พอดีวันก่อนนั่งเขียนสรุปไปเรื่อยๆ
จากตัวรูปเเบบ Ichimoku เขียนไปเขียนมาเนื้อหาเยอะซะงั้น
ก็เลยลองเอามาเเบ่งปันเเนวทางกัน ผิดถูกไม่ว่ากันเนอะ เเชร์ๆกันดีกว่า
Ichimoku
หลักการของ Ichimoku จะประกอบด้วย เส้นหลัก 3 เส้นและรูปแบบของที่เรียกว่า เมฆ 2 แบบ
เส้นที่ 1 เส้นสีเขียว จะเรียกว่าเส้น Chikou เส้นนี้จะวิ่งตามรูปแบบของแท่งเทียนกราฟ มองง่ายคือ กราฟเส้น
เส้นที่ 2 เส้นสีแดง จะเรียกว่าเส้น Tenkan จะทำงานเสมือนเส้น EMA ทำหน้าที่แนวรับแนวต้านแบบ EMA
เส้นที่ 3 เส้นสีน้ำเงิน จะเรียกว่าเส้น Kijun จะทำงานเสมือนเส้น EMA เช่นเดียวกับเส้น Tenkan
โดยที่ เส้น Tenkan และ Kijun ต้องทำงานร่วมกัน
ในส่วนของเมฆจะมีทั้ง 2 ส่วน
เมฆในรูปแบบแรก คือ Senkou A เป็นการกล่าวถึง Zone ที่บอกถึง สภาวะในช่วงของตลาดช่วงขึ้น หรือลง
เมฆในรูปแบบแรก คือ Senkou B เป็นการกล่าวถึง Zone ที่บอกถึง สภาวะในช่วงของตลาดช่วงขึ้น หรือลง เช่นกันโดยจะทำงานผสมผสานระหว่าง Senkou A และ Senkou B
เรามาแยกรายละเอียดการดูในแต่ละเส้นกัน
รูปแบบจะแบ่งได้ง่ายๆ ออกเป็น 3 ส่วน
รูปแบบที่ 1 >>>> เส้น Chikou ( เส้นสีเขียว ) ทำงานร่วมกับแท่งเทียนของกราฟ
รูปแบบที่ 2 >>>> เส้น Tenkan (เส้นสีแดง ) และ เส้น Kijun (เส้นสีน้ำเงิน) ทำงานร่วมกันเป็นสัญญาณตัดซื้อตัดขาย
รูปแบบที่ 3 >>>> เมฆ Senkou A และ Senkou B บอกถึงทิศทางของตลาดช่วงนั้นๆ ว่าอยู่ในเทรนไหน
เมื่อแบ่งได้เรามาลงรายละเอียดในแต่ล่ะรูปแบบกัน
รูปแบบที่ 1 กำหนดให้ เส้น Chikou ( เส้นสีเขียว ) ทำงานร่วมกับแท่งเทียนของกราฟ
จะเป็นในรูปแบบนี้เสมอ ราคาล่าสุดในรูปของแท่งเทียน กับเส้น Chikou โดยที่เส้น Chikou จะวิ่งตามแท่งเทียนของราคาล่าสุดที่มีระยะห่างตามกันไปในระยะเท่าๆกันต่อเนื่อง
เส้น Chikou ล่าสุดและแท่งเทียน ณ ราคาล่าสุด จะอยู่ในแนวขนานกันเสมอ ภาพของกราฟถ้าแบ่งง่ายๆก็จะเป็น
***ภาพของกราฟแท่งเทียนและกราฟเส้น วิ่งคู่ขนานตามกันไป ****
สัญญาณนี้บอกอะไรได้ ระหว่าง แท่งเทียนกับเส้น Chikou
จุดตัดซื้อและตัดขาย จะเป็นสัญญาณแรก ที่เกิดเพื่อบอกทิศทางการเข้าซื้อหรือขาย
ขอย้อนภาพกราฟกลับไปเพื่อดูวิธีการ ย้อนกราฟกลับไป ณ วันที่ 03/03/2015
วิธีการ เราจะดูที่เส้น Chikou ตัดกับกราฟแท่งเทียน จากภาพ
*** เมื่อเส้น Chikou ตัดอยู่ใต้แท่งเทียน จะเป็นจุดที่บอกสัญญาณขาย ที่เกิดขึ้น ***
ซึ่งจะทำให้พบว่า ณ วันที่ 03/03/2015 เกิดสัญญาณขาย ตามรูปแบบ เส้น Chikou
ในส่วนต่อมาของการเลี้ยงตัวของเส้นจะพบว่า เมื่อเส้น Chikou ไม่สามารถตัดเหนือแท่งเทียนได้ จะบ่งบอกกราฟได้ว่ากราฟนี้ยังอยู่ในรูปแบบของ สัญญาณขาย และอยู่ในช่วงราคาปรับตัวลง ซึ่งจะอ่านกราฟเป็นขาลงยังไม่เกิดสัญญาณซื้อ
เพิ่มเติมในส่วนกราฟที่เส้น Chikou อยู่ใต้แท่งเทียน ยังถือว่าจะปรับตัวลงต่อก่อน จนกระทั่ง
เมื่อเส้น Chikou ตัดเหนือแท่งเทียน รูปแบบของสัญญาณซื้อตามเทคนิคก็กลับมา ตามรูปแบบแรก
ภาพต่อเนื่อง เมื่อซื้อที่จุด เส้น Chikou ตัดเหนือแท่งเทียนแล้ว ก็อยู่ในเทรนที่ปรับตัวขาขึ้น สถานะนี้เมื่อซื้อแล้วก็สามารถถือรอราคาต่อ ตามรูปแบบของเส้น Chikou
สรุปง่ายๆในรูปแบบที่ 1 ของเส้น Chikou และกราฟแท่งเทียน
ในกรณีที่ 1 เส้น Chikou ตัดเหนือกราฟ จะอยู่เข้าสู่ สถานะ ซื้อ และถ้ายืนเหนือกราฟแท่งเทียนได้ ก็จะยืนยันในเทรนในแบบขาขึ้น
และในกรณีที่ 2 เส้น Chikou ตัดใต้กราฟ จะอยู่เข้าสู่ สถานะ ขาย และถ้ายืนอยู่ใต้กราฟแท่งเทียน ก็จะยืนยันในเทรนในแบบขาลง แล้วจะกลับมาซื้อใหม่เมื่อเข้าสู่เงื่อนไข กรณีที่ 1
รูปแบบที่ 2 >>>> เส้น Tenkan (เส้นสีแดง ) และ เส้น Kijun (เส้นสีน้ำเงิน)
เส้น Tenkan และเส้น Kijun จะทำหน้าที่สนับสนุนกัน รูปแบบการคิดจะคล้ายเส้น EMA 2 เส้นตัดกัน
เมื่อเส้น Tenkan (เส้นสีแดง ) อยู่เหนือ เส้น Kijun (เส้นสีน้ำเงิน) จะเป็นรูปแบบคล้ายกับ Golden Cross ตามรูปแบบของ EMA เป็นเชิงสัญญาณของการตัดซื้อ
เช่นกัน เมื่อเส้น Tenkan (เส้นสีแดง ) อยู่ใต้ เส้น Kijun (เส้นสีน้ำเงิน) จะเป็นรูปแบบคล้ายกับ Dead Cross ตามรูปแบบของ EMA เป็นเชิงสัญญาณของการตัดขาย เช่นกัน
รูปแบบนี้จะไม่ค่อยซับซ้อน ถ้าเข้าใจในรูปแบบของ EMA รูปแบบนี้จะค่อนข้างง่าย แนวรับก็สามารถใช้จุดของเส้น Tenkan และ เส้น Kijun เป็นจุดรับซื้อด้วยก็เป็นได้
ข้อเสียและข้อควรระวัง
เนื่องจากสัญญาณตัดซื้อและตัดขายค่อนข้างจะไวนิดนึง เราจึงควรจะมองให้เป็นจุดเฝ้าระวังในการซื้อและการขายก่อนจะดีกว่า
โดยที่เราจะให้ เส้น Chikou ตัดเหนือแท่งเทียน ก่อนเป็นจุดเข้าจุดแรก และ เมื่อ เส้น Tenkan (เส้นสีแดง ) อยู่เหนือ เส้น Kijun (เส้นสีน้ำเงิน) จะเป็นจุดที่ยืนยันในจุดที่สอง
รูปแบบที่ 3 >>>> เมฆ Senkou A และ Senkou B
ในรูปแบบของเมฆของ Senkou จะนำหน้ากราฟแท่งเทียน ตามตัวอย่างดังภาพ
จากกราฟจะได้ตามรูปแบบคือ กราฟแท่งเทียน จะวิ่งตาม เมฆของ Senkou ในระยะห่างที่เท่าๆกันต่อเนื่องไปเรื่อย
เมื่อไร เมฆของ Senkou เป็นสีเขียวหรือสีแดง
เราจะเห็นว่า Senkou จะมีทั้ง Senkou A และ Senkou B
เมื่อ Senkou B ราคาสูงกว่า Senkou A เมฆของกราฟจะเป็นสีแดง ตามภาพ และเช่นกัน
ที่ Senkou A ราคาสูงกว่า Senkou B เมฆของกราฟก็จะปรับเป็นสีเขียว ตามภาพด้านล่าง
เราก็จะได้ที่มาของเมฆแล้วล่ะว่าเมื่อไรจะเมฆเขียวแล้วเมื่อไรเมฆจะแดง
แล้วเราจะได้อะไรจากเมฆที่เป็นสีเขียวและสีแดง
เราลองย้อนกลับไป ประมาณ วันที่ 30/04/2015 จะเห็นว่าที่ราคาล่าสุด และเมฆในจุดที่ต่อเนื่องกันตามจุดที่วงไว้ เราจะเห็นว่าเมฆก่อตัวเป็นสีแดง และก่อตัวมาซักพักใหญ่ล่ะ
วิธีการ เราจะมองเมฆ เมื่อเมฆเป็นสีแดง และแท่งเทียนอยู่ใต้ก้อนเมฆที่เป็นสีแดง คิดง่ายเหมือนฟ้าครึ้ม พายุฝนจะมาประมาณนั้น 555 เราจะมองกราฟนี้ในรูปแบบของทิศทางขาลง
ย้อนภาพต่อเนื่อง ณ 16/07/2015 จะเห็นว่าแท่งเทียน อยู่ใต้เมฆสีแดง นั้นก็ยังบ่งบอกถึงเทรนในทิศทางลงก่อน ยังอยู่ในสภาวะขาย ยังไม่มีสัญญาณซื้อเกิดขึ้น
จนกระทั่ง ณ วันที่ 08/10/2015
เมฆของกราฟเริ่มเปลี่ยนสี ที่ Senkou A ราคามากกว่า Senkou B เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียว
ในรูปแบบของเมฆสีเขียว ก็เป็นในส่วนของพื้นที่เทรนขาขึ้น เช่นกันในกรณีแบบนี้
ถ้าเมฆสีเขียว อยู่เหนือแท่งเทียน ก็จะกลับสู่ สถานะซื้อตามเทคนิคและ ถ้ายืนเหนือเมฆ สีเขียวได้ก็จะเป็นรูปแบบเทรนขาขึ้นได้เช่นกัน
ถ้าสรุปรูปแบบง่ายๆคือ
ในรูปแบบที่เมฆเป็นสีแดง ให้อยู่ในสภาวะเฝ้าระวังเพื่อเตรียมดูการเข้าสู่ สภาวะ ขาย และปรับเทรนเป็นทิศทางลง
เช่นกันรูปแบบที่เมฆเป็นสีเขียว ให้อยู่ในสภาวะเตรียมดูการเข้าสู่ สภาวะ ซื้อ และปรับเทรนเป็นทิศทางขึ้น
บทสรุปเมื่อเราเข้าใจทั้ง 3 รูปแบบแล้ว เท่ากับว่าเราจะมีจุดยืนยันตามรูปแบบทั้ง 3 รูปแบบ ที่นี้เราจะมาจัดเรียงกัน
รูปแบบของการซื้อ และแนวโน้มของเทรนขาขึ้น
จุดแรก >>>> เส้น Chikou ( เส้นสีเขียว ) ตัดเหนือแท่งเทียนของกราฟ ยืนยันจุดที่ 1
จุดที่สอง >>>> เส้น Tenkan (เส้นสีแดง ) เหนือ เส้น Kijun (เส้นสีน้ำเงิน) ยืนยันจุดที่ 2
จุดที่สาม >>>> เมฆ Senkou A ราคาสูงกว่า Senkou B เมฆเป็นสีเขียว ยืนยันจุดที่ 3
จุดที่สี่ >>>> กราฟแท่งเทียนยืนเหนือเมฆสีเขียว ยืนยันจุดที่ 4
รูปแบบของการซื้อ และแนวโน้มของเทรนขาลง
จุดแรก >>>> เส้น Chikou ( เส้นสีเขียว ) ตัดลงใต้แท่งเทียนของกราฟ ยืนยันจุดที่ 1
จุดที่สอง >>>> เส้น Tenkan (เส้นสีแดง ) ตัดลงอยู่ใต้ เส้น Kijun (เส้นสีน้ำเงิน) ยืนยันจุดที่ 2
จุดที่สาม >>>> เมฆ Senkou B ราคาสูงกว่า Senkou A เมฆเป็นสีแดง ยืนยันจุดที่ 3
จุดที่สี่ >>>> กราฟแท่งเทียนยืนใต้เมฆสีแดง ยืนยันจุดที่ 4
รูปแบบของ Ichimoku แบบคร่าวๆก็จะประมาณนี้ เท่านี้ก็เพียงพอต่อการใช้งานล่ะ
รูปเเบบก็จะประมาณนี้ ในรูปเเบบของทุก indicator มันก็ไม่ได้เเปลว่า จะยืนยันได้ 100% เเต่สิ่งที่เราคาดหวังจากมันคือทิศทางเเละเเนวโน้ม ณ จุดนั้นๆ
เพื่อที่จะช่วยเป็นเหมือนเข็มทิศนำทางเราได้
ถ้าเราทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจเเละดูเเลมันอย่างดี ถึงเเม้ถ้าผลลัพธ์ ไม่เป็นดังหวังเเต่รู้ไว้ว่า วันหนึ่งเรารอพบกับความสำเร็จจากความตั้งใจได้เลย #ความรักก็เช่นกัน
**** กราฟล่าสุด ณ วันที่ 22/10/2015
Ichimoku ฉบับ mini สัญญาณจาก indicator
จากตัวรูปเเบบ Ichimoku เขียนไปเขียนมาเนื้อหาเยอะซะงั้น
ก็เลยลองเอามาเเบ่งปันเเนวทางกัน ผิดถูกไม่ว่ากันเนอะ เเชร์ๆกันดีกว่า
Ichimoku
หลักการของ Ichimoku จะประกอบด้วย เส้นหลัก 3 เส้นและรูปแบบของที่เรียกว่า เมฆ 2 แบบ
เส้นที่ 1 เส้นสีเขียว จะเรียกว่าเส้น Chikou เส้นนี้จะวิ่งตามรูปแบบของแท่งเทียนกราฟ มองง่ายคือ กราฟเส้น
เส้นที่ 2 เส้นสีแดง จะเรียกว่าเส้น Tenkan จะทำงานเสมือนเส้น EMA ทำหน้าที่แนวรับแนวต้านแบบ EMA
เส้นที่ 3 เส้นสีน้ำเงิน จะเรียกว่าเส้น Kijun จะทำงานเสมือนเส้น EMA เช่นเดียวกับเส้น Tenkan
โดยที่ เส้น Tenkan และ Kijun ต้องทำงานร่วมกัน
ในส่วนของเมฆจะมีทั้ง 2 ส่วน
เมฆในรูปแบบแรก คือ Senkou A เป็นการกล่าวถึง Zone ที่บอกถึง สภาวะในช่วงของตลาดช่วงขึ้น หรือลง
เมฆในรูปแบบแรก คือ Senkou B เป็นการกล่าวถึง Zone ที่บอกถึง สภาวะในช่วงของตลาดช่วงขึ้น หรือลง เช่นกันโดยจะทำงานผสมผสานระหว่าง Senkou A และ Senkou B
เรามาแยกรายละเอียดการดูในแต่ละเส้นกัน
รูปแบบจะแบ่งได้ง่ายๆ ออกเป็น 3 ส่วน
รูปแบบที่ 1 >>>> เส้น Chikou ( เส้นสีเขียว ) ทำงานร่วมกับแท่งเทียนของกราฟ
รูปแบบที่ 2 >>>> เส้น Tenkan (เส้นสีแดง ) และ เส้น Kijun (เส้นสีน้ำเงิน) ทำงานร่วมกันเป็นสัญญาณตัดซื้อตัดขาย
รูปแบบที่ 3 >>>> เมฆ Senkou A และ Senkou B บอกถึงทิศทางของตลาดช่วงนั้นๆ ว่าอยู่ในเทรนไหน
เมื่อแบ่งได้เรามาลงรายละเอียดในแต่ล่ะรูปแบบกัน
รูปแบบที่ 1 กำหนดให้ เส้น Chikou ( เส้นสีเขียว ) ทำงานร่วมกับแท่งเทียนของกราฟ
จะเป็นในรูปแบบนี้เสมอ ราคาล่าสุดในรูปของแท่งเทียน กับเส้น Chikou โดยที่เส้น Chikou จะวิ่งตามแท่งเทียนของราคาล่าสุดที่มีระยะห่างตามกันไปในระยะเท่าๆกันต่อเนื่อง
เส้น Chikou ล่าสุดและแท่งเทียน ณ ราคาล่าสุด จะอยู่ในแนวขนานกันเสมอ ภาพของกราฟถ้าแบ่งง่ายๆก็จะเป็น
***ภาพของกราฟแท่งเทียนและกราฟเส้น วิ่งคู่ขนานตามกันไป ****
สัญญาณนี้บอกอะไรได้ ระหว่าง แท่งเทียนกับเส้น Chikou
จุดตัดซื้อและตัดขาย จะเป็นสัญญาณแรก ที่เกิดเพื่อบอกทิศทางการเข้าซื้อหรือขาย
ขอย้อนภาพกราฟกลับไปเพื่อดูวิธีการ ย้อนกราฟกลับไป ณ วันที่ 03/03/2015
วิธีการ เราจะดูที่เส้น Chikou ตัดกับกราฟแท่งเทียน จากภาพ
*** เมื่อเส้น Chikou ตัดอยู่ใต้แท่งเทียน จะเป็นจุดที่บอกสัญญาณขาย ที่เกิดขึ้น ***
ซึ่งจะทำให้พบว่า ณ วันที่ 03/03/2015 เกิดสัญญาณขาย ตามรูปแบบ เส้น Chikou
ในส่วนต่อมาของการเลี้ยงตัวของเส้นจะพบว่า เมื่อเส้น Chikou ไม่สามารถตัดเหนือแท่งเทียนได้ จะบ่งบอกกราฟได้ว่ากราฟนี้ยังอยู่ในรูปแบบของ สัญญาณขาย และอยู่ในช่วงราคาปรับตัวลง ซึ่งจะอ่านกราฟเป็นขาลงยังไม่เกิดสัญญาณซื้อ
เพิ่มเติมในส่วนกราฟที่เส้น Chikou อยู่ใต้แท่งเทียน ยังถือว่าจะปรับตัวลงต่อก่อน จนกระทั่ง
เมื่อเส้น Chikou ตัดเหนือแท่งเทียน รูปแบบของสัญญาณซื้อตามเทคนิคก็กลับมา ตามรูปแบบแรก
ภาพต่อเนื่อง เมื่อซื้อที่จุด เส้น Chikou ตัดเหนือแท่งเทียนแล้ว ก็อยู่ในเทรนที่ปรับตัวขาขึ้น สถานะนี้เมื่อซื้อแล้วก็สามารถถือรอราคาต่อ ตามรูปแบบของเส้น Chikou
สรุปง่ายๆในรูปแบบที่ 1 ของเส้น Chikou และกราฟแท่งเทียน
ในกรณีที่ 1 เส้น Chikou ตัดเหนือกราฟ จะอยู่เข้าสู่ สถานะ ซื้อ และถ้ายืนเหนือกราฟแท่งเทียนได้ ก็จะยืนยันในเทรนในแบบขาขึ้น
และในกรณีที่ 2 เส้น Chikou ตัดใต้กราฟ จะอยู่เข้าสู่ สถานะ ขาย และถ้ายืนอยู่ใต้กราฟแท่งเทียน ก็จะยืนยันในเทรนในแบบขาลง แล้วจะกลับมาซื้อใหม่เมื่อเข้าสู่เงื่อนไข กรณีที่ 1
รูปแบบที่ 2 >>>> เส้น Tenkan (เส้นสีแดง ) และ เส้น Kijun (เส้นสีน้ำเงิน)
เส้น Tenkan และเส้น Kijun จะทำหน้าที่สนับสนุนกัน รูปแบบการคิดจะคล้ายเส้น EMA 2 เส้นตัดกัน
เมื่อเส้น Tenkan (เส้นสีแดง ) อยู่เหนือ เส้น Kijun (เส้นสีน้ำเงิน) จะเป็นรูปแบบคล้ายกับ Golden Cross ตามรูปแบบของ EMA เป็นเชิงสัญญาณของการตัดซื้อ
เช่นกัน เมื่อเส้น Tenkan (เส้นสีแดง ) อยู่ใต้ เส้น Kijun (เส้นสีน้ำเงิน) จะเป็นรูปแบบคล้ายกับ Dead Cross ตามรูปแบบของ EMA เป็นเชิงสัญญาณของการตัดขาย เช่นกัน
รูปแบบนี้จะไม่ค่อยซับซ้อน ถ้าเข้าใจในรูปแบบของ EMA รูปแบบนี้จะค่อนข้างง่าย แนวรับก็สามารถใช้จุดของเส้น Tenkan และ เส้น Kijun เป็นจุดรับซื้อด้วยก็เป็นได้
ข้อเสียและข้อควรระวัง
เนื่องจากสัญญาณตัดซื้อและตัดขายค่อนข้างจะไวนิดนึง เราจึงควรจะมองให้เป็นจุดเฝ้าระวังในการซื้อและการขายก่อนจะดีกว่า
โดยที่เราจะให้ เส้น Chikou ตัดเหนือแท่งเทียน ก่อนเป็นจุดเข้าจุดแรก และ เมื่อ เส้น Tenkan (เส้นสีแดง ) อยู่เหนือ เส้น Kijun (เส้นสีน้ำเงิน) จะเป็นจุดที่ยืนยันในจุดที่สอง
รูปแบบที่ 3 >>>> เมฆ Senkou A และ Senkou B
ในรูปแบบของเมฆของ Senkou จะนำหน้ากราฟแท่งเทียน ตามตัวอย่างดังภาพ
จากกราฟจะได้ตามรูปแบบคือ กราฟแท่งเทียน จะวิ่งตาม เมฆของ Senkou ในระยะห่างที่เท่าๆกันต่อเนื่องไปเรื่อย
เมื่อไร เมฆของ Senkou เป็นสีเขียวหรือสีแดง
เราจะเห็นว่า Senkou จะมีทั้ง Senkou A และ Senkou B
เมื่อ Senkou B ราคาสูงกว่า Senkou A เมฆของกราฟจะเป็นสีแดง ตามภาพ และเช่นกัน
ที่ Senkou A ราคาสูงกว่า Senkou B เมฆของกราฟก็จะปรับเป็นสีเขียว ตามภาพด้านล่าง
เราก็จะได้ที่มาของเมฆแล้วล่ะว่าเมื่อไรจะเมฆเขียวแล้วเมื่อไรเมฆจะแดง
แล้วเราจะได้อะไรจากเมฆที่เป็นสีเขียวและสีแดง
เราลองย้อนกลับไป ประมาณ วันที่ 30/04/2015 จะเห็นว่าที่ราคาล่าสุด และเมฆในจุดที่ต่อเนื่องกันตามจุดที่วงไว้ เราจะเห็นว่าเมฆก่อตัวเป็นสีแดง และก่อตัวมาซักพักใหญ่ล่ะ
วิธีการ เราจะมองเมฆ เมื่อเมฆเป็นสีแดง และแท่งเทียนอยู่ใต้ก้อนเมฆที่เป็นสีแดง คิดง่ายเหมือนฟ้าครึ้ม พายุฝนจะมาประมาณนั้น 555 เราจะมองกราฟนี้ในรูปแบบของทิศทางขาลง
ย้อนภาพต่อเนื่อง ณ 16/07/2015 จะเห็นว่าแท่งเทียน อยู่ใต้เมฆสีแดง นั้นก็ยังบ่งบอกถึงเทรนในทิศทางลงก่อน ยังอยู่ในสภาวะขาย ยังไม่มีสัญญาณซื้อเกิดขึ้น
จนกระทั่ง ณ วันที่ 08/10/2015
เมฆของกราฟเริ่มเปลี่ยนสี ที่ Senkou A ราคามากกว่า Senkou B เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียว
ในรูปแบบของเมฆสีเขียว ก็เป็นในส่วนของพื้นที่เทรนขาขึ้น เช่นกันในกรณีแบบนี้
ถ้าเมฆสีเขียว อยู่เหนือแท่งเทียน ก็จะกลับสู่ สถานะซื้อตามเทคนิคและ ถ้ายืนเหนือเมฆ สีเขียวได้ก็จะเป็นรูปแบบเทรนขาขึ้นได้เช่นกัน
ถ้าสรุปรูปแบบง่ายๆคือ
ในรูปแบบที่เมฆเป็นสีแดง ให้อยู่ในสภาวะเฝ้าระวังเพื่อเตรียมดูการเข้าสู่ สภาวะ ขาย และปรับเทรนเป็นทิศทางลง
เช่นกันรูปแบบที่เมฆเป็นสีเขียว ให้อยู่ในสภาวะเตรียมดูการเข้าสู่ สภาวะ ซื้อ และปรับเทรนเป็นทิศทางขึ้น
บทสรุปเมื่อเราเข้าใจทั้ง 3 รูปแบบแล้ว เท่ากับว่าเราจะมีจุดยืนยันตามรูปแบบทั้ง 3 รูปแบบ ที่นี้เราจะมาจัดเรียงกัน
รูปแบบของการซื้อ และแนวโน้มของเทรนขาขึ้น
จุดแรก >>>> เส้น Chikou ( เส้นสีเขียว ) ตัดเหนือแท่งเทียนของกราฟ ยืนยันจุดที่ 1
จุดที่สอง >>>> เส้น Tenkan (เส้นสีแดง ) เหนือ เส้น Kijun (เส้นสีน้ำเงิน) ยืนยันจุดที่ 2
จุดที่สาม >>>> เมฆ Senkou A ราคาสูงกว่า Senkou B เมฆเป็นสีเขียว ยืนยันจุดที่ 3
จุดที่สี่ >>>> กราฟแท่งเทียนยืนเหนือเมฆสีเขียว ยืนยันจุดที่ 4
รูปแบบของการซื้อ และแนวโน้มของเทรนขาลง
จุดแรก >>>> เส้น Chikou ( เส้นสีเขียว ) ตัดลงใต้แท่งเทียนของกราฟ ยืนยันจุดที่ 1
จุดที่สอง >>>> เส้น Tenkan (เส้นสีแดง ) ตัดลงอยู่ใต้ เส้น Kijun (เส้นสีน้ำเงิน) ยืนยันจุดที่ 2
จุดที่สาม >>>> เมฆ Senkou B ราคาสูงกว่า Senkou A เมฆเป็นสีแดง ยืนยันจุดที่ 3
จุดที่สี่ >>>> กราฟแท่งเทียนยืนใต้เมฆสีแดง ยืนยันจุดที่ 4
รูปแบบของ Ichimoku แบบคร่าวๆก็จะประมาณนี้ เท่านี้ก็เพียงพอต่อการใช้งานล่ะ
รูปเเบบก็จะประมาณนี้ ในรูปเเบบของทุก indicator มันก็ไม่ได้เเปลว่า จะยืนยันได้ 100% เเต่สิ่งที่เราคาดหวังจากมันคือทิศทางเเละเเนวโน้ม ณ จุดนั้นๆ
เพื่อที่จะช่วยเป็นเหมือนเข็มทิศนำทางเราได้
ถ้าเราทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจเเละดูเเลมันอย่างดี ถึงเเม้ถ้าผลลัพธ์ ไม่เป็นดังหวังเเต่รู้ไว้ว่า วันหนึ่งเรารอพบกับความสำเร็จจากความตั้งใจได้เลย #ความรักก็เช่นกัน
**** กราฟล่าสุด ณ วันที่ 22/10/2015