สวัสดีค่า เราเป็นสาวสวย(มั้ง)วัยเกือบ 30 ปีที่มีเงินเก็บประมาณ 2 ล้านกว่าบาทและกำลังแต่งงานค่ะ ที่มาบอกเล่าไม่ได้จะอวด แต่แค่อยากมาบอกเล่าว่าติ่งอย่างพวกเราเนี่ยมีความสามารถบริหารเงินได้ดีไม่แพ้คนทั่วไป เนื่องจากเจอคนบ่นมาเยอะมากๆ ว่า เอาแต่ติ่งจะมีเงินเก็บกับเขาบ้างไหมเนี่ย (ไม่ใช่แค่เรานะคะ เพื่อนๆ รุ่นเดียวกันก็โดน)
เลยเอามาบอกเล่าให้ฟังว่ากันว่า เราติ่งผู้ชายเก่งเหมือนเดิมที่เพิ่มเติมคือเงินเก็บก็เอาอยู่ค่ะ
(อันนี้อิงจากรายได้ปัจจุบันนะคะ ก่อนหน้านี้เงินเดือนน้อยกว่านี้ แต่เรามีขายของและหารับฟรีแลนซ์เพิ่มอยู่เรื่อยๆ )
เรามีเงินเดือนๆ ละ 25,000 บาทค่ะ แล้วก็มีงานฟรีแลนซ์ที่รับประจำทุกเดือนเฉลี่ยเดือนละ 10,000 บาท เราจะแบ่งเงินเป็นส่วนๆ ดังนี้ค่ะ
- ค่าใช้จ่ายในบ้าน (ค่าน้ำค่าไฟค่าอินเตอร์เน็ต) และเงินให้คุณแม่ เดือนละ 10,000 บาท
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว (กิน//เดินทาง//เที่ยว//บัตรเครดิต) 10,000 บาท
- ค่าใช้จ่ายติ่ง 6,000 บาท
- เงินออมสำหรับอนาคต 9,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีส่วนเงินเพิ่มมากกว่านั้นแบบไม่แน่นอน เช่นโบนัส(ส่วนใหญ่ก็ประมาณ 3-5 เดือน) ,งานฟรีแลนซ์เพิ่มเติม (ได้มาเป็นก้อนใหญ่ๆ(มีตั้งแต่สองหมื่นต้นๆ สองสามเดือนครั้ง - ห้าหมื่นที่ปีนึงมาแค่ครั้งหรือสองครั้ง) เราจะแบ่งเป็นสามส่วนค่ะ คือให้คุณแม่ เงินออมเพื่ออนาคต และส่วนติ่งเราจะเติมลงไปเยอะสุดแค่หนึ่งหมื่นบาทค่ะ
อย่างแรกที่เราทำทันทีที่ได้เงินเดือนมาเลยคือเราจะเอาเงินที่ได้จ่ายเข้าส่วนต่างๆ ก่อน โอนเงินค่าใช้จ่ายในบ้านกับบัญชีคุณแม่เข้าบัญชีคุณแม่
เงินสำหรับออมเพื่ออนาคต เราออมลงในพอร์ตหุ้นประมาณ70% โดยปรึกษาแฟนเราที่เขาลงทุนอยู่แล้วบวกกับเราศึกษาข้อมูลเองด้วย ที่เหลืออีก 30% ก็เอาเข้ากองทุน LTF แบบ DCA เอาทุกๆ เดือนค่ะ
เงินค่าใช้จ่ายสำหรับติ่ง อันนี้เราออมใน Me by TMB ค่ะ เพราะ เราคิดว่ามันต้องถอนมาโอนอยู่เรื่อยๆ จะเข้าไว้ในพอร์ตก็ไม่สะดวก เลยไว้ใน ME (เพราะของออกทั้งปี TvT แล้วก็ดอกเบี้ยเยอะกว่าที่อื่น บางทีดอกเบี้ยเอามาซื้อของจุกจิกได้อีกเยอะเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เราว่าปกติเขามีโปรอยู่เรื่อยๆ นะคะ ลองดู เห็นว่าล่าสุดก็มีแถมน้ำหอมด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลายคนอาจสงสัยว่าค่าใช้จ่ายติ่งเยอะแค่ไหน ถึงเอามาเป็นเงินเก็บแยกออกมา ดูในสปอยล์ได้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ค่าตั๋วคอนเสิร์ต ค่าเที่ยวเกาหลี ค่าอัลบั้มแล้วก็ค่าจิปาถะ (แท่งไฟ Photobook ตุ๊กตา แล้วแต่ว่าจะโดนหลอกขายอะไร 5555 ) ค่ะ
ชอบ 2 วงก็ใช้เงินเป็น 2 เท่าเลยทีเดียว


ค่าตั๋วคอนเสิร์ต 2 วง รวมกัน 3 วันก็ประมาณ 17,500 บาทต่อปี (คิดจากราคาบัตรแพงที่สุด)
ค่าเที่ยวเกาหลี (เราไปทุกปี ส่วนใหญ่คือไปดูคอนเสิร์ตแล้วก็เที่ยวต่อด้วย) ประมาณ 40,000 บาทต่อปี
ค่าอัลบั้ม เราจะซื้อแค่อัลบั้มเดียวเท่านั้นต่อวงค่ะ (บางวงจะมีหลายปกหลายเวอร์ชั่นให้ได้ซื้อกัน) อัลบั้มละประมาณ 5-600 บาทรวมค่าจัดส่ง ตีราคาไว้ที่ 1200 บาท
ส่วนค่าจิปาถะ เราตีไว้ที่ 5,000 บาทค่ะ
โดยรวมต่อปีก็ตกประมาณะมาณ 65,000 บาทต่อปีค่ะ
เราทำอย่างนี้มา 7 ปี แล้วค่ะ มีเงินเก็บประมาณ 2 ล้านกว่าๆ (จากทั้งออม ทั้งลงทุน ทั้งโบนัส)
เคล็ดลับเราง่ายนิดเดียว คือ
สร้างวินัยการเงินออม วางแผนล่วงหน้า และหาให้ได้มากกว่าจ่าย
สร้างวินัยการออม >> เงินดือน งานฟรีแลนซ์เข้าปุ๊บตัดเข้าบัญชีออม พอร์ตหุ้นและกองทุนต่างๆปั๊บ เพราะถ้าขืนทิ้งไว้ในบัญชีนานๆ มีสิทธิ์เอาไปใช้แน่นอน
วางแผนล่วงหน้า >> เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้วว่าผู้ชายของเราจะมาเยี่ยมเยียนถึงเมืองไทย ปีละ 1 ครั้ง (เป็นอย่างต่ำ) ก็เป็นการทำให้เราวางแผนล่วงหน้าได้ค่ะว่าเราต้องเก็บเงินเท่าไหร่ต่อปี (สำหรับน้องๆ ที่ยังเรียน เราก็หยอดกระปุกทุกวันคำนวณไปเรื่อยๆ ว่าเราต้องเก็บเงินวันละกี่บาทถึงจะพอ) ที่สำคัญอย่าชะล่าใจ รอให้เขาประกาศแล้วค่อยเก็บ เพราะบางทีประกาศก่อนคอนฯเริ่มแค่เดือนเดียวหลายคนจะเก็บไม่ทันกันเลย เราเคยเป็นมาก่อน ขอบอกว่าเข้าใจสุดๆ เคยสั้นสุดๆ ก็ 3 วัน จบคอนฯในญี่ปุ่นประกาศคอนเสิร์ตรอบต่อไปเลย ผมนี่แทบจะลุกขึ้นขูดต้นไม้ขอหวยเลยทีเดียว
หาให้ได้มากกว่าจ่าย >> เราเป็นติ่งเรารายจ่ายเยอะ เมื่อรู้ตัวเอง ก็หารายได้ให้เพิ่มดีกว่า อย่างตอนสมัยเรียนเราก็หาของไปขาย พอปัจจุบันทำงานก็มีทั้งขายของด้วยและรับงานฟรีแลนซ์ด้วย รายได้ก็เข้ามาเพียงพอให้เราทั้งออมทั้งติ่งไปด้วยกันนั่นเองค่ะ
ในตอนนี้เราพยายามจะลดเงินในส่วนติ่งลดลงค่ะ เพราะกำลังวางแผนอนาคตถึงเรื่องงานแต่งงานแล้วก็ที่ไกลกว่านั้นก็คงเรื่องลูกคงใช้เงนเลี้ยงดูผู้ชายในโปสเตอร์ได้น้อยลงกว่าเดิม 555 แต่ก็ยังสนับสนุนอยู่นะคะ ถือเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันกำลังใจของเราในแต่ละวันด้วย
และนี่เป็นวิธีการออมของติ่งอย่างเราเอง อาจจะดูธรรมดาแต่ก็อยากจะบอกเล่าสู่กันฟังนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
ออมเงินวิถีมนุษย์เงินเดือนติ่งเกาหลี ติ่งได้มีเงินเก็บด้วย!
เลยเอามาบอกเล่าให้ฟังว่ากันว่า เราติ่งผู้ชายเก่งเหมือนเดิมที่เพิ่มเติมคือเงินเก็บก็เอาอยู่ค่ะ
(อันนี้อิงจากรายได้ปัจจุบันนะคะ ก่อนหน้านี้เงินเดือนน้อยกว่านี้ แต่เรามีขายของและหารับฟรีแลนซ์เพิ่มอยู่เรื่อยๆ )
เรามีเงินเดือนๆ ละ 25,000 บาทค่ะ แล้วก็มีงานฟรีแลนซ์ที่รับประจำทุกเดือนเฉลี่ยเดือนละ 10,000 บาท เราจะแบ่งเงินเป็นส่วนๆ ดังนี้ค่ะ
- ค่าใช้จ่ายในบ้าน (ค่าน้ำค่าไฟค่าอินเตอร์เน็ต) และเงินให้คุณแม่ เดือนละ 10,000 บาท
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว (กิน//เดินทาง//เที่ยว//บัตรเครดิต) 10,000 บาท
- ค่าใช้จ่ายติ่ง 6,000 บาท
- เงินออมสำหรับอนาคต 9,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีส่วนเงินเพิ่มมากกว่านั้นแบบไม่แน่นอน เช่นโบนัส(ส่วนใหญ่ก็ประมาณ 3-5 เดือน) ,งานฟรีแลนซ์เพิ่มเติม (ได้มาเป็นก้อนใหญ่ๆ(มีตั้งแต่สองหมื่นต้นๆ สองสามเดือนครั้ง - ห้าหมื่นที่ปีนึงมาแค่ครั้งหรือสองครั้ง) เราจะแบ่งเป็นสามส่วนค่ะ คือให้คุณแม่ เงินออมเพื่ออนาคต และส่วนติ่งเราจะเติมลงไปเยอะสุดแค่หนึ่งหมื่นบาทค่ะ
อย่างแรกที่เราทำทันทีที่ได้เงินเดือนมาเลยคือเราจะเอาเงินที่ได้จ่ายเข้าส่วนต่างๆ ก่อน โอนเงินค่าใช้จ่ายในบ้านกับบัญชีคุณแม่เข้าบัญชีคุณแม่
เงินสำหรับออมเพื่ออนาคต เราออมลงในพอร์ตหุ้นประมาณ70% โดยปรึกษาแฟนเราที่เขาลงทุนอยู่แล้วบวกกับเราศึกษาข้อมูลเองด้วย ที่เหลืออีก 30% ก็เอาเข้ากองทุน LTF แบบ DCA เอาทุกๆ เดือนค่ะ
เงินค่าใช้จ่ายสำหรับติ่ง อันนี้เราออมใน Me by TMB ค่ะ เพราะ เราคิดว่ามันต้องถอนมาโอนอยู่เรื่อยๆ จะเข้าไว้ในพอร์ตก็ไม่สะดวก เลยไว้ใน ME (เพราะของออกทั้งปี TvT แล้วก็ดอกเบี้ยเยอะกว่าที่อื่น บางทีดอกเบี้ยเอามาซื้อของจุกจิกได้อีกเยอะเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลายคนอาจสงสัยว่าค่าใช้จ่ายติ่งเยอะแค่ไหน ถึงเอามาเป็นเงินเก็บแยกออกมา ดูในสปอยล์ได้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราทำอย่างนี้มา 7 ปี แล้วค่ะ มีเงินเก็บประมาณ 2 ล้านกว่าๆ (จากทั้งออม ทั้งลงทุน ทั้งโบนัส)
เคล็ดลับเราง่ายนิดเดียว คือ สร้างวินัยการเงินออม วางแผนล่วงหน้า และหาให้ได้มากกว่าจ่าย
สร้างวินัยการออม >> เงินดือน งานฟรีแลนซ์เข้าปุ๊บตัดเข้าบัญชีออม พอร์ตหุ้นและกองทุนต่างๆปั๊บ เพราะถ้าขืนทิ้งไว้ในบัญชีนานๆ มีสิทธิ์เอาไปใช้แน่นอน
วางแผนล่วงหน้า >> เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้วว่าผู้ชายของเราจะมาเยี่ยมเยียนถึงเมืองไทย ปีละ 1 ครั้ง (เป็นอย่างต่ำ) ก็เป็นการทำให้เราวางแผนล่วงหน้าได้ค่ะว่าเราต้องเก็บเงินเท่าไหร่ต่อปี (สำหรับน้องๆ ที่ยังเรียน เราก็หยอดกระปุกทุกวันคำนวณไปเรื่อยๆ ว่าเราต้องเก็บเงินวันละกี่บาทถึงจะพอ) ที่สำคัญอย่าชะล่าใจ รอให้เขาประกาศแล้วค่อยเก็บ เพราะบางทีประกาศก่อนคอนฯเริ่มแค่เดือนเดียวหลายคนจะเก็บไม่ทันกันเลย เราเคยเป็นมาก่อน ขอบอกว่าเข้าใจสุดๆ เคยสั้นสุดๆ ก็ 3 วัน จบคอนฯในญี่ปุ่นประกาศคอนเสิร์ตรอบต่อไปเลย ผมนี่แทบจะลุกขึ้นขูดต้นไม้ขอหวยเลยทีเดียว
หาให้ได้มากกว่าจ่าย >> เราเป็นติ่งเรารายจ่ายเยอะ เมื่อรู้ตัวเอง ก็หารายได้ให้เพิ่มดีกว่า อย่างตอนสมัยเรียนเราก็หาของไปขาย พอปัจจุบันทำงานก็มีทั้งขายของด้วยและรับงานฟรีแลนซ์ด้วย รายได้ก็เข้ามาเพียงพอให้เราทั้งออมทั้งติ่งไปด้วยกันนั่นเองค่ะ
ในตอนนี้เราพยายามจะลดเงินในส่วนติ่งลดลงค่ะ เพราะกำลังวางแผนอนาคตถึงเรื่องงานแต่งงานแล้วก็ที่ไกลกว่านั้นก็คงเรื่องลูกคงใช้เงนเลี้ยงดูผู้ชายในโปสเตอร์ได้น้อยลงกว่าเดิม 555 แต่ก็ยังสนับสนุนอยู่นะคะ ถือเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันกำลังใจของเราในแต่ละวันด้วย
และนี่เป็นวิธีการออมของติ่งอย่างเราเอง อาจจะดูธรรมดาแต่ก็อยากจะบอกเล่าสู่กันฟังนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ