เคยตั้งกระทู้ปรึกษาเพื่อนๆในพันทิปเรื่องจะสารภาพเรื่องอยู่ก่อนแต่ง วันนี้เลยมาเล่าบรรยากาสในวันนั้นให้ฟัง

เคยตั้งกระทู้ http://pantip.com/topic/32563526 ไว้ เคยปรึกษาเพื่อนๆในพันทิป
เรื่องที่อยากจะสารภาพว่าอยู่ก่อนแต่งกะแฟน
ตอนนี้ ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี เลยอยากจะเอามาเล่าสู่กันฟัง.....

เริ่มแรกเลย เราอยู่กับแฟนมา จะครบ 4 ปีเดือนหน้านี้แล้ว
เมื่อเดือนที่แล้ว เราเลยคุยกับแฟนว่าเมื่อไร เขาจะไปบอกกับพ่อ-แม่เราซักทีเรื่องที่เราอยู่ด้วยกัน
นางก็เฉย บอกยังไม่พร้อม!!!...เราเลยถามไม่พร้อมเรื่องไร?
นางตอบว่าถ้าไปบอกเค้าก็ให้แต่งงานเลยแน่ๆ ตังก็ยังไม่มี...

เราก็นิ่ง เราเลยคุยเหตุผลให้ฟัง ว่าทำไมถึงอยากให้คุยกับแม่
เราก็บอกว่า "พ่อ-แม่ตะเองรับรู้แล้วว่า เราอยู่ด้วยกัน แต่พ่อ-แม่เค้าไม่รู้ เค้าก็อยากให้พ่อ-แม่มาหา มาเที่ยวที่เค้าบ้าง
พ่อ-แม่ตะเอง มาบ่อย แล้วเวลาพ่อ-แม่เค้ามาซื้อผลไม้(พ่อ-แม่เรามีอาชีพขายผลไม้ตามฤดูกาลจะลงมาซื้อผลไม้ที่ระยองขึ้นไปขายที่ชลบุรี)
เค้าก็อยากให้มานอนที่นี่ จะได้ไม่ต้องไปจอดนอนปั๊ม..."
แฟนเราก็บอกว่า"ทำงานจะไปอย่างไง" เราก็บอกให้ไปวันหยุดสิ เพราะหยุดตรงกัน....แฟนเราก็เฉยแล้วก็เปลี่ยนเรื่องคุย!!!

เราก็หยุดแค่นั้นยังไม่พูดต่อ....(ในใจคิด รอเวลาก่อนถ้ายังนิ่งเดี๋ยวเจอไม้เเข็ง)
ผ่านไปอีกวัน มีโอกาส ไปกินเหล้าบ้านเพื่อนแฟน เพื่อนแฟนเค้าเป็นผู้หญิง!...
เพื่อนแฟนเค้าก็พูดอีก แต่เราไม่ได้เล่าให้เค้าฟังเรื่องที่เราคุยกับแฟนน่ะ เพื่อนแฟนเค้าพูดเอง "ไปขอมันแต่งงานได้แล้ว ให้พ่อ-แม่ไปคุยได้แล้ว รอห่าไร"
แฟนเราก็ยิ้มๆ แล้วก็ไม่พูดอะไร.....จนผ่านไปอีก 1 อาทิตย์ แฟนเราสั่งท่อรถยนต์มา แต่ยังไม่ได้ใส่
เราก็จัดการเรื่องพัสดุให้เรียบร้อย ..... ได้รับของเรียบร้อย....เราก็คุยกับแฟนอีกว่าจะไปบอกกับแม่เมื่อไร?(โทรคุย)
นางตอบกลับมา "ใส่ท่อรถที่ซื้อให้ก่อนสิ แล้วจะไป" เราเลยถามว่า "ท่อรถมันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ สำคัญกว่าเค้าด้วยใช่ไหม?"
นางตอบว่า "สำคัญพอๆกันนั่นแหละ ขับไปหาแม่ รถจะได้หล่อๆไง"ร้องไห้ตอนนั้นเรายังไม่ให้ใส่เพราะอยู่ช่วงกลางเดือน)เราก็เงียบ นั่งน้ำตาไหล คิดในใจ นี่เค้าเห็นท่อรถสำคัญกว่าเรางั้นเหรอ? คือเราไม่ได้สำคัญอะไรเลยใช่ไหม?

พอเลิกงาน เรากลับบ้าน เจอหน้ากันก็ไม่พูด แต่ทำงานบ้านทุกอย่างปกติ ... ระหว่างทำกับข้าวอยู่
แฟนให้เราผิดปกติ เพราะปกติเราจะพูดมาก กลับมาบ้านจะชอบเล่าเรื่องโน้น เรื่องนี้ที่เจอมาให้แแฟนฟัง
แต่วันนั้นเราเงียบ...เค้าก็เข้ามากอด เข้ามาหอมแก้ม มาอ้อน แล้วถามเราว่าเราเป็นไร แต่เราไม่ตอบ!!!...
จนทำกับข้าวเสร็จ..เค้าก็เข้ามากอดถามเราว่าเราเป็นไร แค่นั้นเราร้องไห้ เพราะเสียใจ เสียความรู้สึกมาก ที่เค้าเห็นรถ เห็นท่อรถสำคัญกว่าสิ่งอื่น
เราก็พูดก็บอกหมด...ว่าเรารู้สึกยังไง คิดยังไง กับสิ่งที่เค้าพูดมา เค้าเลยบอกงั้นวันหยุดนี้ เราไปหาแม่กัน...
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไป เพราะแม่ไม่อยู่....เลยเลื่อนไปอีกวันหยุดหนึ่ง เราป่วย เราเข้าโรงพยาบาล ก็ไม่ได้ไป

เราเลยบอกกับแฟนว่าไม่ต้องไป ไม่ต้องบอกแระ ก็อยู่กันแบบนี้แแหละ....จนอีกวันหยุดหนึ่ง แม่เรากลับบ้านที่จันทบุรี
เราก็ถามแฟนว่าตกลงจะเอายังไง? แฟนเลยให้ถามแม่ ว่าจะกลับวันไหน ให้บอกกับแม่ว่าอย่าเพิ่งกลับ เดี๋ยวเราจะลงไปหา
พอไปใช่ว่าจะได้คุยง่ายๆน่ะ ทุกอย่างเหมือนรอเวลา เราแวะบ้านแฟนก่อน บอกกับพ่อแม่แฟน ว่าวันนี้จะไปบอกกับพ่อ-แม่เราน่ะเรื่องที่เราอยู่ก่อนแต่งกัน

พอถึงเวลาเราไปหาพ่อ-แม่เรา ตอนแรกก็ไม่กล้าคุย ไม่รู้จะเริ่มยังไง จนแฟนเราเริ่มก่อน .....
บอกแม่เราก่อน ว่า "แม่หนูสองคนอยู่ด้วยกันแล้วน่ะ"แม่เราอึ้ง!!!พอแฟนเราบอกแม่ เราเลยเรียกพ่อเข้ามา
แทนที่พ่อเราจะเคลียด กลับกลายเป็นแม่เราที่เครียดแทน!!!

แม่เราบอกว่า แม่คงห้าม2คนไม่ได้ เพราะคู่กันมันไม่แคล้วกัน แม่บอกให้แฟนเรา พาพ่อแม่แฟนมาคุย
มารับรู้ด้วยกัน ว่าเราอยู่ด้วยกัน เผื่ออยู่กันไม่ได้ เผื่อเลิกกัน จะได้รับรู้ทั้งสองฝ่าย
**อ่อเราลืมบอก เราไม่ได้บอกทั้งหมดน่ะว่า พ่อแม่แฟนรู้ตั้งนาน ไม่ได้บอกว่าเราอยู่ด้วยกันมากี่ปี และไม่ได้บอกว่าพี่สาวเรารู้เรื่องด้วย ที่ไม่บอกกลัวว่าพ่อแม่แฟนจะเสียผู้ใหญ่ เราเลยเลือกที่จะบอกไม่หมด**

คุยเสร็จบอกเสร็จ เรากลับมาบ้านแฟนกะแฟน เพราะแฟนไม่กล้าที่จะบอกกะแม่(เพราะเมื่อสมัยหนุ่มๆ แฟนผ่านการแต่งงานมาแล้ว 2 หน แม่แฟนหมดเงินกะแฟนไปเป็นแสน) เราก็เกริ่นก่อน แฟนก็ตาม แม่แฟนบอกไปก็ไป เพราะแม่กะพ่อคิดไว้อยู่แล้วว่าซักวันก็ต้องไปคุยไปสู่ขอให้อยู่ดี....
ก็พากันไปบ้านเรา ไปคุยกะยาย เพราะยายเลี้ยงเรามาตั้งแต่เล็กๆ ต้องให้ยายรับรู้ด้วย .... แต่ในระหว่างทาง พี่สาวไลน์มาบอกว่า ตอนแรกเหมือนแม่จะเครียด พี่สาวเลยบอกกับแม่ว่า จะเคลียดทำไมอายุไม่ใช่น้อยๆกันแล้วจะ 30 กันแล้ว ไม่ใช่เด็กแล้วน่ะ เราถามพี่สาวว่า พ่อว่าไงมั่ง พี่สาวบอกพ่อไม่ว่าไรเลย ไม่เครียดด้วย(ที่เราแคร์พ่อ เพราะพ่อเราเป็นคนหวงลูกมาก ไม่เคยตีเลย แต่แม่เราก็แคร์)

พอไปถึงบ้านผู้ใหญ่เค้าคุยกันเรา กับแฟนและพี่สาวก็นั่งฟัง ทีแรกยายเราเค้าจะไม่ยอม เค้าบอกต้องแต่งเลยเพราะฝ่ายเราเสียหาย แต่พ่อ แม่ เรา ก็บอกไม่อยากให้ติดหนี้กัน ถ้าแต่งเร็วแบบนี้ก็ต้องไปติดหนี้เค้าอีก พ่อ-แม่แฟน เลยบอกขอเวลาให้หาเงินหน่อยน่ะ เรากะแฟนเลยบอกขอเวลาอีก 2 ปี ยายไม่ยอม ยายเราบอกมันนานเกินไป ทีแรกยายเราจะให้เราแต่งต้นปีหน้า เราบอกเก็บตังกันไม่ทัน ขอเป็นสิ้นปีล่ะกัน

สรุปคือแพลนไว้เป็นไม่เกินเดือนพฤศจิกายน ปีหน้า ส่วนวันและฤกษ์ต้องรอดูอีกที ตอนนี้ต้องช่วยกันทำงานเก็บเงิน ใช้จ่ายอย่างตระหนี่
แต่ไม่ใช่เราสองคนที่ช่วยกันเก็บ พ่อ-แม่แฟน และพ่อแม่เราเค้าก็พยายามช่วยตลอด ส่วนสินสอด ทางแม่เราไม่ได้กะเกอะไร เค้าให้ทางบ้านแฟนจัดไปตามความเหมาะสม....ส่วนงานที่คุยกันไว้ ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้ ว่างานเช้าอย่างเดียว จัดให้ถูกต้องตามประเพณี งานเลี้ยงไม่เอา!!!...แม่เราขออย่างเดียวว่าอย่าเพิ่งปล่อยให้ท้อง

ยอมรับว่าพอบอกแล้วเหมือนยกภูเขาออกจากอก .... ตอนนี้พ่อแม่เรา ก็มาหา มานอนด้วยเกือบทุกอาทิตย์ บ้างทีก็เอากับข้าวมาให้ มาคุย มาทำกับข้าวกินกัน ทั้งสองครอบครัว สบายใจมาก ตอนนี้เราก็อยู่ในช่วงเก็บตัง และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับงานแต่ง....

***ตัวหนังสืออาจจะตกหล่นไปบ้างขอโทษด้วยน่ะค่ะ ขอบคุณที่อ่านกันจนจบ ใครมีประสบการณ์คล้ายๆกันมาแชร์กันมั่งน่ะค่ะ***
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่