จากมติชนออนไลน์
ใจกว้างมากสมกับเป็นซิงเกิ้ลมัมสุดเเกร่ง สำหรับสาว พลอย พลอยพรรณ ภรรยาของนักเเสดงหนุ่ม ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล กลายมาเป็นที่จับตาของผู้คนอีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้มีภาพของสาวพลอย ป่วยหนักถึงขั้นต้องนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล เเต่ไร้เงาของสามีมาเยี่ยมเยียน เเถมยังมีภาพของหนุ่มปีเตอร์ไปออกทริปบิ๊กไบค์กับกลุ่มเพื่อนอย่างสนุกสนานซะอีก
ล่าสุดหลังจากหายป่วยก็ได้เจอสาวพลอยเจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงอาการป่วยที่เพิ่งหายดีให้ได้ฟังว่า
ก่อนหน้านี้เธอป่วยจากการติดเชื้อในกระแสเลือด จากนั้นเมื่อออกจากโรงพยาบาลลูกก็ป่วยอีก แล้วเมื่อเธอป้อนลูกก็ใช้ช้อนเดียวกัน ทำให้ตัวเองที่ยังร่างกายไม่แข็งแรงติดเชื้อจากลูกอีกรอบ ก็อยากให้ ปีเตอร์ เข้ามาช่วยดูแลลูกบ้าง เพราะบางครั้งเธอก็แอบคิดว่าทำไมต้องเป็นเธอคนเดียวที่ต้องมานั่งดูแลลูกทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ เพราะแม้มันจะเป็นหน้าที่แม่อยู่เเล้ว แต่หากมีคนเข้ามาช่วยก็จะผ่อนหนักให้เป็นเบาได้
ตอนนี้กำลังใจเพียงอย่างเดียวให้สู้ต่อก็คือลูก ไม่อยากใช้คำว่าซิงเกิ้ลมัมเพราะยังไม่ได้หย่า อยากให้ใช้คำว่าคุณแม่ผู้ทุ่มเทมากกว่า ส่วนเรื่องที่มีภาพว่า ปีเตอร์ ไปออกทริปกับคนชื่อ แอนนี่ ซึ่งเคยเป็นข่าวด้วยกันในช่วงที่เธอป่วยนั้น สาวพลอยบอกได้เห็นรูปแล้ว แต่ก็คิดว่าฝ่ายแอนนี่คงไม่ได้ตั้งใจอะไรให้มันออกมาเป็นแบบนั้น เธอเชื่อว่าคงไม่มีใครที่จะใจร้ายใจดำ ใจหมูใจหมา ขนาดนั้น ถ้าเขาตั้งใจเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คาดว่าฝ่ายนั้นไม่น่าใช่คนแบบนั้น อย่างไรก็ตามอยากให้ทุกคนเลิกต่อว่า ปีเตอร์ ได้แล้ว เพราะเมื่อทุกคนไปผลักเขามาก ๆ จนล้ม เขาก็ไม่มีทางลุกได้ อยากให้เปิดทางมีโอกาสให้เขาได้หายใจดีกว่า
นอกจากนี้สาวพลอยยังเผยต่ออีกว่า ตอนนี้เธอไม่ได้คุยกับ ปีเตอร์ มา 5 เดือนแล้วนับตั้งแต่มีข่าว มีคนมาเล่าว่าเร็ว ๆ นี้ฝ่ายนั้นอาจจะเข้ามาเคลียร์ ซึ่งส่วนตัวหากจะเคลียร์กันจริง ๆ อยากให้มีผู้ใหญ่เข้ามาคุยด้วย ไม่อยากให้เคลียร์กันตัวต่อตัว ส่วนกระแสข่าวเรื่องฟ้องหย่า จริง ๆ คนที่ฟ้องน่าจะเป็นฝ่ายเธอไม่ใช่ ปีเตอร์ อย่างไรก็ตามหากเขาอยากหย่าก็คงหย่าไปแล้ว เพราะเขาเคยพูดให้ฟังหลายทีว่าจะแต่งแค่ครั้งเดียว ถามถึงโอกาสที่จะกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกัน เธอให้ความเป็นครอบครัวกับเขาในฐานะพ่อของลูกได้ ส่วนความเป็นสามีภรรยา ก็ไม่เป็นไร ยังอยู่บ้านเดียวกันได้ เธอไม่ซีเรียส หรือเขาอยากจะพาแฟนใหม่มาอยู่บ้านเดียวกันเธอก็ไม่ซีเรียสเช่นกัน ตอนนี้งานหลัก ๆ ของเธอก็คือการดูแลลูกให้ดีที่สุด เขาอยากจะทำอะไรก็โอเค แต่หากเขาจะช่วยดูแลลูกอย่างการช่วยเลี้ยงดูในชีวิตประจำวัน หรือช่วยทำงานหาเงินมาสนับสนุน เราก็ยินดี
"พลอย" ไม่ซีเรียสถ้า "ปีเตอร์" พาหญิงใหม่เข้าบ้าน แค่อยากให้กลับมาช่วยเลี้ยงลูกบ้าง!
ใจกว้างมากสมกับเป็นซิงเกิ้ลมัมสุดเเกร่ง สำหรับสาว พลอย พลอยพรรณ ภรรยาของนักเเสดงหนุ่ม ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล กลายมาเป็นที่จับตาของผู้คนอีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้มีภาพของสาวพลอย ป่วยหนักถึงขั้นต้องนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล เเต่ไร้เงาของสามีมาเยี่ยมเยียน เเถมยังมีภาพของหนุ่มปีเตอร์ไปออกทริปบิ๊กไบค์กับกลุ่มเพื่อนอย่างสนุกสนานซะอีก
ล่าสุดหลังจากหายป่วยก็ได้เจอสาวพลอยเจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงอาการป่วยที่เพิ่งหายดีให้ได้ฟังว่า
ก่อนหน้านี้เธอป่วยจากการติดเชื้อในกระแสเลือด จากนั้นเมื่อออกจากโรงพยาบาลลูกก็ป่วยอีก แล้วเมื่อเธอป้อนลูกก็ใช้ช้อนเดียวกัน ทำให้ตัวเองที่ยังร่างกายไม่แข็งแรงติดเชื้อจากลูกอีกรอบ ก็อยากให้ ปีเตอร์ เข้ามาช่วยดูแลลูกบ้าง เพราะบางครั้งเธอก็แอบคิดว่าทำไมต้องเป็นเธอคนเดียวที่ต้องมานั่งดูแลลูกทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ เพราะแม้มันจะเป็นหน้าที่แม่อยู่เเล้ว แต่หากมีคนเข้ามาช่วยก็จะผ่อนหนักให้เป็นเบาได้
ตอนนี้กำลังใจเพียงอย่างเดียวให้สู้ต่อก็คือลูก ไม่อยากใช้คำว่าซิงเกิ้ลมัมเพราะยังไม่ได้หย่า อยากให้ใช้คำว่าคุณแม่ผู้ทุ่มเทมากกว่า ส่วนเรื่องที่มีภาพว่า ปีเตอร์ ไปออกทริปกับคนชื่อ แอนนี่ ซึ่งเคยเป็นข่าวด้วยกันในช่วงที่เธอป่วยนั้น สาวพลอยบอกได้เห็นรูปแล้ว แต่ก็คิดว่าฝ่ายแอนนี่คงไม่ได้ตั้งใจอะไรให้มันออกมาเป็นแบบนั้น เธอเชื่อว่าคงไม่มีใครที่จะใจร้ายใจดำ ใจหมูใจหมา ขนาดนั้น ถ้าเขาตั้งใจเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คาดว่าฝ่ายนั้นไม่น่าใช่คนแบบนั้น อย่างไรก็ตามอยากให้ทุกคนเลิกต่อว่า ปีเตอร์ ได้แล้ว เพราะเมื่อทุกคนไปผลักเขามาก ๆ จนล้ม เขาก็ไม่มีทางลุกได้ อยากให้เปิดทางมีโอกาสให้เขาได้หายใจดีกว่า
นอกจากนี้สาวพลอยยังเผยต่ออีกว่า ตอนนี้เธอไม่ได้คุยกับ ปีเตอร์ มา 5 เดือนแล้วนับตั้งแต่มีข่าว มีคนมาเล่าว่าเร็ว ๆ นี้ฝ่ายนั้นอาจจะเข้ามาเคลียร์ ซึ่งส่วนตัวหากจะเคลียร์กันจริง ๆ อยากให้มีผู้ใหญ่เข้ามาคุยด้วย ไม่อยากให้เคลียร์กันตัวต่อตัว ส่วนกระแสข่าวเรื่องฟ้องหย่า จริง ๆ คนที่ฟ้องน่าจะเป็นฝ่ายเธอไม่ใช่ ปีเตอร์ อย่างไรก็ตามหากเขาอยากหย่าก็คงหย่าไปแล้ว เพราะเขาเคยพูดให้ฟังหลายทีว่าจะแต่งแค่ครั้งเดียว ถามถึงโอกาสที่จะกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกัน เธอให้ความเป็นครอบครัวกับเขาในฐานะพ่อของลูกได้ ส่วนความเป็นสามีภรรยา ก็ไม่เป็นไร ยังอยู่บ้านเดียวกันได้ เธอไม่ซีเรียส หรือเขาอยากจะพาแฟนใหม่มาอยู่บ้านเดียวกันเธอก็ไม่ซีเรียสเช่นกัน ตอนนี้งานหลัก ๆ ของเธอก็คือการดูแลลูกให้ดีที่สุด เขาอยากจะทำอะไรก็โอเค แต่หากเขาจะช่วยดูแลลูกอย่างการช่วยเลี้ยงดูในชีวิตประจำวัน หรือช่วยทำงานหาเงินมาสนับสนุน เราก็ยินดี