ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม....มีแต่เสียง 2/11/2015 .../sao..เหลือ..noi

กระทู้คำถาม
***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***

กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี  ไม่มีกลุ่ม.........แต่มีเสียง...................

      
                                                     พลุพลุโอ่ง  MC  sao..เหลือ..noi  รับหน้าที่  พลุพลุโอ่ง


ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ

1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด

2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน

3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกัน
    แล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

                                

วันนี้พี่สาวของ รีวิว ภาพยนตร์เก่า  เมื่อ 10 ปีที่แล้วค่ะ

โหมโรง (ภาพยนตร์)
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โหมโรง
The Overture

โหมโรง (อังกฤษ: The Overture) เป็นภาพยนตร์ไทยในปี พ.ศ. 2547
ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับดนตรีไทย เนื้อเรื่องได้เค้าโครงมาจากประวัติของ
หลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ได้รับรางวัลมากมายในประเทศ
และยังได้รับเลือกในฐานะ Official Selection จากประเทศไทย
ในการเข้าชิงสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมในการประกาศ
รางวัลอะแคเดมีอีกด้วย กำกับโดย อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์
อำนวยการผลิตโดย นนทรีย์ นิมิบุตร และ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล
ภาพยนตร์ทำรายได้ 52.72 ล้านบาท
นำแสดงโดย อนุชิต สพันธุ์พงษ์, อดุลย์ ดุลยรัตน์, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง,
อาระตี ตันมหาพราน, สุเมธ องอาจ, ภูวฤทธิ์ พุ่มพวง และอาจารย์ณรงค์ฤทธิ์
โตสง่า จากวงบอยไทย รับบทเป็น ขุนอิน

ภายหลังดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์ โดยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
เมื่อ พ.ศ. 2555 และเป็นละครเวทีมิวสิคัลโดยเวิร์คพอยท์-โต๊ะกลมโทรทัศน์ แสดงที่
โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ  พ.ศ. 2558

เรื่องย่อ
เหตุการณ์เริ่มขึ้นราวพุทธศักราช 2429 ในประเทศสยาม ศร เด็กหนุ่มที่มีความ
ผูกพันกับดนตรีไทยมาตั้งแต่เกิด ได้รับการถ่ายทอดฝีมือในการตีระนาดเอกจาก
ครูสิน ผู้ซึ่งเป็นทั้งบิดาและครูสอนดนตรีไทย ผู้มีปมในชีวิต หลังการสูญเสียพี่ชาย
ของศรผู้ซึ่งถูกนักเลงระนาดคู่ปรับฆ่า เป็นเหตุให้ครูสินตัดสินใจหยุดการสอน
ดนตรีไทยลง ด้วยคำเตือนสติจากหลวงพ่อ ทำให้ครูสินกลับมาสอนดนตรีไทยอีกครั้ง
เพื่อไม่เป็นการปิดกั้นโอกาสและการพัฒนาพรสวรรค์ในการตีระนาดของศร
ศรจึงได้รับการถ่ายทอดฝีมือตีระนาดจากบิดา และมีทิว เพื่อนสนิทที่คอยช่วยเหลือ
มาตลอดเวลา
ศร กลายเป็นดาวเด่นในเชิงระนาดเมื่อก้าวเข้าสู่วัยหนุ่ม ฝีมือของศรยากหาใคร
ทัดเทียมในอัมพวา หลังจากชนะประชันครั้งแล้วครั้งเล่า ศรจึงเกิดความลำพองใน
ฝีมือของตนเอง จนเมื่อศรเดินทางเข้ามายังบางกอก เขาพ่ายแพ้เป็นครั้งแรกต่อ
ขุนอิน ผู้มีฝีมือการเล่นระนาดในระดับสูง และมีทางระนาดที่ดุดัน ศรกลายเป็นคนที่
สูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเอง แต่เขาก็กลับมามุมานะฝึกปรือฝีมืออีกครั้ง และคิด
ค้นทางระนาดแบบใหม่ที่ไม่ซ้ำใคร จนในที่สุด ศรก็มีชื่อเสียงโด่งดังไปถึงใน
พระราชวัง เขาได้รับการอุปถัมป์ให้เป็นนักดนตรีประจำราชสำนัก และได้พบกับ
แม่โชติ สตรีผู้สูงศักดิ์ที่กลายมาเป็นคู่ชีวิตของศรในเวลาต่อมา
ในที่สุด หลังจากผ่านการบ่มเพาะทั้งฝีมือและจิตใจมาชั่วระยะเวลาหนึ่ง ศรก็สามารถ
มีชัยเหนือขุนอินได้สำเร็จ
ล่วงเข้าสู่วัยชราของศร เขากลายเป็นครูดนตรีอาวุโสที่มีลูกศิษย์มากมาย ขณะที่
บ้านเมืองกำลังเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตก รัฐบาลมีนโยบายปรับปรุงประเทศให้มี
ความทันสมัย และออกระเบียบควบคุมศิลปะแขนงต่างๆ รวมทั้งดนตรีไทย โดยมี
พันโทวีระ นายทหารหนุ่มที่รับหน้าที่ดูแลนโยบายดังกล่าว และต้องมาเผชิญหน้า
กับ ครูศร ผู้ผ่านการแพ้-ชนะมานับครั้งไม่ถ้วนในวัยหนุ่ม และกำลังเข้าสู่บั้นปลาย
ของชีวิตในวันที่ดนตรีไทยถูกคุกคาม

@@@ชวนเพื่อนที่สนใจอ่านต่อตาม  link  ค่ะ@@@

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87_(%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C)

High light ของเรื่องอยู๋ที่การประชันระนาดเอก  ระหว่าง  ขุนอิน กับ ศร

โหมโรง ประชัน
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
https://www.youtube.com/watch?v=e0dqXnyVUNM

ภาพยนตร์ โหมโรง (เพื่อประกอบการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ดนตรี)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
https://www.youtube.com/watch?v=ji2m8MNd-RE

เหตุการณ์ประวัติศาสตร์กับการเปลี่ยนแปลง ทางดนตรีในประเทศไทย
การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองกับงานดนตรี

ใครที่พลาดยังไม่ได้ดู   ดูฉบับเต็มตาม link  ได้ค่ะ
เป็นหนังโรงเรื่องสุดท้ายที่พี่สาวดู  ....  เป็นหนังที่เกือบจะเจ๊ง ...
ถ้าไม่ได้รับการปลุกกระแส จากสื่อ  และ  ปากต่อปาก จากคนที่ไปดูมาแล้ว
วันที่พี่สาวไปดู  หนังลงโรงได้เกือบ 2 สัปดาห์ มีคนดูทั้งโรงประมาณ 30 คน
และเกือบจะต้องลาโรงอยู่แล้ว .... สุดท้ายถ้าจำไม่ผิด  รัฐบาลถึงกับจัด
รอบพิเศษ และ เชิญ ทูตานุทูต  มาชมด้วย
คอหนังบางคน  ก็ติติงว่า  ตัวแสดงขุนอิน  เล่นแข็งเหมือนผีดิบ  บังเอิญ
พี่สาว  ไม่ใช่คอหนังขนาดนั้น  ก็อิน และปลื้มไป  กับดนตรีในหนังค่ะ นานาเยี่ยม
....ไม่ทราบคอหนังแบบ คุณพระรอง  น้องแกงส้ม  ดูหนังเรื่องนี้ไหม ?  ร่วมวิจารณ์ด้วย
ก็ดีนะคะ  เพราะพี่สาว  นาน ๆ  ดูทีค่ะ  เปรียบเทียบไม่ได้ ...ดูหนังเรื่องนี้  ก่อนมี
คำวิจารณ์  ดูเพราะความเป็นคนไทย  .... ชาตินิยม แล้วก็ไปเชิญชวนเพื่อน..เพื่อน
ลูกน้อง คอหนังอีกหลายคนให้ไปดู ไปอุดหนุน หนังไทยดี ๆ ที่นานๆจะมีให้ดู อมยิ้ม04

สาวแว่น
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
เมื่อวานเล่าเรื่องของตัวเองตอนโดนเรียกไปปรับทัศนะคติ แล้วเกิดรู้สึกสงสารลูกเมียในตอนนั้นจับใจ เพราะพวกเขาไม่รู้เลยว่าผัวและพ่อของเขานั้น จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง
6 วันนั้น เหมือนนรกบนดินของผม ซึ่งทำให้ผมเจ็บปวดทรมานทางร่างกาย
แต่ 6 วันนั้น คือนรกในใจสำหรับลูกเมียผม มันทำร้ายหัวใจของผู้หญิงที่ผมรักที่สุดสองคนให้หัวใจแทบแหลกสลาย

เลยขอเลือกที่จะเขียนกลอนบอกเล่าความรู้สึกที่คล้ายกับเนื้อหาของเพลงๆหนึ่ง ซึ่งเป็นเพลงดปรดของครบครัวผมเอง เรา สามคน พ่อแม่ลูกชอบเพลงนี้มาก


Safe & Sound

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



น้ำตาริน ถวิลไห้ ใจจะขาด
เมื่อมิอาจ ประคองคู่ อยู่ไปได้
ต้องจำพราก จากลา ไปแสนไกล
มิอาจใกล้ กลัวภัยร้าย จะถึงเธอ

หลับตาเสีย ที่รัก พักเสียบ้าง
แม้ข้างๆ ในตอนนี้ ไม่มีฉัน
แม้ชีวิต อาจต้องพราก ลาจากกัน
แต่ในฝัน ฉันจะมา ทุกครั้งคราว

หลับเถิดนะ ลูกรัก พักผ่อนก่อน
อย่ารุ่มร้อน อาวรณ์พ่อ นะลูกสาว
ในยามพ่อ มีภัยร้าย กรายรุมเร้า
ฝากให้เจ้า ดูแลแม่ แทนพ่อที

สุดที่รัก ทั้งสอง จงรู้ไว้
ว่าเมื่อใด ที่ภัยร้าย สุดหลีกหนี
ลับเลือนหาย ภัยพ่านพ้น นะคนดี
คนๆนี้ จะกลับไป เพื่อคุ้มครอง


*การเขียนเรื่องราวของครอบครัวตัวของผมเอง เป็นสิ่งดีๆที่สุดในชีวิตการเขียนของผม เพราะเขียนทีไรผมคาดหวังให้คนที่ผมเขียนถึงได้เข้ามาอ่าน และรับรู้สัมผัสได้ ว่าทุกตัวอักษรที่ผมเขียนไปนั้น ผมได้ถ่ายทอดความรักที่ผมมีออกมาจนหมดหัวใจ
ผมรู้ดีว่าภรรยาของผมรับรู้ความรู้สึกของผมมาเสมอ เพราะตอนแรกที่เริ่มสร้างความสัมพันธ์ผมก็ใช้จดหมายนี้แหละเป็นตัวกลางนำความรักของผมไปบอกเธอ(ช่วงนั้นผมยังเป็นครูอาสาอยู่ ส่วนเธอมาออกค่ายพัฒนาเสร็จแล้วก็กลับไปเรียหนังสือต่อ)
ลูกสาวผมนั้นไม่ต้องพูดถึง ผมทั้งปลูกฝังให้ทั้งอ่านทั้งเขียนมาแต่เล็กแต่น้อย ดังนั้นต้องเข้าใจความรู้สึกที่ว่อนอยู่ในข้อความของผมแน่นอน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
วันนี้แจมกระทู้เร็วเลยครับ เพราะเดี๋ยวตอนค่ำติดธุระ
ขอแจมด้วยเพลงเกี่ยวกับความรักและสายน้ำอีกครั้ง

เมื่อเดือนก่อนโน้นเคยเอาเพลง"สายชล"ของคุณ
จันทีย์ อูนางกูล มาลงในกระทู้ห้องเพลงคนรากหญ้า
http://pantip.com/topic/34310404  วันนี้ขอเอา
เพลงของคุณ ทิพย์วรรณ ปิ่นภิบาล มาลงบ้างครับแต่

เพลงนี้ ท่วงทำนองและคำร้อง จะดูออกเศร้าๆมากว่า
เพลงสายชล สักหน่อย

      " ธารสวาท"


โอ้กระแสธารเจ้าเอย           หลั่งเลยไหลมาจากดอย
ผ่านเลยพ้นไม่หยุดคอย      ฉุดใจพลอยให้โศกศัลย์

ดุจคนรักมาพรากไกล         พรากใจรักไปจากกัน
ถ่านความรักจึงดับพลัน      ปล่อยให้ฉันซมเศร้าใจ

โอ้ธารรักธารสวาทที่ฝัน     ฝากใจฉันไปกับธารหลั่งไหล
โปรดนำรักไปมอบเธอเอาไว้      อย่าร้างใจลา

โอ้กระแสธารร่มเย็น          โปรดมองเห็นความต้องการ
มอบความรักอันชื่นบาน     สู่สวรรค์อันรื่นรมย์

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ปลายฤดูฝนแล้วครับ ขอแจมเพลง"ธารสวาท"ด้วยภาพ
จากน้ำตกหลายๆแห่งในประเทศไทยของเรานะครับ   คือ
"สายธารจากน้ำตกธารทิพย์" ที่นครนายก  "น้ำตกแก่งโสภา"
และ "น้ำตกสกุโณทัย" ที่พิษณุโลก และปิดท้ายด้วยน้ำตก
"เจ็ดสาวน้อย" ของสระบุรี ครับ




ความคิดเห็นที่ 7
แวะมาเยี่ยมเยียนครับ

Happy Halloween เมื่อคืน อิๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่