เงินใครก็อยากได้แต่จะมีเยอะ ๆ แต่เอาเข้าจริง ๆ แค่หาให้พอใช้ก็ลำบากแล้ว เรื่องมันเริ่มจากงานประจำที่ทำอยู่ของผมมันเริ่มมาถึงจุดอิ่มตัว และเริ่มเป็นขาลงผมจึงพยายามจะหารายได้เสริมด้วยวิธีต่าง ตอนแรกผมก็กะว่าจะไปขับวินเพราะยังไงเพราก็ใช้รถมอเตอร์ไซค์อยู่แล้ว แต่ผมไปสะดุดตากับโฆษณาในเฟสบุคอันหนึ่งเกี่ยวกับบริการส่งคนหรือส่งเอกสารที่เรียกผ่านแอปในมือถือที่เรียกว่า Grabbike
ผมจึงพยายามหาวิธีสมัครจนวันหนึ่งเขาเรียกมาสัมภาษณ์ ครั้งแรกผมมองว่างานนี้น่าจะสร้างรายได้ดีและอิสระ อยากได้เงินก็เปิดแอปเพื่อรับลูกค้าเหนื่อยก็ปิดไปพักผ่อน ฟังเงื่อนไขในการอบรมแล้วก็แฟร์ ๆ ดี หัก 15% จากงานที่รับแล้วก็มีอัตราค่าบริการที่ชัดเจน แต่ก็แอบมีเรื่องที่สงสัยอยู่หน่อยหนึ่งคือรถผมไม่ใช่ป้ายเหลืองและผมก็ไม่มีใบขับขี่สาธารณะจะเอามาวิ่งรับคนไม่ผิดกฏหมายเหรอ? แต่ทางบริษัทยืนยันว่าไม่เป็นไรวิ่งได้สัปดาห์แรกผมออกวิ่งในวันหยุดของผมที่เป็นวันธรรมดาวิ่งวนสาทรช่วงกลางวัน แล้วก็ไปวนแถวทองหล่อเอกมัยตามคำแนะนำของเพื่อน ๆ ในกลุ่มLine โอ้โหได้มาตั้งมากกว่า 2,000฿ งานประจำผมยังได้แค่วันละ 400฿ - 500฿ เอง วันธรรมดาผมก็รับลูกค้าก่อนเข้างานกับหลังเลิกงานได้วันละ 200฿ - 400฿ ผมรู้สึกดีกับงานนนี้มากแบบว่าใครมาถามอะไรในกลุ่ม Line ผมช่วยตอบทุกคนแนะนำทุกคนอย่างมีความสุขมาก ๆ
แต่มันก็เป็นเพียงช่วงสั้น ๆ ครั้งแรกผมได้ยินว่าจะมีการปรับปรุงระบบUpdateแอปใหม่ ดูจากVDOแนะนำการใช้งานแล้วโอ้วจอร์จมันน่าใช้มว๊ากกกก มันมีระบบให้คะแนนการรับงานด้วยแบบว่าใครไม่รับงานบ่อย ๆ คะแนนจะหายและถูกปิดระบบไปเองโดยอัติโนมัติ ไม่ต้องกดแย่งรับงานเดี๋ยวระบบแจกจ่ายงานให้คนที่อยู่ไกล้งานก่อน ผมคิดว่าระบบมันน่าจะทำให้ชีวิตผมดีขึ้น แต่ผิดคาดครับจากที่เคยได้วันหยุดละ 2,000฿ เหลืออยู่ไม่ถึง 800฿ วันธรรมดาแค่ 50฿ - 150฿ ตอนแรกก็ไม่ได้เอะใจอะไรจนมีคนมาบ่นแบบเดียวกันในกลุ่มLineเยอะขึ้น ๆ ผมก็เริ่มคิดว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ ๆ แล้วเหตุการณ์ประหลาดที่เจอกับตัวเองก็เยอะขึ้น เช่น ผมอยู่พญาไทย แต่ มีงานจากโซนลาดพร้าวเด้งเข้ามา ถ้าผมกดรับก็คงไปหาลูกค้าไม่ทัน แต่ไม่กดรับก็คะแนนรับงานหาย แล้วจากเดิมที่ขี่รถวนช้า ๆ ในโซนที่มีงานก็จะได้งานแต่นี่กลับไม่ได้งานเลย พอลองมาหาสาเหตุจริง ๆ จึงรู้ว่ามาจากแอปตัวใหม่มันไม่UpdateพิกัดGPSตามเวลาจริง คือไปส่งลูกค้าที่ไหนมันก็จะค้างอยู่ตรงนั้นเป็นจุดสุดท้าย เลยทำให้งานเด้งมาจากจุดไกล ๆ ที่ผมไปส่งลูกค้า แต่พอผมแจ้งจุดผิดพลาดไปในLineกลุ่ม ผู้ดูแลก็ตอบว่าเป็นที่ตัวเครื่องและความเร็วเน็ตซึ่งเครื่องที่ผมใช้เป็นรุ่นที่ท๊อปในฝั่งแอนดรอย+4G ค่ายหนึ่งก็ไม่น่าจะใช่สาเหตุที่ว่ามาจากตัวเครื่องแน่นอน ผ่านไปหลายวันมีคนถามมาด้วยปัญหาเดียวกันอีกหลายคนผมเองก็ออกความคิดเห็นและถามด้วยเหตุผลเพื่อช่วยหาทางออกเพื่อให้ระบบมันดีขึ้น แต่คำตอบที่ผมได้รับคือ "ไม่อยากวิ่งก็ปิดแอปไป" พูดแบบคนที่ไม่มีวุฒิภาวะทางอารมเลยเลยแทนที่จะช่วยกันแก้ปัญหา
ต่อมาอีกไม่นานทางGrabbikeก็คิดวิธีหารายได้เพิ่มเข้าบริษัทด้วยการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าด้วยบริการไปซื้อของให้ลูกค้าจากร้านสะดวกซื้อราคาไม่เกิน500฿(ลดลงจากเดิมที่ประกาศไว้ตอนแรก 1,000฿) ส่วนตัวผมมองว่าในมุมของลูกค้ามันน่าจะดีแต่พอลองมาคิดในมุมของคนขับล่ะมันไม่สนุกเลย เพราะปัญหามันเกิดจากเงื่อนไขที่ไม่ชัดเจน
1. ไม่มีการกำหนดน้ำหนักและขนาดสินค้า สมมุติว่าลูกค้าอยู่แฟลตชั้น 5 ไม่มีลิฟต์แล้วสั่งซื้อข้าวสารขนาด 5 กก. 1 ถุง น้ำดื่ม 1.5 ลิตรแบบแพค 6 ขวด จำนวน 6 แพค(ไม่เกิน500฿แน่นนอน) คนขับจะเอาสินค้าไปส่งได้อย่างไร???
2. ถ้าลูกค้ายกเลิกสินค้าที่สั่งซื้อจะได้เงินค่าสินค้าคืนเมื่อไร สมมุตว่ามันเป็นช่วงปลายเดือนแล้วคนขับเหลือตังติดตัวแค่ 500฿ สุดท้ายล่ะ จะทำยังไงเอาที่ไหนกินข้าว, เติมน้ำมันรถ
3.เพราะระบบมันเป็นแบบอัตโนมัติคนขับเลือกรับงานไม่ได้ ถ้าไม่รับก็โดนลดคะแนนและอาจจะโดนปิดระบบอีก ถ้าเกิดเหตุการณ์ตามข้อ 1 - 2 จะทำยังไงหรือคนขับไม่มีทางเลือกต้องก้มหน้ารับกรรมไป
พอผมถามด้วยคำถามเหล่านี้ผมกลับโดนปิดระบบพร้อมระบุข้อหาว่า "ทุจริต"
กระทู้ผมไม่ได้เรียกร้องอะไรจากทางบริษัทเลย ไม่ได้อยากกลับไปร่วมงานกับคนที่มีวุฒิภาวะทางอารมต่ำใช้อารมอยู่เหนือเหตุผลแค่อยากให้คนที่จะไปร่วมงานกับเขาคิดให้ดีครับถ้าไม่อยากเจอกับอะไรแบบที่ผมเจอก็เพียงเท่านั้นครับ
ป.ล.1 กระทู้นี้ตั้งด้วยการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต และที่ผมมีปัญหาคือกับตัวบุคคลไม่ใช่กับทางบริษัทGrabBikeหรือGrabTaxi ถ้าทางบริษัทคิดว่าผมทำให้เสียหายผมก็พร้อมจะลบกระทู้นี้ออกให้แต่ขอให้ผู้มีอำนาจในบริษัทจริง ๆ มาคุยมารับฟังปัญหาจากอดีตคนขับตัวเล็ก ๆ คนนี้ทีครับ
ป.ล.2 ผมเข้าใจดีว่างานบริการคืออะไรเพราะผมทำมันมาเกือบทั้งชีวิตของผม เคยเป็นทั้ง เด็กล้างจาน, เด็กเสริฟ, ผู้ช่วยแม่ครัว, เด็กปั้ม, พนักงานส่งอาหาร, เซลขายของตามบ้าน หรือแม้แต่งานประจำที่ทำอยู่ตอนนี้ก็เกี่ยวกับการบริการ แต่ปัญหาก็คือทีมบริหารGrabBikeที่ผมเจอเขาไม่เข้าใจเลยว่ามันคืออะไร ผลมันถึงได้ออกมาเป็นแบบนี้ผมแค่อยากให้ปรับปรุงเพื่อผู้โดยสาร, คนขับ, และบริษัทมีความสุขทุกฝ่าย(แม้ว่าผมจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในนั้นแล้วก็ตาม)
#GrabBike
#GrabbikeThailand
GrabBike ในความทรงจำ(ของผม)และวุฒิภาวะของใครบางคน
ผมจึงพยายามหาวิธีสมัครจนวันหนึ่งเขาเรียกมาสัมภาษณ์ ครั้งแรกผมมองว่างานนี้น่าจะสร้างรายได้ดีและอิสระ อยากได้เงินก็เปิดแอปเพื่อรับลูกค้าเหนื่อยก็ปิดไปพักผ่อน ฟังเงื่อนไขในการอบรมแล้วก็แฟร์ ๆ ดี หัก 15% จากงานที่รับแล้วก็มีอัตราค่าบริการที่ชัดเจน แต่ก็แอบมีเรื่องที่สงสัยอยู่หน่อยหนึ่งคือรถผมไม่ใช่ป้ายเหลืองและผมก็ไม่มีใบขับขี่สาธารณะจะเอามาวิ่งรับคนไม่ผิดกฏหมายเหรอ? แต่ทางบริษัทยืนยันว่าไม่เป็นไรวิ่งได้สัปดาห์แรกผมออกวิ่งในวันหยุดของผมที่เป็นวันธรรมดาวิ่งวนสาทรช่วงกลางวัน แล้วก็ไปวนแถวทองหล่อเอกมัยตามคำแนะนำของเพื่อน ๆ ในกลุ่มLine โอ้โหได้มาตั้งมากกว่า 2,000฿ งานประจำผมยังได้แค่วันละ 400฿ - 500฿ เอง วันธรรมดาผมก็รับลูกค้าก่อนเข้างานกับหลังเลิกงานได้วันละ 200฿ - 400฿ ผมรู้สึกดีกับงานนนี้มากแบบว่าใครมาถามอะไรในกลุ่ม Line ผมช่วยตอบทุกคนแนะนำทุกคนอย่างมีความสุขมาก ๆ
แต่มันก็เป็นเพียงช่วงสั้น ๆ ครั้งแรกผมได้ยินว่าจะมีการปรับปรุงระบบUpdateแอปใหม่ ดูจากVDOแนะนำการใช้งานแล้วโอ้วจอร์จมันน่าใช้มว๊ากกกก มันมีระบบให้คะแนนการรับงานด้วยแบบว่าใครไม่รับงานบ่อย ๆ คะแนนจะหายและถูกปิดระบบไปเองโดยอัติโนมัติ ไม่ต้องกดแย่งรับงานเดี๋ยวระบบแจกจ่ายงานให้คนที่อยู่ไกล้งานก่อน ผมคิดว่าระบบมันน่าจะทำให้ชีวิตผมดีขึ้น แต่ผิดคาดครับจากที่เคยได้วันหยุดละ 2,000฿ เหลืออยู่ไม่ถึง 800฿ วันธรรมดาแค่ 50฿ - 150฿ ตอนแรกก็ไม่ได้เอะใจอะไรจนมีคนมาบ่นแบบเดียวกันในกลุ่มLineเยอะขึ้น ๆ ผมก็เริ่มคิดว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ ๆ แล้วเหตุการณ์ประหลาดที่เจอกับตัวเองก็เยอะขึ้น เช่น ผมอยู่พญาไทย แต่ มีงานจากโซนลาดพร้าวเด้งเข้ามา ถ้าผมกดรับก็คงไปหาลูกค้าไม่ทัน แต่ไม่กดรับก็คะแนนรับงานหาย แล้วจากเดิมที่ขี่รถวนช้า ๆ ในโซนที่มีงานก็จะได้งานแต่นี่กลับไม่ได้งานเลย พอลองมาหาสาเหตุจริง ๆ จึงรู้ว่ามาจากแอปตัวใหม่มันไม่UpdateพิกัดGPSตามเวลาจริง คือไปส่งลูกค้าที่ไหนมันก็จะค้างอยู่ตรงนั้นเป็นจุดสุดท้าย เลยทำให้งานเด้งมาจากจุดไกล ๆ ที่ผมไปส่งลูกค้า แต่พอผมแจ้งจุดผิดพลาดไปในLineกลุ่ม ผู้ดูแลก็ตอบว่าเป็นที่ตัวเครื่องและความเร็วเน็ตซึ่งเครื่องที่ผมใช้เป็นรุ่นที่ท๊อปในฝั่งแอนดรอย+4G ค่ายหนึ่งก็ไม่น่าจะใช่สาเหตุที่ว่ามาจากตัวเครื่องแน่นอน ผ่านไปหลายวันมีคนถามมาด้วยปัญหาเดียวกันอีกหลายคนผมเองก็ออกความคิดเห็นและถามด้วยเหตุผลเพื่อช่วยหาทางออกเพื่อให้ระบบมันดีขึ้น แต่คำตอบที่ผมได้รับคือ "ไม่อยากวิ่งก็ปิดแอปไป" พูดแบบคนที่ไม่มีวุฒิภาวะทางอารมเลยเลยแทนที่จะช่วยกันแก้ปัญหา
ต่อมาอีกไม่นานทางGrabbikeก็คิดวิธีหารายได้เพิ่มเข้าบริษัทด้วยการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าด้วยบริการไปซื้อของให้ลูกค้าจากร้านสะดวกซื้อราคาไม่เกิน500฿(ลดลงจากเดิมที่ประกาศไว้ตอนแรก 1,000฿) ส่วนตัวผมมองว่าในมุมของลูกค้ามันน่าจะดีแต่พอลองมาคิดในมุมของคนขับล่ะมันไม่สนุกเลย เพราะปัญหามันเกิดจากเงื่อนไขที่ไม่ชัดเจน
1. ไม่มีการกำหนดน้ำหนักและขนาดสินค้า สมมุติว่าลูกค้าอยู่แฟลตชั้น 5 ไม่มีลิฟต์แล้วสั่งซื้อข้าวสารขนาด 5 กก. 1 ถุง น้ำดื่ม 1.5 ลิตรแบบแพค 6 ขวด จำนวน 6 แพค(ไม่เกิน500฿แน่นนอน) คนขับจะเอาสินค้าไปส่งได้อย่างไร???
2. ถ้าลูกค้ายกเลิกสินค้าที่สั่งซื้อจะได้เงินค่าสินค้าคืนเมื่อไร สมมุตว่ามันเป็นช่วงปลายเดือนแล้วคนขับเหลือตังติดตัวแค่ 500฿ สุดท้ายล่ะ จะทำยังไงเอาที่ไหนกินข้าว, เติมน้ำมันรถ
3.เพราะระบบมันเป็นแบบอัตโนมัติคนขับเลือกรับงานไม่ได้ ถ้าไม่รับก็โดนลดคะแนนและอาจจะโดนปิดระบบอีก ถ้าเกิดเหตุการณ์ตามข้อ 1 - 2 จะทำยังไงหรือคนขับไม่มีทางเลือกต้องก้มหน้ารับกรรมไป
พอผมถามด้วยคำถามเหล่านี้ผมกลับโดนปิดระบบพร้อมระบุข้อหาว่า "ทุจริต"
กระทู้ผมไม่ได้เรียกร้องอะไรจากทางบริษัทเลย ไม่ได้อยากกลับไปร่วมงานกับคนที่มีวุฒิภาวะทางอารมต่ำใช้อารมอยู่เหนือเหตุผลแค่อยากให้คนที่จะไปร่วมงานกับเขาคิดให้ดีครับถ้าไม่อยากเจอกับอะไรแบบที่ผมเจอก็เพียงเท่านั้นครับ
ป.ล.1 กระทู้นี้ตั้งด้วยการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต และที่ผมมีปัญหาคือกับตัวบุคคลไม่ใช่กับทางบริษัทGrabBikeหรือGrabTaxi ถ้าทางบริษัทคิดว่าผมทำให้เสียหายผมก็พร้อมจะลบกระทู้นี้ออกให้แต่ขอให้ผู้มีอำนาจในบริษัทจริง ๆ มาคุยมารับฟังปัญหาจากอดีตคนขับตัวเล็ก ๆ คนนี้ทีครับ
ป.ล.2 ผมเข้าใจดีว่างานบริการคืออะไรเพราะผมทำมันมาเกือบทั้งชีวิตของผม เคยเป็นทั้ง เด็กล้างจาน, เด็กเสริฟ, ผู้ช่วยแม่ครัว, เด็กปั้ม, พนักงานส่งอาหาร, เซลขายของตามบ้าน หรือแม้แต่งานประจำที่ทำอยู่ตอนนี้ก็เกี่ยวกับการบริการ แต่ปัญหาก็คือทีมบริหารGrabBikeที่ผมเจอเขาไม่เข้าใจเลยว่ามันคืออะไร ผลมันถึงได้ออกมาเป็นแบบนี้ผมแค่อยากให้ปรับปรุงเพื่อผู้โดยสาร, คนขับ, และบริษัทมีความสุขทุกฝ่าย(แม้ว่าผมจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในนั้นแล้วก็ตาม)
#GrabBike
#GrabbikeThailand