หลังจากที่เราออกเดินทางจากสนามดอนเมือง โดยสายการบินนกแอร์ เพียง 1 ชั่วโมง เราก็มาถึงสนามบินจังหวัดอุบลราชธานี เราติดต่อรถบัสปรับอากาศ 2 ชั้น ให้มารับเพื่อออกเดินทางไปที่ด่านช่องเม็ก
ระหว่างนั้นเราเเวะทานอาหารเช้าเป็น เมนูไข่กระทะ เเละออกเดินทางมุ่งหน้า
สู่ด่านช่องเม็ก เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ประมาณสิบโมงเราก็ข้ามด่านเป็นที่เรียบร้อย
จากนั้นเราใช้เวลาจากด่านช่องเม็กอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง ก็ถึงปากเซจนได้ เรานั่งรถเที่ยว
ชมเมืองปากเซพร้อมเรียนรู้ภาษาลาวคร่าวๆ จากไกด์สาวชาวลาว เเล้วไปเเวะทานอาหารกลางวันที่ร้านส้มตำ
(เริ่มทริปนี้เหมือนเพิ่งทานข้าวไปไม่ย่อยเลยค่ะกินตลอดเลย)

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันกันอย่างเต็มที่แล้ว เราก็เดินทางเข้าโรงแรมจำปาสักแกรนด์
เพื่อเก็บสัมภาระเรา จากนั้นไม่นานพวกเราก็พร้อมที่จะออกเดินทางสู่
พิพิธภัณฑ์มรดกประวัติศาสตร์จำปาสัก
พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุของเมืองจำปาสักตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์
เช่น กลองมโหระทึกสำริด, ทับหลังหินทราย รวมทั้งนิทรรศการแสดงความเป็นมาของการสร้างชาติลาว

วิทยากรบรรยายสนุกสนาน ยกตัวอย่างเหตุการณ์สำคัญต่างๆมาพูด บอกเลยว่าสนุกไม่เครียดเลยค่ะ
ทุกเรื่องเป็นจุดเริ่มต้นที่เราควรรู้เเละควรศึกษาทั้งนั้น

เสร็จแล้วเราเดินทางต่อไปพักทานกาแฟ ที่ ร้านกาแฟบอละเวน ร้านนี้ไม่ใหญ่มาก กาเเฟรสชาดดี
มีของที่ระลึกจำหน่ายในราคาไม่เเพง
[CR] ปากเซ สบายดี
ด้านวัฒนธรรมในหัวใจ
เป็นเมืองพี่เมืองน้องกับไทยมาแต่โบราณ เราก็จะค่อนข้างคุ้นเคยกับภาษาที่ใกล้เคียงกับ
ภาษาอีสานอยู่เป็นทุน จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจภาษาได้ง่าย เราจะขอยกบางคำน่ารักๆ
ที่ได้มาจากทริปนี้นะคะ
ไฟเขียว = ไฟอิสระ /ไฟแดง = ไฟอำนาจ / ถ่ายรูป = แหกตาสามัคคี / ผ้าอนามัย = ผ้ายันต์กันโลหิต / ถุงยางอนามัย = ถุงปลิดชีวิต / รถไฟ = ห้องแถวไหล
จะว่าไปแล้วก็ไม่คิดว่าจะได้มาที่นี่ ต้องขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดี ทริปนี้จะเเอบไปตามรอยหนัง2 เรื่องที่ชอบอยู่เเล้ว นั้นคือเรื่องของ ศักดิ์ชาย ดีนาน ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง
“สบายดีหลวงพระบาง” และ “สบายดี 2 ไม่มีคำตอบจากปากเซ” ภาพยนตร์การท่องเที่ยว
ประเทศลาว ที่มีมุมกล้องง่ายๆ ถ่ายกันง่ายๆ นักแสดงเล่นกันง่ายๆ สบายๆ เหมือนชื่อ และภาพ
ก็สวยแบบเรียบง่ายไม่เหมือนใคร หากใครต้องการสาระจากหนังสองเรื่องนี้คงต้องผิดหวัง
แต่สำหรับเราเเล้วมันทำให้รู้สึกอยากไปเที่ยวลาวสักครั้งนะคะ จากเหตุผลที่เล่ามาดีใจที่ได้ร่วมเดินทางในทริปนี้
ทัวร์นี้จัดโดย ศุนย์อาชีพเเละธุรกิจมติชน ชื่อทริป ทัวร์ แหล่งพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์
“ผาแต้ม” และประวัติศาสตร์เจินละ จ.อุบลราชธานี-ลาวใต้ เดินทางระหว่าง
วันที่ 16-18 ตุลาคม 2558 มีวิทยากรบรรยายที่น่าตาดี คือ : อ.ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ
ราคาอย่างที่บอก ไม่เเพงเเค่ 19,000 บาท
วันศุกร์ ที่ 16 ตุลาคม 2558
ระหว่างนั้นเราเเวะทานอาหารเช้าเป็น เมนูไข่กระทะ เเละออกเดินทางมุ่งหน้า
สู่ด่านช่องเม็ก เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ประมาณสิบโมงเราก็ข้ามด่านเป็นที่เรียบร้อย
จากนั้นเราใช้เวลาจากด่านช่องเม็กอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง ก็ถึงปากเซจนได้ เรานั่งรถเที่ยว
ชมเมืองปากเซพร้อมเรียนรู้ภาษาลาวคร่าวๆ จากไกด์สาวชาวลาว เเล้วไปเเวะทานอาหารกลางวันที่ร้านส้มตำ
(เริ่มทริปนี้เหมือนเพิ่งทานข้าวไปไม่ย่อยเลยค่ะกินตลอดเลย)
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันกันอย่างเต็มที่แล้ว เราก็เดินทางเข้าโรงแรมจำปาสักแกรนด์
เพื่อเก็บสัมภาระเรา จากนั้นไม่นานพวกเราก็พร้อมที่จะออกเดินทางสู่
พิพิธภัณฑ์มรดกประวัติศาสตร์จำปาสัก
พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุของเมืองจำปาสักตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์
เช่น กลองมโหระทึกสำริด, ทับหลังหินทราย รวมทั้งนิทรรศการแสดงความเป็นมาของการสร้างชาติลาว
วิทยากรบรรยายสนุกสนาน ยกตัวอย่างเหตุการณ์สำคัญต่างๆมาพูด บอกเลยว่าสนุกไม่เครียดเลยค่ะ
ทุกเรื่องเป็นจุดเริ่มต้นที่เราควรรู้เเละควรศึกษาทั้งนั้น
เสร็จแล้วเราเดินทางต่อไปพักทานกาแฟ ที่ ร้านกาแฟบอละเวน ร้านนี้ไม่ใหญ่มาก กาเเฟรสชาดดี
มีของที่ระลึกจำหน่ายในราคาไม่เเพง
เช่น วังเจ้าบุญอุ้ม, สะพานข้ามแม่น้ำเซโดน พร้อมเข้าชม วัดหลวง วัดเก่าแก่ประจำเมืองปากเซ
เป็นที่เก็บอัฐิของเชื่อพระวงศ์จำปาสักหลายพระองค์
ด้านในยังมีอาคารที่มีสถาปัตยกรรมซึ่งได้รับอิทธิพลจากอาณานิคมฝรั่งเศส
ซึ่งหาชมได้ยากมาก บอกเลยว่าเก่าเเก่ที่สุด เเละยังสมบูรณ์ที่สุด หาดูที่ไหนไม่ได้อีกเเล้วค่ะ
จุดนี้ถ่ายจากชั้นบนสุดของ วังเจ้าบุญอุ้ม
ภาพจากด้านหน้า วังเจ้าบุญอุ้ม ปัจจุบันกลายเป็นโรงแรมค่ะ
ถ่ายภาพที่วัดหลวงไม่ต่ำกว่า20ภาพได้ค่ะ
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จเเล้วเราก็กลับไปที่พักเเยกย้ายกันพักผ่อน สถานที่เที่ยวยามค่ำคืนของที่นี่
สิ้นสุดเเค่เวลา เที่ยงคืนเท่านั้นนะคะ เพราะไม่เช่นนั้น เราอาจจะต้องไปนอนในคุกขี้ได่ก็เป็นได้
ความรู้สึกของวันนี้เหมือนกินเยอะเเละกินบ่อย อาหารไม่ย่อยเลยล่ะค่ะ
เเค่รู้สึกง่วง ก็เท่านั้นเองค่ะ ค่ำคืนนี้นอนพักให้สบายตัว
เก็บเเรงไว้ตะลุยโลกอันกว้างใหญ่ ของเมืองปากเซ ในวันรุ่งขึ้นวันใหม่ดีกว่า
วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม 2558
รุ่งอรุณของเช้าวันใหม่ ย่อมสดใสเเละตื่นเต้นเสมอ ตื่นนอนเเต่เช้ามาสูดอากาศบริสุทธิ์
ของที่นี่ให้เต็มปอด วันนี้ทานอาหารเช้าที่โรงเเรม เเละออกเดินทางไปตามเส้นทางหมายเลข 13 สายใต้ สู่เมืองโขง
ที่ตั้งของ น้ำตกคอนพะเพ็งไนแองการ่า แห่งเอเชีย
ความยิ่งใหญ่ของสายน้ำที่กระโจนบิดตัวปะทะแก่งหินน้อยใหญ่
จนเดือดพล่านกระจายเป็นละอองไอน้ำแทรกตัวปกคลุมอยู่ตามแก่งหิน
แทบทุกอณูของบรรยากาศ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น