คำนำ : "เที่ยวไปกินไป by laser @ สัตหีบ : 1 แบกลังเบิกเรือไปตกหมึก"
เป็นตอนที่สองต่อจาก "เที่ยวไปกินไป by laser @ ห่านท่าดินแดง ลาดพร้าว 35/1"
http://pantip.com/topic/34390309
คำเตือน : ภาพและบทความ มีลิขสิทธิ์คุ้มครอง
ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดี ทั้งทางแพ่งและทางอาญา โดยไม่มีการยอมความ
วันศุกร์ที่ 30-10-15 หลังจากรวมพล 9 คนรถ 2 คัน ที่แยกจากมอเตอร์เวย์ไประยอง-สัตหีบ
แล้วขับตามกันไปจนถึงท่าเทียบเรือห้องเย็น หลังวัดหลวงพ่ออี๋ ก่อนทุ่มครึ่งเล็กน้อย
มองไปเห็นทางเข้าฐานทัพเรือสัตหีบ ที่เคยพาลัคกี้ไปเดินเล่นที่หาดเตยงาม
"เที่ยวไปกินไป @ สัตหีบ : พาลัคกี้ไปเห่าเครื่องบิน"
http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2010/07/D9440945/D9440945.html
มาถึงครึ่งชั่วโมงก่อนเวลานัดออกเรือไปตกหมึกตอนสองทุ่ม
จัดการรวบรวมของที่จะเอาขึ้นเรือ
ทางใต้ก๋งเรือ(ไต๋)เตรียมปลาไว้ให้หนึ่งลังโฟม
ตัวกลมๆยาวๆปากเหมือนปลาเข็ม คือ ปลาเต็กเล้ง ซึ่งเป็นปลาในวงศ์ปลากระทุงเหว
คนเรือบอกกินดิบเหม็นเขียว แต่ที่อ่านมา มีคนแล่เนื้อกินแบบปลาดิบ โดยจิ้มแค่น้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดๆ
ส่วนปลาจุดดำ คือ ปลาเก๋าตุ๊กแก
ส่วนเจ้าตัวเล็กผิวส้มจุดฟ้า คือ ปลากุสลาด
ยังมีปลาช่อนทะเลขนาด 8 กิโลฯ แต่แช่ลังน้ำแข็งอยู่บนเรือแล้ว
ซื้อเสบียงที่ยังขาดและเพิ่มเติมที่ร้านสวัสดิการกิจการห้องเย็น
มีของให้ซื้อมากมายเหมือนซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่
19.35 น.เริ่มทยอยเดินไปขึ้นเรือ
เรือจอดเตรียมพร้อมอยู่ที่ปลายท่า เป็นเรือไดหมึกความยาวประมาณ 10 เมตร
รับผู้โดยสารได้เต็มที่ 20 คน ชั้นสองมีฟูกปูนอน มีเพื่อนมาสมทบอีกสี่คน
ขึ้นเรือดื่มน้ำแก้กระหาย
สองทุ่มเริ่มออกเรือ ออกเรือไปครู่เดียว นึกขึ้นได้ว่าลืมเอาเตาถ่านมา
จึงต้องย้อนกลับมาที่ท่าเรืออีกครั้ง
ท่าเรือเปิดไฟสีเขียว ซึ่งเป็นไฟที่ล่อหมึกให้เข้ามาหา
มีคนเตรียมเบ็ดเพื่อตกหมึกที่ท่าเรือกันหลายคน
ออกเรืออีกครั้ง เด็ดกะเพราเตรียมไว้ สำหรับเนื้อปลาช่อนทะเลผัดกะเพรา
เพื่อนร่วมเดินทาง ล้วนมาจากห้องก้นครัว
เช่น กิฟท์ ซึ่งเคยสร้างประวัติศาสตร์ เข้าแถวเพื่อเป็นลูกค้าคนแรก
ของร้าน Krispy Kreme สาขาแรกที่สยามพาราก้อน จนได้กินโดนัทฟรี 1 ปี
วันนี้มาในมาด Pirate of Doraemon เพราะโพกหัวเหมือนโจรสลัด
และเสื้อกั๊กที่ใส่อยู่นั้น เหมือนกระเป๋าของโดราเอม่อน ที่มีของมากมาย
เช่น มีดแล่ปลา ถุงมือ วาซาบิ ถ้วยดื่มเบียร์ ฯลฯ
กอล์ฟ หนุ่มอารมณ์ดี
เจ้าของวลี"กินที่แปลก แ ด ร ก ที่ใหม่" กับปลาช่อนทะเลขนาด 8 กิโลฯ
"พบรักเธอเมื่อสายไป จึงจำใจต้องกินเธอ"
จัดการส่งไปท้ายเรือ
เรือทอดสมอหลังออกจากฝั่ง 20 นาที
คนเรือจัดการขอดเกล็ดปลาช่อนทะเลจนเกลี้ยง
ก่อนที่อีกคนจะเลาะเนื้อข้างลำตัวตามแนวกระดูก
ชิ้นแรกสำหรับทำซาซิมิ
แล่หนังออกจากเนื้อ ล้างน้ำสะอาด
แบ่งครึ่งหั่นยาวเป็นแท่งสองเส้น
จากนั้นแล่เป็นชิ้นเล็กพอคำ
จัดใส่จาน
เนื้อกรอบไม่คาว เสียดายไม่มีหัวผักกาดซอย
เรือกางปีกติดไฟสป็อตไลท์ และไฟสีเขียวเพื่อล่อหมึกให้เข้ามาใกล้
ซีกับเปรมเริ่มตกหมึก
มือขึ้นตกขึ้นมาได้เรื่อยๆ
ขนาดไล่เลี่ยกัน เป็นหมึกกล้วยยาวประมาณ 10 นิ้ว
ลูกเรือจัดการแล่หมึก
ได้หมึกกระดองมา 1 ตัว
เนื้อต่างจากหมึกตามร้านอาหารญี่ปุ่นที่เนื้อหนา
แค่หมึกกล้วยสดๆเนื้อบาง และกรอบไปทางแข็ง
[CR] เที่ยวไปกินไป by laser @ สัตหีบ : 1 แบกลังเบิกเรือไปตกหมึก
เป็นตอนที่สองต่อจาก "เที่ยวไปกินไป by laser @ ห่านท่าดินแดง ลาดพร้าว 35/1"
http://pantip.com/topic/34390309
คำเตือน : ภาพและบทความ มีลิขสิทธิ์คุ้มครอง
ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดี ทั้งทางแพ่งและทางอาญา โดยไม่มีการยอมความ
วันศุกร์ที่ 30-10-15 หลังจากรวมพล 9 คนรถ 2 คัน ที่แยกจากมอเตอร์เวย์ไประยอง-สัตหีบ
แล้วขับตามกันไปจนถึงท่าเทียบเรือห้องเย็น หลังวัดหลวงพ่ออี๋ ก่อนทุ่มครึ่งเล็กน้อย
มองไปเห็นทางเข้าฐานทัพเรือสัตหีบ ที่เคยพาลัคกี้ไปเดินเล่นที่หาดเตยงาม
"เที่ยวไปกินไป @ สัตหีบ : พาลัคกี้ไปเห่าเครื่องบิน"
http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2010/07/D9440945/D9440945.html
มาถึงครึ่งชั่วโมงก่อนเวลานัดออกเรือไปตกหมึกตอนสองทุ่ม
จัดการรวบรวมของที่จะเอาขึ้นเรือ
ทางใต้ก๋งเรือ(ไต๋)เตรียมปลาไว้ให้หนึ่งลังโฟม
ตัวกลมๆยาวๆปากเหมือนปลาเข็ม คือ ปลาเต็กเล้ง ซึ่งเป็นปลาในวงศ์ปลากระทุงเหว
คนเรือบอกกินดิบเหม็นเขียว แต่ที่อ่านมา มีคนแล่เนื้อกินแบบปลาดิบ โดยจิ้มแค่น้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดๆ
ส่วนปลาจุดดำ คือ ปลาเก๋าตุ๊กแก
ส่วนเจ้าตัวเล็กผิวส้มจุดฟ้า คือ ปลากุสลาด
ยังมีปลาช่อนทะเลขนาด 8 กิโลฯ แต่แช่ลังน้ำแข็งอยู่บนเรือแล้ว
ซื้อเสบียงที่ยังขาดและเพิ่มเติมที่ร้านสวัสดิการกิจการห้องเย็น
มีของให้ซื้อมากมายเหมือนซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่
19.35 น.เริ่มทยอยเดินไปขึ้นเรือ
เรือจอดเตรียมพร้อมอยู่ที่ปลายท่า เป็นเรือไดหมึกความยาวประมาณ 10 เมตร
รับผู้โดยสารได้เต็มที่ 20 คน ชั้นสองมีฟูกปูนอน มีเพื่อนมาสมทบอีกสี่คน
ขึ้นเรือดื่มน้ำแก้กระหาย
สองทุ่มเริ่มออกเรือ ออกเรือไปครู่เดียว นึกขึ้นได้ว่าลืมเอาเตาถ่านมา
จึงต้องย้อนกลับมาที่ท่าเรืออีกครั้ง
ท่าเรือเปิดไฟสีเขียว ซึ่งเป็นไฟที่ล่อหมึกให้เข้ามาหา
มีคนเตรียมเบ็ดเพื่อตกหมึกที่ท่าเรือกันหลายคน
ออกเรืออีกครั้ง เด็ดกะเพราเตรียมไว้ สำหรับเนื้อปลาช่อนทะเลผัดกะเพรา
เพื่อนร่วมเดินทาง ล้วนมาจากห้องก้นครัว
เช่น กิฟท์ ซึ่งเคยสร้างประวัติศาสตร์ เข้าแถวเพื่อเป็นลูกค้าคนแรก
ของร้าน Krispy Kreme สาขาแรกที่สยามพาราก้อน จนได้กินโดนัทฟรี 1 ปี
วันนี้มาในมาด Pirate of Doraemon เพราะโพกหัวเหมือนโจรสลัด
และเสื้อกั๊กที่ใส่อยู่นั้น เหมือนกระเป๋าของโดราเอม่อน ที่มีของมากมาย
เช่น มีดแล่ปลา ถุงมือ วาซาบิ ถ้วยดื่มเบียร์ ฯลฯ
กอล์ฟ หนุ่มอารมณ์ดี
เจ้าของวลี"กินที่แปลก แ ด ร ก ที่ใหม่" กับปลาช่อนทะเลขนาด 8 กิโลฯ
"พบรักเธอเมื่อสายไป จึงจำใจต้องกินเธอ"
จัดการส่งไปท้ายเรือ
เรือทอดสมอหลังออกจากฝั่ง 20 นาที
คนเรือจัดการขอดเกล็ดปลาช่อนทะเลจนเกลี้ยง
ก่อนที่อีกคนจะเลาะเนื้อข้างลำตัวตามแนวกระดูก
ชิ้นแรกสำหรับทำซาซิมิ
แล่หนังออกจากเนื้อ ล้างน้ำสะอาด
แบ่งครึ่งหั่นยาวเป็นแท่งสองเส้น
จากนั้นแล่เป็นชิ้นเล็กพอคำ
จัดใส่จาน
เนื้อกรอบไม่คาว เสียดายไม่มีหัวผักกาดซอย
เรือกางปีกติดไฟสป็อตไลท์ และไฟสีเขียวเพื่อล่อหมึกให้เข้ามาใกล้
ซีกับเปรมเริ่มตกหมึก
มือขึ้นตกขึ้นมาได้เรื่อยๆ
ขนาดไล่เลี่ยกัน เป็นหมึกกล้วยยาวประมาณ 10 นิ้ว
ลูกเรือจัดการแล่หมึก
ได้หมึกกระดองมา 1 ตัว
เนื้อต่างจากหมึกตามร้านอาหารญี่ปุ่นที่เนื้อหนา
แค่หมึกกล้วยสดๆเนื้อบาง และกรอบไปทางแข็ง