สวัสดีค่ะ เข้าเรื่องเลยนะคะ ขอความกรุณาอ่านให้จบนะคะ หนูต้องการคำแนะนำและความช่วยเหลือจริงๆ หนูเครียดมากๆ...
เมื่อวาน(วันที่27 ต.ค 58) หนูเดินเล่นกับเพื่อนอยู่ที่บิ๊กซีสาขาหนึ่งแถวๆรังสิต ระหว่างทางที่กำลังจะเดินออกไปจากห้างนั้น จู่ๆก็มีผู้หญิงอ้วนๆคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดเชิญชวนอย่างบุ่มบ่ามว่า "เชิญร่วมลงทะเบียนลุ้นรับของรางวัลฟรีก่อนนะคะ" อะไรสักอย่างนี่แหละหนูก็จำไม่ค่อยได้ ตอนนั้นตอนแรกหนูจะไม่สนใจแล้วเดินผ่านไปเลยแต่เพื่อนหนูเดินตามพี่คนนั้นไปก่อนแล้วหนูก็เลยเดินตามเพื่อนไป แต่ด้วยความที่ปกติหนูก็สนใจกับพวกของฟรีอะไรอย่างนี้อยู่แล้ว
พอไปถึงตรงบูธเขาก็ให้นั่งลงแล้วยื่นแฟ้มอะไรมาสักอย่างให้เขียนชื่อนามสกุลแล้วก็ความคิดเห็นที่มีต่อห้างบิ๊กซี หนูก็รีบเขียนอย่างไวเลย แต่พอเขียนเสร็จแล้วพี่คนนั้นก็เริ่มเข้าประเด็นในการแนะนำอะไรสักอย่างแล้วค่ะ เขาเริ่มจากการถามว่าหนูเรียนที่มหาวิทยาลัยไหน ปกติหนูมีเงินเก็บเท่าไร อะไรทำนองนี้ (เราก็งงสิถามทำไม) เราก็บอกๆไป ถามไรเราก็ตอบตามตรง แล้วพี่เขาก็เริ่มเอาป้ายแนะนำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ FWDของธนาคารTMB ขึ้นมาสาธยายอะไรต่อมิอะไรไม่รู้ ฝากไปนานๆแล้วได้ดอกเบี้ยเปอร์เซ็นเท่านู้นเท่านี้ คือเขาพูดอะไรมาหนูจำไม่ได้เลย ตึ้บมาก เพราะหนูไม่ค่อยมีความรู้ทางด้านนี้ บวกกับเพื่อนรักของหนูที่มาด้วยก็บอกหนูว่าเดี๋ยวมาจะเอาเงินไปฝากที่ธนาคารก่อน(คือตอนแรกหนูจะพาเพื่อนไปธนาคารอยู่แล้ว แต่ต้องมาติดตรงบูธบ้าๆนี้ก่อน) หนูก็บอกเพื่อนว่าอืมๆ แล้วพออยู่กับพนักงานขายคนนี้แล้วก็พวกเพื่อนๆเขาและคนที่กำลังถูกโน้มน้าวใจให้มาฟังเหมือนๆกับหนูที่นั่งโต๊ะข้างๆที่อยู่ตรงบูธ หนูก็เริ่มมึน
เขาเริ่มถามหนูว่าปกติหนูได้เงินมาเรียนวันละเท่าไร แต่ละวันมีเหลือเงินกลับบ้านไหม หนูก็ตอบไปว่าแล้วแต่วัน บางวันก็ห้าบาทสิบบาท แล้วเขาก็พูดต่อว่าถ้าให้หนูเก็บเงินเดือนละ 1,031 บาท หนูทำได้ไหม ก็เท่ากับให้หนูเก็บวันละ30กว่าบาท ตอนนั้นเราก็บอกว่าน่าจะได้ ก็พูดไปเรื่อยน่ะค่ะ จริงๆก็ยังเรียนอยู่ งานการก็ยังไม่ได้ทำจะไปเอาเงินที่ไหนมาเก็บมากมาย
หลังจากนั้นเขาก็ขอบัตรเอทีเอ็มกับบัตรประชาชนหนูบอกว่าจะเอาไปถ่ายเอกสาร แล้วหลังจากนั้นก็เอาเอกสารเหมือนสัญญาอะไรสักอย่างมาให้หนูเซ็นหลายแผ่นมาก หนูถามเขาไปว่าเสียเงินไหม เขาก็บอกไม่เสีย ตอนนั้นหนูยอมรับว่ามึนงงมาก ฟังอะไรไม่ค่อยรู้เรื่องเลย แต่พอเขายื่นเอกสารมาหนูก็เซ็นเฉยเลยค่ะ เซ็นตามที่เขาบอกไปหมดเลย ไม่รู้เป็นบ้าอะไร แล้วก็มีอยู่หน้านึงที่มันต้องให้ผู้ปกครองเซ็น เขาก็บอกให้หนูเซ็นเป็นชื่อผู้ปกครองเฉยเลยค่ะ (อ้าว!ไหงมาให้ปลอมลายเซ็นพ่อแม่ซะงั้น นี่กะจะขายอย่างเดียวไม่สนใจอะไรเลยใช่ไหม) หนูก็เซ็นตามที่เขาบอกไปอีก(ทำไมอ่อนต่อโลกอย่างงี้ T_T) ระหว่างที่เซ็นๆอยู่นั้นเขาก็บอกว่า"พี่ขออนุญาตโยกเงินในบัญชีมาก่อน 2,062 บาทนะคะเพื่อเป็นเงินออมในสองงวดแรก" (น่าจะประมาณนี้มั้งคะหนูก็จำไม่ค่อยได้) ตอนแรกเงินในบัตรเอทีเอ็มใบที่หนูยื่นให้เขาไปมีเงินอยู่ 8,100 บาท แล้วเขาก็ยื่นใบเสร็จมาให้หนู ปรากฎว่าเขารูดเงินหนูไปแล้ว 2,062 บาทตามที่บอก
พอเห็นดังนั้น หนูก็เลยคิดหนักเลยค่ะ แล้วเขาก็พูดโน้มน้าวใจอะไรอีกไม่รู้ให้หนูเซ็นชื่อลงไปบนใบเสร็จ แล้วจังหวะนั้นเพื่อนหนูก็กลับมาพอดี หนูเลยจะไม่เซ็น ทำหน้าเครียด(เครียดจริงๆไม่ได้แสดง) แล้วก็บอกว่า"หนูไม่ได้อยากทำอ่ะพี่" เขาก็พูดสวนกลับมาเฉยเลยว่า "อ้าว! ไหนตอนแรกหนูบอกทำ?" (คือหนูไปพูดตอนไหนว่าทำ นี่โดนหว่านล้อมจนแถบจะถอนตัวไม่ได้แล้วเนี่ย) หนูก็เลยบอกว่าที่ไม่อยากทำเพราะอยากให้พ่อแม่มานั่งฟังด้วยมากกว่าค่อยตัดสินใจทำ แต่แล้วเขาก็สาธยาย วนกลับไปที่แผ่นป้ายที่เขาแนะนำหนูตอนแรก บอกว่ามันเป็นเหมือนการออมทรัพย์ไม่ใช่ประกันชีวิต คิดเองเออเองหาว่าหนูไม่เข้าใจหรืองงอะไรตรงไหน (แต่จริงๆคือหนูไม่อยากทำตั้งแต่แรกอยู่แล้วไง แค่โดนหว่านล้อมแล้วยอมตามไป) แล้วหนูก็โดนมันหว่านล้อมให้เซ็นใบเสร็จใบนั้นจนมันหักตังค์หนูไปแล้วจนได้ ฮือT_T หนูก็เลยแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
พอหนูถามเรื่องจะขอยกเลิกได้ไหม เขาก็พูดบอกว่าเดี๋ยวจะมีกรมธรรม์ส่งไปที่บ้านให้หนูภายใน30วันแล้วจะยกเลิกเมื่อไรก็ได้ ยังไงก็ลองไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่ดูว่าท่านโอเคไหม ถ้าไม่ยังไงก็ให้ท่านมาช่วยทำเรื่องยกเลิกได้(เดือดร้อนพ่อแม่อีก) หนูถามไปอีกว่าแล้วจะได้เงินคืนไหม เขาบอกได้คืนค่ะ ไม่ต้องกังวลเพราะเงินที่หักไปก็จะเป็นเงินออมของหนูนั่นแหละ เราก็เลยไม่คิดอะไรมาก เขาให้ทำอะไรเราก็ทำ พอทำเรื่องนู่นนี่นั่นเสร็จเขาก็ส่งซองใส่ใบกระดาษแบบที่สาธยายมาให้ไว้ในซอง พร้อมกับหางใบเสร็จที่หักเงินหนูไป(เอามาให้ดูช้ำใจเล่น) หน้าซองก็เขียนแค่ชื่อเล่นเขาแล้วก็เบอร์โทร เขาบอกให้หนูส่งเลขที่บัญชีให้เพื่อที่จะทำอะไรให้ก็ไม่รู้หนูก็ลืมแล้ว(ขี้ลืมได้อีก T_T) ถ้ามีปัญหาอะไร สงสัย ให้ติดต่อเขามาทางไลน์ได้ แล้วก่อนกลับเขาก็ให้หนูถ่ายรูปคู่กับเขาไว้เป็นหลักฐาน (เหอะๆ ไม่ได้เต็มใจสักนิด ตั้งแต่ต้นจนจบ) พอกลับบ้านมาหนูเปิดดูในซอง จึงรู้ว่ามันเป็นการออมแบบสะสมทรัพย์ 100 เงินคืน 2% 20/10 (ชนิดมีเงินปันผล) แล้วหนูก็ไม่กล้าโทรไปตามเบอร์ที่หน้าซองด้วย กลัวค่ะ กะจะคุยในไลน์ พอเม็มเบอร์ดันไม่เด้งขึ้นเป็นไลน์อีก เลยไม่ได้ติดต่อเขาเลย
ทั้งหมดทั้งมวลที่สาธยายไปนั้น สรุปคือ หนูต้องการความช่วยเหลือจริงๆค่ะ หนูไม่ได้อยากทำตั้งแต่แรกแล้วแต่โดนหว่านล้อม แล้วหนูก็โอนอ่อนผ่อนตามง่าย หนูอยากจะยกเลิกมาก ไม่อยากทำจริงๆ เกลียดการถูกมัดมือชกแบบนี้ที่สุด ได้โปรดช่วยหนูด้วยนะคะ หนูไม่รู้จะต้องทำอย่างไรแล้ว เสียดายเงินสองพันกว่าบาทนั้นมาก จะได้คืนจริงๆหรอ หนูไม่อยากบอกพ่อแม่ให้ท่านเดือดร้อน ไม่อยากให้ท่านรู้ว่าหนูโง่โดนหว่านล้อมจนเดือดร้อนแบบนี้ แต่พอหนูเก็บความทุกข์นี้ไว้คนเดียวมันเครียดมากๆค่ะ หนูนอนไม่ค่อยหลับ ทำอะไรใจก็แทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย T_T
ช่วยด้วยค่ะ หนูอายุ18 แต่โดนหลอกล่อ... T_T
เมื่อวาน(วันที่27 ต.ค 58) หนูเดินเล่นกับเพื่อนอยู่ที่บิ๊กซีสาขาหนึ่งแถวๆรังสิต ระหว่างทางที่กำลังจะเดินออกไปจากห้างนั้น จู่ๆก็มีผู้หญิงอ้วนๆคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดเชิญชวนอย่างบุ่มบ่ามว่า "เชิญร่วมลงทะเบียนลุ้นรับของรางวัลฟรีก่อนนะคะ" อะไรสักอย่างนี่แหละหนูก็จำไม่ค่อยได้ ตอนนั้นตอนแรกหนูจะไม่สนใจแล้วเดินผ่านไปเลยแต่เพื่อนหนูเดินตามพี่คนนั้นไปก่อนแล้วหนูก็เลยเดินตามเพื่อนไป แต่ด้วยความที่ปกติหนูก็สนใจกับพวกของฟรีอะไรอย่างนี้อยู่แล้ว
พอไปถึงตรงบูธเขาก็ให้นั่งลงแล้วยื่นแฟ้มอะไรมาสักอย่างให้เขียนชื่อนามสกุลแล้วก็ความคิดเห็นที่มีต่อห้างบิ๊กซี หนูก็รีบเขียนอย่างไวเลย แต่พอเขียนเสร็จแล้วพี่คนนั้นก็เริ่มเข้าประเด็นในการแนะนำอะไรสักอย่างแล้วค่ะ เขาเริ่มจากการถามว่าหนูเรียนที่มหาวิทยาลัยไหน ปกติหนูมีเงินเก็บเท่าไร อะไรทำนองนี้ (เราก็งงสิถามทำไม) เราก็บอกๆไป ถามไรเราก็ตอบตามตรง แล้วพี่เขาก็เริ่มเอาป้ายแนะนำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ FWDของธนาคารTMB ขึ้นมาสาธยายอะไรต่อมิอะไรไม่รู้ ฝากไปนานๆแล้วได้ดอกเบี้ยเปอร์เซ็นเท่านู้นเท่านี้ คือเขาพูดอะไรมาหนูจำไม่ได้เลย ตึ้บมาก เพราะหนูไม่ค่อยมีความรู้ทางด้านนี้ บวกกับเพื่อนรักของหนูที่มาด้วยก็บอกหนูว่าเดี๋ยวมาจะเอาเงินไปฝากที่ธนาคารก่อน(คือตอนแรกหนูจะพาเพื่อนไปธนาคารอยู่แล้ว แต่ต้องมาติดตรงบูธบ้าๆนี้ก่อน) หนูก็บอกเพื่อนว่าอืมๆ แล้วพออยู่กับพนักงานขายคนนี้แล้วก็พวกเพื่อนๆเขาและคนที่กำลังถูกโน้มน้าวใจให้มาฟังเหมือนๆกับหนูที่นั่งโต๊ะข้างๆที่อยู่ตรงบูธ หนูก็เริ่มมึน
เขาเริ่มถามหนูว่าปกติหนูได้เงินมาเรียนวันละเท่าไร แต่ละวันมีเหลือเงินกลับบ้านไหม หนูก็ตอบไปว่าแล้วแต่วัน บางวันก็ห้าบาทสิบบาท แล้วเขาก็พูดต่อว่าถ้าให้หนูเก็บเงินเดือนละ 1,031 บาท หนูทำได้ไหม ก็เท่ากับให้หนูเก็บวันละ30กว่าบาท ตอนนั้นเราก็บอกว่าน่าจะได้ ก็พูดไปเรื่อยน่ะค่ะ จริงๆก็ยังเรียนอยู่ งานการก็ยังไม่ได้ทำจะไปเอาเงินที่ไหนมาเก็บมากมาย
หลังจากนั้นเขาก็ขอบัตรเอทีเอ็มกับบัตรประชาชนหนูบอกว่าจะเอาไปถ่ายเอกสาร แล้วหลังจากนั้นก็เอาเอกสารเหมือนสัญญาอะไรสักอย่างมาให้หนูเซ็นหลายแผ่นมาก หนูถามเขาไปว่าเสียเงินไหม เขาก็บอกไม่เสีย ตอนนั้นหนูยอมรับว่ามึนงงมาก ฟังอะไรไม่ค่อยรู้เรื่องเลย แต่พอเขายื่นเอกสารมาหนูก็เซ็นเฉยเลยค่ะ เซ็นตามที่เขาบอกไปหมดเลย ไม่รู้เป็นบ้าอะไร แล้วก็มีอยู่หน้านึงที่มันต้องให้ผู้ปกครองเซ็น เขาก็บอกให้หนูเซ็นเป็นชื่อผู้ปกครองเฉยเลยค่ะ (อ้าว!ไหงมาให้ปลอมลายเซ็นพ่อแม่ซะงั้น นี่กะจะขายอย่างเดียวไม่สนใจอะไรเลยใช่ไหม) หนูก็เซ็นตามที่เขาบอกไปอีก(ทำไมอ่อนต่อโลกอย่างงี้ T_T) ระหว่างที่เซ็นๆอยู่นั้นเขาก็บอกว่า"พี่ขออนุญาตโยกเงินในบัญชีมาก่อน 2,062 บาทนะคะเพื่อเป็นเงินออมในสองงวดแรก" (น่าจะประมาณนี้มั้งคะหนูก็จำไม่ค่อยได้) ตอนแรกเงินในบัตรเอทีเอ็มใบที่หนูยื่นให้เขาไปมีเงินอยู่ 8,100 บาท แล้วเขาก็ยื่นใบเสร็จมาให้หนู ปรากฎว่าเขารูดเงินหนูไปแล้ว 2,062 บาทตามที่บอก
พอเห็นดังนั้น หนูก็เลยคิดหนักเลยค่ะ แล้วเขาก็พูดโน้มน้าวใจอะไรอีกไม่รู้ให้หนูเซ็นชื่อลงไปบนใบเสร็จ แล้วจังหวะนั้นเพื่อนหนูก็กลับมาพอดี หนูเลยจะไม่เซ็น ทำหน้าเครียด(เครียดจริงๆไม่ได้แสดง) แล้วก็บอกว่า"หนูไม่ได้อยากทำอ่ะพี่" เขาก็พูดสวนกลับมาเฉยเลยว่า "อ้าว! ไหนตอนแรกหนูบอกทำ?" (คือหนูไปพูดตอนไหนว่าทำ นี่โดนหว่านล้อมจนแถบจะถอนตัวไม่ได้แล้วเนี่ย) หนูก็เลยบอกว่าที่ไม่อยากทำเพราะอยากให้พ่อแม่มานั่งฟังด้วยมากกว่าค่อยตัดสินใจทำ แต่แล้วเขาก็สาธยาย วนกลับไปที่แผ่นป้ายที่เขาแนะนำหนูตอนแรก บอกว่ามันเป็นเหมือนการออมทรัพย์ไม่ใช่ประกันชีวิต คิดเองเออเองหาว่าหนูไม่เข้าใจหรืองงอะไรตรงไหน (แต่จริงๆคือหนูไม่อยากทำตั้งแต่แรกอยู่แล้วไง แค่โดนหว่านล้อมแล้วยอมตามไป) แล้วหนูก็โดนมันหว่านล้อมให้เซ็นใบเสร็จใบนั้นจนมันหักตังค์หนูไปแล้วจนได้ ฮือT_T หนูก็เลยแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
พอหนูถามเรื่องจะขอยกเลิกได้ไหม เขาก็พูดบอกว่าเดี๋ยวจะมีกรมธรรม์ส่งไปที่บ้านให้หนูภายใน30วันแล้วจะยกเลิกเมื่อไรก็ได้ ยังไงก็ลองไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่ดูว่าท่านโอเคไหม ถ้าไม่ยังไงก็ให้ท่านมาช่วยทำเรื่องยกเลิกได้(เดือดร้อนพ่อแม่อีก) หนูถามไปอีกว่าแล้วจะได้เงินคืนไหม เขาบอกได้คืนค่ะ ไม่ต้องกังวลเพราะเงินที่หักไปก็จะเป็นเงินออมของหนูนั่นแหละ เราก็เลยไม่คิดอะไรมาก เขาให้ทำอะไรเราก็ทำ พอทำเรื่องนู่นนี่นั่นเสร็จเขาก็ส่งซองใส่ใบกระดาษแบบที่สาธยายมาให้ไว้ในซอง พร้อมกับหางใบเสร็จที่หักเงินหนูไป(เอามาให้ดูช้ำใจเล่น) หน้าซองก็เขียนแค่ชื่อเล่นเขาแล้วก็เบอร์โทร เขาบอกให้หนูส่งเลขที่บัญชีให้เพื่อที่จะทำอะไรให้ก็ไม่รู้หนูก็ลืมแล้ว(ขี้ลืมได้อีก T_T) ถ้ามีปัญหาอะไร สงสัย ให้ติดต่อเขามาทางไลน์ได้ แล้วก่อนกลับเขาก็ให้หนูถ่ายรูปคู่กับเขาไว้เป็นหลักฐาน (เหอะๆ ไม่ได้เต็มใจสักนิด ตั้งแต่ต้นจนจบ) พอกลับบ้านมาหนูเปิดดูในซอง จึงรู้ว่ามันเป็นการออมแบบสะสมทรัพย์ 100 เงินคืน 2% 20/10 (ชนิดมีเงินปันผล) แล้วหนูก็ไม่กล้าโทรไปตามเบอร์ที่หน้าซองด้วย กลัวค่ะ กะจะคุยในไลน์ พอเม็มเบอร์ดันไม่เด้งขึ้นเป็นไลน์อีก เลยไม่ได้ติดต่อเขาเลย
ทั้งหมดทั้งมวลที่สาธยายไปนั้น สรุปคือ หนูต้องการความช่วยเหลือจริงๆค่ะ หนูไม่ได้อยากทำตั้งแต่แรกแล้วแต่โดนหว่านล้อม แล้วหนูก็โอนอ่อนผ่อนตามง่าย หนูอยากจะยกเลิกมาก ไม่อยากทำจริงๆ เกลียดการถูกมัดมือชกแบบนี้ที่สุด ได้โปรดช่วยหนูด้วยนะคะ หนูไม่รู้จะต้องทำอย่างไรแล้ว เสียดายเงินสองพันกว่าบาทนั้นมาก จะได้คืนจริงๆหรอ หนูไม่อยากบอกพ่อแม่ให้ท่านเดือดร้อน ไม่อยากให้ท่านรู้ว่าหนูโง่โดนหว่านล้อมจนเดือดร้อนแบบนี้ แต่พอหนูเก็บความทุกข์นี้ไว้คนเดียวมันเครียดมากๆค่ะ หนูนอนไม่ค่อยหลับ ทำอะไรใจก็แทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย T_T