อาจเป็นเพราะเป็นคนรู้น้อย อาจเป็นเพราะภาษาที่สื่อสารมันเข้าใจยากสำหรับผม เลยไม่รู้ว่า มันจะเป็นทางออกของปัญหาการเมืองได้อย่างไรกันครับ
เพราะถ้าทำตามระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ หากพรรคไหนได้คะแนนสูงสุดในแต่ละเขต ผู้สมัครพรรคนั้นก็จะได้เป็น ส.ส.ทันที ส่วนคะแนนของผู้ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ก็จะนำไปคำนวณหาจำนวน ส.ส.รายชื่อของแต่ละพรรคต่อไป
ผมเลยสงสัยว่า ถ้าเกิดในอนาคต มีพรรคหนึ่งที่มีนโยบายโดนใจประชาชนทั้งประเทศ หรือมีผลงานเป็นที่ถูกอกถูกใจคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ เลยทำให้พรรคนี้ชนะไปเสียทุกเขต ก็จะมี ส.ส.จากการเลือกตั้งทั้งหมด มันก็จะเป็นรัฐบาลพรรคเดียวอยู่ดี
หรือถ้ามี นอมีนีพรรค หรือ พรรคพันธมิตรฯอะไรพวกนี้ เข้ามาสนับสนุนพรรคที่ได้ ส.ส.เสียงข้างมาก แล้วจะทำไงกันต่อดีครับ
ให้องค์กรตั้งขึ้นมาใหม่ ใช้อำนาจในการทักท้วง ต่อต้าน ตรวจสอบ จนทำให้รัฐบาลทำงานไม่ได้กันต่อไปอีกเช่นเดิม จนทำให้ประเทศเดินต่อไม่ได้เหมือนที่ผ่านมาใช่ไหมครับ
หรือจะให้คนอีกฝ่ายออกมาชุมนุมขับไล่ด้วยกลวิธีที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อสร้างวิกฤติ เพื่อให้มีนายกฯคนนอกเข้ามาแทนที่รัฐบาลที่ได้ฉันทามติจากประชาชนกันอีกอย่างนั้นหรือครับ
หรือจะให้คนที่รู้สึกถูกปล้นความชอบธรรมเหมือนที่ผ่านมา ออกมาขับไล่นายกฯคนนอก แล้วก็ใช้วิธีการเดิมๆ คือ การขนอาวุธทุกประเภทออกมารักษาความมั่นคง ด้วยการปราบปรามอย่างหนัก จนมีการตายและบาดเจ็บจำนวนมากกันอีก?
มันก็จะวนเวียนอยู่อย่างนี้ตลอดไป ตราบใดที่ปัญหาที่แท้จริงไม่ได้รับการแก้ไข เพราะนี่เป็นเพียงการแก้ปัญหาโดยนำความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคเพื่อไทยเป็นตัวตั้ง แล้วก็แก้โจทย์ด้วยการสร้างระบบเลือกตั้งใหม่ เพื่อตัดคะแนน เพื่อตัด ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย อย่างนี้แล้วปัญหาจะไม่มีวันจบสิ้น ผมคิดของผมอย่างนี้ครับ
บางคนอาจคิดว่าผมคิดเพ้อเจ้อ บางท่านอาจคิดว่าผมเพ้อฝัน แต่ตามทฤษฎีมันเป็นไปได้ไม่ใช่หรือครับ
วันข้างหน้า อาจมีภาคไหนที่ทนต่อความปลิ้นปล้อน โดยไม่มีผลงานเป็นรูปธรรมก็ได้
วันข้างหน้า อาจมีคนฉลาดขึ้น ไม่เลือกผู้ว่าฯมาเป็นไม้กันหมาเพียงแค่นั้น
และวันข้างหน้า อาจมีคนต้องการรัฐบาลที่สร้างผลงานให้กับประชาชนมากกว่ารัฐบาลที่คอยอุปโลกน์ตัวเองเป็นคนดีเพียงอย่างเดียวก็ได้
แล้วถึงตอนนั้นจะทำอย่างไงกันต่อ ฉีกใหม่ เขียนใหม่ ปฏิรูปกันใหม่ อีกอย่างนั้นหรือครับ
ผมจึงเกิดความสงสัย ระบบการเลือกตั้งใหม่เป็นการแก้ปัญหาการเมือง หรือ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ฝ่ายของตนชนะการเลือกตั้งเท่านั้น หรือไม่ ก็สร้างสรรค์โอกาสให้นายกฯจากคนนอก ซึ่งก็คงไม่แคล้วคนที่มาจากการสรรหาของพวกคนกลุ่มเดิมเช่นเดิม แล้วอย่างนี้คิดหรือว่า ปัญหาของการเมืองจะหมดไปจริงๆหรือ?
ระบบการเลือกตั้งที่ผ่านมา ก็ไม่รู้กี่รูปแบบ ล้วนแต่ผ่านมาโดยไม่เคยมีปัญหาใดๆทั้งสิ้น ยิ่งถ้าเป็นพรรคการเมืองอีกฝ่ายได้เป็นรัฐบาล ล้วนแต่ไร้ปัญหาทางการเมืองทั้งสิ้น จะมีปัญหาก็ต่อเมื่อไม่ได้เป็นรัฐบาลเสียทุกครั้งไป นี่จึงเป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไขต่างหากครับ
ลำพังเพียงพรรคการเมืองพรรคเดียว คงไม่สามารถสร้างปัญหาให้กับระบบได้อย่างแน่นอน แต่นี่เป็นการสุมหัวร่วมด้วยช่วยกัน จึงทำให้ระบบการเลือกตั้งมีปัญหา นี่ต่างหากครับคือหัวใจของความจำเป็นต้องปฏิรูป
ปัญหาที่ควรแก้ไข จึงเป็นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด คนทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ต้องรีบจัดการให้เสร็จก่อนการเลือกตั้งให้จงได้ ถ้าทำตามกระบวนการยุติธรรมปกติ อาจล่าช้าไม่ทันการ ก็ลองใช้กฎหมายพิเศษเข้าจัดการเหมือนเช่นการถอดยศสิครับ จะได้ให้เกิดความเข็ดหลาบ จะได้รู้ว่ากฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายไม่ได้
จากนั้นค่อยเลือกตั้ง จะเป็นฉบับไหนก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะเมื่อทุกฝ่ายอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน คงไม่มีใครกล้าออกมาก่อวิกฤติอีก ไม่มีใครกล้าออกมาสร้างเงื่อนไขให้ทำรัฐประหารกันอีก นั่นแหละครับ จึงจะสามารถสร้างรัฐธรรมนูญที่ไม่ต้องกลัวถูกฉีก สร้างกฎหมายที่ทุกฝ่ายต่างยอมรับ และยังทำให้ประชาชนรับรู้โดยถ้วนหน้าว่า พวกท่านเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาให้กับประเทศจริงๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าผมคิดถูกหรือคิดผิด เพียงแค่อยากแสดงความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตยเท่านั้นเอง
ระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ มันช่วยแก้ปัญหาประเทศอย่างไร ผมก็ยังงงอยู่-------------ทวดเอง
เพราะถ้าทำตามระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ หากพรรคไหนได้คะแนนสูงสุดในแต่ละเขต ผู้สมัครพรรคนั้นก็จะได้เป็น ส.ส.ทันที ส่วนคะแนนของผู้ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ก็จะนำไปคำนวณหาจำนวน ส.ส.รายชื่อของแต่ละพรรคต่อไป
ผมเลยสงสัยว่า ถ้าเกิดในอนาคต มีพรรคหนึ่งที่มีนโยบายโดนใจประชาชนทั้งประเทศ หรือมีผลงานเป็นที่ถูกอกถูกใจคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ เลยทำให้พรรคนี้ชนะไปเสียทุกเขต ก็จะมี ส.ส.จากการเลือกตั้งทั้งหมด มันก็จะเป็นรัฐบาลพรรคเดียวอยู่ดี
หรือถ้ามี นอมีนีพรรค หรือ พรรคพันธมิตรฯอะไรพวกนี้ เข้ามาสนับสนุนพรรคที่ได้ ส.ส.เสียงข้างมาก แล้วจะทำไงกันต่อดีครับ
ให้องค์กรตั้งขึ้นมาใหม่ ใช้อำนาจในการทักท้วง ต่อต้าน ตรวจสอบ จนทำให้รัฐบาลทำงานไม่ได้กันต่อไปอีกเช่นเดิม จนทำให้ประเทศเดินต่อไม่ได้เหมือนที่ผ่านมาใช่ไหมครับ
หรือจะให้คนอีกฝ่ายออกมาชุมนุมขับไล่ด้วยกลวิธีที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อสร้างวิกฤติ เพื่อให้มีนายกฯคนนอกเข้ามาแทนที่รัฐบาลที่ได้ฉันทามติจากประชาชนกันอีกอย่างนั้นหรือครับ
หรือจะให้คนที่รู้สึกถูกปล้นความชอบธรรมเหมือนที่ผ่านมา ออกมาขับไล่นายกฯคนนอก แล้วก็ใช้วิธีการเดิมๆ คือ การขนอาวุธทุกประเภทออกมารักษาความมั่นคง ด้วยการปราบปรามอย่างหนัก จนมีการตายและบาดเจ็บจำนวนมากกันอีก?
มันก็จะวนเวียนอยู่อย่างนี้ตลอดไป ตราบใดที่ปัญหาที่แท้จริงไม่ได้รับการแก้ไข เพราะนี่เป็นเพียงการแก้ปัญหาโดยนำความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคเพื่อไทยเป็นตัวตั้ง แล้วก็แก้โจทย์ด้วยการสร้างระบบเลือกตั้งใหม่ เพื่อตัดคะแนน เพื่อตัด ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย อย่างนี้แล้วปัญหาจะไม่มีวันจบสิ้น ผมคิดของผมอย่างนี้ครับ
บางคนอาจคิดว่าผมคิดเพ้อเจ้อ บางท่านอาจคิดว่าผมเพ้อฝัน แต่ตามทฤษฎีมันเป็นไปได้ไม่ใช่หรือครับ
วันข้างหน้า อาจมีภาคไหนที่ทนต่อความปลิ้นปล้อน โดยไม่มีผลงานเป็นรูปธรรมก็ได้
วันข้างหน้า อาจมีคนฉลาดขึ้น ไม่เลือกผู้ว่าฯมาเป็นไม้กันหมาเพียงแค่นั้น
และวันข้างหน้า อาจมีคนต้องการรัฐบาลที่สร้างผลงานให้กับประชาชนมากกว่ารัฐบาลที่คอยอุปโลกน์ตัวเองเป็นคนดีเพียงอย่างเดียวก็ได้
แล้วถึงตอนนั้นจะทำอย่างไงกันต่อ ฉีกใหม่ เขียนใหม่ ปฏิรูปกันใหม่ อีกอย่างนั้นหรือครับ
ผมจึงเกิดความสงสัย ระบบการเลือกตั้งใหม่เป็นการแก้ปัญหาการเมือง หรือ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ฝ่ายของตนชนะการเลือกตั้งเท่านั้น หรือไม่ ก็สร้างสรรค์โอกาสให้นายกฯจากคนนอก ซึ่งก็คงไม่แคล้วคนที่มาจากการสรรหาของพวกคนกลุ่มเดิมเช่นเดิม แล้วอย่างนี้คิดหรือว่า ปัญหาของการเมืองจะหมดไปจริงๆหรือ?
ระบบการเลือกตั้งที่ผ่านมา ก็ไม่รู้กี่รูปแบบ ล้วนแต่ผ่านมาโดยไม่เคยมีปัญหาใดๆทั้งสิ้น ยิ่งถ้าเป็นพรรคการเมืองอีกฝ่ายได้เป็นรัฐบาล ล้วนแต่ไร้ปัญหาทางการเมืองทั้งสิ้น จะมีปัญหาก็ต่อเมื่อไม่ได้เป็นรัฐบาลเสียทุกครั้งไป นี่จึงเป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไขต่างหากครับ
ลำพังเพียงพรรคการเมืองพรรคเดียว คงไม่สามารถสร้างปัญหาให้กับระบบได้อย่างแน่นอน แต่นี่เป็นการสุมหัวร่วมด้วยช่วยกัน จึงทำให้ระบบการเลือกตั้งมีปัญหา นี่ต่างหากครับคือหัวใจของความจำเป็นต้องปฏิรูป
ปัญหาที่ควรแก้ไข จึงเป็นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด คนทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ต้องรีบจัดการให้เสร็จก่อนการเลือกตั้งให้จงได้ ถ้าทำตามกระบวนการยุติธรรมปกติ อาจล่าช้าไม่ทันการ ก็ลองใช้กฎหมายพิเศษเข้าจัดการเหมือนเช่นการถอดยศสิครับ จะได้ให้เกิดความเข็ดหลาบ จะได้รู้ว่ากฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายไม่ได้
จากนั้นค่อยเลือกตั้ง จะเป็นฉบับไหนก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะเมื่อทุกฝ่ายอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน คงไม่มีใครกล้าออกมาก่อวิกฤติอีก ไม่มีใครกล้าออกมาสร้างเงื่อนไขให้ทำรัฐประหารกันอีก นั่นแหละครับ จึงจะสามารถสร้างรัฐธรรมนูญที่ไม่ต้องกลัวถูกฉีก สร้างกฎหมายที่ทุกฝ่ายต่างยอมรับ และยังทำให้ประชาชนรับรู้โดยถ้วนหน้าว่า พวกท่านเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาให้กับประเทศจริงๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าผมคิดถูกหรือคิดผิด เพียงแค่อยากแสดงความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตยเท่านั้นเอง