ขอกราบไหว้พระรัตนตรัยด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง
----------------------
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
รตนสูตรที่ ๑
(บางส่วน)
บางส่วนจากอรรถกถา
ดังได้สดับมา ในอดีตกาล อุปัทวะทั้งหลายมีทุพภิกขภัยเป็นต้นเกิดขึ้นแล้วในเมืองเวสาลี
เจ้าลิจฉวีทั้งหลายได้เสด็จไปยังเมืองราชคฤห์ ทูลขอนำพระผู้มีพระภาคเจ้ามายังเมืองเวสาลี เพื่อให้ภัยเหล่านั้นสงบ.
พระผู้มีพระภาคเจ้าซึ่งเจ้าลิจฉวีทรงนิมนต์มาแล้วอย่างนี้ ได้ตรัสพระสูตรนี้ (รตนสูตร) เพื่อให้อุปัทวะทั้งหลายเหล่านั้นสงบ.
ในวันที่พระผู้มีพระภาคเจ้ายังเสด็จไม่ถึงเมืองเวสาลีนั้นแล ท่านพระอานนท์ได้เรียนรตนสูตรนี้ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้
เพื่อกำจัดอุปัทวะเหล่านั้นที่ประตูพระนครเวสาลี สวดอยู่เพื่อป้องกัน ใช้บาตรของพระผู้มีพระภาคเจ้าตักน้ำ เที่ยวประพรมอยู่ทั่วพระนคร
☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆
สัจวาจาของพระองคุลิมาล
วันหนึ่ง ท่านพระองคุลิมาลเข้าไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน เห็นหญิงท้องแก่คนหนึ่งคลอดลูกไม่ออก เกิดความสงสารใคร่จะช่วย
เมื่อกลับจากบิณฑบาตแล้วได้เข้าไปเฝ้าพระพุทธองค์ กราบทูลเรื่องนั้นให้ทรงทราบ
พระพุทธองค์จึงตรัสบอกมนต์คลอดลูกง่ายให้บทหนึ่ง ท่านเรียนมนต์นั้นแล้วกลับเข้าไปช่วยหญิงคนนั้นทำให้คลอดลูกง่าย
เหมือนเทน้ำจากกระบอกกรองน้ำ
มนต์บทนั้นภายหลังเรียกกันว่า
อังคุลิมาลปริตร มีข้อความว่า
ยโตหํ ภคินิ อริยาย ชาติยา ชาโต,
นาภิชนามิ สญฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปตา,
เตน สจฺเจน โสตฺถิ เต โหตุ โสตฺถิ คพฺภสฺส.
ดูก่อนน้องหญิง ตั้งแต่เราเกิดโดยอริยชาติ
เราไม่เคยรู้จักที่จะจงใจปลงชีวิตสัตว์เลย
ด้วยสัจวาจานั้น ขอความสวัสดีจงมีแก่เธอ
ขอความสวัสดีจงมีแก่ครรภ์ของเธอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พระองคุลิมาลโปรดหญิงมีครรภ์
[๕๓๑] พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า ดูกรองคุลิมาล ถ้าอย่างนั้น เธอจงเข้าไปหาสตรีนั้น
และกล่าวกะสตรีนั้นอย่างนี้ว่า ดูกรน้องหญิง ตั้งแต่เราเกิดมาแล้วจะได้รู้สึกว่าแกล้งปลงสัตว์
จากชีวิตหามิได้ ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ขอความสวัสดีจงมีแก่ครรภ์
ของท่านเถิด.
ท่านพระองคุลิมาลกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็อาการนั้นจักเป็นอันข้าพระองค์
กล่าวเท็จทั้งรู้อยู่เป็นแน่ เพราะข้าพระองค์แกล้งปลงสัตว์เสียจากชีวิตเป็นอันมาก.
ภ. ดูกรองคุลิมาล ถ้าอย่างนั้น เธอจงเข้าไปหาสตรีนั้น แล้วกล่าวกะสตรีนั้น
อย่างนี้ว่า ดูกรน้องหญิง ตั้งแต่เราเกิดแล้วในอริยชาติ จะได้รู้สึกว่าแกล้งปลงสัตว์เสียจาก
ชีวิตหามิได้ ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ขอความสวัสดีจงมีแก่ครรภ์ของ
ท่านเถิด.
พระองคุลิมาลทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว เข้าไปหาหญิงนั้นถึงที่อยู่ ครั้นแล้วได้กล่าว
กะหญิงนั้นอย่างนี้ว่า ดูกรน้องหญิง ตั้งแต่เวลาที่ฉันเกิดแล้วในอริยชาติ จะแกล้งปลงสัตว์
จากชีวิตทั้งรู้หามิได้ ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ขอความสวัสดีจงมีแก่ครรภ์
ของท่านเถิด.
ครั้งนั้น ความสวัสดีได้มีแก่หญิง ความสวัสดีได้มีแก่ครรภ์ของหญิงแล้ว.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=13&A=8237&Z=8451
.
พระโพธิสัตว์ทำสัจจกิริยา
พระโพธิสัตว์เกิดเป็นลูกนก ถูกไฟป่าไหม้ ท่านไม่เห็นคุณอย่างอื่น จึงระลึกถึงพระคุณทั้งหลายของพระพุทธเจ้าทั้งหลายผู้ปรินิพพานไปแล้วในอดีต แล้วปรารภสภาวะคือสัจจะซึ่งมีอยู่ในตนว่า
คุณแห่งศีลมีอยู่ในโลก ความสัตย์ ความสะอาด และความเอ็นดู มีอยู่ในโลก
ด้วยความสัจนั้น ข้าพเจ้าจักทำสัจกิริยาอันยอดเยี่ยม ข้าพเจ้าพิจารณากำลังแห่งธรรม
ระลึกถึงพระชินเจ้าทั้งหลายในปางก่อน อาศัยกำลังสัจจะ ขอทำสัจกิริยา.
แล้วทำสัจจกิริยา คือการกล่าวความจริงด้วยคาถาว่า
ปีกของเรามีอยู่ แต่บินไปไม่ได้
เท้าของเรามีอยู่ แต่ยังเดินไม่ได้
มารดาบิดาก็พากันบินออกไปแล้ว
แน่ะไฟ จงกลับไปเถิด.
ซึ่งพร้อมกับกล่าวจบ ไฟก็ไม่ลามมาถึงพระโพธิสัตว์ หยุดอยู่ตรงนั้นนั่นเอง ด้วยคุณคือ การกล่าวความจริง
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=27&A=236&Z=240
.. คุณของพระรัตนตรัย .. คุณของสัจจะ ..
----------------------
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
รตนสูตรที่ ๑
(บางส่วน)
ขอหมู่ภูตทั้งปวงจงเป็นผู้มีใจดี และขอจงฟังภาษิตโดยเคารพ
ดูกรภูตทั้งปวง เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายจงตั้งใจฟัง ขอจงแผ่เมตตาจิตในหมู่มนุษย์
มนุษย์เหล่าใดนำพลีกรรมไปทั้งกลางคืนกลางวัน
เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ไม่ประมาท รักษามนุษย์เหล่านั้น
ทรัพย์เครื่องปลื้มใจอย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้หรือในโลกอื่น หรือรัตนะใดอันประณีตในสวรรค์
ทรัพย์และรัตนะนั้นเสมอด้วยพระตถาคตไม่มีเลย
พุทธรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต
ด้วยสัจจะวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้
พระศากยมุนีผู้มีพระหฤทัยดำรงมั่น ได้บรรลุธรรมใดอันเป็นที่สิ้นกิเลส เป็นที่สำรอกกิเลส
เป็นอมฤตธรรมอันประณีต ธรรมชาติอะไรๆ อันสมควรด้วยพระธรรมนั้นย่อมไม่มี
ธรรมรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต
ด้วยสัจจวาจานี้ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้
พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ทรงสรรเสริญแล้วซึ่งสมาธิใด ว่าเป็นธรรมอันสะอาด
บัณฑิตทั้งหลายกล่าวสมาธิใด ว่าให้ผลในลำดับสมาธิอื่น เสมอด้วยสมาธินั้นย่อมไม่มี
ธรรมรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต
ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดี จงมีแก่สัตว์เหล่านี้
บุคคล ๘ จำพวก ๔ คู่ อันสัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญแล้ว
บุคคลเหล่านั้นควรแก่ทักษิณาทาน เป็นสาวกของพระสุคต
ทานที่บุคคลถวายแล้วในท่านเหล่านั้นย่อมมีผลมาก
สังฆรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต
ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๗๖๖๓ - ๗๗๔๖. หน้าที่ ๓๓๖ - ๓๓๙.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=7663&Z=7746&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=314
ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลี อักษรไทย ได้ที่ :-
[314] http://budsir.mahidol.ac.th/cgi-bin/Budsir.cgi/SearchItem?mode=1&valume=25&item=314&Roman=0
ดังได้สดับมา ในอดีตกาล อุปัทวะทั้งหลายมีทุพภิกขภัยเป็นต้นเกิดขึ้นแล้วในเมืองเวสาลี
เจ้าลิจฉวีทั้งหลายได้เสด็จไปยังเมืองราชคฤห์ ทูลขอนำพระผู้มีพระภาคเจ้ามายังเมืองเวสาลี เพื่อให้ภัยเหล่านั้นสงบ.
พระผู้มีพระภาคเจ้าซึ่งเจ้าลิจฉวีทรงนิมนต์มาแล้วอย่างนี้ ได้ตรัสพระสูตรนี้ (รตนสูตร) เพื่อให้อุปัทวะทั้งหลายเหล่านั้นสงบ.
ในวันที่พระผู้มีพระภาคเจ้ายังเสด็จไม่ถึงเมืองเวสาลีนั้นแล ท่านพระอานนท์ได้เรียนรตนสูตรนี้ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้
เพื่อกำจัดอุปัทวะเหล่านั้นที่ประตูพระนครเวสาลี สวดอยู่เพื่อป้องกัน ใช้บาตรของพระผู้มีพระภาคเจ้าตักน้ำ เที่ยวประพรมอยู่ทั่วพระนคร
สัจวาจาของพระองคุลิมาล
วันหนึ่ง ท่านพระองคุลิมาลเข้าไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน เห็นหญิงท้องแก่คนหนึ่งคลอดลูกไม่ออก เกิดความสงสารใคร่จะช่วย
เมื่อกลับจากบิณฑบาตแล้วได้เข้าไปเฝ้าพระพุทธองค์ กราบทูลเรื่องนั้นให้ทรงทราบ
พระพุทธองค์จึงตรัสบอกมนต์คลอดลูกง่ายให้บทหนึ่ง ท่านเรียนมนต์นั้นแล้วกลับเข้าไปช่วยหญิงคนนั้นทำให้คลอดลูกง่าย
เหมือนเทน้ำจากกระบอกกรองน้ำ
มนต์บทนั้นภายหลังเรียกกันว่า อังคุลิมาลปริตร มีข้อความว่า
ยโตหํ ภคินิ อริยาย ชาติยา ชาโต,
นาภิชนามิ สญฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปตา,
เตน สจฺเจน โสตฺถิ เต โหตุ โสตฺถิ คพฺภสฺส.
ดูก่อนน้องหญิง ตั้งแต่เราเกิดโดยอริยชาติ
เราไม่เคยรู้จักที่จะจงใจปลงชีวิตสัตว์เลย
ด้วยสัจวาจานั้น ขอความสวัสดีจงมีแก่เธอ
ขอความสวัสดีจงมีแก่ครรภ์ของเธอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=13&A=8237&Z=8451
.
พระโพธิสัตว์ทำสัจจกิริยา
พระโพธิสัตว์เกิดเป็นลูกนก ถูกไฟป่าไหม้ ท่านไม่เห็นคุณอย่างอื่น จึงระลึกถึงพระคุณทั้งหลายของพระพุทธเจ้าทั้งหลายผู้ปรินิพพานไปแล้วในอดีต แล้วปรารภสภาวะคือสัจจะซึ่งมีอยู่ในตนว่า
คุณแห่งศีลมีอยู่ในโลก ความสัตย์ ความสะอาด และความเอ็นดู มีอยู่ในโลก
ด้วยความสัจนั้น ข้าพเจ้าจักทำสัจกิริยาอันยอดเยี่ยม ข้าพเจ้าพิจารณากำลังแห่งธรรม
ระลึกถึงพระชินเจ้าทั้งหลายในปางก่อน อาศัยกำลังสัจจะ ขอทำสัจกิริยา.
แล้วทำสัจจกิริยา คือการกล่าวความจริงด้วยคาถาว่า
ปีกของเรามีอยู่ แต่บินไปไม่ได้
เท้าของเรามีอยู่ แต่ยังเดินไม่ได้
มารดาบิดาก็พากันบินออกไปแล้ว
แน่ะไฟ จงกลับไปเถิด.
ซึ่งพร้อมกับกล่าวจบ ไฟก็ไม่ลามมาถึงพระโพธิสัตว์ หยุดอยู่ตรงนั้นนั่นเอง ด้วยคุณคือ การกล่าวความจริง
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=27&A=236&Z=240