คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
...อันที่จริงมีกฎหมายคุ้มครองไว้อยู่ครับ

แต่.....
เคยมีการฟ้องร้องกันแล้ว ศาลให้ยกฟ้องครับ คัดลอกมาให้อ่านบางส่วน ค่อนข้างยาวขอใส่สปอยล์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันนี้ผู้เสียหายฟ้องเทศบาลนะครับ (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 451/2554)
ผู้ฟ้องคดีได้แจ้งให้เทศบาลแก้ไขและร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ หลายครั้ง เช่น สถานีตารวจ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของจังหวัดโดยอ้างว่าได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากการที่ผู้ร้องสอดเลี้ยงไก่หลายตัว ในเวลากลางคืนไก่จะขันเสียงดังทาให้นอนหลับไม่เพียงพอ ไก่ถ่ายมูลเรี่ยราด ส่งกลิ่นเหม็น เล้าไก่สร้างไม่ถูกลักษณะ มีขนไก่ซึ่งมีไรไก่ติดอยู่ปลิวมาในบ้านทาให้ติดเสื้อผ้าที่ตากไว้และทาให้ผู้ฟ้องคดีและภรรยามีอาการคัน
การเลี้ยงไก่ของผู้ร้องสอดเป็นเหตุราคาญตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 หรือไม่ ?
ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า ตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ให้อานาจราชการส่วนท้องถิ่นออกข้อกาหนดเพื่อประโยชน์ในการรักษาสภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะสมกับการดารงชีพของประชาชนในท้องถิ่นหรือเพื่อป้องกันอันตรายจากเชื้อโรคเกิดจากสัตว์ เทศบาลจึงออกเทศบัญญัติ เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงสัตว์หรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2543 โดยไม่ได้กาหนดให้สัตว์ประเภทไก่เป็นสัตว์ที่ต้องควบคุม การเลี้ยงภายในเขตเทศบาลและเทศบัญญัติ เรื่อง การควบคุมกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 กาหนดให้การเลี้ยงไก่ที่มีจานวนตั้งแต่ 20 ตัวขึ้นไป จึงจะถือเป็นกิจการที่อันตรายต่อสุขภาพที่ต้องขออนุญาต
เมื่อผู้ฟ้องคดีเลี้ยงไก่เพียง 3 ถึง 4 ตัว และภายหลังเพิ่มเป็น 6 ตัว ในพื้นที่หมู่บ้านจัดสรรและก่อสร้างเล้าไก่ขนาดเล็กไว้ในที่ดินของตนเอง จึงเป็นการเลี้ยงสัตว์ที่มิได้ทาให้เสียภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะสมกับ การดารงชีพของประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งโดยสภาพการหากินตามธรรมชาติของไก่อาจมีการถ่ายมูลหรือมีขนหลุดร่วงบ้าง เมื่อจานวนไก่และวิธีการเลี้ยงไม่เข้าเงื่อนไขเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามเทศบัญญัติที่จะต้องการควบคุมจึงถือไม่ได้ว่าการเลี้ยงไก่ของผู้ร้องสอดถึงขนาดเป็นเหตุราคาญ อีกทั้งมูลไก่บริเวณหน้าบ้านของผู้ฟ้องคดี มีเพียงเล็กน้อยจึงยังไม่ถึงขนาดเป็นสภาพข้อเท็จจริงที่ต้องบังคับตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535
ส่วนเสียงไก่ขันโดยภาวะวิสัยวิญญูชนที่ได้ยินย่อมเห็นว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ โดยไม่ถือเป็นเรื่องที่ทาให้เกิดความเดือดร้อนหรือเป็นเหตุราคาญและเป็นสภาวะความเป็นอยู่และการดารงชีพของประชาชนในท้องถิ่น เสียงไก่ขันตามธรรมชาติก็ไม่ทาให้เป็นเหตุรำคาญแต่อย่างใด
ฉบับเต็ม http://www.admincourt.go.th/00_web/09_academic/document/05_case/23-36-55.pdf.
คร่าวๆคือ
1.จะต้องเลี้ยงตั้งแต่ 20 ตัวขึ้นไป
2.เสียงไก่ขัน ถือว่าเป็นธรรมชาติใช้ไม่ได้ครับ
3.เรื่องมูลไก่ ถ้าไม่มากก็ตกไปเหมือนกันครับ
4.ในเคสตัวอย่างที่ยกมา โรงเลี้ยงอยู่ห่างจากบ้านผู้เสียหาย 10 เมตร
อย่าเพิ่งเครียดครับ ถ้าเป็นคนทั่วไป(ไม่หัวหมอนัก) แค่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตักเตือนก็น่าจะจัดการได้แล้วครับ
#ปล.ไม่ทราบเหมือนกันว่าในกรุงเทพจะมีข้อบังคับอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า

แต่.....
เคยมีการฟ้องร้องกันแล้ว ศาลให้ยกฟ้องครับ คัดลอกมาให้อ่านบางส่วน ค่อนข้างยาวขอใส่สปอยล์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันนี้ผู้เสียหายฟ้องเทศบาลนะครับ (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 451/2554)
ผู้ฟ้องคดีได้แจ้งให้เทศบาลแก้ไขและร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ หลายครั้ง เช่น สถานีตารวจ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของจังหวัดโดยอ้างว่าได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากการที่ผู้ร้องสอดเลี้ยงไก่หลายตัว ในเวลากลางคืนไก่จะขันเสียงดังทาให้นอนหลับไม่เพียงพอ ไก่ถ่ายมูลเรี่ยราด ส่งกลิ่นเหม็น เล้าไก่สร้างไม่ถูกลักษณะ มีขนไก่ซึ่งมีไรไก่ติดอยู่ปลิวมาในบ้านทาให้ติดเสื้อผ้าที่ตากไว้และทาให้ผู้ฟ้องคดีและภรรยามีอาการคัน
การเลี้ยงไก่ของผู้ร้องสอดเป็นเหตุราคาญตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 หรือไม่ ?
ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า ตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ให้อานาจราชการส่วนท้องถิ่นออกข้อกาหนดเพื่อประโยชน์ในการรักษาสภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะสมกับการดารงชีพของประชาชนในท้องถิ่นหรือเพื่อป้องกันอันตรายจากเชื้อโรคเกิดจากสัตว์ เทศบาลจึงออกเทศบัญญัติ เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงสัตว์หรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2543 โดยไม่ได้กาหนดให้สัตว์ประเภทไก่เป็นสัตว์ที่ต้องควบคุม การเลี้ยงภายในเขตเทศบาลและเทศบัญญัติ เรื่อง การควบคุมกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 กาหนดให้การเลี้ยงไก่ที่มีจานวนตั้งแต่ 20 ตัวขึ้นไป จึงจะถือเป็นกิจการที่อันตรายต่อสุขภาพที่ต้องขออนุญาต
เมื่อผู้ฟ้องคดีเลี้ยงไก่เพียง 3 ถึง 4 ตัว และภายหลังเพิ่มเป็น 6 ตัว ในพื้นที่หมู่บ้านจัดสรรและก่อสร้างเล้าไก่ขนาดเล็กไว้ในที่ดินของตนเอง จึงเป็นการเลี้ยงสัตว์ที่มิได้ทาให้เสียภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะสมกับ การดารงชีพของประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งโดยสภาพการหากินตามธรรมชาติของไก่อาจมีการถ่ายมูลหรือมีขนหลุดร่วงบ้าง เมื่อจานวนไก่และวิธีการเลี้ยงไม่เข้าเงื่อนไขเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามเทศบัญญัติที่จะต้องการควบคุมจึงถือไม่ได้ว่าการเลี้ยงไก่ของผู้ร้องสอดถึงขนาดเป็นเหตุราคาญ อีกทั้งมูลไก่บริเวณหน้าบ้านของผู้ฟ้องคดี มีเพียงเล็กน้อยจึงยังไม่ถึงขนาดเป็นสภาพข้อเท็จจริงที่ต้องบังคับตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535
ส่วนเสียงไก่ขันโดยภาวะวิสัยวิญญูชนที่ได้ยินย่อมเห็นว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ โดยไม่ถือเป็นเรื่องที่ทาให้เกิดความเดือดร้อนหรือเป็นเหตุราคาญและเป็นสภาวะความเป็นอยู่และการดารงชีพของประชาชนในท้องถิ่น เสียงไก่ขันตามธรรมชาติก็ไม่ทาให้เป็นเหตุรำคาญแต่อย่างใด
ฉบับเต็ม http://www.admincourt.go.th/00_web/09_academic/document/05_case/23-36-55.pdf.
คร่าวๆคือ
1.จะต้องเลี้ยงตั้งแต่ 20 ตัวขึ้นไป
2.เสียงไก่ขัน ถือว่าเป็นธรรมชาติใช้ไม่ได้ครับ
3.เรื่องมูลไก่ ถ้าไม่มากก็ตกไปเหมือนกันครับ
4.ในเคสตัวอย่างที่ยกมา โรงเลี้ยงอยู่ห่างจากบ้านผู้เสียหาย 10 เมตร
อย่าเพิ่งเครียดครับ ถ้าเป็นคนทั่วไป(ไม่หัวหมอนัก) แค่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตักเตือนก็น่าจะจัดการได้แล้วครับ
#ปล.ไม่ทราบเหมือนกันว่าในกรุงเทพจะมีข้อบังคับอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
ขอคำปรึกษาหน่อยครับ เพื่อนบ้านเลี้ยงไก่ ใน กทม. สร้างความรำคาญให้ผมแทบทุกวัน....
คนที่นำมาเลี้ยงเนี่ยแหละผิดเต็มๆเลยครับ ทีแรกมันแค่เอา พ่อพันธุ์แม่พันธ์ มา4คู่ หึๆ พอผ่านไป2เดือนมีเป็นฝูง ( เอากันทุกวัน ตบแย่งตัวเมียกันทุกวัน ตบแย่งตัวผู้กันทุกวัน )
เจ้าของไก่มันชอบกวน....ผมด้วยครับ
ทุกวันอาทิตย์ จะมาต่อเติมเล้าของมันเสียงตอกตะปูดังไปครึ่งวัน เสียงไปขโมยตัดต้นไผ่ข้างบ้าน
ก็ดังไปครึ่งวัน ห๊ะ... วันเสาร์มันก็ว่างทำไมไม่ทำ
มาทำวันอาทิตย์ วันพักผ่อน ก่อนวันทำงาน
บ้านผมติดบ้านมันครับ( บ้านเช่า )
ทุกๆวันไก่จะมากินข้าวหน้าบ้านผมที่ผมโยนให้นกกิน และอาหารแมว ผมให้อาหารแมวเพราะมันไม่มีเจ้าของ ไก่ก็มาจิกกินไปหมด เสียดายมาก ...
ไม่ใช่แค่มาแย่งนกและแมวกินนะครับ หึๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ต้องล้างทุกวัน ไล่ไปมันก็มาอีก วันนั้นผมโมโหจัด ผมวิ่งไปจับไก่กะว่าจะเอามาต้มกินแก้โมโห
แต่....ก็ปล่อยมันไป สงสารมัน..... ตำรวจก็ขับผ่านหน้าบ้านไอ้คนเลี้ยงไก่ ขับผ่านไปเลยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ว่า "แกจะทำไรชั้นไม่สน!!!"
ตี1 ขันเอ๊กอีเอ๊ก....ตลอดจนถึงตี3มันถึงจะหยุด... ขัน ตอนเช้าถึงตอนเย็น ตัวผู้ขันอีก...
น่ารำคาญ เสียงไก่ขันรบกวนการดูข่าวจริงๆ
เครื่องบินก็บินผ่านบ้านผมทุก10นาที ผมจึงอยากทราบวิธีการ 1.ทำยังไงไม่ให้ไก่กล้ามาบ้านเราอีก 2.เรื่องนี้สามารถแจ้ง....ได้ไหมครับ
ขอบคุณมากครับ