คำเตือน กระทู้นี้มีทั้งการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่กิน สถานที่ช็อป และสถานีที่ติ่ง ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน ที่สำคัญ ”มันยาวมาก” อาจตอบช้าไปบ้างนะคะเพราะเปิดเทอมแล้ว ถ้าสงสัยหรืออยากรู้อะไรเร่งด่วนให้ติดต่อทางทวิตเตอร์ @DJSiCE89 เอาเนอะ ขอบคุณที่ติดตามค่า Let's Go!!
▲ JUST KEEP IN MIND ▼
แปะเพลงไว้ฟังเพลินๆระหว่างอ่าน อิอิกำ .-.
▧ สวัสดีค่ะ จขกท.ชื่อไอซ์ ปีนี้อายุ 17 ขอแทนตัวเองว่า”เรา”นะคะ นี่เป็นครั้งที่สองแล้วสำหรับการไปเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง ติดใจอะไรนักหนาก็ไม่รู้? ครั้งแรกของเราคือปีก่อนตอนอายุ 16 ไปคนเดียว.. เป็นการไปแบบมั่วๆมึนๆไม่ค่อยได้อะไรกลับมาเลยอยากจะขอแก้มือสักหน่อย แต่ครั้งนี้ต่างจากเดิมเพราะมีผู้ร่วมทริปด้วยอีกหนึ่งคนคือ เอม เพื่อนรุ่นเดียวกันรู้จักทางทวิตเตอร์เมื่อตอนต้นปีเพราะชอบศิลปินวงเดียวกัน(ให้ทาย? .. เฉลย BEAST!)
แจกความสดใส.. ขอบคุณรูปภาพจาก @MIZONE_BEAST
▧ เริ่มเลยดีกว่า เราเลือกที่จะไปช่วงฤดูใบไม้ร่วง วันที่ 14-29 ตุลาคม 2015 เพราะอยู่ในระหว่างการปิดเทอมของมัธยมพอดี อยากดูใบไม้เปลี่ยนสี อากาศก็เย็นสบายพอแต่งแฟชั่นได้ และถ้าถามว่าไปตั้ง 15 วันนี่ไปทำอะไรเยอะแยะ? เราก็ไม่รู้.. คิดแค่ว่าอยากไปให้คุ้มเอาแบบไม่ต้องมาเสียดายตอนกลับไทยอีก แต่ตอนนี้ก็ยังอยากย้อนเวลากลับไปเพิ่มวันอยู่ดี
▧ ข้อมูลสถานที่กิน+เที่ยวบางส่วนเอามาจากบล็อก Seoul cafe และทวิตเตอร์ Seoulstorys อีกส่วนก็ตามบล็อก Naver หรือ Instagram ของคนเกาหลีโดยตรง ส่วนใหญ่เราจะเป็นคนจัดแพลนและหาสถานที่เที่ยว วางทุกอย่างไว้ล่วงหน้าเป็นครึ่งปี ปรับเปลี่ยนอะไรไปเรื่อยตามความเหมาะสม(และตารางงานของศิลปิน ฮ่า)
Trick for read : เราจะบอกสถานที่ การเดินทาง คำบรรยาย รูปภาพประกอบ และสรุปค่าใช้จ่ายโดยรวมไว้ในตอนสุดท้าย ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในกระทู้เดียวเพื่อให้สะดวกต่อการอ่านผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะพึ่งลองทำรีวิวแบบจริงจังครั้งแรก อยากเก็บไว้เป็น Diary
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้2015.10.14 : Patio59 guesthouse, Hongdae
2015.10.15 : Haneul park, Ehwa women university, Hibrunch, Gangnam underground
2015.10.16 : CUBE cafe, Seoul national university, Hangang river
2015.10.17 : Palsaik samgyupsal, Hongdae free market, Dongdaemun, Chokom cafe, Yongsan*
2015.10.18 : Jeondong-gil, Yoseob's musical, Banpo bridge
2015.10.19 : Itaewon, Cheonggyecheon stream, Yeuido park, Gwanghwamun square
2015.10.20 : Hanokjib, Naksan park, Mural village, Coex mall, Bongeunsa Temple
2015.10.21 : English village, N seoul tower, Myeongdong, DDP
2015.10.22 : Common ground, Riverview 8th avenue, Karaoke(?)
2015.10.23 : Cafe comma, Elly guesthouse, Haeundae market, Haeundae beach
2015.10.24 : Nurimaru APEC house, Yonggungsa temple, Gwangalli beach
2015.10.25 : Hongdae hope market, Gwangjang, Times square, Yeongdeungpo underground
2015.10.26 : Insadong, Garosu-gil, Hibrunch, 청담찌개
2015.10.27 : Express-bus underground, Namdaemun, Yeolbong Jjimdak
2015.10.28 : Samcheongdong-gil, 마복림 할머니, Chokom cafe, Myeongdong
2015.10.29 : Thailand
แนะนำ Applications ที่สำคัญ(มั้ง)สำหรับการไปเที่ยวประเทศเกาหลี
“ Subway Korea ”

▧ แอพนี้หลายคนคงรู้จักและมีกันอยู่แล้ว เพราะจำเป็นมากจริงๆสำหรับการไปเที่ยวในประเทศที่มีซับเวย์นับ500-600สถานี(แค่ในโซลไม่รวมเมืองอื่น) ความพิเศษของมันคือการคำนวณเวลาการเดินทาง จุดเปลี่ยนสาย และราคาจากสถานีหนึ่งไปอีกสถานีได้แม้จะใช้งานในโหมด Offline ก็ตาม สามารถเลือกภาษาหรือเมืองที่ต้องการได้ตรงการตั้งค่ามุมขวาบน
“ Daum Map ”

▧ ส่วนตัวชอบแอพนี้มากเลยนะแต่ไม่ค่อยเห็นมีคนใช้ คล้ายกับ Google map แต่จะเป็นของประเทศเกาหลีอย่างเดียวแถมละเอียดมาก สามารถดูภาพพื้นดินของจริงได้”แทบทุกพื้นที่ที่มีถนน”โดยกดตรงรูปกล้องทางขวามือ และแต่ละจุดยังบอกสายรถเมล์กับเวลาที่รถกำลังจะมาถึงป้ายอีก แต่ข้อเสียหลักๆคือต้องใช้เน็ตและเป็นภาษาเกาหลีทั้งหมด.. นั่นแหละ
“ Visit Korea ”

▧ อันนี้ก็ไม่ค่อยจำเป็นแต่ชอบอีกแล้ว ฮ่า เป็นแอพโปรโมทของศูนย์การท่องเที่ยวเกาหลี(?) ไว้บริการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอย่างเรา ให้ข้อมูลการเดินทางไม่ว่าจะเป็นสถานที่กิน เที่ยว ช็อป คาเฟ่ โรงแรม วัฒนธรรม บลาๆๆ ต้องใช้อินเตอร์เน็ตแต่สามารถโหลดเก็บไว้ดูตอน Offline ได้(จะอยู่ทางล่างขวา)
“ Menu Pan ”

▧ มาถึงแอพของกิน เย้.. ใช้ง่ายมากแม้จะอ่านไม่ออก(เป็นภาษาเกาหลีทั้งหมดอีกเช่นเคย) แค่พอรู้คำศัพท์นิดหน่อยเปิดๆดูรูปแล้วหาพิกัดเป็นอันเรียบร้อย! โดยในแอพจะบอกข้อมูลของร้านนั้นแทบทุกอย่าง ทั้งเวลาเปิดปิด ราคาอาหารบางส่วน เบอร์โทรศัพท์ และแผนที่ ใครอยากลองกินแบบคนเกาหลีแท้ๆแนะนำเลย!
อุปกรณ์บางส่วนสำหรับการเดินทางทริปนี้ ทั้งจำเป็นและไม่จำเป็น
:: กล้องถ่ายรูป Nikon Coolpix L810 ธรรมดาแต่คนถ่ายไม่ธรรมดา(?) ::
:: กล้องถ่ายรูปโทรศัพท์ iPhone 5s ใช้ตอนแอบถ่ายหนุ่มบนรถไฟ ฮ่อล ::
:: กระเป๋าเป้ขนาดพอดี ควรเลือกที่น้ำหนักเบาด้วยนะ ของเรานี่พลาดมาก ::
:: ขวดไว้ใส่น้ำ แอบกดของที่พักไปกินตลอดเพราะน้ำที่เกาหลีขายแพง! ::
:: บัตร T-Money รูปบีสท์(ไม่จำเป็นเนาะ)ซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป ::
:: กระดาษแพลนเที่ยวที่ปริ้นท์ไปเอง ไม่ค่อยได้ใช้ออกนอกแพลนตลอด ::
ค่าใช้จ่ายโดยรวมก่อนไป ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก การแลกเงิน
▧ สำหรับทริปนี้เรายังคงใช้บริการของสายการบิน Air Asia เหมือนเดิมโดยจองไว้ตั้งแต่ช่วง Big sale เดือนมีนาคม ได้ราคาคนละ 9,8xx รวมโหลดกระเป๋าไป 20 kg. กลับ 25 kg. ก็ถือว่าไม่ถูกไม่แพงเกินไปนะสำหรับช่วง High season ปล.ปลอบใจตัวเองไปงั้นแหละช่วงกลางปีโปรออช.ออกเยอะมากเจอถูกกว่านี้อีก หึ..
▧ เรื่องที่พักเนื่องจากเราเป็นพวกสายชิคเลยเลือกเกสเฮ้าส์แถวฮงแดจากเว็บ Booking.com ดูอยู่หลายแบบสรุปก็มาจบที่ “Patio 59 Hongdae 2” เป็นห้อง Twin room ราคา 15 คืนเฉลี่ยคนละ 7,8xx บาท อยู่ห่างจาก Hongik univ. Station(Exit2) เดินประมาณ 10 นาที นั่งรถเมล์หรือนั่งแท็กซี่ก็แป๊ปเดียว มีห้องน้ำส่วนตัว เครื่องปรับอากาศ มินิครัว เครื่องซักผ้า โทรทัศน์ ระเบียงเล็กๆ ฯลฯ อีกทั้งไม่ต้องเสียค่ามัดจำเพราะเค้าให้จ่ายเงินสด ณ วันเข้าพัก
Ps.คืนวันที่ 23 เราไปปูซานพักที่ ”Elly Guesthouse” เป็นห้องดอร์มหญิง6เตียง ราคาสำหรับสองคนคือ 1,2xx บาท
▧ สุดท้ายการแลกเงิน เราแลกที่ Super Rich ได้เรท 0.0315 แลกจำนวน 37,000 บาท(ประมาณ 1,170,000 วอน) ส่วนบัตรเรามีบัตรเดบิตไว้สำรองในกรณีฉุกเฉินถึงจะแทบไม่มีเงินเหลืออยู่แล้วก็เถอะ.. พอไม่พอยังไงก็ต้องใช้ให้พอ เพราะนี่เป็นเงินทั้งหมดที่เรา”สะสมด้วยตัวเอง”ตั้งแต่กลับจากเกาหลีคราวก่อน เอาล่ะเมื่อทุกอย่างพร้อมก็ออกเดินทางได้!!

2015.10.14 Gotta go to Korea :: Day1

▧ เรามาถึงสนามบินดอนเมืองประมาณ 22:30น. นัดเจอเอมเสร็จก็ไปทำการโหลดกระเป๋า(เคาน์เตอร์เปิด 22:55น. ก่อนเวลาเครื่องออกสามชั่วโมง) เนื่องจากเราเช็คอินล่วงหน้ามาแล้วจึงไปที่เคาน์เตอร์ Baggage Drop ของสายการบินได้เลย สัมภาระของเราขาไปมีแค่กระเป๋าเดินทางใบเดียวกับเป้สะพายขึ้นเครื่อง ส่วนน้ำหนักก็ 14kg. กำลังดีอ่ะไม่มากไม่น้อยเกินไป 55555555+
▧ พอเข้ามาในเกท.. โอ้โห จะไปไหนกันนักหนาเนี่ย #เอ๊ะ ไม่มีที่นั่งค่ะต้องเดินไปหลบอยู่ด้านใน ยืนรอสักพักพี่แอร์คนสวยก็ประกาศเรียกให้ขึ้นเครื่องตามลำดับ ที่นั่งเราคือ 44H เป็นแถวแรกที่ปรับจาก 3-3-3 เป็น 2-3-2 พอดีสบายเลย ไม่ได้นั่งริมหน้าต่างแต่นั่งข้างฝรั่ง(ประเด็นหล่อมาก..) ตอนนั้นอปป้าคือไรเอาไว้ก่อนแล้วกัน ; - ;
▧ เวลา 01:55น. ก็เริ่มเดินทางสู่ท่าอากาศยานอินชอน กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ หลับๆตื่นๆไม่ทันไรพระอาทิตย์ก็ขึ้นแล้ว เย้ยย~
▧ ลงจากเครื่องก็รีบเดินตามป้าย Arriver ไปตม.เพราะไม่อยากไปหลังกรุ๊ปทัวร์ จากบริเวณเครื่องที่เราลงต้องนั่งรถไฟต่อเพื่อไปเทอมินอลหลักอีกที จากนั้นพอเจอป้าย Immigration ด่านตรวจคนเข้าเมืองก็รออยู่ไม่ไกลแล้ว
▧ เมื่อไม่นานมานี้รู้สึกจะมีการปรับแถวใหม่ของตม.เพราะปีก่อนเรามามันเป็นแบบหนึ่งช่องต่อหนึ่งแถว แต่คราวนี้จะมีแค่แถวเดียวตม.ช่องไหนคนน้อยก็ค่อยให้เดินไปต่อ รอไม่นานก็ถึงคิวโดนเชือด(?) เฮือก ก่อนหน้าเราเห็นมีคนโดนส่งเข้าห้องเย็น ใจหายบ้างแต่ก็พยายามไม่สนใจเดินทำหน้ามั่นๆเข้าไปเตรียมตัวพร้อมตอบคำถาม แต่..
▧ ไม่โดนถามอะไรเลย! ตม.ถอนหายใจใส่นิดหน่อยบอกโอเคๆแล้วปั๊มผ่าน ส่วนเอมครั้งแรกก็ผ่านไปได้ด้วยดีไม่โดนถามเหมือนกัน ฮิฮิ เมื่อเสร็จทุกอย่างเรียบร้อยเดินลงมาด้านล่างกระเป๋าก็รออยู่ก่อนแล้ว อันนยองฮาเซโยโคเรีย~
▧ แวะ GS25 ที่อยู่ไม่ไกลจากทางออกเพื่อเติมเงินเข้าบัตรทีมันนี่และซื้อนมกล้วยมากินรองท้อง(มันเป็นธรรมเนียมไปแล้วจริงๆว่ามาเกาหลีต้องกินนมกล้วย..) เราเลือกวิธีเข้าเมืองโดยการนั่งรถไฟใต้ดินเพราะถึง Hongik Univ. station เลยและที่สำคัญมันราคาถูกที่สุด 55555555+ เดินตามป้าย Airport Railroad ไปเรื่อยๆไม่หลงแน่นอน

[img]http://f.ptcdn.info/927/036/000/nx1cx8ke6A43ejaqzy0[/img]
[CR] 16Days 15Nights :: Gotta go to Korea เกาหลี.. มีอะไรมากกว่าที่คิด ❤
▧ สวัสดีค่ะ จขกท.ชื่อไอซ์ ปีนี้อายุ 17 ขอแทนตัวเองว่า”เรา”นะคะ นี่เป็นครั้งที่สองแล้วสำหรับการไปเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง ติดใจอะไรนักหนาก็ไม่รู้? ครั้งแรกของเราคือปีก่อนตอนอายุ 16 ไปคนเดียว.. เป็นการไปแบบมั่วๆมึนๆไม่ค่อยได้อะไรกลับมาเลยอยากจะขอแก้มือสักหน่อย แต่ครั้งนี้ต่างจากเดิมเพราะมีผู้ร่วมทริปด้วยอีกหนึ่งคนคือ เอม เพื่อนรุ่นเดียวกันรู้จักทางทวิตเตอร์เมื่อตอนต้นปีเพราะชอบศิลปินวงเดียวกัน(ให้ทาย? .. เฉลย BEAST!)
▧ เริ่มเลยดีกว่า เราเลือกที่จะไปช่วงฤดูใบไม้ร่วง วันที่ 14-29 ตุลาคม 2015 เพราะอยู่ในระหว่างการปิดเทอมของมัธยมพอดี อยากดูใบไม้เปลี่ยนสี อากาศก็เย็นสบายพอแต่งแฟชั่นได้ และถ้าถามว่าไปตั้ง 15 วันนี่ไปทำอะไรเยอะแยะ? เราก็ไม่รู้.. คิดแค่ว่าอยากไปให้คุ้มเอาแบบไม่ต้องมาเสียดายตอนกลับไทยอีก แต่ตอนนี้ก็ยังอยากย้อนเวลากลับไปเพิ่มวันอยู่ดี
▧ ข้อมูลสถานที่กิน+เที่ยวบางส่วนเอามาจากบล็อก Seoul cafe และทวิตเตอร์ Seoulstorys อีกส่วนก็ตามบล็อก Naver หรือ Instagram ของคนเกาหลีโดยตรง ส่วนใหญ่เราจะเป็นคนจัดแพลนและหาสถานที่เที่ยว วางทุกอย่างไว้ล่วงหน้าเป็นครึ่งปี ปรับเปลี่ยนอะไรไปเรื่อยตามความเหมาะสม(และตารางงานของศิลปิน ฮ่า)
Trick for read : เราจะบอกสถานที่ การเดินทาง คำบรรยาย รูปภาพประกอบ และสรุปค่าใช้จ่ายโดยรวมไว้ในตอนสุดท้าย ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในกระทู้เดียวเพื่อให้สะดวกต่อการอ่านผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะพึ่งลองทำรีวิวแบบจริงจังครั้งแรก อยากเก็บไว้เป็น Diary
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
▧ แอพนี้หลายคนคงรู้จักและมีกันอยู่แล้ว เพราะจำเป็นมากจริงๆสำหรับการไปเที่ยวในประเทศที่มีซับเวย์นับ500-600สถานี(แค่ในโซลไม่รวมเมืองอื่น) ความพิเศษของมันคือการคำนวณเวลาการเดินทาง จุดเปลี่ยนสาย และราคาจากสถานีหนึ่งไปอีกสถานีได้แม้จะใช้งานในโหมด Offline ก็ตาม สามารถเลือกภาษาหรือเมืองที่ต้องการได้ตรงการตั้งค่ามุมขวาบน
▧ ส่วนตัวชอบแอพนี้มากเลยนะแต่ไม่ค่อยเห็นมีคนใช้ คล้ายกับ Google map แต่จะเป็นของประเทศเกาหลีอย่างเดียวแถมละเอียดมาก สามารถดูภาพพื้นดินของจริงได้”แทบทุกพื้นที่ที่มีถนน”โดยกดตรงรูปกล้องทางขวามือ และแต่ละจุดยังบอกสายรถเมล์กับเวลาที่รถกำลังจะมาถึงป้ายอีก แต่ข้อเสียหลักๆคือต้องใช้เน็ตและเป็นภาษาเกาหลีทั้งหมด.. นั่นแหละ
▧ อันนี้ก็ไม่ค่อยจำเป็นแต่ชอบอีกแล้ว ฮ่า เป็นแอพโปรโมทของศูนย์การท่องเที่ยวเกาหลี(?) ไว้บริการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอย่างเรา ให้ข้อมูลการเดินทางไม่ว่าจะเป็นสถานที่กิน เที่ยว ช็อป คาเฟ่ โรงแรม วัฒนธรรม บลาๆๆ ต้องใช้อินเตอร์เน็ตแต่สามารถโหลดเก็บไว้ดูตอน Offline ได้(จะอยู่ทางล่างขวา)
▧ มาถึงแอพของกิน เย้.. ใช้ง่ายมากแม้จะอ่านไม่ออก(เป็นภาษาเกาหลีทั้งหมดอีกเช่นเคย) แค่พอรู้คำศัพท์นิดหน่อยเปิดๆดูรูปแล้วหาพิกัดเป็นอันเรียบร้อย! โดยในแอพจะบอกข้อมูลของร้านนั้นแทบทุกอย่าง ทั้งเวลาเปิดปิด ราคาอาหารบางส่วน เบอร์โทรศัพท์ และแผนที่ ใครอยากลองกินแบบคนเกาหลีแท้ๆแนะนำเลย!
▧ สำหรับทริปนี้เรายังคงใช้บริการของสายการบิน Air Asia เหมือนเดิมโดยจองไว้ตั้งแต่ช่วง Big sale เดือนมีนาคม ได้ราคาคนละ 9,8xx รวมโหลดกระเป๋าไป 20 kg. กลับ 25 kg. ก็ถือว่าไม่ถูกไม่แพงเกินไปนะสำหรับช่วง High season ปล.ปลอบใจตัวเองไปงั้นแหละช่วงกลางปีโปรออช.ออกเยอะมากเจอถูกกว่านี้อีก หึ..
▧ เรื่องที่พักเนื่องจากเราเป็นพวกสายชิคเลยเลือกเกสเฮ้าส์แถวฮงแดจากเว็บ Booking.com ดูอยู่หลายแบบสรุปก็มาจบที่ “Patio 59 Hongdae 2” เป็นห้อง Twin room ราคา 15 คืนเฉลี่ยคนละ 7,8xx บาท อยู่ห่างจาก Hongik univ. Station(Exit2) เดินประมาณ 10 นาที นั่งรถเมล์หรือนั่งแท็กซี่ก็แป๊ปเดียว มีห้องน้ำส่วนตัว เครื่องปรับอากาศ มินิครัว เครื่องซักผ้า โทรทัศน์ ระเบียงเล็กๆ ฯลฯ อีกทั้งไม่ต้องเสียค่ามัดจำเพราะเค้าให้จ่ายเงินสด ณ วันเข้าพัก
Ps.คืนวันที่ 23 เราไปปูซานพักที่ ”Elly Guesthouse” เป็นห้องดอร์มหญิง6เตียง ราคาสำหรับสองคนคือ 1,2xx บาท
▧ สุดท้ายการแลกเงิน เราแลกที่ Super Rich ได้เรท 0.0315 แลกจำนวน 37,000 บาท(ประมาณ 1,170,000 วอน) ส่วนบัตรเรามีบัตรเดบิตไว้สำรองในกรณีฉุกเฉินถึงจะแทบไม่มีเงินเหลืออยู่แล้วก็เถอะ.. พอไม่พอยังไงก็ต้องใช้ให้พอ เพราะนี่เป็นเงินทั้งหมดที่เรา”สะสมด้วยตัวเอง”ตั้งแต่กลับจากเกาหลีคราวก่อน เอาล่ะเมื่อทุกอย่างพร้อมก็ออกเดินทางได้!!
▧ เรามาถึงสนามบินดอนเมืองประมาณ 22:30น. นัดเจอเอมเสร็จก็ไปทำการโหลดกระเป๋า(เคาน์เตอร์เปิด 22:55น. ก่อนเวลาเครื่องออกสามชั่วโมง) เนื่องจากเราเช็คอินล่วงหน้ามาแล้วจึงไปที่เคาน์เตอร์ Baggage Drop ของสายการบินได้เลย สัมภาระของเราขาไปมีแค่กระเป๋าเดินทางใบเดียวกับเป้สะพายขึ้นเครื่อง ส่วนน้ำหนักก็ 14kg. กำลังดีอ่ะไม่มากไม่น้อยเกินไป 55555555+
▧ พอเข้ามาในเกท.. โอ้โห จะไปไหนกันนักหนาเนี่ย #เอ๊ะ ไม่มีที่นั่งค่ะต้องเดินไปหลบอยู่ด้านใน ยืนรอสักพักพี่แอร์คนสวยก็ประกาศเรียกให้ขึ้นเครื่องตามลำดับ ที่นั่งเราคือ 44H เป็นแถวแรกที่ปรับจาก 3-3-3 เป็น 2-3-2 พอดีสบายเลย ไม่ได้นั่งริมหน้าต่างแต่นั่งข้างฝรั่ง(ประเด็นหล่อมาก..) ตอนนั้นอปป้าคือไรเอาไว้ก่อนแล้วกัน ; - ;
▧ เวลา 01:55น. ก็เริ่มเดินทางสู่ท่าอากาศยานอินชอน กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ หลับๆตื่นๆไม่ทันไรพระอาทิตย์ก็ขึ้นแล้ว เย้ยย~
▧ ลงจากเครื่องก็รีบเดินตามป้าย Arriver ไปตม.เพราะไม่อยากไปหลังกรุ๊ปทัวร์ จากบริเวณเครื่องที่เราลงต้องนั่งรถไฟต่อเพื่อไปเทอมินอลหลักอีกที จากนั้นพอเจอป้าย Immigration ด่านตรวจคนเข้าเมืองก็รออยู่ไม่ไกลแล้ว
▧ เมื่อไม่นานมานี้รู้สึกจะมีการปรับแถวใหม่ของตม.เพราะปีก่อนเรามามันเป็นแบบหนึ่งช่องต่อหนึ่งแถว แต่คราวนี้จะมีแค่แถวเดียวตม.ช่องไหนคนน้อยก็ค่อยให้เดินไปต่อ รอไม่นานก็ถึงคิวโดนเชือด(?) เฮือก ก่อนหน้าเราเห็นมีคนโดนส่งเข้าห้องเย็น ใจหายบ้างแต่ก็พยายามไม่สนใจเดินทำหน้ามั่นๆเข้าไปเตรียมตัวพร้อมตอบคำถาม แต่..
▧ ไม่โดนถามอะไรเลย! ตม.ถอนหายใจใส่นิดหน่อยบอกโอเคๆแล้วปั๊มผ่าน ส่วนเอมครั้งแรกก็ผ่านไปได้ด้วยดีไม่โดนถามเหมือนกัน ฮิฮิ เมื่อเสร็จทุกอย่างเรียบร้อยเดินลงมาด้านล่างกระเป๋าก็รออยู่ก่อนแล้ว อันนยองฮาเซโยโคเรีย~
▧ แวะ GS25 ที่อยู่ไม่ไกลจากทางออกเพื่อเติมเงินเข้าบัตรทีมันนี่และซื้อนมกล้วยมากินรองท้อง(มันเป็นธรรมเนียมไปแล้วจริงๆว่ามาเกาหลีต้องกินนมกล้วย..) เราเลือกวิธีเข้าเมืองโดยการนั่งรถไฟใต้ดินเพราะถึง Hongik Univ. station เลยและที่สำคัญมันราคาถูกที่สุด 55555555+ เดินตามป้าย Airport Railroad ไปเรื่อยๆไม่หลงแน่นอน
[img]http://f.ptcdn.info/927/036/000/nx1cx8ke6A43ejaqzy0[/img]