สวัสดีค่ะ
กระทู้ที่ 2 แล้ว สำหรับการรีวิวที่ท่องเที่ยวของเรา
ฝีมือไม่พัฒนาขึ้นเลยค่ะ ถ่ายรูปยังคงห่วยเหมือนเดิม 555
แบบว่า คนอื่นไปมา ทำไมรูปซ๊วยยยย สวย
แต่เราถ่ายออกมา ธรรมดามากอ่ะ
รอบนี้ ไป 5 วันค่ะ จันทร์ - ศุกร์ วันธรรมดาเหมือนเดิม
ไม่ค่อยชอบไปวันหยุด คนเยอะ แย่งกันเที่ยว สุขไม่สุด
วันแรก ตรงดิ่งไปกระบี่ พักที่เกาะลันตาใหญ่ 2 คืน
ตระเวนเที่ยวเกาะต่างๆ แล้วออกจากกระบี่ ไล่เที่ยวขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงกรุงเทพ
บางที่ ที่เรารีวิว เราก็เคยไปมาก่อนแล้ว เพื่อนๆ บางคนก็อาจจะได้ไปมาแล้ว
ถือซะว่า รำลึกความหลังเนอะ ^_^
คำเตือน : รูปค่อนข้างติดคนเยอะนะคะ
ใครที่ชอบกระทู้รีวิวแบบเน้นรูปสวยๆ ไม่ติดคน ก็ขออภัยด้วยค่ะ
หลายๆ ภาพ เซลฟี่มาด้วย แบบว่า ชิน ไปเที่ยวธรรมชาติ เซลฟี่มาทำไม ยังงงตัวเองอยู่ 555
วันแรก จันทร์ 26 ตุลา 58
แค่เดินทางก็หมดวันแระ
เครื่องออกบ่าย 3 ออกจริง บ่าย 3 ครึ่ง
จากดอนเมือง ถึงสนามบินกระบี่ 5 โมง 10 นาที
กว่าจะรอโหลดกระเป๋าเสร็จ นู่นแหนะ เกือบ 6 โมง
สองคนแม่ลูก ค่าตั๋ว 2,200 (คนละ 1,100)
สายการบินไลอ้อนแอร์
ตอนแรก จะจองโปร 770 แต่ช้าเกิน จองไม่ทัน
โชคดีค่ะ ลูกไม่งอแงเลย
ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ไม่ตื่นเครื่อง ไม่ปวดหู อ่านใบปลิวเล่นไปเรื่อย
พ่อมารับค่ะ พ่อล่วงหน้ามาก่อน กับลุงๆ ป้าๆ
มากันตั้งแต่วันอาทิตย์ คืนนี้เรามานอนบ้านลุง ที่เกาะลันตา
ข้ามแพมา 2 ต่อ คือจากตัวกระบี่ มาเกาะลันตาน้อย
และข้ามจากลันตาน้อย ไปลันตาใหญ่ อีกทีนึง
ค่าใช้จ่ายประมาณ 220 ต่อรถ 1 คัน ผู้โดยสาร 4 คน
ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะมืดแล้ว ถ่ายแล้วไม่เห็นอะไรเลย
พอถึงบ้าน ป้าก็ทำอาหารรอไว้แล้วค่ะ เป็นปิ้งย่าง ง่ายๆ สำหรับคืนนี้
ปล. ใครที่จะไปเที่ยวเกาะลันตา พักรีสอร์ท ไม่ต้องกลัวหากินลำบาก
ร้านอาหารบนเกาะ เยอะมว๊ากกกกกกกกก
อังคาร 27 ตุลา
วันนี้ โปรแกรมแน่นเลย
- ไปดูสะพานข้ามเกาะ
- เล่นน้ำ อ่าวมาหยา
- ดำน้ำ ดูปะการัง อ่าวลิง
- แวะกินข้าว+เล่นน้ำ เกาะไผ่
- เดินเล่น เกาะพีพี
- ขี่รถรอบเกาะ
- กลับมานอน หาดคลองดาว
(ตอนบ่ายนั่งเรือจากเกาะพีพีไปหาดคลองดาวมาแล้วรอบนึง แต่ไม่ไหวจะลงเล่นน้ำ หนาว ฝนตก
ตกค่ำ ขับรถไปทางถนน เพื่อไปพักรีสอร์ทที่หาด)
ตื่นเช้า ไปชมวิวบนสะพาน
พอดีลุงกำลังสร้างสะพานข้ามเกาะอยู่ ยังไม่เสร็จ
วิวสวยค่ะ แต่เราไปซะเช้าตรู่เลย ค่อนข้างมืดไปนิด
ปล. ลืมถ่ายรูปวิว ดันมัวแต่ถ่ายคนกะสะพานค่ะ แหะๆ
สายๆ หน่อย สปีทโบ๊ทที่เช่าไว้ ก็มาพอดี
ราคาต่อหัว 1,200 บาท
เราไปกัน 18 คน เลยเหมาทั้งลำ 24,000 บาท
นั่งได้ 30 คนค่ะ สบายๆ
ขาไป นั่งหน้า โต้แดด โต้ลมกันเลย
ขากลับ ไม่ไหวค่ะ เปียกแล้ว ทั้งหนาว ทั้งร้อนแดด เลยนั่งข้างในดีกว่า
แนะนำ ใครมีเด็กไปด้วย หาผ้าไปคลุมขากลับด้วยนะคะ
จริงๆ เราก็เตรียมไป 2 ผืน สำหรับลูกคนเดียว แต่ขากลับ ฝนตก
มันเอาไม่อยู่ ฝนสาด ลูกชายนั่งหนาวเลย
วิวที่ถ่ายระหว่างนั่งสปีทโบ๊ทค่ะ
ถึงแว้ว ที่แรก ที่แวะ " อ่าวมาหยา "
สวยมากค่ะ ทรายขาว หาดสะอาด น้ำสีฟ้า
รอบนอกใสมาก แต่รอบใน ขุ่นทรายและเศษไม้นิดหน่อย
คนไทยน้อย ที่เห็นนี่ ต่างชาติทั้งนั้นเลย
ร้านอาหารบนเกาะไม่มีนะคะ เตรียมของกินมาให้พร้อม ถ้ากลัวหิว
เราเห็นมีร้านสวัสดิการ แต่มันไม่เปิดอ่ะ
ไม่รู้ว่า ปิดวันที่เราไปพอดี หรือว่า ปกติก็ไม่เปิดอยู่แล้ว
ต่อไป ดำน้ำที่ อ่าวลิง
มันค่อนข้างลึกไปนิดอ่ะ
มองด้วยตาเปล่า มองเห็น แต่ถ่ายรูปแล้วเขียวไปหมด
ข้างล่างก็ไม่มีปะการังสี มีแต่ปะการังหิน เลยไม่ได้เก็บรูปปะการังมาฝาก
ได้แต่ถ่ายรูปกันเอง กับฝูงปลาอันน้อยนิด
ถ้าได้ไปอีก คงไม่แวะอ่าวนี้แล้วค่ะ มันไม่มีอะไรเลย
พักทานอาหารกันที่ เกาะไผ่
เกาะไผ่นี่ สวยมว๊ากกกกกกกกกก
ส่วนตัวเราชอบเกาะนี้ มากกว่าอ่าวมาหยานะ
หาดทรายขาวมากกกก กว้างมากกกกกกกกกก
แต่ก็ร้อนมากเช่นกัน อาจเป็นเพราะถึงเกาะนี้เวลาเที่ยงวันพอดี แดดตรงหัวเลยอ่ะ
พอเรือจอดปุ๊บ เรานี่รีบพาลูกวิ่งเข้าหาที่ร่มเลย
ระยะทางจากชายหาด ถึงร่มไม้ ไกลพอสมควร
เกาะนี้ คนแวะพักเยอะค่ะ ค่อนข้างร่มรื่น มันจะร้อนเฉพาะตรงริมหาด
แต่บนเกาะต้นไม้เยอะแยะ ลมเย็น นอนกลางวันกันสบายๆ เลย
บนเกาะมีห้องน้ำเก่าๆ ค่อนข้างน่ากลัวให้ใช้ด้วย
ไม่มีที่อาบน้ำนะ ถ่ายทุกข์ได้อย่างเดียว
หรือถ้าจะอาบน้ำ ก็ใช้สายชำระนั่นแหละ ฉีดเอา
ไม่แน่ใจว่ามันมีแค่นั้นจริงๆ หรือมีที่อาบน้ำให้ด้วย แต่เราหาไม่เจอ
ปล. รูปน้อยไปหน่อยนะคะ เพราะมันร้อนจนออกมาเดินถ่ายตรงชายหาดไม่ไหว
พอเข้าร่ม ก็ทานข้าว แล้วก็ป้อนข้าว อาบน้ำลูกด้วย
เสร็จแล้ว คอยตามดูลูกอีก เพราะลูกจะวิ่งลงน้ำเรื่อยเลย
ขากลับ ขอลองถ่ายรูปในน้ำสักนิด
แต่ไม่รู้จะถ่ายอะไร มันมีแต่ทราย
เลยเซลฟี่หน้าตัวเองมา อยากรู้ว่าน้ำใสขนาดนี้ มันจะชัดมากมั้ย อิอิ
ออกจากเกาะไผ่ ก็มาต่อด้วยเกาะพีพี
ลูกอยากกินน้ำมะพร้าว มะพร้าวที่นี่แพงกว่ากรุงเทพ กรุงเทพลูกละ 25 ที่นี่ ลูกละ 60
ยัยแม่ ก็เดินเล่นไปเรื่อย จะหาร้านนั่งดื่มกาแฟ
แต่ฝนตกซะก่อน เลยอด ได้แต่หลบฝน พอฝนซา ได้เวลาเรือออกพอดี >,<
ออกจากเกาะพีพี ไปต่อที่หาดคลองดาว
แต่ไม่มีใครลงเล่นเลย ไม่ไหว มันหนาว เพราะเปียกฝนกันมาระหว่างทาง
อยากอาบน้ำพักผ่อนเต็มที่แล้ว ก็เลยกลับ
เราอาบน้ำ จัดการลูกเสร็จ ก็ไปขี่มอไซค์รอบเกาะ กับน้องชาย หาที่พักกัน
ปล. เกาะนี้ จะว่าพลุกพล่าน ก็ไม่ถึงขนาดนั้นนะ
ไม่เงียบ แต่ก็ไม่อึกทึกครึกโครม
น่าเที่ยวอ่ะ แนะนำเลย สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว แต่ไม่อยากเงียบเหงาจนเกินไป
มาลงตัวที่นี่ค่ะ บานาน่า บีช รีสอร์ท
ค่าห้อง ราคาปกติ 1,800
เราได้ราคาคนรู้จักค่ะ พอดีเขารู้จักกับคุณลุง
น้องเราเลือกห้อง 2 เตียงผู้ใหญ่ กับ เตียงเด็ก 2 ชั้น นอนกัน 4 คน พ่อแม่ลูกๆ
ส่วนเรา เลือกห้อง 3 เตียง สำหรับ พ่อ แม่ เราและลูกชาย
หลังจากเช็คอิน ลูกเรา เล่นน้ำอีกแล้ว >,<
ที่พัก ติดชายหาดเลยค่ะ ส่วนตัวดีอ่ะ ชอบ
ทานอาหารค่ำที่นี่เลยค่ะ
อาหารอร่อย พิซซ่าอร่อย แพนเค้กกล้วย อร่อย
ที่ประทับใจอีกอย่างคือ เขาจะแยกโต๊ะเด็ก ผู้ใหญ่ ให้ด้วย
เราจะเดินไปป้อนข้าวลูก พนักงานบอกว่า ไม่ต้องค่ะ
คุณแม่ไปทานข้าวให้สบาย มาพักผ่อนทั้งที ทางนี้เราดูแลเอง
โอ้ย อิแม่ สบายเลยข่า 555
พุธ 28 ตุลา
ตื่นเช้า มารับลมทะเลสักหน่อย
ทานอาหารเช้า แบบนี้ บรรยากาศในฝันเลย อิอิ
ราคาห้องพักที่นี่ รวมกาแฟ และขนมปังให้ด้วยนะคะ
ส่วนไข่ดาว เบคอน และขนมปัง ในจานใหญ่ นั่นเราสั่งเพิ่ม 90 บาท
เช็คเอ้าท์ ออกจากบานาน่าบีช ก็มุ่งหน้าไปสระมรกต กันต่อ
ถึงแล้ว แวะทานข้าวเช้า ที่ร้านเรือนมรกต
จริงๆ ไม่ได้กะพูดถึง เพราะเป็นมื้อเล็กๆ
แต่ที่หยิบมาพูดถึง เพราะมันมีเหตุ
ลุงเราสั่งข้าวผัด จานใหญ่ 2 จาน กับต้มจืด และผลไม้
แต่ ข้าวมาก่อน สักพักใหญ่ๆ ต้มจืดถึงมาตอนข้าวจะหมดแล้ว
เราก็เช็คอินบ่นเล็กๆ ว่า "กับช้าจุง ข้าวจะหมดแล้ว" บ่นแค่นี้เองจริงๆ ค่ะ
แล้วเราก็ไปเล่นน้ำต่อ ไม่ได้หงุดหงิด ติดค้างอะไร
แต่กลับมาบ้าน เราได้รับอินบอกซ์แบบนี้
(เปิดในมือถือไม่เห็นค่ะ เพราะถูกส่งมาจากคนที่ไม่ได้เป็นเพื่อน มันจะไปอยู่ใน other ต้องเปิดในคอม ถึงเห็น)
ทางร้าน อินบอกซ์มาขอโทษ
เราแบบ เห้ย ตายแล้ว เราบ่นเล็กๆ เอง ไม่ได้คอมเพลนใหญ่โตอะไรเลย
และมารู้ทีหลังด้วย ว่าขากลับ ทางร้านแถมไข่มาให้แม่เรา เป็นการขอโทษ
เราแบบ กึ่งรู้สึกดี กึ่งเสียใจน่ะ
เสียใจที่ทำเขาคิดมาก มันไม่ได้แย่ หรือเลวร้ายขนาดนั้น
แต่อีกความรู้สึก คือ ร้านนี้ดีจัง ใส่ใจแม้กระทั่งคำบ่นเล็กๆ จากลูกค้าขาจร
ถ้ามีโอกาสได้ไปอีก จะแวะไปอีกนะคะ ^_^
สระมรกต
มรกตสมชื่อจริงๆ เขียวปี๋เลย แต่น้ำใสนะคะ
อุณหภูมิกำลังดีมากอ่ะ ไม่อุ่น ไม่หนาว กำลังเล่นสบายเลย
เรามาเป็นกลุ่มแรกๆ ของวันนี้ด้วย
ใครจะไป แนะนำ ช่วงก่อนเที่ยง วันธรรมดานะคะ
ถ้าไปสายๆ วันหยุด รับรองว่าเจอผู้คนมหาศาลแน่ๆ
น้องสะใภ้เราเพิ่งไปมาก่อนหน้า ไม่ได้ลงเล่นเลย เพราะคนแน่นไปหมด น้ำก็ขุ่นด้วย
ค่าเข้า คนไทย 20 ต่างชาติ 90
ปล. ทางเข้า ไกลไปนิด เดินจนเจ็บนิ้วเท้าเลยอ่ะ
ดันซื้อรองเท้าแตะหูหนีบ ข้างหน้ามาใส่เปลี่ยน กะเดินเบาสบาย ที่ไหนได้ ลำบากกว่าเดิม
น้ำใสมากกก ขอถ่ายรูปเล่นใต้น้ำสักหน่อย
ขอไปต่อ เรป 2 นะคะ
ข้อความมันจะเกินแล้ว >,<
edit : ฝากกระทู้แรกด้วยนะคะ เกาะพิทักษ์ จ. ชุมพร
http://pantip.com/topic/33682946
[CR] พาลูกชาย 3 ขวบ ล่องทะเลใต้ 5 วัน มันก็ชิลล์ดีนะ ;)
กระทู้ที่ 2 แล้ว สำหรับการรีวิวที่ท่องเที่ยวของเรา
ฝีมือไม่พัฒนาขึ้นเลยค่ะ ถ่ายรูปยังคงห่วยเหมือนเดิม 555
แบบว่า คนอื่นไปมา ทำไมรูปซ๊วยยยย สวย
แต่เราถ่ายออกมา ธรรมดามากอ่ะ
รอบนี้ ไป 5 วันค่ะ จันทร์ - ศุกร์ วันธรรมดาเหมือนเดิม
ไม่ค่อยชอบไปวันหยุด คนเยอะ แย่งกันเที่ยว สุขไม่สุด
วันแรก ตรงดิ่งไปกระบี่ พักที่เกาะลันตาใหญ่ 2 คืน
ตระเวนเที่ยวเกาะต่างๆ แล้วออกจากกระบี่ ไล่เที่ยวขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงกรุงเทพ
บางที่ ที่เรารีวิว เราก็เคยไปมาก่อนแล้ว เพื่อนๆ บางคนก็อาจจะได้ไปมาแล้ว
ถือซะว่า รำลึกความหลังเนอะ ^_^
คำเตือน : รูปค่อนข้างติดคนเยอะนะคะ
ใครที่ชอบกระทู้รีวิวแบบเน้นรูปสวยๆ ไม่ติดคน ก็ขออภัยด้วยค่ะ
หลายๆ ภาพ เซลฟี่มาด้วย แบบว่า ชิน ไปเที่ยวธรรมชาติ เซลฟี่มาทำไม ยังงงตัวเองอยู่ 555
วันแรก จันทร์ 26 ตุลา 58
แค่เดินทางก็หมดวันแระ
เครื่องออกบ่าย 3 ออกจริง บ่าย 3 ครึ่ง
จากดอนเมือง ถึงสนามบินกระบี่ 5 โมง 10 นาที
กว่าจะรอโหลดกระเป๋าเสร็จ นู่นแหนะ เกือบ 6 โมง
สองคนแม่ลูก ค่าตั๋ว 2,200 (คนละ 1,100)
สายการบินไลอ้อนแอร์
ตอนแรก จะจองโปร 770 แต่ช้าเกิน จองไม่ทัน
โชคดีค่ะ ลูกไม่งอแงเลย
ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ไม่ตื่นเครื่อง ไม่ปวดหู อ่านใบปลิวเล่นไปเรื่อย
พ่อมารับค่ะ พ่อล่วงหน้ามาก่อน กับลุงๆ ป้าๆ
มากันตั้งแต่วันอาทิตย์ คืนนี้เรามานอนบ้านลุง ที่เกาะลันตา
ข้ามแพมา 2 ต่อ คือจากตัวกระบี่ มาเกาะลันตาน้อย
และข้ามจากลันตาน้อย ไปลันตาใหญ่ อีกทีนึง
ค่าใช้จ่ายประมาณ 220 ต่อรถ 1 คัน ผู้โดยสาร 4 คน
ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะมืดแล้ว ถ่ายแล้วไม่เห็นอะไรเลย
พอถึงบ้าน ป้าก็ทำอาหารรอไว้แล้วค่ะ เป็นปิ้งย่าง ง่ายๆ สำหรับคืนนี้
ปล. ใครที่จะไปเที่ยวเกาะลันตา พักรีสอร์ท ไม่ต้องกลัวหากินลำบาก
ร้านอาหารบนเกาะ เยอะมว๊ากกกกกกกกก
อังคาร 27 ตุลา
วันนี้ โปรแกรมแน่นเลย
- ไปดูสะพานข้ามเกาะ
- เล่นน้ำ อ่าวมาหยา
- ดำน้ำ ดูปะการัง อ่าวลิง
- แวะกินข้าว+เล่นน้ำ เกาะไผ่
- เดินเล่น เกาะพีพี
- ขี่รถรอบเกาะ
- กลับมานอน หาดคลองดาว
(ตอนบ่ายนั่งเรือจากเกาะพีพีไปหาดคลองดาวมาแล้วรอบนึง แต่ไม่ไหวจะลงเล่นน้ำ หนาว ฝนตก
ตกค่ำ ขับรถไปทางถนน เพื่อไปพักรีสอร์ทที่หาด)
ตื่นเช้า ไปชมวิวบนสะพาน
พอดีลุงกำลังสร้างสะพานข้ามเกาะอยู่ ยังไม่เสร็จ
วิวสวยค่ะ แต่เราไปซะเช้าตรู่เลย ค่อนข้างมืดไปนิด
ปล. ลืมถ่ายรูปวิว ดันมัวแต่ถ่ายคนกะสะพานค่ะ แหะๆ
สายๆ หน่อย สปีทโบ๊ทที่เช่าไว้ ก็มาพอดี
ราคาต่อหัว 1,200 บาท
เราไปกัน 18 คน เลยเหมาทั้งลำ 24,000 บาท
นั่งได้ 30 คนค่ะ สบายๆ
ขาไป นั่งหน้า โต้แดด โต้ลมกันเลย
ขากลับ ไม่ไหวค่ะ เปียกแล้ว ทั้งหนาว ทั้งร้อนแดด เลยนั่งข้างในดีกว่า
แนะนำ ใครมีเด็กไปด้วย หาผ้าไปคลุมขากลับด้วยนะคะ
จริงๆ เราก็เตรียมไป 2 ผืน สำหรับลูกคนเดียว แต่ขากลับ ฝนตก
มันเอาไม่อยู่ ฝนสาด ลูกชายนั่งหนาวเลย
วิวที่ถ่ายระหว่างนั่งสปีทโบ๊ทค่ะ
ถึงแว้ว ที่แรก ที่แวะ " อ่าวมาหยา "
สวยมากค่ะ ทรายขาว หาดสะอาด น้ำสีฟ้า
รอบนอกใสมาก แต่รอบใน ขุ่นทรายและเศษไม้นิดหน่อย
คนไทยน้อย ที่เห็นนี่ ต่างชาติทั้งนั้นเลย
ร้านอาหารบนเกาะไม่มีนะคะ เตรียมของกินมาให้พร้อม ถ้ากลัวหิว
เราเห็นมีร้านสวัสดิการ แต่มันไม่เปิดอ่ะ
ไม่รู้ว่า ปิดวันที่เราไปพอดี หรือว่า ปกติก็ไม่เปิดอยู่แล้ว
ต่อไป ดำน้ำที่ อ่าวลิง
มันค่อนข้างลึกไปนิดอ่ะ
มองด้วยตาเปล่า มองเห็น แต่ถ่ายรูปแล้วเขียวไปหมด
ข้างล่างก็ไม่มีปะการังสี มีแต่ปะการังหิน เลยไม่ได้เก็บรูปปะการังมาฝาก
ได้แต่ถ่ายรูปกันเอง กับฝูงปลาอันน้อยนิด
ถ้าได้ไปอีก คงไม่แวะอ่าวนี้แล้วค่ะ มันไม่มีอะไรเลย
พักทานอาหารกันที่ เกาะไผ่
เกาะไผ่นี่ สวยมว๊ากกกกกกกกกก
ส่วนตัวเราชอบเกาะนี้ มากกว่าอ่าวมาหยานะ
หาดทรายขาวมากกกก กว้างมากกกกกกกกกก
แต่ก็ร้อนมากเช่นกัน อาจเป็นเพราะถึงเกาะนี้เวลาเที่ยงวันพอดี แดดตรงหัวเลยอ่ะ
พอเรือจอดปุ๊บ เรานี่รีบพาลูกวิ่งเข้าหาที่ร่มเลย
ระยะทางจากชายหาด ถึงร่มไม้ ไกลพอสมควร
เกาะนี้ คนแวะพักเยอะค่ะ ค่อนข้างร่มรื่น มันจะร้อนเฉพาะตรงริมหาด
แต่บนเกาะต้นไม้เยอะแยะ ลมเย็น นอนกลางวันกันสบายๆ เลย
บนเกาะมีห้องน้ำเก่าๆ ค่อนข้างน่ากลัวให้ใช้ด้วย
ไม่มีที่อาบน้ำนะ ถ่ายทุกข์ได้อย่างเดียว
หรือถ้าจะอาบน้ำ ก็ใช้สายชำระนั่นแหละ ฉีดเอา
ไม่แน่ใจว่ามันมีแค่นั้นจริงๆ หรือมีที่อาบน้ำให้ด้วย แต่เราหาไม่เจอ
ปล. รูปน้อยไปหน่อยนะคะ เพราะมันร้อนจนออกมาเดินถ่ายตรงชายหาดไม่ไหว
พอเข้าร่ม ก็ทานข้าว แล้วก็ป้อนข้าว อาบน้ำลูกด้วย
เสร็จแล้ว คอยตามดูลูกอีก เพราะลูกจะวิ่งลงน้ำเรื่อยเลย
ขากลับ ขอลองถ่ายรูปในน้ำสักนิด
แต่ไม่รู้จะถ่ายอะไร มันมีแต่ทราย
เลยเซลฟี่หน้าตัวเองมา อยากรู้ว่าน้ำใสขนาดนี้ มันจะชัดมากมั้ย อิอิ
ออกจากเกาะไผ่ ก็มาต่อด้วยเกาะพีพี
ลูกอยากกินน้ำมะพร้าว มะพร้าวที่นี่แพงกว่ากรุงเทพ กรุงเทพลูกละ 25 ที่นี่ ลูกละ 60
ยัยแม่ ก็เดินเล่นไปเรื่อย จะหาร้านนั่งดื่มกาแฟ
แต่ฝนตกซะก่อน เลยอด ได้แต่หลบฝน พอฝนซา ได้เวลาเรือออกพอดี >,<
ออกจากเกาะพีพี ไปต่อที่หาดคลองดาว
แต่ไม่มีใครลงเล่นเลย ไม่ไหว มันหนาว เพราะเปียกฝนกันมาระหว่างทาง
อยากอาบน้ำพักผ่อนเต็มที่แล้ว ก็เลยกลับ
เราอาบน้ำ จัดการลูกเสร็จ ก็ไปขี่มอไซค์รอบเกาะ กับน้องชาย หาที่พักกัน
ปล. เกาะนี้ จะว่าพลุกพล่าน ก็ไม่ถึงขนาดนั้นนะ
ไม่เงียบ แต่ก็ไม่อึกทึกครึกโครม
น่าเที่ยวอ่ะ แนะนำเลย สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว แต่ไม่อยากเงียบเหงาจนเกินไป
มาลงตัวที่นี่ค่ะ บานาน่า บีช รีสอร์ท
ค่าห้อง ราคาปกติ 1,800
เราได้ราคาคนรู้จักค่ะ พอดีเขารู้จักกับคุณลุง
น้องเราเลือกห้อง 2 เตียงผู้ใหญ่ กับ เตียงเด็ก 2 ชั้น นอนกัน 4 คน พ่อแม่ลูกๆ
ส่วนเรา เลือกห้อง 3 เตียง สำหรับ พ่อ แม่ เราและลูกชาย
หลังจากเช็คอิน ลูกเรา เล่นน้ำอีกแล้ว >,<
ที่พัก ติดชายหาดเลยค่ะ ส่วนตัวดีอ่ะ ชอบ
ทานอาหารค่ำที่นี่เลยค่ะ
อาหารอร่อย พิซซ่าอร่อย แพนเค้กกล้วย อร่อย
ที่ประทับใจอีกอย่างคือ เขาจะแยกโต๊ะเด็ก ผู้ใหญ่ ให้ด้วย
เราจะเดินไปป้อนข้าวลูก พนักงานบอกว่า ไม่ต้องค่ะ
คุณแม่ไปทานข้าวให้สบาย มาพักผ่อนทั้งที ทางนี้เราดูแลเอง
โอ้ย อิแม่ สบายเลยข่า 555
พุธ 28 ตุลา
ตื่นเช้า มารับลมทะเลสักหน่อย
ทานอาหารเช้า แบบนี้ บรรยากาศในฝันเลย อิอิ
ราคาห้องพักที่นี่ รวมกาแฟ และขนมปังให้ด้วยนะคะ
ส่วนไข่ดาว เบคอน และขนมปัง ในจานใหญ่ นั่นเราสั่งเพิ่ม 90 บาท
เช็คเอ้าท์ ออกจากบานาน่าบีช ก็มุ่งหน้าไปสระมรกต กันต่อ
ถึงแล้ว แวะทานข้าวเช้า ที่ร้านเรือนมรกต
จริงๆ ไม่ได้กะพูดถึง เพราะเป็นมื้อเล็กๆ
แต่ที่หยิบมาพูดถึง เพราะมันมีเหตุ
ลุงเราสั่งข้าวผัด จานใหญ่ 2 จาน กับต้มจืด และผลไม้
แต่ ข้าวมาก่อน สักพักใหญ่ๆ ต้มจืดถึงมาตอนข้าวจะหมดแล้ว
เราก็เช็คอินบ่นเล็กๆ ว่า "กับช้าจุง ข้าวจะหมดแล้ว" บ่นแค่นี้เองจริงๆ ค่ะ
แล้วเราก็ไปเล่นน้ำต่อ ไม่ได้หงุดหงิด ติดค้างอะไร
แต่กลับมาบ้าน เราได้รับอินบอกซ์แบบนี้
(เปิดในมือถือไม่เห็นค่ะ เพราะถูกส่งมาจากคนที่ไม่ได้เป็นเพื่อน มันจะไปอยู่ใน other ต้องเปิดในคอม ถึงเห็น)
ทางร้าน อินบอกซ์มาขอโทษ
เราแบบ เห้ย ตายแล้ว เราบ่นเล็กๆ เอง ไม่ได้คอมเพลนใหญ่โตอะไรเลย
และมารู้ทีหลังด้วย ว่าขากลับ ทางร้านแถมไข่มาให้แม่เรา เป็นการขอโทษ
เราแบบ กึ่งรู้สึกดี กึ่งเสียใจน่ะ
เสียใจที่ทำเขาคิดมาก มันไม่ได้แย่ หรือเลวร้ายขนาดนั้น
แต่อีกความรู้สึก คือ ร้านนี้ดีจัง ใส่ใจแม้กระทั่งคำบ่นเล็กๆ จากลูกค้าขาจร
ถ้ามีโอกาสได้ไปอีก จะแวะไปอีกนะคะ ^_^
สระมรกต
มรกตสมชื่อจริงๆ เขียวปี๋เลย แต่น้ำใสนะคะ
อุณหภูมิกำลังดีมากอ่ะ ไม่อุ่น ไม่หนาว กำลังเล่นสบายเลย
เรามาเป็นกลุ่มแรกๆ ของวันนี้ด้วย
ใครจะไป แนะนำ ช่วงก่อนเที่ยง วันธรรมดานะคะ
ถ้าไปสายๆ วันหยุด รับรองว่าเจอผู้คนมหาศาลแน่ๆ
น้องสะใภ้เราเพิ่งไปมาก่อนหน้า ไม่ได้ลงเล่นเลย เพราะคนแน่นไปหมด น้ำก็ขุ่นด้วย
ค่าเข้า คนไทย 20 ต่างชาติ 90
ปล. ทางเข้า ไกลไปนิด เดินจนเจ็บนิ้วเท้าเลยอ่ะ
ดันซื้อรองเท้าแตะหูหนีบ ข้างหน้ามาใส่เปลี่ยน กะเดินเบาสบาย ที่ไหนได้ ลำบากกว่าเดิม
น้ำใสมากกก ขอถ่ายรูปเล่นใต้น้ำสักหน่อย
ขอไปต่อ เรป 2 นะคะ
ข้อความมันจะเกินแล้ว >,<
edit : ฝากกระทู้แรกด้วยนะคะ เกาะพิทักษ์ จ. ชุมพร
http://pantip.com/topic/33682946