พบเสียงผิดปกติห้องนักบินรัสเซีย

สื่อรัสเซียเผยข้อมูลจากกล่องดำเครื่องบินโดยสารรัสเซียแสดงถึงเสียงที่ไม่ปกติในห้องนักบินก่อนเกิดเหตุที่ทำให้ลำตัวเครื่องบินแยกออกเป็นเสี่ยงกลางอากาศ




                      สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ แห่งรัสเซีย รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในกรุงไคโร เมืองหลวงของอียิปต์ ต่อเหตุเครื่องบินโดยสารรุ่น เอ 321 สายการบินโคกาลิมาเวีย หรือ เมโทรเจ็ต แตกเป็นเสี่ยงๆ กลางอากาศก่อนตกลงทางตอนเหนือของคาบสมุทรไซนาย ประเทศอียิปต์ เมื่อรุ่งเช้าวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม ว่าจากการตรวจสอบบันทึกเสียงในห้องนักบินที่บรรจุอยู่ในกล่องดำของเครื่องบิน พบเสียงที่ไม่ปกติสำหรับการบินทั่วไป

                      บันทึกเสียงจากกล่องดำยังแสดงด้วยว่า หลังจากที่นักบินสนทนากับลูกเรือตามมาตรฐานการปฏิบัติการแล้วนั้นก็เกิดเสียงที่ไม่ปกติ ที่ไม่ปรากฏในการทำการบินตามมาตรฐานก่อนที่จะถึงช่วงเวลาที่เครื่องบินจะสูญหายไปจากการติดต่อทุกรูปแบบ

                      ในเวลานี้ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินแตกกระจายกลางอากาศส่งเศษชิ้นส่วนกระจายกว้างในรัศมี 20 กิโลเมตรบนพื้นดิน โดยมีการตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะเกิดจากความผิดปกติภายในตัวเครื่อง หรือเกิดการระเบิดบนเครื่องบิน หรือถูกแรงกระทำจากภายนอก

                      เที่ยวบินจากเมืองตากอากาศชาร์มเอลเชคประสบเหตุตก หลังทะยานขึ้นเพื่อมุ่งหน้าไปยังนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเพียง 23 นาที เป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตทั้งลำ 224 คน




                      อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ (2 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐอเมริกาเปิดเผยต่อสำนักข่าวเอ็นบีซีว่า ดาวเทียมของสหรัฐอเมริกาตรวจจับ “คลื่นความร้อนวาบ” ในบริเวณและเวลาที่เครื่องบินรัสเซียตก

                      นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่อเมริกันยังเปิดเผยด้วยว่า ก่อนที่จะปรากฏคลื่นความร้อนวาบขึ้นมานั้นไม่มีร่องรอยของเส้นความร้อนขึ้นมาจากทางด้านล่าง ซึ่งแสดงว่าเครื่องบินโดยสารของสายการบินเมโทรเจ็ตไม่ได้ถูกจรวดมิสไซล์ต่อสู้อากาศยานยิงเข้าใส่ เจ้าหน้าที่อเมริกันรายนี้ยังย้ำด้วยว่า ประเด็นที่ว่าเครื่องบินโดยสารรัสเซียถูกจรวดยิงใส่นั้นตัดออกไปได้

                      ทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่า มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะเกิดระเบิดภายในเครื่องบิน แต่ภาพดาวเทียมก็ไม่สามารถบอกได้ว่าการระเบิดเกิดขึ้นจากถังเชื้อเพลิงหรือจากอุปกรณ์ระเบิดที่ถูกลักลอบนำขึ้นบนเครื่องบิน

                      ขณะที่ประธานาธิบดีอับดุล ฟัตตาห์ อัล-ซีซี แห่งอียิปต์ เปิดเผยต่อสำนักข่าวบีบีซี อียิปต์ ว่าการแสดงความรับผิดชอบของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่อ้างว่ายิงเครื่องบินรัสเซียลำนี้ตกนั้นเป็นเรื่องโฆษณาชวนเชื่อ และย้ำด้วยว่า บริเวณแหลมไซนายนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลอียิปต์อย่างเต็มที่

                      ส่วนสถานทูตสหรัฐอเมริกาในกรุงไคโร ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังแหลมไซนายเพื่อเป็นการระวังป้องกันเหตุร้าย จนกว่าจะมีคำสั่งอื่นเปลี่ยนแปลง

                      เมื่อช่วงเช้าวันอังคาร เจ้าหน้าที่ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เปิดเผยว่า สามารถระบุชื่อเหยื่อ 9 ราย จากเหตุเครื่องบินตกและแจ้งต่อครอบครัวของเหยื่อทั้ง 9 รายแล้ว ขณะที่นายอิกอร์ อัลบิน รองผู้ว่าการนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ระบุว่า กระบวนการระบุตัวตนของเหยื่ออาจจะใช้เวลานานหลายสัปดาห์

http://www.komchadluek.net/mobile/detail/20151103/216313.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่