เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเรามีโอกาสได้ไปเข้าค่ายที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และการเดินทางนั้นต้องนั่งจากเพชรบุรีไป ใช้เวลาร่วม10ชม.เลยแหละ
ไอตอนแรกก็กังวลเพราะครูไม่ได้ไปด้วย มีเรากับเพื่อนแถมยังมีน้องๆพ่วงอีก3
จนไปตั้งกระทู้ก็ได้วิธีป้องกันอันตรายมาบ้าง
ขาไปไม่มีอะไรมากค่ะไม่ขอเล่าน้า แต่ขากลับนี่สิ..
เราต้องขึ้นรถไฟจากนครศรีธรรมราชกลับไปเพชรบุรี เวลา บ่าย3
พอมาถึงรถไฟก็มารอละ ก็ขึ้นไปรอเวลาออก จนมีลุงเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินตรวจตั๋ว แล้วลุงก็ทักทายด้วยน้ำเสียงอัธยาศัยดี สักพักเราก็ถามว่าเมื่อไหร่จะเอาเบาะลงได้ เขาก็บอก 1ทุ่มนู่นแหละ
(ตู้นอนในตอนกลางวันจะเป็นที่นั่ง พอ1ทุ่มก็สามารถพับลงมาเป็นที่นอนได้)
ในเวลาที่ถามลุงตอนนั้นมันเพิ่งจะบ่ายสามครึ่ง เลยบอกกับเพื่อนว่านอนพิงกระจกนี่แหละ เดี๋ยวตื่นมาก็ทุ่มเองแหละ (คือตอนนั้นเพลียมากเพิ่งกลับจากค่าย ณ เวลานี้ฉันนอนตรงไหนก็ได้ขอแค่ได้นอนอะ)
และเราก็สลบกันไปจริงๆค่ะ ตื่นมาอีกที5เกือบ6โมง เพราะคุณลุงคนนั้นมาปลุกค่ะ เขาบอกเดี๋ยวเอาที่นอนลงให้เลยนอนพิงกระจกละมันไม่สบายตัวกัน เราก็คิดในใจว่า เออ ดีอะบริการดีมาก
ก่อนนอนลุงเขาย้ำว่า ให้เอาของมีค่าเก็บไว้ดีๆละผ้าม่านให้สอดไว้ใต้ที่นอน ใครมาเปิดผ้าม่านเราที่ไม่ใช่ลุงให้รีบมาบอกลุงนะ ส่วนพอจะถึงเพชรบุรีลุงจะมาปลุก คือตอนนั้นเรารู้สึกประทับใจมากในความดูเป็นห่วงผู้โดยสารของลุง จากความกลัวเราก็หายไปเลย
ละก่อนจะถึงเพชรบุรีลุงเขาก็มาปลุกจริงๆก่อนถึง15นาที
เราก็นั่งรอเวลาถึงระหว่างรอนั้น.... ผ้าม่านตู้นอนที่เยื้องกันก็เปิดออก เจอกับฝรั่งรูปหล่อคนหนึ่ง คือตอนนั้นกรี๊ดมาก พี่แกไม่ใส่เสื้ออะ เหมือนจะไปเข้าห้องน้ำ แต่พอเห็นผู้หญิงอยู่เขาเลยมุดม่านไปใส่เสื้อ น่ารักมาก
ออกทะเลละ 555 กลับมาที่ลุงนะ พอถึงเพชรบุรีเขาก็ถามว่าพ่อแม่มารอยัง มีคนรอเป็นเพื่อนไหม ถ้าไม่มียืนที่สว่างๆนะ
ที่มาแชร์ประสบการ์นี้เพราะประทับใจลุงคนนี้ค่ะ ไม่ทราบชื่อ ทำให้เรารู้ว่า เอ้อ นั่งรถไฟมันก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แถมเจอฝรั่งหล่อๆ เอ้ย เจอคนดีๆด้วย
ทุกๆที่มีทั้งคนดีและไม่ดีนั่นแหละ ยังไงก็ระวังตัวเสมอน้า
ขอบคุณค่ะ
ประสบการณ์ดีๆจากรถไฟตู้นอน
ไอตอนแรกก็กังวลเพราะครูไม่ได้ไปด้วย มีเรากับเพื่อนแถมยังมีน้องๆพ่วงอีก3
จนไปตั้งกระทู้ก็ได้วิธีป้องกันอันตรายมาบ้าง
ขาไปไม่มีอะไรมากค่ะไม่ขอเล่าน้า แต่ขากลับนี่สิ..
เราต้องขึ้นรถไฟจากนครศรีธรรมราชกลับไปเพชรบุรี เวลา บ่าย3
พอมาถึงรถไฟก็มารอละ ก็ขึ้นไปรอเวลาออก จนมีลุงเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินตรวจตั๋ว แล้วลุงก็ทักทายด้วยน้ำเสียงอัธยาศัยดี สักพักเราก็ถามว่าเมื่อไหร่จะเอาเบาะลงได้ เขาก็บอก 1ทุ่มนู่นแหละ
(ตู้นอนในตอนกลางวันจะเป็นที่นั่ง พอ1ทุ่มก็สามารถพับลงมาเป็นที่นอนได้)
ในเวลาที่ถามลุงตอนนั้นมันเพิ่งจะบ่ายสามครึ่ง เลยบอกกับเพื่อนว่านอนพิงกระจกนี่แหละ เดี๋ยวตื่นมาก็ทุ่มเองแหละ (คือตอนนั้นเพลียมากเพิ่งกลับจากค่าย ณ เวลานี้ฉันนอนตรงไหนก็ได้ขอแค่ได้นอนอะ)
และเราก็สลบกันไปจริงๆค่ะ ตื่นมาอีกที5เกือบ6โมง เพราะคุณลุงคนนั้นมาปลุกค่ะ เขาบอกเดี๋ยวเอาที่นอนลงให้เลยนอนพิงกระจกละมันไม่สบายตัวกัน เราก็คิดในใจว่า เออ ดีอะบริการดีมาก
ก่อนนอนลุงเขาย้ำว่า ให้เอาของมีค่าเก็บไว้ดีๆละผ้าม่านให้สอดไว้ใต้ที่นอน ใครมาเปิดผ้าม่านเราที่ไม่ใช่ลุงให้รีบมาบอกลุงนะ ส่วนพอจะถึงเพชรบุรีลุงจะมาปลุก คือตอนนั้นเรารู้สึกประทับใจมากในความดูเป็นห่วงผู้โดยสารของลุง จากความกลัวเราก็หายไปเลย
ละก่อนจะถึงเพชรบุรีลุงเขาก็มาปลุกจริงๆก่อนถึง15นาที
เราก็นั่งรอเวลาถึงระหว่างรอนั้น.... ผ้าม่านตู้นอนที่เยื้องกันก็เปิดออก เจอกับฝรั่งรูปหล่อคนหนึ่ง คือตอนนั้นกรี๊ดมาก พี่แกไม่ใส่เสื้ออะ เหมือนจะไปเข้าห้องน้ำ แต่พอเห็นผู้หญิงอยู่เขาเลยมุดม่านไปใส่เสื้อ น่ารักมาก
ออกทะเลละ 555 กลับมาที่ลุงนะ พอถึงเพชรบุรีเขาก็ถามว่าพ่อแม่มารอยัง มีคนรอเป็นเพื่อนไหม ถ้าไม่มียืนที่สว่างๆนะ
ที่มาแชร์ประสบการ์นี้เพราะประทับใจลุงคนนี้ค่ะ ไม่ทราบชื่อ ทำให้เรารู้ว่า เอ้อ นั่งรถไฟมันก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แถมเจอฝรั่งหล่อๆ เอ้ย เจอคนดีๆด้วย
ทุกๆที่มีทั้งคนดีและไม่ดีนั่นแหละ ยังไงก็ระวังตัวเสมอน้า
ขอบคุณค่ะ