[CR] ปากเซ สบายดี

กระทู้รีวิว
สบายดี … ปากเซ หัวใจชวนฝันเริ่มหลงไหลวิถีธรรมชาติ และกลิ่นอายของความเป็นชนบทเพราะความธรรมดา ทำให้เกิดความสวยงาม
ด้านวัฒนธรรมในหัวใจ


ปากเซ เมืองที่ดูเหมือนจะล้าหลังกว่าบ้านเราไปสัก 10-20 ปี ด้วยสภาพบ้านเมือง ที่พัก หรือถนนหนทางที่ดูจะไม่สะดวกสบายนัก เเต่ความที่เป็นเดิมๆของปากเซนี่เเหละค่ะที่ทำให้ใครๆ ก็อยากไป

การเที่ยวลาวใต้ในช่วงหลังหน้าฝนนิดๆมันเป็นอะไรที่เหมาะที่สุดแล้วล่ะค่ะ มาครั้งนี้มาทำงานจริงๆ เรามีจัดทัวร์ ศิลปวัฒนธรรม ขึ้นมาเป็นประจำทุกเดือน สำหรับลูกค้าที่ร่วมเดินทางไปกับเรา จะมีค่าใช้จ่ายรวมเเล้วทั้งสิ้น 19,000.-บาท ราคานี้ไม่เเพงหรอกค่ะ หากเทียบกับการเดินทางที่มีบริการสะดวกสบาย เเทบไม่ได้ดำเนินการอะไรด้วยตัวเอง เพราะมีคนคอยดำเนินการอยู่เเล้ว ทัวร์ครั้งนี้พูดจากความรู้สึกลึกๆในหัวใจเลยว่า มันให้ความรู้สึกอบอุ่น น่าหลงไหลกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชนบทของที่นี่เหลือเกิน การได้เห็นผู้คน ชาวบ้านเด็กเล็ก ในหมู่บ้านต่างๆ เป็นวิถีธรรมชาติ และกลิ่นอายของความเป็นชนบทที่เราประทับใจค่ะ


หนึ่งสิ่งที่น่ารัก และนึกถึงทีไรก็ต้องอมยิ้มทุกครั้งคือ ภาษาที่ใช้ ลาวเป็นประเทศเพื่อนบ้าน
เป็นเมืองพี่เมืองน้องกับไทยมาแต่โบราณ เราก็จะค่อนข้างคุ้นเคยกับภาษาที่ใกล้เคียงกับ
ภาษาอีสานอยู่เป็นทุน จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจภาษาได้ง่าย เราจะขอยกบางคำน่ารักๆ
ที่ได้มาจากทริปนี้นะคะ

ไฟเขียว = ไฟอิสระ /ไฟแดง = ไฟอำนาจ / ถ่ายรูป = แหกตาสามัคคี / ผ้าอนามัย = ผ้ายันต์กันโลหิต / ถุงยางอนามัย = ถุงปลิดชีวิต / รถไฟ = ห้องแถวไหล

จะว่าไปแล้วก็ไม่คิดว่าจะได้มาที่นี่ ต้องขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดี  ทริปนี้จะเเอบไปตามรอยหนัง2 เรื่องที่ชอบอยู่เเล้ว นั้นคือเรื่องของ ศักดิ์ชาย ดีนาน ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง
“สบายดีหลวงพระบาง” และ “สบายดี 2 ไม่มีคำตอบจากปากเซ” ภาพยนตร์การท่องเที่ยว
ประเทศลาว ที่มีมุมกล้องง่ายๆ ถ่ายกันง่ายๆ นักแสดงเล่นกันง่ายๆ สบายๆ เหมือนชื่อ และภาพ
ก็สวยแบบเรียบง่ายไม่เหมือนใคร หากใครต้องการสาระจากหนังสองเรื่องนี้คงต้องผิดหวัง
แต่สำหรับเราเเล้วมันทำให้รู้สึกอยากไปเที่ยวลาวสักครั้งนะคะ จากเหตุผลที่เล่ามาดีใจที่ได้ร่วมเดินทางในทริปนี้  
ทัวร์นี้จัดโดย ศุนย์อาชีพเเละธุรกิจมติชน ชื่อทริป ทัวร์ แหล่งพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์
“ผาแต้ม” และประวัติศาสตร์เจินละ จ.อุบลราชธานี-ลาวใต้ เดินทางระหว่าง
วันที่ 16-18 ตุลาคม 2558  มีวิทยากรบรรยายที่น่าตาดี คือ : อ.ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ
ราคาอย่างที่บอก ไม่เเพงเเค่ 19,000 บาท

วันศุกร์ ที่ 16 ตุลาคม 2558
หลังจากที่เราออกเดินทางจากสนามดอนเมือง โดยสายการบินนกแอร์ เพียง 1 ชั่วโมง เราก็มาถึงสนามบินจังหวัดอุบลราชธานี เราติดต่อรถบัสปรับอากาศ 2 ชั้น ให้มารับเพื่อออกเดินทางไปที่ด่านช่องเม็ก
ระหว่างนั้นเราเเวะทานอาหารเช้าเป็น เมนูไข่กระทะ เเละออกเดินทางมุ่งหน้า
สู่ด่านช่องเม็ก  เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ประมาณสิบโมงเราก็ข้ามด่านเป็นที่เรียบร้อย
จากนั้นเราใช้เวลาจากด่านช่องเม็กอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง ก็ถึงปากเซจนได้ เรานั่งรถเที่ยว
ชมเมืองปากเซพร้อมเรียนรู้ภาษาลาวคร่าวๆ จากไกด์สาวชาวลาว เเล้วไปเเวะทานอาหารกลางวันที่ร้านส้มตำ
(เริ่มทริปนี้เหมือนเพิ่งทานข้าวไปไม่ย่อยเลยค่ะกินตลอดเลย)

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันกันอย่างเต็มที่แล้ว เราก็เดินทางเข้าโรงแรมจำปาสักแกรนด์
เพื่อเก็บสัมภาระเรา จากนั้นไม่นานพวกเราก็พร้อมที่จะออกเดินทางสู่
พิพิธภัณฑ์มรดกประวัติศาสตร์จำปาสัก
พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุของเมืองจำปาสักตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์
เช่น กลองมโหระทึกสำริด, ทับหลังหินทราย รวมทั้งนิทรรศการแสดงความเป็นมาของการสร้างชาติลาว

วิทยากรบรรยายสนุกสนาน ยกตัวอย่างเหตุการณ์สำคัญต่างๆมาพูด บอกเลยว่าสนุกไม่เครียดเลยค่ะ
ทุกเรื่องเป็นจุดเริ่มต้นที่เราควรรู้เเละควรศึกษาทั้งนั้น

เสร็จแล้วเราเดินทางต่อไปพักทานกาแฟ ที่ ร้านกาแฟบอละเวน  ร้านนี้ไม่ใหญ่มาก กาเเฟรสชาดดี
มีของที่ระลึกจำหน่ายในราคาไม่เเพง

จากนั้นเรานั่งรถชมตัวเมือง และชมตึกเก่า พร้อมฟังเรื่องเล่าของลาวสมัยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส
เช่น วังเจ้าบุญอุ้ม, สะพานข้ามแม่น้ำเซโดน พร้อมเข้าชม วัดหลวง วัดเก่าแก่ประจำเมืองปากเซ
เป็นที่เก็บอัฐิของเชื่อพระวงศ์จำปาสักหลายพระองค์
ด้านในยังมีอาคารที่มีสถาปัตยกรรมซึ่งได้รับอิทธิพลจากอาณานิคมฝรั่งเศส
ซึ่งหาชมได้ยากมาก บอกเลยว่าเก่าเเก่ที่สุด เเละยังสมบูรณ์ที่สุด หาดูที่ไหนไม่ได้อีกเเล้วค่ะ


จุดนี้ถ่ายจากชั้นบนสุดของ วังเจ้าบุญอุ้ม



ภาพจากด้านหน้า วังเจ้าบุญอุ้ม ปัจจุบันกลายเป็นโรงแรมค่ะ

หน้าวัดหลวง ยามเย็นวันเเรกของการมาเยือนปากเซ


ความสวยงามเเบบวิจิตรลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ หาดูได้อยากมาก ยังคงสวยงามสะดุดตา



เจดีย์เรียงรายสวยงามที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา
ถ่ายภาพที่วัดหลวงไม่ต่ำกว่า20ภาพได้ค่ะ ยิ้ม



จากนั้นเราก็เเวะทานอาหารเย็นที่ร้าน ริมโขง เป็นเหมือนเรือ 2 ชั้น  อาหารบอกก่อน เรามาที่นี่ต้องมี เมนูปลาเเม่น้ำโขงทุกมื้อ เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงฝั่งลาว
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จเเล้วเราก็กลับไปที่พักเเยกย้ายกันพักผ่อน สถานที่เที่ยวยามค่ำคืนของที่นี่
สิ้นสุดเเค่เวลา เที่ยงคืนเท่านั้นนะคะ เพราะไม่เช่นนั้น เราอาจจะต้องไปนอนในคุกขี้ได่ก็เป็นได้
ความรู้สึกของวันนี้เหมือนกินเยอะเเละกินบ่อย อาหารไม่ย่อยเลยล่ะค่ะ



บรรยากาศฟินมาก  หรือเพลียมากก็ไม่รู้ซินะ ดูจากสภาพหน้าตาเเบบนี้ เคลิ้มๆเเบบนี้ เปล่าจิบเบียร์ลาวน๊า
เเค่รู้สึกง่วง ก็เท่านั้นเองค่ะ  ค่ำคืนนี้นอนพักให้สบายตัว
เก็บเเรงไว้ตะลุยโลกอันกว้างใหญ่ ของเมืองปากเซ ในวันรุ่งขึ้นวันใหม่ดีกว่า

สำหรับวันนี้   ฝันดี ณ ปากเซ

วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม 2558


รุ่งอรุณของเช้าวันใหม่ ย่อมสดใสเเละตื่นเต้นเสมอ ตื่นนอนเเต่เช้ามาสูดอากาศบริสุทธิ์
ของที่นี่ให้เต็มปอด  วันนี้ทานอาหารเช้าที่โรงเเรม เเละออกเดินทางไปตามเส้นทางหมายเลข 13 สายใต้ สู่เมืองโขง
ที่ตั้งของ น้ำตกคอนพะเพ็งไนแองการ่า แห่งเอเชีย

ความยิ่งใหญ่ของสายน้ำที่กระโจนบิดตัวปะทะแก่งหินน้อยใหญ่
จนเดือดพล่านกระจายเป็นละอองไอน้ำแทรกตัวปกคลุมอยู่ตามแก่งหิน
แทบทุกอณูของบรรยากาศ

ชื่อสินค้า:   แหล่งพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ “ผาแต้ม” และประวัติศาสตร์เจินละ จ.อุบลราชธานี-ลาวใต้ วันที่ 16-18 ตุลาคม 2558
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่