#ลางานเทียว :เที่ยวนครศรีธรรมราช กระบี่ ภูเก็ต ระนอง แบบบ้านๆ

สวัสดีเพื่อนๆห้อง Blue Plannet ทุกคน วันนี้ฤกษ์งานยามดีบวกกับอารมณ์ดี๊ดี(เหมือนน้าตา)ได้รวบรวมความขยันทั้งหมดมาเขียนกระทู้นี้ เพื่อแชร์เรื่องเรื่องราวท่องเที่ยวแบบบ้านๆหนุกหนานให้ได้อ่านกัน ต้องบอกก่อนว่าทริปนี้ผ่านมาโครตนานแล้ว ตั้งแต่ต้นปี 2015  โดยผมและเพือนอีกรวม 4 คน คิดทริปล่องลอย ล่องใต้ช่วงปีใหม่ แล้วก็ได้มาเป็นกระทู้นี้

วันแรก
ทริปนี้ออกเดินทางจากกรุงเทพฯช่วงค่ำๆ โดยขับรถไปกันเองจุดหมายปลายทางแรกอยู่ที่นครศรีธรรมราช ใช้เวลาประมาณ 11 ชม. เราแวะกินข้าวเช้ากันที่ทุ่งสง หลังจากท้องอิ่มเราก็รีบบึงไปไหว้พระพรมหาธาตุคู่เมืองนครศรีธรรมราชกันก่อน วัดนี้ผมมีโอกาศมาแล้วหลายครั้งแล้วทุกครั้งก็จะได้พระกลับไปทุกที และแน่นอนถ้ามาแถวนี้ก็ไม่ควรพลาดโอกาศไปกินขนมจีนเส้นสดร้านดังของเมืองนครศรีฯชือว่า "ร้านขนมจีนเมืองคอน" หรือคนแถวนั้นเรียกขนมจีนพานยม อยู่ซอยเยื้องๆกับวัดมหาธาตุเลย




ไหว้พระเสร็จเรามุ่งหน้ากันไปยังจุดหมายที่ 2 คือกระบี่และ"สระมรกต" คือสถานที่แรกที่แรกที่จะไปเยือน คำแนะนำสำหรับการมาสระมรกตคือต้องมาตั้งแต่เช้าๆ เราจะได้เห็นสระที่ยังไม่ขุ่นและคนน้อยเหมาะกับการเล่นน้ำชิวๆ เพราะว่าถ้ามาสายๆหรือบ่ายรับรองเจอคลื่นมนุษย์เพียบ ฮ่าๆๆ



หลังจากที่เรามาชื่นชมสระมรกตกันแล้วก็ออกเดินทางมาในเมืองกระบี่เพื่อ check-in เข้าที่พัก ผมและเพื่อนจอง Guest House เล็กๆชื่อว่า Orange Tree House ห้องพักก็เหมาะสมกับราคา พนักงานก็แนะนำที่เที่ยวที่ hangout ให้อย่างดี ที่ดีกว่านั้นข้างหน้าโรงแรมคือถนนคนเดินกระบี่


ถ้ายิ่งเป็นคอเบียร์นี่ไม่ต้องไปไหนไกลเลย เพราะมีลานเบียร์ อาหารและโต๊ะให้เลือกนนั่งกันตามใจ(แต่ต้องใช้ความเร็วนิดนึงเพราะคนเยอะ) กินเสร็จเมาแค่ไหนก็เดินกลับห้องนอนได้อย่างสบายใจ ซึ่งผมกับเพื่อนมีหรือจะพลาด งานนี้ยาวๆไป

อ่อ นอกจากของกินแล้วก็ยังมีการแสดงศิลปะของเด็กๆเพือหาเงินดพื่อการศึกษาและงานอาร์ทอื่นๆอีกหลายอย่างด้วย




วันที่สอง
ก่อนออกจากกระบี่เราก็ไม่พลาดไปชม Landmark ของกระบี่สักหน่อย นั่นก็คือปูดำนั่นเอง วันนี้คนมาเลย์เข้ามาเที่ยวเยอะมากๆเลยไม่ได้เข้าไปถ่าย อ่อจากตรงนี้เรายังมองเห็นเขาขนาบน้ำได้ด้วย


ไหลไปต่อกับสถานที่ๆ 3 นั่นคือไข่มุกแห่งอันดามัน "ภูเก็ต" เราขับรถกันไปเรื่อยๆระหว่างทางก็ช่วยกันหาว่ามมีที่ไหนน่าแวะ แล้วก็ได้มาสะดุดกับสถานที่หนึ่งคือ ท่าปอมคลองสองน้ำ ซึ่งอยู่ระหว่างทางจากกระบี่ไปภูเก็ตบ่อยครั้งเวลาที่เราไปเที่ยวแบบไม่ได้ตั้งใจ มันมักจะเจออะไรที่เกินความคาดหมาย เหมือนกับครั้งนี้ ผมว่ามันเป็นสถานที่ที่สวยและยังคงสมบูรณ์มากๆ ธารน้ำใสสีครามไหลผ่านรากไม้เห็นแล้วน่ากระโดดลงเล่น แต่ว่าเขาไม่อนุญาติให้เล่นน้ำในบริเวณนั้น ซึงหากจะเล่นน้ำก็จะมีส่วนที่อนุญาติอยู่ท้ายทางเดิน




มาถึงที่ภูเก็ตผมกับเพื่อนพักที่ Ai Phuket Hostel ผมเคยมาพักที่นี่ก่อนหน้านี้และประทับใจมาก ห้องพักสะอาด ตกแต่งได้เท่ดี สามารถเดินเล่นหลาดใหญ่(คนนคนเดิน)ได้สบายๆเพราะอยู่ใกล้กัน ที่สำคัญน้องแม๊กซ์หุ้นส่วนร้านอัธยาศัยดีมาก (เคยพาผมไปเลี้ยงข้าวมื้อดึกด้วยตอนมาครั้งก่อน) อ่อเพิ่มรายละเอียดอีกนิด ที่นี่จะมีห้องพัก 2 แบบ คือแบบ Dom ห้องน้ำรวม และแบบ Private ห้องน้ำในตัว ก็เลือกกันเอาตามที่สะดวก


โชคดีมาตรงกับวันที่มีถนนคนเดินหรือหลาดใหญ่ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับที่พัก ตลาดนนี้ของกินของที่ระลึกเพียบ มีให้เลือกกินหลากหลายมากๆ

ส่วนสำหรับนักดื่ม ตรงเยื้องๆกับ Ai Phuket Hostel มีร้านนั่งดื่ม นั่งฟังเพลงอยู่ร้านนึงที่ผมชอบมานั่งอีกเหมือนกัน ชื่อร้านเสน่ห์หา ตัวร้านซ่อนอยู่ในตึกไสตล์ชิโนโปรตุกิส อาหารไม่รู้อร่อยไหมเพราะไม่ได้สั่ง 555 แต่ผมได้เบียร์มาลองกินฟรี 2 ขวด จากพี่คนหนึ่งไม่รู้ว่าเป็นเจ้าของหรือว่าเป็นคนดูแลร้าน ต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ ด้วยครับ อิอิ


วันที่สาม
ถ้าอ่านมาถึงตรองนี้น่าจะเดาได้ว่าผมเป็นสายดื่ม เวลามาภูเก็ตผมชอบไปนั่งเล่น กินเบียร์ที่ริมหาดในหาน ไม่รุเหมือนกันว่ามีที่อื่นที่สวยกว่านี้ไหมในภูเก็ต รู้แต่ว่ามาทีไรก็ต้องเป็นหาดนี้  คราวนี้ก็เหมือนกันผมและเพือนก็มานั่งชทมะเล เล่นน้ำกันที่หาดนี้


ส่วนเย็นๆตอนเย็นก็ต้องไม่พลาด highligh ของภูเก็ตนั่นก็คือแหลมพรหมเทพนั่นเอง บรรยากาศที่นี่สวยงามและชิวเวอร์



ถ้ามาภูเก็ตแล้วไม่ได้สำรวจภูเก็ตยามค่ำคืนมันก็เหมือนจะขาดๆอะไรไป แน่นอนครับผมเลือกมาที่หาดป่าตอง ที่นี่อารมณืคล้ายๆ walking street ที่พัทยากลายๆ แต่ผมรู้สึกว่าดูอลังการกว่ามากๆ ได้เบียร์คนละขวดกับเพือนเดินเบ่นกันไปเรื่อยๆมันเพลินดีแท้ มีสินค้ามาจากหลายชาติให้ได้เลือกเลยทีเดียว อิอิ



วันที่สี่
วันนี้ผมและเพือนๆออกจากภูเก็ตกันตั้งแต่เช้ามืดเพื่อจะไปให้ทันเรือ โดยจุดหมายของเราในสันนี้คือหมู่เกาะสุรินทร์ เราถึงท่าเรือที่คุระบุรี จังหวัดพังงา แต่ก็ต้องมานั่งปรึกษากันอีกรอบเพราะทะเลดูคลื่นแรง และด้วยเมียเพือนกำลังท้องอ่อนๆกลัวว่าจะมีปัญหากับแม่และลูก สุดท้ายพวกเราตัดสินใจจะไม่ลงเรือและไปขอเงินค่าเรือกับทางเอเย่น คือซาบีน่าทัวร์ คืน ซึ่งโชคดีมากๆที่ทางซาบีน่าทัวร์ใจดีคืนเงินให้ทั้งหมด
หลังจากยกเลิกโปรแกรมหมู่เกาะสุรินทร์ ผมก็เลยชวนเพื่อนๆขับรถไประนอง เหตุที่เลือกระนองเพราะว่ามีพี่ที่รู้จักกันแกพาเมียกับลูกมาเยี่ยมบ้านปีใหม่ เราถึงระนองกันประมาณบ่ายๆเลยก็เลยชวนกันไปพระราชวังรัตนรังสรรค์และน้ำพุร้อนแต่ว่าไม่ได้ลงเล่นเพราะว่าไม่ชอบ 555  คืนแรกที่ระนองเป็นอะไรที่เงียบมากๆ ผมกับเพือนพยายามขับรถหาร้านเหล้าแต่ก็ไม่เจอ สุดท้ายก็ซื้อเบียร์ไปนั่งกินที่โรงแรม T^T
พระราชวังรัตนรังสรรค์



วันที่ห้า
ตอนเช้าเราก็ออกไปหาติ่มซำกันที่ร้านใกล้ๆกับท่าเรือไปเกาะพยามชื่อร้านโอชา ติ่มซำร้านนี้เด็ดพอสมควร คนเยอะมากเราก็สั่งกันมาแบบพอประมาณ (ดูได้จากรูป) เพื่อนมันมัวแต่ถ่ายรูปกัน ส่วนผมก้มยัดอย่างเดียว 555


อิ่มหนำกับกับติ่มซำแแล้วเราก็บึ่งรถไปบ้านเมียพี่ที่รู้จักกัน แกชวนทำปิ้งย่างกันชิวๆที่บ้านตอนเย็น ไปถึงบ้านแกประมาณบ่ายๆ ถึงปุ๊บแกก็พาะพาไปงมหอยที่ป่าชายเลนข้างๆบ้านบอกเลยว่าวันนี้เป็นวันที่สนุกที่สุดของทริปนี้เลย มีทั้งเดินขุดหาหอยตลับ เล่นน้ำ ลุยโคลนแล้วก็นั่งเรือหางยาว ฟินสุดๆ


กลับมาจากหาหอยก็แดดร่มพอดี ได้เวลาสนุกสนานกับการกินอาหารทะเลที่หามากันแล้ว (ที่หามาเองคือหอยตลับกับหอยแครง ที่เหลือเจ้าบ้านซื้อมาต้อนรับ 5555)


แล้วแล้วก็จบทริปกันด้วยสภาพที่เห็น


ปล. รูปที่เอามาลงส่วนใหญ่จากมือถือ อาจไม่สวยเท่าไหร่ ยังไงก็หวังว่าจะเป็นแนวทางให้กับเพื่อนๆที่กำลังคิดเที่ยวบ้างก็เท่านั้น
ปล2. เจ้าไข่เจียวลูกของพี่เขา เล่นกับลิงที่เลี้ยงไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่