๐๐๐ กระเดียดฝรั่ง๐๐๐

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

READING , UK ตุลาคม 2015
ข้าพเจ้าก้าวเดินลงมาจากอาคารท่ามกลางอุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส ที่หนาวเย็นมาสู่ถนนคิงในยามบ่ายมุ่งหน้าสู่ถนนด้านซ้ายมือเพื่อไปยังแหล่งย่านการค้าของชุมชนที่นี่ อากาศในยามนี้แม้พูดก็จะได้เห็นควันออกจากปากทีเดียว เมื่อได้เดินสู้ความหนาวที่กระทบผิวหน้าที่ไม่ได้ปกปิดทั้งตัวด้วยเสื้อผ้า Lightweight down jacket ของ Uniqlo ความเย็นนี่มันสอดแทรกเข้าไปในรูห่างของเสื้อผ้าได้ด้วย การเดินเพียงห้านาทีก็มาถึงร้าน Marks & Spencer ด้านหน้าแขวนเสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาวเต็มไปหมด ด้านในเป็น Supermarket ที่มีขนมปังเป็นตัวชูโรง

มีขนมปังหลากหลายชนิด รวมทั้งขนมปังเยอรมัน ที่ระบุ German bread ไว้ด้วย ที่คนรุมจนไม่เห็นกระบะไม้ที่วางเอียงโชว์ขนมปังที่วางลดหลั่นกันสี่ห้าชั้นกระบะในเวลาก่อนหกโมงเย็น ที่ป้าย Reduce จะนำมาแปะแทนราคาเดิม ผู้คนต่างหยิบฉวยขนมปังที่ตนต้องการ ในไม่นานก็หมดเป็นอย่างๆไป ขนมปังลดราคาแล้วก็เท่ากับราคาที่เมืองไทย

ตรงหน้าข้าพเจ้าที่สนใจมองการหยิบขนมปังต่างๆนั้น ปุ๋มเป็นหนึ่งในคนที่จ้องขนมปังราคา 1.50 ปอนด์ลดลงเหลือ 0.80 ปอนด์ สำหรับอาหารเช้าของทุกคน ในตะกร้ามีไข่ไก่กล่อง10 ฟอง ราคา1ปอนด์ มีผักสลัดไอซ์เบอร์กที่กรอบอร่อย ปลา Cod และปลา Salmon ราคาถูกกว่าที่เมืองไทยแยะนัก จำเป็นต้องรีบหามาทำกิน ลูกสาวนึ่งปลาและราดด้วยน้ำยำ กลายเป็นต้มยำแห้ง เพราะไม่มีตะไคร้ ก็อร่อยมากเมื่อทานกับข้าวBasmati ของอินเดีย เมล็ดยาวและผอมกว่าข้าวหอมมะลิของไทย ราคากิโลกรัมละ 1.30 ปอนด์ (55x1.3=71.5 บาท)

การได้มาเปลี่ยนบรรยากาศในเมืองที่ที่มีความสงบและสวยงามด้วยธรรมชาติและสิ่งก่อสร้างตามแบบฉบับเมืองในยุโรป เมืองReadingอยู่ห่างจากLondon และสนามบิน Heathrow เพียงครึ่งชั่วโมงโดยรถยนต์ การนั่งTaxi มาสนามบินจ่ายไป 30 ปอนด์ เทียบกับราคาอาหารหนึ่งที่ตามภัตตาคารที่ตกประมาณ 20 ปอนด์ต่อจาน ก็ถือว่าราคารถแท็กซี่ไม่แพง เป็นรถเมอร์เซเดสด้วยแล้ว

การเดินทางเข้าลอนดอนโดยรถไฟใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเช่นกัน โดยไปสุดรถไฟที่สถานี Paddington เขตลอนดอนแล้วต่อ Tube หรือ Underground ไปได้ทั่วลอนดอนโดยสะดวก

ในชีวิตคนเราย่อมมีการคาดหมายและปรารถนาในสิ่งที่อยากได้อยากมีต่างๆกัน ซึ่งแต่ละคนก็มีเส้นทางของตนเองตามสายทางรากฐานแห่งการเจริญเติบโตและหล่อหลอม กว่าจะถึงวันนี้ที่มาเยี่ยมเยียนถึงที่อยู่อันถาวรของปุ๋มก็ต้องย้อนเวลากลับไปสู่ชีวิตในเยาว์วัยของปุ๋มเป็นเสมือนเส้นทางการเดินของชีวิตหนึ่ง

ปุ๋มเกิดมาบนถนนสายหน้าบ้านเป็นถนนคอนกรีตในหมู่บ้านจัดสรรเขตปริมณฑลของกรุงเทพ เป็นบ้านสองชั้น สี่ห้องนอน สามห้องน้ำเนื้อที่เจ็ดสิบห้าตารางวา ที่นี้เป็นหมู่บ้านใหญ่ที่ใกล้โรงเรียนอัสสัมชัญและโรงเรียนเซนโยเซฟตั้งอยู่ติดกันโดยรั้ว เมื่อเล็กปุ๋มก็ได้เรียนอนุบาลจนจบชั้นมอ สามที่นี่ ซึ่งความสามารถพิเศษคือการเรียนเปียโนกับแม่ชี ผลจากการเรียนต้องไปสอบรับประกาศของTrinity และใช้ประกาศนั้นรับสอนดนตรีที่สยามกลการได้

ในเวลาว่างต่อมา เมื่อมีประกวดดนตรีนักเรียนมัธยมแห่งประเทศไทย วงดนตรีของโรงเรียนที่มีปุ๋มเล่นอีเลค
โทน ก็ได้รับรางวัลที่สอง  และด้วยเหตุผลที่ว่า เด็กต่างจังหวัดมีโอกาสได้รับโควต้าเด็กช้างเผือก (Genius)ปุ๋มเป็นเด็กเกรดสี่ แม่จึงได้จัดการให้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนประจำจังหวัดเพื่อให้ได้ทุนนี้ ซึ่งนึกแล้วแปลกที่ย้ายจากโรงเรียนดังไปสู่โรงเรียนต่างจังหวัด ซึ่งต่อมาน้องชายก็ย้ายออกมาอยู่ที่โรงเรียนสตรีตามพี่สาวทั้งสองคนด้วย และเมื่อปุ๋มจบชั้นมอหกแล้ว ปุ๋มเป็นเด็ก Top Ten ของโรงเรียนไม่ต้องสอบ  Entrance ก็เข้ามหาวิทยาลัยได้ ในตอนนี้ต้องตัดสินใจเรียนหมอไหม แม่ก็เป็นคนคิดว่าถึงอาชีพหมอจะรวยและมีเกียรติมาก แต่เราก็ไม่ได้ต้องการเงินมากกว่าความสุข แม่ไม่อยากให้ลูกต้องเข้าเวรอยู่กับโรคภัยและความเจ็บปวด

อีกอย่างหนึ่งต้องเล่าเรียนที่หนักหนาสาหัสมาก จึงคิดว่าเรียนวิศวะดีกว่า อะไรก็ทำเป็น สามารถไปทำงานที่ไหนก็ได้ในโลกนี้ แต่อย่างไรก็ดี ได้ลองไปสอบที่ธรรมศาสตร์แผนกบัญชี และได้สละสิทธิ์ไป เพื่อเข้าเรียนวิศวะ โดยการไปสอบสัมภาษณ์อย่างเดียวเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งมันไม่ง่ายนักสำหรับเด็กที่เรียนภาษาอังกฤษเฉพาะการเรียนในโรงเรียน แต่ก็สอบผ่านแล้วก็ได้เข้าเรียนสาขาวิศวกรรม ภายหลังเลือกสาขาวิศวะอุตสาหกรรม ในการสอบปุ๋มโทรมาคร่ำครวญว่ายาก เครียดในการสอบ แม่ก็ได้แต่ปลอบไปว่ายากก็ยากสำหรับทุกคนและโรงเรียนก็ตั้งมานานแล้ว การสอบคงเป็นไปตามที่ครูต้องการ สอบได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เรียนสี่ห้าปีก็ได้ ซึ่งเพื่อนๆก็มีที่ลาออก เพราะเรียนไม่ไหวและเปลี่ยนที่ศึกษาไป บางคนก็เรียนหลายปีหน่อย มีหลากหลายเหตุการณ์และเหตุผล ค่าเทอมปุ๋มได้ลดราคาเด็กช้างเหลือห้าสิบเปอร์เซ็นต์ คือจ่ายเทอมละ หกหมื่นแปดพันหนึ่งร้อยบาททุกเทอม โดยที่มีคุณย่าปุ๋มบอกจะช่วยจ่ายให้หนึ่งเทอม ทุกคนคิดว่าให้ของขวัญหลาน ที่ไหนได้ คุณย่าผลัดกันจ่ายกับแม่คนละเทอมจนจบสี่ปีการศึกษา ถือว่าปุ๋มได้ทุนสองชั้นทีเดียวเชียว

เมื่อผ่านการสอบปีสุดท้ายปุ๋มสอบได้เกรดสามกว่า และได้สมัครงานไปสี่ห้าแห่ง ในจำนวนนั้นมีบริษัทยางรถยนต์,  บริษัทคริสเตียนี่หรือ อิตาเลี่ยน-ไทย และบริษัทใกล้บ้าน ลูกอมและยา ถึงแม้ว่าบริษัทที่ต้องออกไปดูงานตาม Construction site จะให้เงินเดือนมากก็ไม่ควรไปทำเพราะไม่คุ้มกับค่าเครื่องสำอางค์ที่ต้องจ่าย โรงงานยางก็เหม็นกลิ่นไม่ดีต่อสุขภาพ ตกลงเลือกโรงงานของบริษัทใหญ่ในสหรัฐ  ในอัตราเงินเดือนที่ดีไม่ต้องเสียเวลาเดินทางและค่าโดยสารมาก นั่งรถเมล์ของหมู่บ้านไปก็ถึงแล้วภายในยี่สิบนาที บางครั้งปุ๋มเอารถแม่ไปทำงานขับแค่สิบนาทีก็ถึงแล้ว ถือว่าสะดวกและดีต่อสุขภาพด้วยทำงานในโรงงานที่ติดแอร์แบบอาหารและยา

ที่นี่ปุ๋มมีความสุขในการทำงาน ทำร่วมเจ็ดปีโดยเป็นวิศวกรโรงงานและหน้าที่พิเศษคือเป็นพิธีกรงานปีใหม่ของบริษัทที่มีชาวต่างชาติเป็นหัวหน้าแทบทุกแผนก นอกจากนั้นยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ วีดีโอ แนะนำให้คนญี่ปุ่นดูคุณภาพของบริษัทด้วยที่หน้าตาดีมากเท่ากับความฉลาดเฉลียวพอกัน

ต่อมาปุ๋มได้เรียน ป โท อินเตอร์จนจบและได้ย้ายที่ทำงานไปอยู่บริษัทสัญชาติอังกฤษ ที่นี่ ทำให้ปุ๋มต้องเลิกกิจการร้านกาแฟที่ขายอยู่ ต้องขายกิจการให้ญาติไป การทำงานต้องไปยังประเทศต่างๆในระยะสั้นและระยะยาวถึงเก้าเดือนที่ อินเดีย และ ไคโร อิยิปต์ ทำให้การทำงานกว้างไกลจนถึงต้องไปที่บริษัทแม่ที่อังกฤษบ่อยๆ จนวันหนึ่งปุ๋มได้ตัดสินใจแต่งงานกับต่างชาติและย้ายมาทำงานที่อังกฤษในที่สุด ที่ทำงานอยู่ที่ในลอนดอน การนั่งรถไฟต่อรถใต้ดินถือเป็นเรื่องปกติของลอนดอนเนอร์

ครบหนึ่งปีแล้วที่ปุ๋มมาอยู่ที่อังกฤษและซื้อแฟลต อยู่ในทำเลและย่านที่พักที่ดี ข้าพเจ้าจึงต้องมาดูการเป็นอยู่ของลูกที่ได้ร่วมแนะแนวเส้นทางกันตลอดมา วันนี้ปุ๋มมีหน้าที่การงานตำแหน่งดี ในเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก

และเป็นที่น่ายินดีว่าน้องชายที่เรียนโรงเรียนเดียวกับพี่สาวเคยสอบเอ็นทรานซไม่ติดแต่คะแนนสูงสามารถเข้าเรียนรับตรงของมหาวิทยาลัย ภาคภาษาอังกฤษโดยลูกว่าแม่บังคับให้เรียน Computer science ด้วยแม่คิดว่าเป้าสมาธิไม่ค่อยยาว ชอบเล่นเกมส์นัก เรียนคอมพ์ก็เหมาะแล้ว การสอบสัมภาษณ์อย่างเดียวคือภาษาอังกฤษนั่นก็ทำให้แม่ลุ้นราวกับเข้าสอบเสียเอง เพราะเป้าไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษมากไปกว่าที่โรงเรียนสอน แต่การพูดก็ต้องมาทวนกัน พอดีแม่ไปถามคนที่สอบแล้วว่า ฝรั่งถามอะไร เรื่อง Pets สัตว์เลี้ยง นอกจากท่องว่าพ่อแม่เป็นใครแล้ว ต้องพูดตอบเรื่องสัตว์เลี้ยงด้วย หมาสองตัวแสนน่ารักที่บ้านทำให้เป้าตอบคำถามได้อย่างดี ในที่สุดก็ผ่านเป็นที่ยินดีกันทั้งบ้าน การเรียนภาคภาษาอังกฤษโดยนักเรียนที่ไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษเสริมเลย ทำให้ครูพูดแล้ว นักเรียนมัวแต่แปล ครูก็พูดไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ กว่าจะเรียน Text book เล่มหนาจบ เป้าสามารถสอบได้แค่สองกว่าๆ แม่ยินดีที่เป้าจบภายในสี่ปี และเดือนที่ผ่าน
มาลูกจบเรียนป โท อินเตอร์ มหาวิทยาลัยพร้อมทำงานด้วย จบแล้ว เกรด สามจุด แปดแปด ล้างเกรดเก่าได้หมดสิ้นอย่างหน้าบาน

วันที่ยี่สิบสองพฤศจิกายนนี้จะได้รับปริญญาเลย เป็นข่าวที่แม่ได้รับตอนอยู่กับปุ๋มที่อังกฤษด้วยความยินดีที่ภาษาอังกฤษลูกเข้าฝักหมดแล้วงทุกคน เพราะพี่สาวก็รับราชการเป็นครู ป โทสอบได้โรงเรียนในใจกลางกรุงเทพก็สอนภาษาอังกฤษด้วย

การปฏิบัติต่อลูกบางครั้งคนเป็นแม่ก็ลังเลเหมือนกัน เช่นการจัดฟันลูก ปุ๋มมีฟันเขี้ยวสองข้าง ต้องถอนทั้งฟันบนฟันล่างรวมสี่ซี่ เป็นความเจ็บปวดที่แม่ก็รู้สึกไม่แพ้กับลูก ทั้งๆที่แม่ก็ได้ถามหมอว่า ถ้าเป็นลูกหมอๆจะถอนไหม หมอบอกต้องถอนจัดฟัน แม่จึงยอมให้ลูกเจ็บสี่หน ด้วยความไม่เต็มใจ แต่ผลสุดท้ายก็ถือว่าแม่ตัดสินใจถูก จัดฟันแล้วฟันสวยรับกับรอยยิ้มทำโฆษณายาสีฟันได้เลยเชียว

อีกเรื่องหนึ่ง คือการเลี้ยงลูกชายไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางที่เรามักจะรู้เมื่อเหตุเกิดขึ้นแล้ว ปกติเป้าจะเป็นเด็กเงียบแต่ชอบการเล่นCross word ซึ่งแม่เคยพาเป้าไปแข่งขันในนามโรงเรียนที่โรงแรมริเวอร์ไซ์ครั้งหนึ่ง ต่อมาเมื่อโตขึ้นก็มีเพื่อนวัยรุ่นมากขึ้น การผลักดันให้เล่นกีฬาเช่น บาสเก็ตบอลก็มีผล โดยลูกต้องมีอุปกรณ์การเล่น ครั้งแรกลูกขอให้พาไปซื้อรองเท้า ซึ่งแม่ก็ยินดีที่ลูกมาทางกีฬา แต่พอเห็นรองเท้าที่ลูกอยากได้คงยี่ห้อ จอร์แดน แม่พลิกราคาดูแล้วก็อึ้ง ห้าพันบาท สมัยนั้น ในใจแม่คิดว่าราวสักพันห้าร้อยประมาณนั้นรองเท้ารุ่นนี้มีแอร์ เรียกอย่างนั้น ตอนนั้นแม่คงกัดฟันรูดการ์ดไป พยายามนึกว่าคุ้มกับราคายาบ้า หรือการดื่มเครื่องดองของเมามั่วสุมวัยรุ่น ดีที่ลูกไม่ดื่ม
แอลกอฮอร์

เส้นทางภาระกิจที่ยาวนานก็บรรลุเสร็จสิ้น ดังคำของกฏหมายที่พูดว่า ' ความผิดสำเร็จแล้ว' คือลงโทษได้ หากแต่ว่าสำหรับแม่ ความพยายามเสร็จสิ้นแล้ว ข้าพเจ้าสอนลูกเล็กน้อยว่า ให้ตั้งใจเรียน เพื่ออนาคตในการทำงานที่ดีเพื่อมีเงินหาซื้อความสุขใส่ตัว เมื่อทำงานแล้วก็ไปท่องเที่ยวได้ตามความพอใจ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร นอกจากชีวิตตนเองเท่านั้น วันนี้ถึงตายตาก็หลับได้สนิท.....

การสอนลูกแม่ได้มาจากคุณยายที่บอกพวกแม่ตอนเล็กๆว่า "กินให้ดีๆจะได้ไม่ต้องเอาเงินไปซื้อยา" และคุณยายบอกคำพูดที่น่าขำคือ

"ไม่ต้องเอาเงินมาให้แม่หรอก อย่ามาขออีกก็แล้วกัน" การมีแม่และลูกรวยก็น่าจะดี และความดีที่พึงมีก็ขอให้เป็นของคุณยายของลูกๆเท่านั้น..
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่