สวัสดีพี่ๆชาวพันทิพย์ทุกคน จขกท.อายุย่าง 19 ปี จะมาปรึกษาปนเล่าเรื่องการทำงานไปเรียนไปให้ฟัง
ตอนนี้ผมไม่ได้เรียนมหาลัย เรียนปวส.รอบพิเศษ(วันอาทิตย์) แล้ววันที่เหลือทำงานเอา เนื่องจากอยากได้ประสบการณ์ แล้วอยากหาเงิน
ใช้ไปซื้อของที่อยากได้โดยไม่ต้องแบขอพ่อแม่ บางเดือนเงินเหลือก็พาไปกินข้าวข้างนอกกัน ที่บ้านก็ฐานะค่อนดี แต่พ่อกับแม่ผมเขาลำบากมากๆกันมาก่อน
เขาเลยสอนให้ลูกทั้งสามเป็นพวกติดดินปากกัดทีนถีบ ไม่สปอยลูก อยากได้อะไรเก็บเงินเอาเองนะจ๊ะ
ผมเรียนจบบัญชีมา(ปวช.) งานแรกที่ได้ก็คือสำนักงานบัญชีเล็กๆ แถวปากเกร็ด มาทำกับเพื่อนครับเพราะตอนแรกบอกงานสบายๆ เงินก็ 350/วัน
เรื่องเงินผมไม่ค่อยเอามาเป็นประเด็ดเท่าไรนะ ขอให้มีงานได้ทำ เงินคุ้มกับที่ทำก็พอ เพราะเรามีวุฒิแค่ปวช.คงเรียกร้องหมื่นขึ้นก็ไม่ใช่
งานตอนแรกก็นึกว่าทำแค่ คีย์งานพวกใบกำกับภาษี จัดทำงบเดือน ลงใน express ตอนแรกโอครับ อยู่แบบครอบครัว สนุกดี แต่อยู่ไปสักพัก
ก็เกิดปัญหาที่รุ่นพี่ที่ทำงานเขาชอบเล่ากันมาให้ฟังก็เกิดขึ้น คงไม่ต้องเดานะครับ เรื่องนายจ้างนี่แหละครับ แกเป็นหญิงจีนอายุ 60 ปี ดูใจดีมาก
แกบอกพวกผมว่าถ้าผ่านงาน 4 เดือน แกจะเพิ่มเงินให้ 4เดือนแรกที่ผ่านมาผมตั้งใจทำ โดนสั่งไรมาทำหมด แต่พอครบสี่เดือนแกเรียกคุยทีละคน
สรุปก็ไม่ขึ้นครับ บอกพวกผมยังไม่ดีพอ คือไม่ดีพอสำหรับแกเนี่ยคือต้องทำทุกอย่างครับ ทำความสะอาด ไปส่งรับเอกสารเป็นลังๆเอง แกเยอะมากครับ
แกเป็นพวกอีโก้สูงมาก แกถูกเสมอ แล้วแกเป็นคนขี้ลืม สั่งอะไรมาพอทำให้แกบอกไม่ได้สั่ง โดนแบบนี้จนชิน แต่ที่รับไม่ได้คือ แกเป็นคนชอบกดคน
ให้ต่ำกว่าแก ชอบ-ดัน ชอบมองเหยียด ชอบนินทา เอาลูกจ้างไปว่าเสียๆหายๆกับลูกค้า แต่แกย้ำเสมอว่าประมาณว่าแกเนี่ยผู้ดี ถูกสอนมาดีมาก
ผมยอมรับว่าแกเก่งในเรื่องบัญชี แต่เรื่องการเข้าสังคม ดูแลคนนี่ง่อยมาก แกชอบเรียกคุยกรือประชุมเกือบทุกวัน วันละ1-3 ชั่วโมง แล้วพองานไม่เสร็จ
แกดันถามว่าเอาเวลาไปทำไรกัน ผมกับเพื่อนนี่เงียบ จนเพื่อนๆพี่ๆทยอยกันออกเพราะไม่ไหวกับแก
แกก็โบ้ยครับว่าที่ออกกันเนี่ย มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานกันเอง ซึ่งพวกผมพี่สนิทกันดี แล้วยังมาใช้ประโยคสุดฮิตว่า เด็กสมัยนี้ไม่ทน
ผมขอเป็นตัวแทนเด็กรุ่นใหม่เลยนะครับ ไอ้การที่ต้องมาทนให้เขาข่ม มาใช้งานโอเวอร์โหลด โดนด่าว่า-ทุกวัน วัยไกนก็ไม่ทนละครับ ผมนี่ทนมา 7 เดือน
กว่าจะออกมาได้ เรื่องราวแกเยอะกว่านี้ครับ55555 ตอนนี้ผมว่างงานอยู่ เพิ่งมารู้ว่าพอว่างงานหางานไม่ได้นี่เครียดนะครับ คือกดดัน ไม่อยากให้พ่อแม่
มองเราว่าไม่เอาไหน ญาติที่ขอเข้ามาอาศัยอยู่อีกบ้านหลังนึงของแม่ก็คอยจับผิด นี่ผมก็มาการไฟฟ้าเห็นในเว็บบอกธุรการว่างหลายอัตรา พอมาถึงติดต่อฝ่ายที่เกี่ยวข้องเขาบอกว่าเต็ม ผมก็งงสิครับ ประจวบเหมาะแม่โทรมาถามพอดี แม่ผมเขาก็ถามว่าเป็นไงลูก สมัครรึยัง แกก็ไกด์ไลน์การสัมภาษณ์งานให้
พร้อมอวยพรเสร็จสรรพ ความรู้สึกตอนนี้คือจุกที่คอ ไม่อยากบอกเขาว่าลูกมาเก้อนะ โกหกเขาไปว่ากำลังทำเรื่องสมัครอยู่ พอแกบอกเดี๋ยวแม่รอฟังที่บ้านนะ
น้ำตาแทบเล็ด ผมรีบครับๆแล้ววางสายเลย รู้สึกไม่ดีมากๆ ผมรู้สึกไม่ได้เรื่อง เป็นลูกที่ไม่ได้อะไรเลย เกิดมาเป็นเกย์ เป็นไบโพลาห์ (ไปหาหมอเพื่อรับยากินทุกเดือน) แล้วยังมาตกงานอีก เรื่องเป็นเกย์ครอบครัวรู้นะครับ รับได้หมด แต่บางทีเราก็คิดว่าลึกๆพ่อแม่ยายเจาจะคิดไง ส่วนไบโพล่ห์นี่แม่ก็พาไปรักษาเอง
แม่บอกป๊ากับแม่ไม่เคยอาย ยิ่งพูดแบบนี้ผมยิ่งรู้สึกผิดไงไม่รู้ บางทีผมเห็นเด็กมหาลัยบ่นว่าเรียนยาก ชีวิตอยู่ยากในรั้วทหาลัย บางคนจะซิ่วก็ซิ่วง่ายเกิน ผมอยากให้ลองมาทำงานดูนะ จะได้หยุดพูดเหมือนมหาลัยคือที่สุด5555 ขอบ่นนอกเรื่องนิดนึงหลังจากเครียดมานาน
เพื่อนๆพี่ๆคนไหนมีเรื่องราวการทำงานตอนเป็นวัยรุ่นแล้วเรียนไปด้วย หรือพี่ๆที่ทำงานแล้วมาแบ่งปันประสบการณ์กันได้นะครับ เผื่อผมจะเอาไว้เป็นไกด์ไลน์ให้ตัวเองได้บ้าง ขอบคุณครับ ยิ้ม
เคยมั้ยเครียดเรื่องหางาน กว่าเรื่องเรียน?
ตอนนี้ผมไม่ได้เรียนมหาลัย เรียนปวส.รอบพิเศษ(วันอาทิตย์) แล้ววันที่เหลือทำงานเอา เนื่องจากอยากได้ประสบการณ์ แล้วอยากหาเงิน
ใช้ไปซื้อของที่อยากได้โดยไม่ต้องแบขอพ่อแม่ บางเดือนเงินเหลือก็พาไปกินข้าวข้างนอกกัน ที่บ้านก็ฐานะค่อนดี แต่พ่อกับแม่ผมเขาลำบากมากๆกันมาก่อน
เขาเลยสอนให้ลูกทั้งสามเป็นพวกติดดินปากกัดทีนถีบ ไม่สปอยลูก อยากได้อะไรเก็บเงินเอาเองนะจ๊ะ
ผมเรียนจบบัญชีมา(ปวช.) งานแรกที่ได้ก็คือสำนักงานบัญชีเล็กๆ แถวปากเกร็ด มาทำกับเพื่อนครับเพราะตอนแรกบอกงานสบายๆ เงินก็ 350/วัน
เรื่องเงินผมไม่ค่อยเอามาเป็นประเด็ดเท่าไรนะ ขอให้มีงานได้ทำ เงินคุ้มกับที่ทำก็พอ เพราะเรามีวุฒิแค่ปวช.คงเรียกร้องหมื่นขึ้นก็ไม่ใช่
งานตอนแรกก็นึกว่าทำแค่ คีย์งานพวกใบกำกับภาษี จัดทำงบเดือน ลงใน express ตอนแรกโอครับ อยู่แบบครอบครัว สนุกดี แต่อยู่ไปสักพัก
ก็เกิดปัญหาที่รุ่นพี่ที่ทำงานเขาชอบเล่ากันมาให้ฟังก็เกิดขึ้น คงไม่ต้องเดานะครับ เรื่องนายจ้างนี่แหละครับ แกเป็นหญิงจีนอายุ 60 ปี ดูใจดีมาก
แกบอกพวกผมว่าถ้าผ่านงาน 4 เดือน แกจะเพิ่มเงินให้ 4เดือนแรกที่ผ่านมาผมตั้งใจทำ โดนสั่งไรมาทำหมด แต่พอครบสี่เดือนแกเรียกคุยทีละคน
สรุปก็ไม่ขึ้นครับ บอกพวกผมยังไม่ดีพอ คือไม่ดีพอสำหรับแกเนี่ยคือต้องทำทุกอย่างครับ ทำความสะอาด ไปส่งรับเอกสารเป็นลังๆเอง แกเยอะมากครับ
แกเป็นพวกอีโก้สูงมาก แกถูกเสมอ แล้วแกเป็นคนขี้ลืม สั่งอะไรมาพอทำให้แกบอกไม่ได้สั่ง โดนแบบนี้จนชิน แต่ที่รับไม่ได้คือ แกเป็นคนชอบกดคน
ให้ต่ำกว่าแก ชอบ-ดัน ชอบมองเหยียด ชอบนินทา เอาลูกจ้างไปว่าเสียๆหายๆกับลูกค้า แต่แกย้ำเสมอว่าประมาณว่าแกเนี่ยผู้ดี ถูกสอนมาดีมาก
ผมยอมรับว่าแกเก่งในเรื่องบัญชี แต่เรื่องการเข้าสังคม ดูแลคนนี่ง่อยมาก แกชอบเรียกคุยกรือประชุมเกือบทุกวัน วันละ1-3 ชั่วโมง แล้วพองานไม่เสร็จ
แกดันถามว่าเอาเวลาไปทำไรกัน ผมกับเพื่อนนี่เงียบ จนเพื่อนๆพี่ๆทยอยกันออกเพราะไม่ไหวกับแก
แกก็โบ้ยครับว่าที่ออกกันเนี่ย มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานกันเอง ซึ่งพวกผมพี่สนิทกันดี แล้วยังมาใช้ประโยคสุดฮิตว่า เด็กสมัยนี้ไม่ทน
ผมขอเป็นตัวแทนเด็กรุ่นใหม่เลยนะครับ ไอ้การที่ต้องมาทนให้เขาข่ม มาใช้งานโอเวอร์โหลด โดนด่าว่า-ทุกวัน วัยไกนก็ไม่ทนละครับ ผมนี่ทนมา 7 เดือน
กว่าจะออกมาได้ เรื่องราวแกเยอะกว่านี้ครับ55555 ตอนนี้ผมว่างงานอยู่ เพิ่งมารู้ว่าพอว่างงานหางานไม่ได้นี่เครียดนะครับ คือกดดัน ไม่อยากให้พ่อแม่
มองเราว่าไม่เอาไหน ญาติที่ขอเข้ามาอาศัยอยู่อีกบ้านหลังนึงของแม่ก็คอยจับผิด นี่ผมก็มาการไฟฟ้าเห็นในเว็บบอกธุรการว่างหลายอัตรา พอมาถึงติดต่อฝ่ายที่เกี่ยวข้องเขาบอกว่าเต็ม ผมก็งงสิครับ ประจวบเหมาะแม่โทรมาถามพอดี แม่ผมเขาก็ถามว่าเป็นไงลูก สมัครรึยัง แกก็ไกด์ไลน์การสัมภาษณ์งานให้
พร้อมอวยพรเสร็จสรรพ ความรู้สึกตอนนี้คือจุกที่คอ ไม่อยากบอกเขาว่าลูกมาเก้อนะ โกหกเขาไปว่ากำลังทำเรื่องสมัครอยู่ พอแกบอกเดี๋ยวแม่รอฟังที่บ้านนะ
น้ำตาแทบเล็ด ผมรีบครับๆแล้ววางสายเลย รู้สึกไม่ดีมากๆ ผมรู้สึกไม่ได้เรื่อง เป็นลูกที่ไม่ได้อะไรเลย เกิดมาเป็นเกย์ เป็นไบโพลาห์ (ไปหาหมอเพื่อรับยากินทุกเดือน) แล้วยังมาตกงานอีก เรื่องเป็นเกย์ครอบครัวรู้นะครับ รับได้หมด แต่บางทีเราก็คิดว่าลึกๆพ่อแม่ยายเจาจะคิดไง ส่วนไบโพล่ห์นี่แม่ก็พาไปรักษาเอง
แม่บอกป๊ากับแม่ไม่เคยอาย ยิ่งพูดแบบนี้ผมยิ่งรู้สึกผิดไงไม่รู้ บางทีผมเห็นเด็กมหาลัยบ่นว่าเรียนยาก ชีวิตอยู่ยากในรั้วทหาลัย บางคนจะซิ่วก็ซิ่วง่ายเกิน ผมอยากให้ลองมาทำงานดูนะ จะได้หยุดพูดเหมือนมหาลัยคือที่สุด5555 ขอบ่นนอกเรื่องนิดนึงหลังจากเครียดมานาน
เพื่อนๆพี่ๆคนไหนมีเรื่องราวการทำงานตอนเป็นวัยรุ่นแล้วเรียนไปด้วย หรือพี่ๆที่ทำงานแล้วมาแบ่งปันประสบการณ์กันได้นะครับ เผื่อผมจะเอาไว้เป็นไกด์ไลน์ให้ตัวเองได้บ้าง ขอบคุณครับ ยิ้ม