สวัสดีครับเพื่อนๆ เนื่องจากวันหยุดยาวได้มีเวลาออกไปเที่ยวพักผ่อนกับคนอื่นเขาบ้าง
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่รีวิว ปกติก็ได้แต่อ่านของเพื่อนๆคนอื่นก็นั่งฟินหน้าจอไปสิครับโผ้มมมมมม
ขอฝากกระทู้นี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของเพื่อนๆพี่ๆน้องๆด้วยนะครับ
ความเป็นมาของทริปนี้ก็เกิดจากหัวหน้าของผมนี่ละครับ พอดีช่วงหยุดยาวกลางปีผมกับชาวแก๊งได้แอบไปหัวหินโดยที่ไม่ชวนหัวหน้า แถมยังถ่ายรูปมายั่วอีก พอกลับมาเท่านั้นละครับพี่น้อง หัวหน้าเดินมาบอกเราต้องจัดทริปไปทะเลกันอีกรอบซะแล้ว เลยให้การบ้านมาว่าจะไปที่ไหนค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ วันหยุดยาวไปหามา ผมเองก็เลยรับหน้าที่หาใฟ้
ช่วงนั้นแบบว่าหาข้อมูลทะเลทุกๆที่ ที่มีคนเลยรีวิว สุดท้ายก็มาจบที่นี่ครับ “เกาะกูด”
แต่..อุปสรรคยังไม่จบแค่นั้นครับ คือแบบว่าข้อมูลรีวิวเกาะกูดน้อยมว๊ากกกกกกก
ตัวเราเองก็ไม่เคยไป เรียกว่าหารีสอร์ทจนแทบหมดทั้งเกาะสุดท้ายก็มาจบที่นี่ครับ
“เกาะกูดรีสอร์ท”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.kokoodresort.com/
พอได้รีสอร์ทวันที่ เวลา และตารางทริปนี้ก็สุมหัวสิครับ เอามั้ย โอเครึป่าว (ตรูเหนื่อยแล้ววววว)
สรุปคือ......ทุกคนโอเคหมด ทันใดนั้นจะรออะไรละครับ จองสิครับจอง หยุดยาวด้วยเดี๋ยวไม่มีห้องว่าง
พอโทรไปปุ๊บ ตกลงเรื่องจำนวนคน วัน เวลา เข้าพัก และสุดท้ายค่ามัดจำเพียง 10% ครับ
อ่อ...ลืมบอกไปแพคเกจนี้ราคา 5400 บาทต่อคน เวลา 3 วัน 2 คืน
รวมอาหาร ค่าห้องพัก ค่าเรือสปีดโบ๊ท ค่าดำน้ำเรียบร้อยแล้วครับ
เราจองกันประมานเดือนกรกฎาคม ไปจริงๆ 23 – 25 ตุลาคม เรียกได้ว่ารอวันไปจนลืมเลยละมั้งครับ
เอาละบ่นมาเยอะแล้วว๊าปมาถึงวันเดินทางกันเลยดีกว่าเนาะ
ปล.เรามีกติกาสำหรับทริปนี้คือ
1.การไปเที่ยวครั้งนี้ไม่มีหัวหน้า ไม่มีลูกน้อง (เข้าทางพวกผมเลยครับ ฮ่าๆๆ)
2.เราจะไม่คุยเรื่องงานกันเด็ดขาด
23/10/2015
เรานัดกันเวลา ตี 5.30 เพื่อให้ทันรถตู้รอบ 6 โมงเช้า ตามแผนเราไปกันทั้งหมด 8 ชีวิต
แต่มีพี่อีกคนหนึ่งติดธุระไปไม่ได้ เรียกว่าเสียดายสุดๆ เลยเหลือแค่ 7 ชีวิต
ประมานตี 5.40 ทุกคนเริ่มมากันแล้ว เหลือคนสุดท้ายของทีมคือ.....หัวหน้าผมเองครับโผ้มมมมมม มาคนสุดท้ายเลย
บทลงโทษของเราคือโดนนั่งเบาะแถวสุดท้ายบนรถตู้ครับ
ลืมบอกไปว่าเราขึ้นรถตู้ที่อนุเสาวรีย์นะครับ ค่ารถคนละ 300 บาท รถตู้จะไปส่งเราที่หน้าตลาดเพื่อรอคนมารับไปที่ท่าเรือ
นั่งรถประมาน 4 ชั่วโมง ก็มาถึงจนได้เมื่อยมากๆเลย รถตู้จะแวะเติมแก๊ส 2 ครั้ง เลยได้ยืดเส้นสายกันหน่อย
พอมาถึงก็รอ รอ แล้วก็รอ ให้คนมารับเราเพื่อไปยังท่าเรือ เรือที่เรานั่งไปเป็นเรือสปีดโบ๊ทที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้เรา
ลำนี้มีเรา 7 คน แล้วผู้ร่วมชะตากรรมที่มารอบเดียวกับเราอีก 4 คน เลยนั่งกันแบบสบายๆหน่อย
ใช้เวลานั่งเรือประมาน 1.20 ชม.ก็มาถึงรีสอร์ท ระหว่างทางไม่เบื่อเลยเพราะน้ำทะเลที่นี่ใสมากกกกกกกก
พอมาถึงรีสอร์ทก็จะมีน้องๆพนักงานมาช่วยหิ้วกระเป๋าและมีน้ำส้มให้ดื่ม
เราไปถึงกันประมานบ่ายโมงแล้วทางรีสอร์ทเลยจัดอาหารกลางวันให้เราทานเลยแล้วค่อยเอาของไปเก็บที่ห้องพัก อยากบอกว่าอาหารอร่อยมากกกกกกก
ผมนี่เติมข้าวไปสองจานเลยและนี่คืออาหารมื้อแรกของเราครับ
หลังจากทานข้าวเสร็จเรียบร้อยก็เข้าที่พักครับ บรรยากาศที่นี่เงียบสงบ แต่ห้องพักเต็มทุกห้องนะครับ
มาๆๆเรามาชมภาพห้องพักกัน
หลังจากเก็บของเรียบร้อยก็ได้เวลาไป”น้ำตกคลองเจ้า” ไปเล่นน้ำกันนนนนนนน
เราเดินทางด้วยรถ 2 แถว เส้นทางค่อนข้างน่ากลัวครับ เรียกว่าไส้แทบไหลมากองรวมกันเลยทีเดียว
พอถึงทางเข้าเราต้องลงเดินไปประมาน 1 กิโลเมตรครับ (น้องคนขับรถบอกมา)
เส้นทางเดินเป็นป่าร่มรื่นมากเรียกว่าเดินจนลืมเหนื่อย แต่น้ำตกที่นี่คนเยอะมากๆ
เหมือนพร้อมใจกันมา แต่ผมเดินไปได้แค่ชั้นแรก
ชั้นที่สองต้องขึ้นไปอีกนิด แต่เห็นคนเอยะแล้วขออยู่ห่างๆอย่างห่วงๆก็พอครับ
หลังจากกลับจากน้ำตกทุกคนก็ลงมาเล่นน้ำทะเลหน้ารีสอร์ทกันจนเย็น
น้ำที่นี่ใสสุดๆ มีเรือคายัคให้พาย มีสน๊อคเกิ้ลให้ยืมฟรี
ดำน้ำลงไปก็พอมีปลาให้ชื่นชมอยู่บ้างครับ
ต่อไปก็เป็นมือค่ำของเราแล้ววววววว
จริงๆจะมีหมึกย่างอีกจาน แล้วก้ต่อด้วยผลไม้นะครับ
เรียกได้ว่ากินกันจนแน่นตัวบวมกันเลยทีเดียว
หลังจากพวกเราทานมื้อค่ำเรียบร้อย ด้านล่างจะมีบาร์อยู่
พวกเราก็ไม่รอช้า มาชิลล์ทั้งทีต้องจัด บรรยากาศเย็นๆ ลมพัดเบาๆ
เรียกได้ว่าฟินกันสุดๆเลย ค่าเสียหายก็ราคาต่างจากบนฝั่งแบบพอรับได้น่ะครับ
กินก่อน จ่ายค่าเสียหายวันกลับ ส่วนตัวผมฟิลมันมา จิบไปนิดๆ ถือกล้องพร้อมขาตั้ง
ออกไปเก็บบรยากาศยามค่ำคืนสักหน่อย
หมดไปแล้ว 1 วันบนเกาะแห่งนี้ เวลาเรามีความสุข มักจะผ่านไปไวเสมอ
24/10/2015
วันที่สองของการใช้ชีวิตติดเกาะ ตัวผมเองตื่นประมาน ตี 5 ครึ่ง
รีบลุกขึ้นมาอาบน้ำ แต่งตัว แบกขาตั้งกล้องเพื่อไปถ่ายรูปกับแสงแดดยามเช้า
ทั้งๆที่เพื่อนๆกำลังนอนอยู่ เมื่อคืนฝนตกหนักมาก คิดว่าจะไม่ได้ดำน้ำซะแล้ว
ภาพบบรรยากาศตอนเช้าที่นี่เงียบสงบ คลื่นลมไม่แรงเท่าไรเลย
มื้อเช้าวันนี้เป็นบุฟเฟ่ ทั้งชา กาแฟ น้ำส้ม ข้าวต้ม ขนมปัง จัดเต็มได้เลย
หลังจากอิ่มเรียบร้อย เรือมารับเราประมาน 10.00 น. เพื่อไปดำน้ำที่หมู่เกาะรัง
เราเดินทางด้วยสปีดโบ๊ทลำเดิม พี่คนขับคนเดิม
เพิ่มเติมคือ...รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
นั่งเรือมาประมาน 45 นาทีก็ถึงจุดดำน้ำ วันนี้แดดแรงมาก น้ำใสมาก
และคนก็เยอะมากเช่นกัน
หลังจากดำน้ำเสร็จก็แวะพักกินข้าวมื้อกลางวันเป็นอาหารกล่อง แล้วค่อยดำน้ำกันต่อ
ใครที่เมาเรือก็อดลง นั่งดมยาดมกันไปบนเรือ
แต่ขอบอกเลยว่าอยู่บนเรือตอนเรือจอดจะพาเมาคลื่นหนักกว่าเดิมอีก
ประมานบ่าย 3 เราก็กลับมาที่รีสอร์ท ใครอยากเล่นน้ำต่อก็เชิญ
ส่วนตัวผมเองไม่ไหวแล้วครับ ขอแว้ปไปอาบน้ำ เปลี่ยนชุดแล้วหลับสักงีบ
เพื่อตื่นมาเก็บภาพบรรยากาศตอนเย็นๆ สักหน่อย
มื้อค่ำวันนี้เหมือนกับเมื่อวานเลย เพิ่มเติมคือปูจานนี้ครับโผ้มมมมม
พอทานอาหารเสร็จเรียบร้อยก็พลันลงไปที่บาร์เหมือนเดิมครับ
เสพบรรยากาศก่อนที่จะต้องกลับไปใช้ชีวิตวุ่นวายในเมืองหลวง
มีเสียงเพลงเบาๆ ลมพัดเย็นสบาย แทบอบากจะนอนริมชายหาดกันเลยทีเดียว
พอตกดึกต่างคนต่างแยกย้ายไปนอน พรุ่งนี้เราต้องกลับกันแล้ว
เรือจะมารับเรา 10 โมงเช้า
25/10/2015
วันสุดท้ายของการติดเกาะ
วันนี้ผมตื่นเช้าเหมือนเดิม ออกมาเก็บบรรยากาศ สูดลมหายใจให้สุดพลัง
อยู่กับธรรมชาติให้นานที่สุด ใช้ชีวิตให้ช้าลง
พอทุกคนพร้อมเราก็ไปทานอาหารเช้ากัน มื้อเช้าวันนี้เหมือนกันกับเมื่อวานเลย
กินอิ่มแล้วก็นั่งเล่น รอเรือมารับกลับ
ประมาน 10.00 น. เรือก็มาเทียบท่า
เรือลำเดิม ผู้คนร้วมทริปเหมือนเดิม พี่คนขับเรือก็นคนเดิม
พนักงานค่อยๆขนของพวกเราเพื่อขึ้นเรือเราต้องกลับจริงๆแล้วสินะ
นั่งเรือกลับมาที่ฝั่ง จะมีรถมารอรับเราเพื่อไปขึ้นรถตู้ที่ปั๊ม ปตท.
ในเมืองตราด เราสามารถซื้อตั๋ว ค่าตั๋ว 300 บาท รถออกทุก 1 ชม.
แต่ถ้าเป็นเทศกาลหยุดยาวก็รอนานหน่อยนะครับ
สุดท้ายผมหวังว่ารีวิวนี้ จะสร้างความบันเทิง และเพลิดเพลินให้กับผู้อ่านทุกๆท่านนะครับ
“บ๊าย บาย เกาะกูด แล้วเราจะกลับมาอีก”
ข้อดี
1.บรรยากาศดี มีความเป็นส่วนตัว
2.อาหารอร่อยคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
3.พนักงานดูแลเราดีมาก
ข้อเสีย
1.น้ำในห้องน้ำไหลเบาไป (สำหรับห้องผมนะครับ)
2.อุปกรณ์ดำน้ำและเรือคายัคที่รีสอร์ทมีน้อยไป
อุปกรณ์ถ่ายภาพครั้งนี้
Fuji X-T10 Lens Kit 16-50 และ 18mm
Yi Camera กล้องที่ถือว่าคุ้มราคา
รวมค่าเสียหาย
ค่าแพคเกจ 3 วัน 2 คืน 5400 บาท/คน
รวมที่พัก อาหาร ดำน้ำ ค่าเรือเรียบร้อยแล้ว
ค่ารถตู้ ไป – กลับ 600 บาท
รวมเป็น 6000 บาท
“ธรรมชาติจะอยู่กับเรา ถ้าเราเที่ยวแบบดูแลและรักษาธรรมชาติ”
[CR] [CR] 3 วัน 2 คืน บนเกาะกูด...กับชีวิต Feel Good
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่รีวิว ปกติก็ได้แต่อ่านของเพื่อนๆคนอื่นก็นั่งฟินหน้าจอไปสิครับโผ้มมมมมม
ขอฝากกระทู้นี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของเพื่อนๆพี่ๆน้องๆด้วยนะครับ
ความเป็นมาของทริปนี้ก็เกิดจากหัวหน้าของผมนี่ละครับ พอดีช่วงหยุดยาวกลางปีผมกับชาวแก๊งได้แอบไปหัวหินโดยที่ไม่ชวนหัวหน้า แถมยังถ่ายรูปมายั่วอีก พอกลับมาเท่านั้นละครับพี่น้อง หัวหน้าเดินมาบอกเราต้องจัดทริปไปทะเลกันอีกรอบซะแล้ว เลยให้การบ้านมาว่าจะไปที่ไหนค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ วันหยุดยาวไปหามา ผมเองก็เลยรับหน้าที่หาใฟ้
ช่วงนั้นแบบว่าหาข้อมูลทะเลทุกๆที่ ที่มีคนเลยรีวิว สุดท้ายก็มาจบที่นี่ครับ “เกาะกูด”
แต่..อุปสรรคยังไม่จบแค่นั้นครับ คือแบบว่าข้อมูลรีวิวเกาะกูดน้อยมว๊ากกกกกกก
ตัวเราเองก็ไม่เคยไป เรียกว่าหารีสอร์ทจนแทบหมดทั้งเกาะสุดท้ายก็มาจบที่นี่ครับ
“เกาะกูดรีสอร์ท”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอได้รีสอร์ทวันที่ เวลา และตารางทริปนี้ก็สุมหัวสิครับ เอามั้ย โอเครึป่าว (ตรูเหนื่อยแล้ววววว)
สรุปคือ......ทุกคนโอเคหมด ทันใดนั้นจะรออะไรละครับ จองสิครับจอง หยุดยาวด้วยเดี๋ยวไม่มีห้องว่าง
พอโทรไปปุ๊บ ตกลงเรื่องจำนวนคน วัน เวลา เข้าพัก และสุดท้ายค่ามัดจำเพียง 10% ครับ
อ่อ...ลืมบอกไปแพคเกจนี้ราคา 5400 บาทต่อคน เวลา 3 วัน 2 คืน
รวมอาหาร ค่าห้องพัก ค่าเรือสปีดโบ๊ท ค่าดำน้ำเรียบร้อยแล้วครับ
เราจองกันประมานเดือนกรกฎาคม ไปจริงๆ 23 – 25 ตุลาคม เรียกได้ว่ารอวันไปจนลืมเลยละมั้งครับ
เอาละบ่นมาเยอะแล้วว๊าปมาถึงวันเดินทางกันเลยดีกว่าเนาะ
ปล.เรามีกติกาสำหรับทริปนี้คือ
1.การไปเที่ยวครั้งนี้ไม่มีหัวหน้า ไม่มีลูกน้อง (เข้าทางพวกผมเลยครับ ฮ่าๆๆ)
2.เราจะไม่คุยเรื่องงานกันเด็ดขาด
23/10/2015
เรานัดกันเวลา ตี 5.30 เพื่อให้ทันรถตู้รอบ 6 โมงเช้า ตามแผนเราไปกันทั้งหมด 8 ชีวิต
แต่มีพี่อีกคนหนึ่งติดธุระไปไม่ได้ เรียกว่าเสียดายสุดๆ เลยเหลือแค่ 7 ชีวิต
ประมานตี 5.40 ทุกคนเริ่มมากันแล้ว เหลือคนสุดท้ายของทีมคือ.....หัวหน้าผมเองครับโผ้มมมมมม มาคนสุดท้ายเลย
บทลงโทษของเราคือโดนนั่งเบาะแถวสุดท้ายบนรถตู้ครับ
ลืมบอกไปว่าเราขึ้นรถตู้ที่อนุเสาวรีย์นะครับ ค่ารถคนละ 300 บาท รถตู้จะไปส่งเราที่หน้าตลาดเพื่อรอคนมารับไปที่ท่าเรือ
นั่งรถประมาน 4 ชั่วโมง ก็มาถึงจนได้เมื่อยมากๆเลย รถตู้จะแวะเติมแก๊ส 2 ครั้ง เลยได้ยืดเส้นสายกันหน่อย
พอมาถึงก็รอ รอ แล้วก็รอ ให้คนมารับเราเพื่อไปยังท่าเรือ เรือที่เรานั่งไปเป็นเรือสปีดโบ๊ทที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้เรา
ลำนี้มีเรา 7 คน แล้วผู้ร่วมชะตากรรมที่มารอบเดียวกับเราอีก 4 คน เลยนั่งกันแบบสบายๆหน่อย
ใช้เวลานั่งเรือประมาน 1.20 ชม.ก็มาถึงรีสอร์ท ระหว่างทางไม่เบื่อเลยเพราะน้ำทะเลที่นี่ใสมากกกกกกกก
พอมาถึงรีสอร์ทก็จะมีน้องๆพนักงานมาช่วยหิ้วกระเป๋าและมีน้ำส้มให้ดื่ม
เราไปถึงกันประมานบ่ายโมงแล้วทางรีสอร์ทเลยจัดอาหารกลางวันให้เราทานเลยแล้วค่อยเอาของไปเก็บที่ห้องพัก อยากบอกว่าอาหารอร่อยมากกกกกกก
ผมนี่เติมข้าวไปสองจานเลยและนี่คืออาหารมื้อแรกของเราครับ
หลังจากทานข้าวเสร็จเรียบร้อยก็เข้าที่พักครับ บรรยากาศที่นี่เงียบสงบ แต่ห้องพักเต็มทุกห้องนะครับ
มาๆๆเรามาชมภาพห้องพักกัน
หลังจากเก็บของเรียบร้อยก็ได้เวลาไป”น้ำตกคลองเจ้า” ไปเล่นน้ำกันนนนนนนน
เราเดินทางด้วยรถ 2 แถว เส้นทางค่อนข้างน่ากลัวครับ เรียกว่าไส้แทบไหลมากองรวมกันเลยทีเดียว
พอถึงทางเข้าเราต้องลงเดินไปประมาน 1 กิโลเมตรครับ (น้องคนขับรถบอกมา)
เส้นทางเดินเป็นป่าร่มรื่นมากเรียกว่าเดินจนลืมเหนื่อย แต่น้ำตกที่นี่คนเยอะมากๆ
เหมือนพร้อมใจกันมา แต่ผมเดินไปได้แค่ชั้นแรก
ชั้นที่สองต้องขึ้นไปอีกนิด แต่เห็นคนเอยะแล้วขออยู่ห่างๆอย่างห่วงๆก็พอครับ
หลังจากกลับจากน้ำตกทุกคนก็ลงมาเล่นน้ำทะเลหน้ารีสอร์ทกันจนเย็น
น้ำที่นี่ใสสุดๆ มีเรือคายัคให้พาย มีสน๊อคเกิ้ลให้ยืมฟรี
ดำน้ำลงไปก็พอมีปลาให้ชื่นชมอยู่บ้างครับ
ต่อไปก็เป็นมือค่ำของเราแล้ววววววว
จริงๆจะมีหมึกย่างอีกจาน แล้วก้ต่อด้วยผลไม้นะครับ
เรียกได้ว่ากินกันจนแน่นตัวบวมกันเลยทีเดียว
หลังจากพวกเราทานมื้อค่ำเรียบร้อย ด้านล่างจะมีบาร์อยู่
พวกเราก็ไม่รอช้า มาชิลล์ทั้งทีต้องจัด บรรยากาศเย็นๆ ลมพัดเบาๆ
เรียกได้ว่าฟินกันสุดๆเลย ค่าเสียหายก็ราคาต่างจากบนฝั่งแบบพอรับได้น่ะครับ
กินก่อน จ่ายค่าเสียหายวันกลับ ส่วนตัวผมฟิลมันมา จิบไปนิดๆ ถือกล้องพร้อมขาตั้ง
ออกไปเก็บบรยากาศยามค่ำคืนสักหน่อย
หมดไปแล้ว 1 วันบนเกาะแห่งนี้ เวลาเรามีความสุข มักจะผ่านไปไวเสมอ
24/10/2015
วันที่สองของการใช้ชีวิตติดเกาะ ตัวผมเองตื่นประมาน ตี 5 ครึ่ง
รีบลุกขึ้นมาอาบน้ำ แต่งตัว แบกขาตั้งกล้องเพื่อไปถ่ายรูปกับแสงแดดยามเช้า
ทั้งๆที่เพื่อนๆกำลังนอนอยู่ เมื่อคืนฝนตกหนักมาก คิดว่าจะไม่ได้ดำน้ำซะแล้ว
ภาพบบรรยากาศตอนเช้าที่นี่เงียบสงบ คลื่นลมไม่แรงเท่าไรเลย
มื้อเช้าวันนี้เป็นบุฟเฟ่ ทั้งชา กาแฟ น้ำส้ม ข้าวต้ม ขนมปัง จัดเต็มได้เลย
หลังจากอิ่มเรียบร้อย เรือมารับเราประมาน 10.00 น. เพื่อไปดำน้ำที่หมู่เกาะรัง
เราเดินทางด้วยสปีดโบ๊ทลำเดิม พี่คนขับคนเดิม
เพิ่มเติมคือ...รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
นั่งเรือมาประมาน 45 นาทีก็ถึงจุดดำน้ำ วันนี้แดดแรงมาก น้ำใสมาก
และคนก็เยอะมากเช่นกัน
หลังจากดำน้ำเสร็จก็แวะพักกินข้าวมื้อกลางวันเป็นอาหารกล่อง แล้วค่อยดำน้ำกันต่อ
ใครที่เมาเรือก็อดลง นั่งดมยาดมกันไปบนเรือ
แต่ขอบอกเลยว่าอยู่บนเรือตอนเรือจอดจะพาเมาคลื่นหนักกว่าเดิมอีก
ประมานบ่าย 3 เราก็กลับมาที่รีสอร์ท ใครอยากเล่นน้ำต่อก็เชิญ
ส่วนตัวผมเองไม่ไหวแล้วครับ ขอแว้ปไปอาบน้ำ เปลี่ยนชุดแล้วหลับสักงีบ
เพื่อตื่นมาเก็บภาพบรรยากาศตอนเย็นๆ สักหน่อย
มื้อค่ำวันนี้เหมือนกับเมื่อวานเลย เพิ่มเติมคือปูจานนี้ครับโผ้มมมมม
พอทานอาหารเสร็จเรียบร้อยก็พลันลงไปที่บาร์เหมือนเดิมครับ
เสพบรรยากาศก่อนที่จะต้องกลับไปใช้ชีวิตวุ่นวายในเมืองหลวง
มีเสียงเพลงเบาๆ ลมพัดเย็นสบาย แทบอบากจะนอนริมชายหาดกันเลยทีเดียว
พอตกดึกต่างคนต่างแยกย้ายไปนอน พรุ่งนี้เราต้องกลับกันแล้ว
เรือจะมารับเรา 10 โมงเช้า
25/10/2015
วันสุดท้ายของการติดเกาะ
วันนี้ผมตื่นเช้าเหมือนเดิม ออกมาเก็บบรรยากาศ สูดลมหายใจให้สุดพลัง
อยู่กับธรรมชาติให้นานที่สุด ใช้ชีวิตให้ช้าลง
พอทุกคนพร้อมเราก็ไปทานอาหารเช้ากัน มื้อเช้าวันนี้เหมือนกันกับเมื่อวานเลย
กินอิ่มแล้วก็นั่งเล่น รอเรือมารับกลับ
ประมาน 10.00 น. เรือก็มาเทียบท่า
เรือลำเดิม ผู้คนร้วมทริปเหมือนเดิม พี่คนขับเรือก็นคนเดิม
พนักงานค่อยๆขนของพวกเราเพื่อขึ้นเรือเราต้องกลับจริงๆแล้วสินะ
นั่งเรือกลับมาที่ฝั่ง จะมีรถมารอรับเราเพื่อไปขึ้นรถตู้ที่ปั๊ม ปตท.
ในเมืองตราด เราสามารถซื้อตั๋ว ค่าตั๋ว 300 บาท รถออกทุก 1 ชม.
แต่ถ้าเป็นเทศกาลหยุดยาวก็รอนานหน่อยนะครับ
สุดท้ายผมหวังว่ารีวิวนี้ จะสร้างความบันเทิง และเพลิดเพลินให้กับผู้อ่านทุกๆท่านนะครับ
“บ๊าย บาย เกาะกูด แล้วเราจะกลับมาอีก”
ข้อดี
1.บรรยากาศดี มีความเป็นส่วนตัว
2.อาหารอร่อยคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
3.พนักงานดูแลเราดีมาก
ข้อเสีย
1.น้ำในห้องน้ำไหลเบาไป (สำหรับห้องผมนะครับ)
2.อุปกรณ์ดำน้ำและเรือคายัคที่รีสอร์ทมีน้อยไป
อุปกรณ์ถ่ายภาพครั้งนี้
Fuji X-T10 Lens Kit 16-50 และ 18mm
Yi Camera กล้องที่ถือว่าคุ้มราคา
รวมค่าเสียหาย
ค่าแพคเกจ 3 วัน 2 คืน 5400 บาท/คน
รวมที่พัก อาหาร ดำน้ำ ค่าเรือเรียบร้อยแล้ว
ค่ารถตู้ ไป – กลับ 600 บาท
รวมเป็น 6000 บาท
“ธรรมชาติจะอยู่กับเรา ถ้าเราเที่ยวแบบดูแลและรักษาธรรมชาติ”
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น