เราจึงยอม..
4.กลัวเมียเพราะผู้ชายกลัว..ผู้หญิง..ไม่รู้...ว่ารัก
ไม่เกี่ยวกับการโดนทิ้ง..เรารักพวกเธอเสมอๆ ซึ่งนี้คือเหตุผลที่แท้จริงของอาการ “กลัวเมีย”
ผู้ชายมีหลายประเภท ทั้งพวกพูดพร่ำคำรัก และพวกหลงลืมความสำคัญ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เราจะรักผู้หญิงของเราอยู่ลึกๆเสมอ และหาทางแสดงออกในแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งเหล่าคุณเธอเอง ก็ตอบโต้ด้วยลักษณะท่าทางที่ต่างกันแล้วแต่พฤติกรรมของเรา (ในบางกรณีแสดงออกด้วยการตีเข่า หรือซัดด้วยฝ่ามือเข้าที่กกหูหรือกบาล) นั้นก็ด้วยความรักที่มีต่อเรา
เพราะถ้าเขาไม่รัก เขาจะเสียใจกับพฤติกรรมแย่ๆของเราหรือ...?
คิดสิ...
ความรักของพวกเราไม่สมบูรณ์ ถ้าไม่มีผู้หญิงมาเต็มเติม
ผมพบว่า ชีวิตง่ายขึ้นเวลามีผู้หญิงมาดูแลเรื่องเล็กๆน้อยให้ เช่นการลงทะเบียนเรียน การสมัครบัตรเครดิต การกรอกใบภาษี ภ.ง.ด. หรือการรีดผ้าและซักถุงเท้า เราอาจชอบความสะดวกสบาย แต่ความเอาใจใส่หลายๆอย่าง ตอบสนองความไม่รู้จักโตของเรา คล้ายความอบอุ่นดีใจยามแม่อยู่ใกล้ๆ
ผู้หญิงทำหน้าที่แม่ในอนาคตด้วยการเป็นภรรยา เธอสละเสรีภาพในการใช้ชีวิตของพวกเธอด้วยการมาอยู่กับเรา (โดยใช้เสรีภาพของเราแทน) เธอดูแลเราราวเราชื่นชอบพอใจ ที่จะได้ทำตัวเป็นเด็กอีกครั้ง ออดอ้อนขอความรักและการดูแลเอาใจใส่
หากเพศหญิงเกิดมาเพื่อดูแลใคร..ก็คงต้องเป็นผู้ชายสักคน
บ่อยครั้งที่เราเงียบ ไม่พูดในสิ่งที่เราอยากพูดออกมา การยินยอมทำตามความต้องการของเธอ เพื่อความสุขของเธอ เป็นหนึ่งในสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดเพื่อเธอ
ผมไม่มีปัญหากับการเป็นคนกลัวเมีย กลับกันผมไม่เห็นประโยชน์มากมายในการเอาแต่ใจของเราแล้วทำให้พวกเธอไม่มีความสุข ผมไม่สนับสนุนให้เรายอมเธอทุกเรื่อง เพราะสมดุลของชีวิตคู่มันอยู่ไม่ได้ แต่ผมว่าการยอมเป็นส่วนใหญ่ก็ไม่เลว ในการถกเถียง หากเธอรักและเคารพเรา ผมใคร่จะขอแนะนำว่า เราควรเป็นฝ่ายยอม
เจ็บอย่างไหน เราจะทนได้มากกว่ากัน..
ระหว่างเจ็บที่เธอทิ้งพวกเรา หรืออยู่กับเราโดยไม่มีความสุข..
บางครั้งผู้ชายอย่างเราๆยอมเดินตามหลัง ไม่ใช่เพราะชอบมองก้นของพวกเธอ
แต่เพราะเรารู้ว่า เมื่อใดที่เธอล้ม..เราจะประคองได้ทันท่วงที...
ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม............มีแต่เสียง 5/11/2015
***สวัสดีครับเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***
กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม......แต่มีเสียง..........
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
วันนี้ในฐานะที่ผมได้รับเกียรติ ถูกรับเชิญให้มาเป็น MC เฉพาะกิจในห้องเพลงแห่งนี้ครั้งแรก จึงขอลองเขียนบทความตามสไตล์ไอ้พระรองที่ท่านรู้จักกันดี เกาะกระแสชาวบ้านเรียกกันว่าการเขียน How to ลองยกเหตุผลมาสักสามสี่ข้อ ในเหตุผลที่ทำให้ผู้ชายกลัวเมีย
ผมนึกอยู่ว่าจะหาอะไรมาเป็นเนื้อหาหัวกะทู้ คิดอยู่นานจึงตัดสินใจไปหยิบเอาโปรเจคเก่าของผมที่ล้มพับไปแล้ว กลับขึ้นมาเขียนใหม่ เพราะอยากแบ่งปันเรื่องราวดีๆให้กับมวลมิตรที่มีไมตรี ดีกว่าจะถูกนายทุนหยิบเอาไปขายแล้วเปลี่ยนแปลงเนื้อหาบางส่วนเพราะหวังที่จะทำกำไรให้มากขึ้น โดยไม่ใส่ใจสิ่งที่ผู้เขียนต้องการสื่อ (นายทุนต้องการให้เปลี่ยนสถานะจากผัวเมียเป็นแค่แฟนและเพิ่มมุขตลกมากขึ้นและตัดทอนเนื้อหาเกี่ยวกับความรักในครอบครัวออก เพราะหวังขายในตลาดวัยรุ่น ซึ่งผมไม่ยินดีที่จะทำแบบนั้น จึงต้องพับเลิกกันไป)
แต่เนื่องจากเป็นคนที่เขียนอะไรสั้นๆไม่เป็นทั้งๆที่หยิบมาแค่ส่วนเล็กๆบทหนึ่งของโปรเจคก็ตาม แต่ก็ยังยาวอยู่ดี
ผมจึงขออนุญาตครอบspoilไว้ เพื่อมิให้รบกวนพื้นที่ของเพื่อนๆนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แปะเพลงหัวทู้ครับ
คู่ชีวิต : ป้าง นครินทร์
ห้องเพลงคนรากหญ้า