ชึวิตเรื่อยๆ ที่ไม่มีความฝัน ความรู้สึกมันเป็นยังไงครับ

ผมอ่านหนังสือเจอประโยคหนึ่ง รู้สึกว่าจุกเลยครับ

"ความฝัน เปรียบเหมือนดวงดาวประจำตัวเรา ที่คอยส่องแสงนำทางให้กับชีวิต" #RichDad

              ผมเคยมีความฝันในวัยเด็กว่า อยากทำให้หุ่นยนต์มันเดินได้ตามอย่างที่ใจผมต้องการ เช่น เดินไปข้างหน้า ข้างหลัง เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา จนทำให้ผมเป็นเด็กช่างแกะ ผมแกะผมแงะทุกอย่างที่ผมอยากรู้ นาฬิกา ของเล่นที่มี ซึ่งเล่นได้สักพักผมจะเริ่มทำการ แกะ แงะ งัด(5555) จนทำให้ผมได้เจอกลไลข้างในของมัน และที่สงสัยมากที่สุด คือ เจ้าแผ่นเขียวๆ(แผ่นปริ้น วงจรอิเล็กทรอนิกส์) ว่ามันมีอะไรเยอะแยะไปหมด ทำไมมันถึงทำให้สิ่งของเหล่านี้ใช้การได้

              จนกระทั่ง ม ต้น ที่เป็นช่วงชีวิตหนึ่งของเรา ที่พอเมื่อใกล้จบ ม.3 จะต้องเลือกเรียนไปในสายวิชาชีพหรือสายสามัญ(ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ) ครับผมเลือกที่จะไป สายวิชาชีพ เพราะผมมีความสนใจในสาขา Mechanic และ Electronic ผมอยากจะไปเรียนรู้การทำงานของวงจรแผ่นเขียวๆที่ว่าไปข้างต้น และแน่นอนมันเป็นสายวิชาชีพและสายวิชาชีพก็คือเด็กช่างในบ้านเรานั่นเอง ซึ่งในช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมทะเลาะกับพ่อหนักมาก เนื่องจากท่านไม่ต้องการให้ไปเรียนสายช่าง เราอยู่บ้านเดียวกัน แต่ผมกับพ่อไม่คุยกันอยู่ปีกว่าๆ จนแม่ต้องขอร้องให้ผมเข้าไปคุยกับพ่อ แล้วผมก็ต้องเลือกไปต่อในสายมัธยมปลาย เพราะไม่อยากให้แม่ลำบากใจ จนดับฝันในจุดนี้ไป...


               ต่อมาที่สายมัธยม ผมว่ามันเป็นช่วงที่ยอดเยี่ยมที่สุดของชีวิตเลยครับ การเรียนสนุก เพื่อนๆสนุกสนานเฮฮา กิจกรรมเพียบ ความทรงจำเยอะเช่นกัน และเป็นช่วงที่ผมเล่นดนตรี เป็นอีกช่วงนี้ที่มีความฝันและเป็นความฝันที่มีไฟมาก เนื่องจากมีความสุขกับดนตรีสุดๆ โดยสามารถนั่งซ้อมกับอยู่มันได้ทั้งวันทั้งคืน จนเมื่อจะจบในชั้นมัธยมปลาย ผมก็ตั้งใจจะไปเรียนในสาขาดนตรี และด้วยคำว่าดนตรี ผมจึงเกิดการขัดแย้งทางความคิดกับพ่ออีกครั้ง ด้วยคำว่า "นักดนตรีไส้แห้ง" จบไปจะทำอะไรได้ จบมาจะมีอะไรกิน ซึ่งที่จริงแล้วผมเห็นลู่ทางของอาชีพนี้อยู่แล้ว แต่ด้วยพ่อเป็นคนหัวแข็งไม่ยอมใคร ทำให้ผมต้องจบความฝันอีกครั้ง เพื่อความสบายใจของแม่ และเลือกเรียนไปในสาขาที่เขาว่าดีกัน...


               และมาต่อในชีวิตมหาวิทลัย ผมคิดว่าเป็นช่วงที่ผมรู้สึกเสียเวลามากที่สุดในชีวิต 4ปี(เพราะไม่ได้ทำในสิ่งที่รัก) ซึ่งมันก็ดีหลังจากที่จบมา ในช่วงเรียนไปได้เกือบ 1 ปี ทำให้ผมรู้ว่าไม่ใช่ทางของผม ผมจึงฝืนใจอีกครั้งเพื่อขออนุญาตที่บ้าน(อีกเช่นเคย) เพื่อที่จะลาออกแล้วไปเรียนในสาขาวิทย์คอม สาขาดนตรี สายซาวด์ เอ็นจิเนีย สาขาใดสาขาหนึ่ง เนื่องจากมีความรักในเสียงดนตรีและหลงไหลกับอุปกรณ์เทคโนโลยี เช่นเคยครับเหตุการณ์เดิม ไม่ได้รับอนุญาตและเกิดปากเสียง จบลงด้วยเพื่อความสบายใจของแม่ เพราะผมกับพ่อความคิดจะขัดแย้งกันเสมอ และแม่จะเศร้าเป็นประจำ ผมเลยจบปัญหาหลายๆครั้งด้วยการยอม...



               ปัจจุบันผมอายุ 26 ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนบริษัทเอกชน เลิกหมดทุกอย่าง ใช้ชีวิตราบเรียบแบบทั่วๆไป เปลี่ยนแผนกทำงานมา 2 - 3 แผนก เรียนจบเพิ่มมาอีก1ใบ แต่รู้สึกชีวิตงงงวยกับเป้าหมายชีวิตหรือความฝันที่ต้องการจริงๆ ว่าชีวิตตอนนี้ต้องการอะไรกันแน่ ได้แต่วางแผนชีวิตแบบทั่วๆไป แต่รู้สึกไร้ซึ่งพลังที่ใช้ในการขับเคลื่อนชีวิตมากเลยครับ
               อยากได้ความเห็นจากพี่ๆ เพื่อนๆ ว่า ชีวิตที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่รัก นี่อารมณ์เป็นยังไงกันบ้างครับ...

ขออภัยด้วยครับ พิมพ์มาซะยาวเหยียด
ขอบคุณครับ หัวเราะ
Im_Joking
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่