ไปเชียงราย - พะเยา มา จะเล่าให้ฟัง 
... เห็นวันหยุดเป็นไม่ได้ ต้องรีบชวนเพื่อน หาที่เที่ยว เห้ย! ไปป้ะ เออไปๆ ..ไปดิ่ๆ ลาวันเดียวเอง เออไปๆ ...
ทริปนี้ไปกัน 4 วัน 3 คืน สบโอกาสช่วงวันอยุดวันปิยะฯที่ผ่านมา บวกลางานเพิ่มวันจันทร์ 1 วัน plan คร่าวๆคือ
DAY 1 ถึงเชียงราย บ้านดอยดินแดง - บ้านดำ อ.ถวัลย์ - ไร่ชาฉุยฟง - ดอยหัวแม่คำ
DAY 2 ไปผาตั้ง
DAY 3 ภูชี้ฟ้า - ภูลังกา จ.พะเยา
DAY 4 อยู่ภูลังกา - กลับ
ขาไปนั่งรถทัวร์จากกรุงเทพฯ(คืนวันที่ 22ต.ค.) ถึงเช้าวันที่ 23 ต.ค. ลงรถทัวร์ที่เชียงราย อากาศเย็นกำลังสบาย รอบนี้นั่งสมบัติทัวร์แบบเบาะใหญ่ แถวละ 3 ที่นั่ง โอ้โห! นอนสบาย หลับยาว กทม.ยันเชียงราย ที่ดูตื่นเต้นเพราะเพิ่งเคยนั่งแบบนี้ครั้งแรก แนะนำใครยังไม่เคย ขอให้ลอง ..ลงรถล้างหน้าล้างตา หารถสองแถว แล้วก็ ..let's gooooo !
DAY 1 บ้านดอยดินแดง - บ้านดำ อ.ถวัลย์ - ไร่ชาฉุยฟง - ดอยหัวแม่คำ
หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ ก็มาแวะดอยดินแดงกันที่แรก ที่นี่น่ารักมากๆๆๆๆ ตอนที่พวกเราไปยังเช้าอยู่ รู้สึกสงบๆ ดอยดินแดงเป็นศูนย์ปั้นและแสดงเครื่องปั้นเซรามิคของอาจารย์ สมลักษณ์ ปันติบุญ ด้านในยังมี mini shop ขายเครื่องปั้น ถ้วยชาม ชุดชากาแฟ และมีร้านกาแฟอีกด้วย ใครเป็นคอกาแฟถูกใจชัวร์
เจ้าตัวนี้ยังไม่ตื่น
นังชิลๆสักพัก ก็ไปบ้านดำ ของ อ.ถวัลย์ต่อ อยู่ไม่ไกลกันมาก
ในอาคารพิพิธภัณฑ์มีของสะสม และงานศิลปะแสดงอยู่ ทั้งงานแกะสลัก หนังสัตว์ เขาสัตว์ ด้านนอกอาคารก็มีบ้านหลังย่อมๆ เก็บของสะสมกระจายๆอยู่มากมาย ตอนนี้พวกเราก็แยกๆกันเดิน ที่นี่ค่อนข้างกว้าง ถึงแดดร้อนแต่ก็เดินดูโน่นนี่กันได้เรื่อยๆ ออ ..ที่นี่เค้ามีเวลาปิดเปิดเป็นรอบๆนะ ถ้าใครจะไปก็เช็คเวลากันดีๆ
มีม้าด้วย
ไปต่อกันที่ไร่ชาฉุยฟง พวกเรามาพักกินข้าวกลางวันที่นี่ ก่อนที่จะขึ้นดอยหัวแม่คำกัน
แน่นอนว่าคนเยอะ ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเพราะมัวแต่กิน อาหารโอเคนะ ขอแนะนำยำปลาทูน่า อันนี้รสเข้มข้น กินแล้วรู้สึกสดชื่น มีแรงไปสู้กับแดด เล่ามาแต่ไม่มีรูปให้ดูหรอกนะ กินหมดล้ะ
สบายท้องพร้อมนอน ต่อไปคือการนั่งสองแถวขึ้นดอยหัวแม่คำ จริงๆช่วงที่เหมาะจะมาเที่ยวดอยนี้คือเดือนพฤศจิกายน เพราะดอกบัวตองจะบานเหลืองอร่ามทั่วทั้งดอย แต่นี่มากันตุลา..ก็ไม่เป็นไรยังไงพวกเราก็จะไป ฮ่าๆ
ระหว่างทางมีวิวสวยๆให้ดูตลอด แต่นั่งไปสักพัก.. เห้ย! ยังไม่ถึงอีกหรอ ทางก็เริ่มซับซ้อนขึ้น โค้งก็เริ่มถี่ขึ้น จากที่คุยเม้ามอยกันมาตลอดทางก็เริ่มเงียบ จากถนนสองเลน บางช่วงก็เหลือเลนเดียว เพราะเค้าปรับปรุงถนนอยู่ มากัน 10 คน เมารถร่วงไป 5 คน ทีเหลือก็นั่งสะกดจิตตัวเองไม่ให้เมากันต่อไป...
แต่พอยิ่งขึ้นสูง อากาศก็ยิ่งเย็น เอาหน้ายื่นออกไปรับลมข้างนอกแล้วก็รู้สึกดี ดึงสติกลับชื่นชมวิวต่อได้ ..ก่อนจะถึงดอยหัวแม่คำ เราจะผ่านหมู้บ้านชาวเผ่าหลายเผ่ามาก ประมาณ 3-4 จำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง ..ตอนนี้ก็มาถึงทางเข้าอุทยานละ จุดนี้ต้องเปลี่ยนรถ สองแถวเข้าไม่ได้นะจ๊ะ ก็ติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานหรือจะจ้างกระบะของชาวบ้านแถวนั้นให้พาขึ้นไปต่ออีก 2-3 กม. ฟังดูไม่ใกล้ เบๆ เดินไปเองก็ได้ เปล่าเลย! ทางค่อนข้างพีคนะจ๊ะ เหมือนเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก เชื่อว่าไปกับเพื่อนหลายๆคน จะต้องมีคนกลัวมากๆไปด้วยแน่ จุดนี้แนะนำให้อัดวีดีโอ แล้วเอามาเปิดดูกันจะเฮฮามาก ฮ่ะๆ ตื่นเต้นกันไปปป
อันนี้วิวจากหมู่บ้านใกล้ๆ ถ่ายมาระหว่างรอเปลี่ยนรถ
ฮุลเล่!! ในที่สุดพวกเราก็มาถึงแล้ว "ดอยหัวแม่คำ"
ลืมบอกไป ที่นี่ไม่มีอาหารเช้า-เย็นให้นะ เราต้องแบกกันมาเอง แต่ว่ามีน้ำร้อนให้ต้มมาม่า ชงกาแฟได้ และเค้าเปิด-ปิดไฟเป็นเวลา ค่าห้องฟรี แต่สามารถบริจาคเพื่อช่วยอุทยานเรื่องค่าน้ำไฟได้ มาถึงข่าวดี.. พี่หัวหน้าอุทยานเดินมาทักทาย และบอกว่า คืนนี้ไม่มีไฟฟ้านะ พอดีเครื่องปั่นไฟเสีย พงะเบาๆ ไปสักพัก แต่จริงๆก็ไม่เป็นไรนะ ตอนกลางคืนเราก็จุดเทียน นั่งล้อมวงกินมาม่า อากาศเย็นๆ รู้สึกได้บรรยากาศดีไปอีกแบบ
นี่คือวิวตอนที่เรามาถึง สิ่งแรกที่ทุกคนทำคือ ถ่ายรูปๆๆ มันสวยและดูสงบจริงๆ ยิ่งคืนนี้เราเป็นกลุ่มเดียวที่เข้าพักที่นี่ด้วย
pastel set : อันนี้ไม่รู้ว่าทำไมสีออกมาเป็นแบบนี้ แต่ก็ดูสวยไปอีกแบบ
มีน้องหมาเจ้าถิ่นมาแจมด้วย
ตรงดอยหัวแม่คำที่พวกเราอยู่นี้ คือใกล้พม่ามาก มองออกไปเห็นสันเขาตรงหน้า นั่นล่ะคือประเทศพม่าแล้ว
..ตอนเช้าพวกเราก็ตื่นมาชมวิวหน้าห้องพักกันอีก ตอนเช้าเริ่มมีแสงละสวยมากๆ มาถึงจุดนี้ที่ดอกบัวตองยังไม่บานก็ไม่เป็นไร เท่านี้ก็รู้สึกดีล้ะ
DAY 2 วันนี้เราจะไปผาตั้งกัน
หลังจากชื่นชมวิวทิวทัศน์จนหนำใจ ก็เตรียมเก็บข้าวของ โบกมือลาดอยหัวแม่คำ เตรียมไปต่อกันที่ผาตั้ง
ขาลงวันนี้พวกเรานั่งกระบะกันลงมาแล้วค่อยไปต่อสองแถว งวดนี้เราได้สิทธิ์นั่งในรถกับเพื่อนอีกคน เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงเมารถ ส่วนที่เหลือนั่งท้ายกระบะ ตอนอยู่บนดอยก่อนลงมา สาวๆก็แต่งหน้ากันดิบดี แต่พอรถลงมาถึงข้างล่าง เจอหน้ากัน สภาพแต่ละกันเปลี่ยนไปกันมาก ฮ่าๆ คาดว่าเกิดอาการโดนแดดเลีย
วิวข้างทาง สวยเสมอ
จากคืนแรกที่เรานอนพักติดชายแดนพม่า วันนี้เราเขยิบมาอีกด้าน นั่งรถเลียบแม่น้ำโขงฝั่งลาว วันนี้ถือว่านั่งรถนานสุดในทริปละ
โยกเยกกันไปมาในสองแถว หลับๆตื่นๆ ก็มาถึงที่พักตอนประมาณบ่ายสาม คืนนี้เรานอนกันที่ "ผาตั้งฮิลล์"
ถึงที่พักนั่งชาร์ตแบต ทั้งคน และอุปกรณ์ต่างๆ สักครึ่งชั่วโมง แล้วก็เดินไปขึ้นผาตั้งเพื่อดูพระอาทิตย์ตกกันต่อ
เป็นทริปลุยๆ บอกไว้เลย จากที่พักไปยังจุดเริ่มเดินขึ้นผาตั้งน่าจะ 2 กิโลกว่าๆ เดินไปตามถนน เหนื่อยเหมือนกันเพราะเหมือนเดินขึ้นเนินตลอด จริงๆเอารถไปได้นะ ..พอเดินถึงจุดสตาร์ทขึ้นจุดชมวิวผาตั้ง โอ้โห! เหมือนสวรรค์โปรด เพราะมีร้านขายน้ำและโรตีอยู่ เลยได้จังหวะนั่งพักดื่มน้ำแดงโซดากันและโรตีกล้วยสักแป๊บ โรตีพี่เค้าอร่อยมากๆๆ กินแล้วรู้สึกดีขึ้นเยอะ
จากจุดนี้เดินขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบนก็อีกไม่ไกล ประมาณ 1 กิโลเมตร
ผ่านจุดชมวิวช่องผาขาด มองเห็นแม่น้ำโขง ฝั่งตรงข้ามคือประเทศลาว
วิวแม่น้ำโขง (สองรูปด้านล่างนี้ใช้ fujix30)
เดินขึ้นไปด้านบนกันต่อ
ฟ้าค่อยๆมืดลง
ดวงอาทิตย์เตรียมลับขอบฟ้า
ดวงอาทิตย์ตก ฟ้ามืดแล้ว มืดเร็วมากด้วย พวกเราก็เกาะกลุ่มเดินกลับที่พักกันอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางจริงๆก็เจอเรื่องตื่นเต้นไม่เบา แต่ก็ผ่านกันมาได้ ... ถึงที่พักผาตั้งฮิลล์ ดีที่โทรสั่งอาหารไว้แล้ว เลยกินได้เลย อาหารที่นี่อร่อยมากจริงๆ อร่อยทุกอย่าง อิ่มแปร้เลย สบายทองไปอีกคืน
DAY 3 เช้าวันนี้พวกเราจะขึ้นภูชี้ฟ้า และไปกันต่อไปภูลังกา จ.พะเยา
ตื่นกันตีสี่ นัดพี่คนขับไว้ตีสี่ครึ่ง จากที่พักไปภูชี้ฟ้า ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวอีกประมาณ 1 กิโลเมตร
เช้านี้เราลืมพกกล้องฟิล์มมา ลืมได้ไง!! ก็เลยใช้รูปจาก fujix30 แทน
ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว แต่เสียดายที่วันนี้ฟ้าไม่เปิดเท่าไหร่ วิวที่เห็นเลยค่อนข้างมัวๆ
you're a big big man in a big big world .
//ต่อด้านล่าง//
[CR] เห้ย! ไปป้ะ ไปเชียงราย - พะเยา 3 คืน 3 ดอย ..ไปดิ่ๆ เออไป !! |กล้องฟิล์ม|
ทริปนี้ไปกัน 4 วัน 3 คืน สบโอกาสช่วงวันอยุดวันปิยะฯที่ผ่านมา บวกลางานเพิ่มวันจันทร์ 1 วัน plan คร่าวๆคือ
DAY 1 ถึงเชียงราย บ้านดอยดินแดง - บ้านดำ อ.ถวัลย์ - ไร่ชาฉุยฟง - ดอยหัวแม่คำ
DAY 2 ไปผาตั้ง
DAY 3 ภูชี้ฟ้า - ภูลังกา จ.พะเยา
DAY 4 อยู่ภูลังกา - กลับ
ขาไปนั่งรถทัวร์จากกรุงเทพฯ(คืนวันที่ 22ต.ค.) ถึงเช้าวันที่ 23 ต.ค. ลงรถทัวร์ที่เชียงราย อากาศเย็นกำลังสบาย รอบนี้นั่งสมบัติทัวร์แบบเบาะใหญ่ แถวละ 3 ที่นั่ง โอ้โห! นอนสบาย หลับยาว กทม.ยันเชียงราย ที่ดูตื่นเต้นเพราะเพิ่งเคยนั่งแบบนี้ครั้งแรก แนะนำใครยังไม่เคย ขอให้ลอง ..ลงรถล้างหน้าล้างตา หารถสองแถว แล้วก็ ..let's gooooo !
DAY 1 บ้านดอยดินแดง - บ้านดำ อ.ถวัลย์ - ไร่ชาฉุยฟง - ดอยหัวแม่คำ
หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ ก็มาแวะดอยดินแดงกันที่แรก ที่นี่น่ารักมากๆๆๆๆ ตอนที่พวกเราไปยังเช้าอยู่ รู้สึกสงบๆ ดอยดินแดงเป็นศูนย์ปั้นและแสดงเครื่องปั้นเซรามิคของอาจารย์ สมลักษณ์ ปันติบุญ ด้านในยังมี mini shop ขายเครื่องปั้น ถ้วยชาม ชุดชากาแฟ และมีร้านกาแฟอีกด้วย ใครเป็นคอกาแฟถูกใจชัวร์
เจ้าตัวนี้ยังไม่ตื่น
นังชิลๆสักพัก ก็ไปบ้านดำ ของ อ.ถวัลย์ต่อ อยู่ไม่ไกลกันมาก
ในอาคารพิพิธภัณฑ์มีของสะสม และงานศิลปะแสดงอยู่ ทั้งงานแกะสลัก หนังสัตว์ เขาสัตว์ ด้านนอกอาคารก็มีบ้านหลังย่อมๆ เก็บของสะสมกระจายๆอยู่มากมาย ตอนนี้พวกเราก็แยกๆกันเดิน ที่นี่ค่อนข้างกว้าง ถึงแดดร้อนแต่ก็เดินดูโน่นนี่กันได้เรื่อยๆ ออ ..ที่นี่เค้ามีเวลาปิดเปิดเป็นรอบๆนะ ถ้าใครจะไปก็เช็คเวลากันดีๆ
มีม้าด้วย
ไปต่อกันที่ไร่ชาฉุยฟง พวกเรามาพักกินข้าวกลางวันที่นี่ ก่อนที่จะขึ้นดอยหัวแม่คำกัน
แน่นอนว่าคนเยอะ ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเพราะมัวแต่กิน อาหารโอเคนะ ขอแนะนำยำปลาทูน่า อันนี้รสเข้มข้น กินแล้วรู้สึกสดชื่น มีแรงไปสู้กับแดด เล่ามาแต่ไม่มีรูปให้ดูหรอกนะ กินหมดล้ะ
สบายท้องพร้อมนอน ต่อไปคือการนั่งสองแถวขึ้นดอยหัวแม่คำ จริงๆช่วงที่เหมาะจะมาเที่ยวดอยนี้คือเดือนพฤศจิกายน เพราะดอกบัวตองจะบานเหลืองอร่ามทั่วทั้งดอย แต่นี่มากันตุลา..ก็ไม่เป็นไรยังไงพวกเราก็จะไป ฮ่าๆ
ระหว่างทางมีวิวสวยๆให้ดูตลอด แต่นั่งไปสักพัก.. เห้ย! ยังไม่ถึงอีกหรอ ทางก็เริ่มซับซ้อนขึ้น โค้งก็เริ่มถี่ขึ้น จากที่คุยเม้ามอยกันมาตลอดทางก็เริ่มเงียบ จากถนนสองเลน บางช่วงก็เหลือเลนเดียว เพราะเค้าปรับปรุงถนนอยู่ มากัน 10 คน เมารถร่วงไป 5 คน ทีเหลือก็นั่งสะกดจิตตัวเองไม่ให้เมากันต่อไป...
แต่พอยิ่งขึ้นสูง อากาศก็ยิ่งเย็น เอาหน้ายื่นออกไปรับลมข้างนอกแล้วก็รู้สึกดี ดึงสติกลับชื่นชมวิวต่อได้ ..ก่อนจะถึงดอยหัวแม่คำ เราจะผ่านหมู้บ้านชาวเผ่าหลายเผ่ามาก ประมาณ 3-4 จำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง ..ตอนนี้ก็มาถึงทางเข้าอุทยานละ จุดนี้ต้องเปลี่ยนรถ สองแถวเข้าไม่ได้นะจ๊ะ ก็ติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานหรือจะจ้างกระบะของชาวบ้านแถวนั้นให้พาขึ้นไปต่ออีก 2-3 กม. ฟังดูไม่ใกล้ เบๆ เดินไปเองก็ได้ เปล่าเลย! ทางค่อนข้างพีคนะจ๊ะ เหมือนเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก เชื่อว่าไปกับเพื่อนหลายๆคน จะต้องมีคนกลัวมากๆไปด้วยแน่ จุดนี้แนะนำให้อัดวีดีโอ แล้วเอามาเปิดดูกันจะเฮฮามาก ฮ่ะๆ ตื่นเต้นกันไปปป
อันนี้วิวจากหมู่บ้านใกล้ๆ ถ่ายมาระหว่างรอเปลี่ยนรถ
ฮุลเล่!! ในที่สุดพวกเราก็มาถึงแล้ว "ดอยหัวแม่คำ"
ลืมบอกไป ที่นี่ไม่มีอาหารเช้า-เย็นให้นะ เราต้องแบกกันมาเอง แต่ว่ามีน้ำร้อนให้ต้มมาม่า ชงกาแฟได้ และเค้าเปิด-ปิดไฟเป็นเวลา ค่าห้องฟรี แต่สามารถบริจาคเพื่อช่วยอุทยานเรื่องค่าน้ำไฟได้ มาถึงข่าวดี.. พี่หัวหน้าอุทยานเดินมาทักทาย และบอกว่า คืนนี้ไม่มีไฟฟ้านะ พอดีเครื่องปั่นไฟเสีย พงะเบาๆ ไปสักพัก แต่จริงๆก็ไม่เป็นไรนะ ตอนกลางคืนเราก็จุดเทียน นั่งล้อมวงกินมาม่า อากาศเย็นๆ รู้สึกได้บรรยากาศดีไปอีกแบบ
นี่คือวิวตอนที่เรามาถึง สิ่งแรกที่ทุกคนทำคือ ถ่ายรูปๆๆ มันสวยและดูสงบจริงๆ ยิ่งคืนนี้เราเป็นกลุ่มเดียวที่เข้าพักที่นี่ด้วย
pastel set : อันนี้ไม่รู้ว่าทำไมสีออกมาเป็นแบบนี้ แต่ก็ดูสวยไปอีกแบบ
มีน้องหมาเจ้าถิ่นมาแจมด้วย
ตรงดอยหัวแม่คำที่พวกเราอยู่นี้ คือใกล้พม่ามาก มองออกไปเห็นสันเขาตรงหน้า นั่นล่ะคือประเทศพม่าแล้ว
..ตอนเช้าพวกเราก็ตื่นมาชมวิวหน้าห้องพักกันอีก ตอนเช้าเริ่มมีแสงละสวยมากๆ มาถึงจุดนี้ที่ดอกบัวตองยังไม่บานก็ไม่เป็นไร เท่านี้ก็รู้สึกดีล้ะ
DAY 2 วันนี้เราจะไปผาตั้งกัน
หลังจากชื่นชมวิวทิวทัศน์จนหนำใจ ก็เตรียมเก็บข้าวของ โบกมือลาดอยหัวแม่คำ เตรียมไปต่อกันที่ผาตั้ง
ขาลงวันนี้พวกเรานั่งกระบะกันลงมาแล้วค่อยไปต่อสองแถว งวดนี้เราได้สิทธิ์นั่งในรถกับเพื่อนอีกคน เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงเมารถ ส่วนที่เหลือนั่งท้ายกระบะ ตอนอยู่บนดอยก่อนลงมา สาวๆก็แต่งหน้ากันดิบดี แต่พอรถลงมาถึงข้างล่าง เจอหน้ากัน สภาพแต่ละกันเปลี่ยนไปกันมาก ฮ่าๆ คาดว่าเกิดอาการโดนแดดเลีย
วิวข้างทาง สวยเสมอ
จากคืนแรกที่เรานอนพักติดชายแดนพม่า วันนี้เราเขยิบมาอีกด้าน นั่งรถเลียบแม่น้ำโขงฝั่งลาว วันนี้ถือว่านั่งรถนานสุดในทริปละ
โยกเยกกันไปมาในสองแถว หลับๆตื่นๆ ก็มาถึงที่พักตอนประมาณบ่ายสาม คืนนี้เรานอนกันที่ "ผาตั้งฮิลล์"
ถึงที่พักนั่งชาร์ตแบต ทั้งคน และอุปกรณ์ต่างๆ สักครึ่งชั่วโมง แล้วก็เดินไปขึ้นผาตั้งเพื่อดูพระอาทิตย์ตกกันต่อ
เป็นทริปลุยๆ บอกไว้เลย จากที่พักไปยังจุดเริ่มเดินขึ้นผาตั้งน่าจะ 2 กิโลกว่าๆ เดินไปตามถนน เหนื่อยเหมือนกันเพราะเหมือนเดินขึ้นเนินตลอด จริงๆเอารถไปได้นะ ..พอเดินถึงจุดสตาร์ทขึ้นจุดชมวิวผาตั้ง โอ้โห! เหมือนสวรรค์โปรด เพราะมีร้านขายน้ำและโรตีอยู่ เลยได้จังหวะนั่งพักดื่มน้ำแดงโซดากันและโรตีกล้วยสักแป๊บ โรตีพี่เค้าอร่อยมากๆๆ กินแล้วรู้สึกดีขึ้นเยอะ
จากจุดนี้เดินขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบนก็อีกไม่ไกล ประมาณ 1 กิโลเมตร
ผ่านจุดชมวิวช่องผาขาด มองเห็นแม่น้ำโขง ฝั่งตรงข้ามคือประเทศลาว
วิวแม่น้ำโขง (สองรูปด้านล่างนี้ใช้ fujix30)
เดินขึ้นไปด้านบนกันต่อ
ฟ้าค่อยๆมืดลง
ดวงอาทิตย์เตรียมลับขอบฟ้า
ดวงอาทิตย์ตก ฟ้ามืดแล้ว มืดเร็วมากด้วย พวกเราก็เกาะกลุ่มเดินกลับที่พักกันอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางจริงๆก็เจอเรื่องตื่นเต้นไม่เบา แต่ก็ผ่านกันมาได้ ... ถึงที่พักผาตั้งฮิลล์ ดีที่โทรสั่งอาหารไว้แล้ว เลยกินได้เลย อาหารที่นี่อร่อยมากจริงๆ อร่อยทุกอย่าง อิ่มแปร้เลย สบายทองไปอีกคืน
DAY 3 เช้าวันนี้พวกเราจะขึ้นภูชี้ฟ้า และไปกันต่อไปภูลังกา จ.พะเยา
ตื่นกันตีสี่ นัดพี่คนขับไว้ตีสี่ครึ่ง จากที่พักไปภูชี้ฟ้า ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวอีกประมาณ 1 กิโลเมตร
เช้านี้เราลืมพกกล้องฟิล์มมา ลืมได้ไง!! ก็เลยใช้รูปจาก fujix30 แทน
ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว แต่เสียดายที่วันนี้ฟ้าไม่เปิดเท่าไหร่ วิวที่เห็นเลยค่อนข้างมัวๆ
//ต่อด้านล่าง//