[CR] England แดนผู้ดี รีวิวมาอังกฤษยังไง..ไม่ต้องใช้ agent !

สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเราอาจจะผิดพลาดบ้าง ขออภัยไว้ก่อนนะค้า
ขอบอกว่าเหตุผลในการตั้งกระทู้นี้เพื่อเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ เท่านั้นนะคะ ไม่มีการโฆษณาหรือ Anti อาชีพใดๆทั้งนั้นค่ะ

มาเริ่มกันเลยยย..
ใครๆก็พูดกันนักต่อนัก ทั้งรีวิวนู่นนี่ คำล่ำลือมากมายที่บอกว่าวีซ่าอังกฤษขอย๊ากยากก
เจ้าของกระทู้ขอยืนยันไว้ตรงนี้เลยนะคะ ว่า.. ' ไม่จริงงง '
เราเองเคยถูกปฏิเสธวีซ่าตอนปี 2011 ตอนนั้นทำวีซ่าเองตั้งแต่กรอกเอกสาร จนวันยื่นเลยค่ะ
ตอนนั้นขอมาตอนอายุยังไม่ถึง 18 แล้วเดินทางลำพัง ไม่มี host ไม่มีที่เรียน เจตนาคือขอมาเที่ยว
แล้วทางสถานฑูตโทรมาหาคุณพ่อบอกว่าขออนุญาตให้ไม่ผ่านนะคะ
เพราะกลัวว่าเราเป็นผู้หญิงจะไม่ปลอดภัย (สงสัยกลัวไปโดดหาฝรั่งค่ะ555)
หลังจากนั้นเราก็คิดว่ามันยากจริงๆ ทำไมสถานฑูตใจร้ายจัง

จากนั้นปี 2012 เราตัดสินใจลองใช้ Agent ค่ะ เราขอวีซ่าท่องเที่ยวนะคะ แต่โชคดีเรามีญาติอยู่เลยขออาศัยเอาชื่อลงอยู่กับเขาได้ค่ะ
อย่างแรกเลยเอกสารหลักๆ ได้แก่
- Passport, สำเนาทะเบียนบ้าน,เอกสารการเรียน(ถ้ายังเรียนอยู่นะคะ),เอกสารการทำงาน,ใบรับรองเงินเดือน,
ใบรับรองการทำงาน,Statement, เอกสารที่พัก หลักๆก็ประมาณนี้ค่ะ ส่วนเราไม่มีรายได้ก็ต้องใช้เอกสารของคุณพ่อทั้งหมดค่ะ
โดยเราให้คุณพ่อขอเอกสารการรับรองการทำงาน,ใบรับรองเงินเดือน, Statement คุณพ่อย้อนหลัง 6 เดือนนะคะ (เอกสารทั้งหมดขอเป็นภาษาอังกฤษค่ะ)
ตอนนั้นสถานที่รับยื่นวีซ่าอังกฤษหรือ VFS อยู่ที่ BTS ราชดำริค่ะ (ปัจจุบันอยู่ที่ BTS นานา) เราก็ไปถึงซื้อ Cheque จ่ายเงิน รับคิวตามที่ได้ค่ะ ฯลฯ
ตรงนี้ไม่สำคัญแล้วค่ะเพราะเขายกเลิกระบบแบบนั้นไม่แล้ว แต่เอาเป็นว่าวีซ่าท่องเที่ยวเราผ่านค่ะ จากนั้นเราก็มาใช้ชีวิตที่นี่อยู่ 3 เดือน หาประสบการณ์ใหม่ๆ

มาปี 2013, เราตัดสินใจมาเรียนภาษาที่อังกฤษ คราวนี้พอจับจุดได้เราก็เริ่มลุยเลยค่ะ
อย่างแรกที่เจ้าของกระทู้ทำคือนั่งหาสถานที่เรียนภาษาทั้งวันทั้งคืนเป็นอาทิตย์เลยค่ะ หาตั้งแต่เช้ายันเย็น
จด list ไว้แล้วก็มาคำนวนราคา และราคาที่ได้คือทางเอเจ่นบอกเราว่าสมมตินะคะ 3 เดือน ประมาณ100,000 บาท นี่แค่ค่าเรียนอย่างเดียวค่ะ
เรื่องที่อยู่และการใช้ชีวิตไว้จะเล่าหลังจากนี้นะคะ แต่เรานั่งหาเองจนราคาที่เราได้คือ 3 เดือน 40,000 บาท ใจกลางเมืองลอนดอนเลยค่ะ
แต่ตอนนั้นก็ไม่โกรธ ไม่ตำหนิเขาเลยนะคะ เพราะมันคืออาชีพเขาและถ้าเขาไม่ทำเขาจะเอาอะไรกิน ต่อค่ะ..
พอเราได้ที่เรียนที่ถูกใจ ตามเว็บต่างๆของสถาบันภาษา เขาจะมีให้เรากด Apply online จากนั้นเราก็เริ่มเลยค่ะ
เลือก course ที่สนใจ (General English, IELTS, Business English, etc) จากนั้นก็เลือกวันที่จะเริ่มเรียนวันแรก
ลืมบอกไปว่า course ภาษาที่นี่เปิด course ทุกๆวันจันทร์นะคะ ก็เลยจะเจอนักเรียนเข้ามาใหม่ๆทุกจันทร์เป็นปกติ
พอเราเลือกทุกอย่างเรียบร้อย เขาก็จะติดต่อมาให้จ่ายเงินยังไง แล้วจะส่งไปตอบรับมาให้เราปริ้นเองค่ะหรือบางทีอาจจะส่งทาง post รอประมาณ 14 ได้ค่ะ
เอาเป็นว่าพอเราได้เอกสารทางการเรียนเรียบร้อยแล้วก็ไม่น่ากังวลอะไรมากแล้วค่ะ เพราะทางสถานฑูตเขาต้องการดูว่าเราจะไปเรียนจริงๆค่ะ
จากนั้นเอกสารอื่นๆก็ไม่ต่างอะไรจากการขอท่องเที่ยวเลยค่ะ เหมือนกันแทบจะทุกอย่าง มีเพิ่มเติมก็แค่เอกสารการเรียนเท่านั้นค่ะ สบายมากก!

ต่อมา 2014, หลังจากเราจบ course ภาษาเราก็กลับมาไทยค่ะ คราวนี้ตัดสินใจมาเรียนปริญญาตรีเลย
( ยังงกเหมือนเดิมค่ะ ขอวีซ่านักเรียนด้วยตัวเองดังเดิม 555 ) อันนี้จะวุ่นวายหน่อยเพราะมันคือวีซ่าที่รายละเอียดเยอะพอสมควรค่ะ
เราเริ่มจากการหามหาลัยค่ะ ตอนปี 2013 วันไหนที่เราว่างก็จะไปเดินๆหามหาลัยค่ะ หาข้อมูลไว้เยอะๆ
กลับมาไทยก็เริ่มทำการติดต่อเลยค่ะ โดยมาตราฐานมหาลัยที่ประเทศอังกฤษราคาค่าเรียนจะอยู่ที่ 10,000-15,000 GBP
( มันย่อมาจาก Great Britain Pound Sterling นะคะ บางคนถามว่ามาอังกฤษใช้เงินกี่ยูโรหรอ อังกฤษไม่ใช้ยูโรนะคะเป็นสกุลเงินปอนด์ค่ะ ปัจจุบันนี้ 1 ปอนด์ = ประมาณ 55-58 บาทค่ะ *เพราะฉะนั้นค่าเรียนก็จะประมาณ 550,000-880,000 บาทต่อปีนะคะ ต่อเทอมตายแน่ๆเลย555 )
เอาล่ะต่อค่ะ คราวนี้ก็เช่นเดิม ตามเว็บไซต์ต่างๆของสถาบันหรือมหาลัยที่นี่จะมีให้กด Apply Online
เราก็เริ่มเลยค่ะเตรียมเอกสาร คราวนี้ยุ่งยากหน่อยนะคะ
1. เราต้องสอบ IELTS หรือมันย่อมาจาก International English Language Testing System ค่ะ พูดง่ายๆมันก็คือการ
สอบทักษะภาษาอังกฤษฟัง พูด อ่าน เขียน โดยทั่วไปมหาลัยในระดับปริญญาตรีของอังกฤษจะรับที่คะแนน 6.0-6.5 จากคะแนนเต็ม 9.0 นะคะ
2. การจะพำนักหรืออาศัยในอังกฤษเกินกว่า 6 เดือนไม่ว่าจะเป็น course ภาษาหรือปริญญาตรีหรือโท ต้องทำการตรวจปอดนะคะ ตรวจของ IOM ซึ่งค่าตรวจน่าจะประมาณ 3,000 ค่ะ ตอนนี้ขึ้นหรือยังไม่แน่ใจค่ะ
3. คราวนี้ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน รวมทั้งต้องขอเอกสารจากทางธนาคารอีกต่างหากนะคะว่าเงินก้อนที่เราใช้โชว์ต้องอยู้ในบัญชีมาแล้วไม่ต่ำกว่า 28 วัน การคำนวณคร่าวๆก็คือถ้าในลอนดอนค่าครองชีพอย่างต่ำคือ 1,000 ปอนด์ต่อเดือน=55,000บาท x 12 เดือนไปเลยค่ะ เพราะฉะนั้นเราต้องมีเงินโชว์ที่ค้างอยู่ในบัญชีมาแล้วไม่ต่ำว่า 28 วัน ไม่ต่ำกว่า 660,000 บาทค่ะ ถ้าเมืองอื่นๆไม่ใช่ลอนดอนเอา 800 คูณนะคะ ไม่ต้องเป๊ะตามนี้นะคะแค่ยกตัวอย่างเท่านั้น
4. เอกสารสถานศึกษาเก่า วุฒิม.6 หรือปริญญาตรี วุฒิสูงสุดที่เรามี ให้สถาบันออกให้เป็นภาษาอังกฤษนะคะ
5. เอกสารที่พัก ที่พักหาได้ง่ายๆค่ะ ตาม Page คนไทยในลอนดอนหรือว่าเว็บต่างชาติเช่น Spareroom, Gumtree ค่าที่พักที่นี่ก็แล้วแต่ Zone และก็รูปแบบการอยู่ค่ะ มีทั้งแชร์ อยู่แฟลต ห้องเช่า เยอะแยะมากค่ะ โดยเฉลี่ยก็ตกเดือนละ 30,000-100,000 มีต่ำกว่านี้แพงกว่านี้แล้วแต่รูปแบบคนต่างการและสถานที่ด้วยนะคะ
6. สำคัญที่สุดคือ CAS จากมหาลัย มันก็คือใบยืนยันว่าเราสมัครเรียนแล้ว จ่ายเงินแล้วและ CAS จะระบุ course ที่เราเรียน คณะอะไร นานแค่ไหน
7. แบบฟอร์มการกรอกข้อมูลเราเอง วีซ่านักเรียนจะเป็นประเภท Tier4 General student นะคะ ส่วนใหญ่ก็ถามทั่วไป ประวัติพ่อแม่, Passport, ประวัติการศึกษา, ประวัติการเดินทางไปไหนมาบ้างทั่วโลก มีรายละเอียดอีกเยอะค่ะแต่ก็ทั่วๆไป
8. ภาพถ่าย 34x45mm พื้นหลังขาวค่ะ
นี่ก็หลักๆนะคะ ที่ใช้ อาจจะมีเอกสารช่วยเสริมอีกแล้วแต่อาชีพแต่ละคนค่ะ แต่ทุกวันนี้การขอวีซ่าทุกประเภทไม่ต้องไปซื้อเช็คให้ยุ่งยากแล้วค่ะ

พอเราเข้า google > UK VISA > เลือกประเภท > กรอกข้อมูล > จากนั้นพอเรากรอกทุกอย่างครบถ้วนมันจะลิ้งค์เราไปหน้าที่จ่ายเงินเลยค่ะ
-  วีซ่าท่องเที่ยว visitor รู้สึกว่าเพิ่งเปลี่ยนจาก 180 วันเหลือ 60 วันนะคะ จาก 4,000 กว่าเป็น 5,000 บาทค่ะ
- วีซ่าเรียนภาษา student visitor ก็น่าจะเท่าท่องเที่ยวหรือมากกว่านะคะ แต่ถ้าไม่เกิน 6 เดือนไม่ถึง 10,000 บาท
- วีซ่านักเรียน tier4 student ก็ประมาณ 16,000 บาทนะคะ แต่มีค่าประกันอีกปีละ 300 ปอนค่ะ เช่นถ้า course 2 ปีก็ = 600 GBP ค่ะ

พอเราจ่ายค่าวีซ่าเรียบร้อย เราก็จะได้นัดวันและเวลาที่จะยื่นค่ะ เลือกเองได้เลยนะคะ
จากนั้นก็รอ 15 วันทำการ ทุกครั้งที่ยื่นและรอผลเป็นช่วงเวลาที่ลุ้นที่สุดเลยค่ะ ทรมาน ทำอะไรไม่มีความสุข เพราะฝังใจจากการเคยไม่ผ่านครั้งแรก55555
(คนที่เคยเดินทางเข้าอังกฤษแล้วถ้ายื่นวีซ่านักเรียนสามารถเร่งได้นะคะ 3-5 วันทำการเจ้าของกระทู้เคยขอ 5,800 นะคะถ้าจำไม่ผิดแต่เห็นว่าปัจจุบันนี้เห็นเพื่อนบอกว่า6,000 กว่าค่ะ 1 วันก็เห็นว่ามีนะคะ แต่เจ้าของกระทู้ยังไม่เคยถามเลยค่ะ หลักหมื่นแน่ๆ )
จากนั้นวีซ่าก็ได้มาเรียบร้อย ทุกวันนี้อยู่มาจนครึ่งทางแล้วค่ะ ใกล้จะจบแล้ว แอบตื่นเต้น

เอาล่ะค่ะ.. จริงๆทุกๆอย่างมีรายละเอียดเพิ่มเติมในตัวของมันเองอีกมากมายเลยนะคะ
ถ้าใครสนใจอยากทราบรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นการสอบ IELTS, ตรวจปวด, หาที่พัก, การใช้ชีวิตในลอนดอนและอื่นๆ
ถามได้ทุกอย่างเลยนะคะ ยินดีตอบมากๆเลย

หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ช่วยอะไรได้ไม่มากก็น้อย
อาจจะมีข้อมูลอะไรไม่ชัดเจนบ้างหรือผิดบ้าง ยังไงติเตียน แนะนำ หรือแก้ไข ยินดีรับฟังทุกอย่างเลยค่ะ

ยังไงถ้าสนใจติดตามชีวิต เราเริ่มทำ Page Facebook พาเที่ยวและแนะนำลอนดอน
กด Like page ได้เลยค่ะ https://www.facebook.com/shewithlondon  ชื่อเพจ ชีวิตลอนดอนค่ะ

สรุปแล้วมาอังกฤษไม่ยากอย่างที่คิดนะคะ มีอีกหลายอย่างที่ถ้ารู้แล้วยิ่งอยากมาค่ะ ไปเตรียมเอกสารกันได้เลยค่าา555
ขอบคุณที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้นะคะ ขอบคุณจริงๆค่ะ ^___^
ชื่อสินค้า:   ลอนดอน ประเทศอังกฤษ (UK)
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่