
วัฒนธรรมการกินของแต่ละพื้นถิ่น ต่างก็มีเสน่ห์แตกต่างกันไป แต่ก็คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์และรสชาติของแต่ละพื้นที่นั้น ๆ ซึ่งการเป็นนักท่องเที่ยวและนักชิมที่ดี ก็จะต้องปรับทัศนคติและปรับการรับรสชาติในการที่จะรับสิ่งใหม่ ๆ ในแต่ละพื้นถิ่น ทั้งนี้ ก็เพื่อความสนุกและความสุขในการพักผ่อนในทริปนั้น ๆ อย่างสมบูรณ์

การไปต่างถิ่นต่างที่ นับเป็นกำไรต่อชีวิตที่มากมาย อย่างเช่นชายกางที่ได้มาปฏิบัติงานที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้เดินทาง ได้ไปพบเห็นโลกทัศน์ใหม่ ๆ ตามที่ต่าง ๆ ในประเทศไทย ที่ไม่เคยเจอมาก่อน ถือเป็นโชคดีอย่างที่สุด อย่างเราไปในถิ่นที่เรานำกระแสไฟฟ้า ขยายเขตเข้าไปยังพื้นที่ห่างไกล ก็จะได้รับการต้อนรับจากชาวบ้านเจ้าของพื้นที่นั้น อย่างอบอุ่น

การเลี้ยงฉลองกันแบบตามที่พอมีพอหาได้ มักจะพบอยู่เสมอ และอาหารการกินที่มักจะได้พบเจอก็คือ จะมีเมนูเด็ดประจำถิ่น ที่กินกับขนมจีนเป็นหลักอยู่เสมอ ในทุกภาคของประเทศ แต่ละที่ก็จะเรียกขนมจีนต่างกันไป ซึ่งตามประวัติดั้งเดิมแล้ว ขนมจีนมาจากชาวมอญ แพร่หลายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ที่คนมอญไปรับจ้างทำงานอยู่ทั่วทุกภาคตั้งแต่ครั้งโบราณมา นำขนมจีนไปเผยแพร่ จนเป็นอาหารประจำภาคนั้น ๆ ไป

ภาคกลางก็จะกินขนมจีนกับน้ำยากะทิและน้ำพริกและมีผักแนมที่เรียกว่า “ เหมือด “ เป็นหลัก ทางภาคอีสานก็จะกิน “ ข้าวปุ้น “ กับน้ำแจ่วต่าง ๆ แนมกับผักสด ผักลวก ทางเหนือก็จะกิน “ ข้าวเส้น “ กับน้ำแกงประเภทน้ำเงี้ยว น้ำแกงแบบไทยใหญ่ให้เครื่องเทศกลิ่นรัญจวนใจ และทางภาคใต้ ที่เรียกขนมจีนว่า “ โหน้มจีน ” กินกับแกงไตปลา น้ำชุบ น้ำเคยขยำ แกงปูและน้ำยากะทิแบบปักษ์ใต้ ที่ใส่ขมิ้นเหลืองสวย รสเผ็ดล้ำลึกสะใจ และเป็นการกินขนมจีนที่มี ผักเหนาะ หรือผักแนมมากที่สุดในประเทศ คือไม่ต่ำกว่า 15 ชนิดกันเลยทีเดียว

ชายกาง มาประจำอยู่ที่ศูนย์ฝึกปฏิบัติการไฟฟ้าแรงสูง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ก็มาเจอขนมจีนพื้นถิ่นชาวเมืองพระปฐมเจดีย์ ที่เค้าจะกินกับน้ำแกงที่เรียกว่าแกงป่าพริกสด น้ำแกงสีนุ่ม ๆ แต่เผ็ดได้ใจ เรียกได้ว่าเมืองนี้ เค้ามีร้านขายขนมจีนน้ำแกงป่าแบบนี้หลายเจ้า แต่ชายกางมาเทใจให้กับ “ ป้ายุก “ ข้างวัดพระงามจนหมดใจ

วันนี้ ตามชายกางมาชิมขนมจีนแกงป่าปลาดุก รสชาติพื้นถิ่นแท้ ๆ ของนครปฐมกันครับ
[CR] << ตระเวนกิน ทั่วถิ่นไทย ... ป้ายุก ขนมจีนแกงป่าปลาดุก พื้นถิ่นเมืองยอดแหลม นครปฐม >>