
สวัสดีครับ
"ฤดูตั๋วถูก" ทำให้เห็นคนไทยทยอยเดินทางออกนอกประเทศกันจนเครื่องบินหนักอึ้งกันเลยทีเดียว ผมเองก็ด้วย ได้มีโอกาสไปญี่ปุ่น10วันในเดือนตุลาคม ก็จะช้าอยู่ใยเก็บของสิครับ !! และทุกครั้งไปเที่ยวทั้งที ต้องมีปัญหาว่าจะเอากล้องอะไรไปถ่ายรูป และทุกครั้งอีกครั้งก็เอามันไปทุกตัวอยู่ดีงวดนี้หวยมาออกที่ กล้องฟิล์ม Nikon FM2,Nikon D90,Gopro และที่เยอะนี่ไม่ใช่ว่าถ่ายรูปเก่งนะครับ คือถ่ายเยอะๆไว้ก่อน เดี๋ยวมันมันต้องสวยซักรูปละน่า
ในส่วนนี้ขอพูดถึงกล้องฟิล์มอย่างเดียวนะครับผม คราวนี้ขนฟิล์มไป10ม้วนกะว่าวันละม้วนเลยสบายๆแต่เอาเข้าจริงๆ ด้วยความที่ต้องขนของเยอะ บวกกับสถานที่ที่ต้องเดินทางไปก็หลากหลายและรวดเร็ว เลยทำให้กล้องฟิล์มของผมมีข้อจำกัดที่ข้ามยากอยู่หลายจุด สุดท้ายถ่ายไปได้แค่ 3 ม้วนเท่านั้น การเดินทางครั้งนี้ไปด้วยหลายวิธีทั้ง การเช่ารถ,นั่งเรือ,แท็กซี่,รถเมล์,จักรยานธรรมดา,จักรยานมีมอเตอร์,รถไฟ จนถึงการเดินที่บางวันมากกว่า 20 กม. และเดินทางไปในหลายที่ โดยเริ่มจาก OSAKA>KYUTO>OKAYAMA>KAGAWA>KUMAMOTO>OITA>FUKUOKA>HIROSHIMA
โอเคครับขอเริ่มเลยนะครับ
ม้วนที่ 1 FUJICOLOR 100 (JAPAN VERSION)
วันแรกของการเดินทางจาก ดอนเมืองถึงโอซาก้าและไปยังเกียวโตเข้าที่พักแล้วหลับยาวๆเพื่อเติมพลัง
เช้าวันที่สอง ตื่นแต่เช้าเด้งขึ้นมาแล้วออกมายืนบนถนนหนาวๆกับบรรยากาศแห่งความกะทัดรัด

เมืองที่พักวันนี้อยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟ SHICHIJO แถวนั้นมีแม่น้ำสวยๆและกิจกรรมเยอะแยะ

ผมดูน้าเค้าเย่อกับปลาในแม่น้ำอยู่นานมาก จนสุดท้ายพอลากปลามาใกล้แล้วเอากระชอนมาตัก เดินเข้าไปถามเค้าเป็นภาษางูๆและปลาๆ ประมาณว่าคุณจะกินมันเหรอ น้าเค้าส่ายหน้า จากนั้นก็ถอดเบ็ดจากปากปลาแล้วปล่อยกลับคืนสู่แม่น้ำ คือจะบอกว่าปลาของน้าเค้าตัวใหญ่มากจริงๆ แม่น้ำตื้นๆแบบนี้มีปลาใหญ่ระดับนี้ แม่น้ำบ้านน้าต้องสะอาดมากๆเลยนะ!!!

พอตกสายๆก็ออกไปเช่าจักรยานเพื่อเดินทางไปวัด KAMOMIOYA-JINJA
บรรยากาศในวัดที่เก็บได้
จากนั้นก็ไปต่อกันที่ NIJO CASTLE

ปราสาทแห่งนี้ห้ามถ่ายภาพด้านในเลยอดตามระเบียบ ที่นี่มีทางเดินในการชมยาวมากกินระยะทางเป็นกิโลๆเลย
จากนั้นก็ปั่นจักรยานต่อไปที่วัดยอดฮิต KINKAKU-JI TEMPLE

เคยมาที่วัดนี้หนนึงแล้ว วันนี้ก็ยังเหมือนเดิมคือ คนเป็นล้าน หามุมถ่ายยากมากๆ แต่ก็ครื้นเครงดีครับ
ไม่ไหวเหนื่อย อยู่เมืองไทย ปั่นจักรยานไกลสุดวันละ 200 กม. มาเจอที่เกียวโต จักรยานเช่าดีนะแต่เบาะสั้นไปหน่อยทำให้คนขายาวอย่างผมต้องงอขาปั่นเป็นระยะทางหลาย กม. ในวันนี้ ทำให้บอบช้ำไปพอสมควร ไว้พรุ่งนี้จะลองนั่งรถไฟดูบ้าง
ม้วนที่ 2 AGFA VISTA PLUS 200
กว่าจะได้เริ่มม้วนที่สองก็ปาไปวันที่ 4 แล้ว การเดินทางเปลี่ยนมาใช้รถไฟ ทั้ง JR และ SUBWAY ต่างๆในเมือง ก็ไปทำบัตร JR PASS ไว้นะแต่เดินทาง
เข้าออกตามซอกซอยโน้นนี้ จนมันต้องใช้บริการรถไฟที่ไม่ใช่ JR จนทำให้สับสนช้าวุ่นวายไปหมดในเมืองเกียวโต ทั้งย่านกีออน ย่านเมืองเก่าเกียวโต
ไปชมป่าไผ่ ไปชมวัดเก่าแก่ ต่างๆนานา เหล่านั้นล้วนเสร็จกล้องดิจิตอลทั้งหมด
เช้าวันที่ 4 ได้ฤกษ์เปลี่ยนที่นอนไปเมืองอื่นบ้าง เราเดินทางจาก KYUTO นั่งชินคันเซน ไปยังเมือง OKAYAMA แล้วต่อเรือไปที่เกาะ TESHIMA

เกาะนี้มีที่เที่ยวหลักๆคือ TESHIMA ART MUSEUM ที่ห้ามถ่ายรูป เป็นสถานที่ที่อธิบายยาก บอกไปเดี๋ยวรู้หมด แนะนำให้มานะครับถ้าใครมีเวลา มันสุดยอดจริงๆ มิวเซียมนี้ เราเที่ยวที่เกาะนี้ทั้งวันอย่างเหน็ดเหนื่อยเพราะต้องลากกระเป๋าขึ้นรถเมล์ และกล้องฟิล์ม ก็อดเก็บภาพกันตามระเบียบ เราเดินทางสู่ที่พักใหม่ในเมือง TAKAMATSU รอเช้าวันใหม่เดินทางอีกรอบ
เช้าวันที่ 5 ข้ามไปเกาะอีกครั้ง คราวนี้ไปอีกเกาะชื่อว่า NAOSHIMA เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีจุดชมโน้นนี่นั่นเต็มไปหมด ต้องใช้เวลาทั้งวันจริงๆ แต่วันนี้เรามีพาหนะใหม่คือ จักรยานไฟฟ้า ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเราขึ้นเนิน อธิบายง่ายๆเหมือนเราปั่นแล้วมีคนลากเราไปข้างหน้าอย่างแรง เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ปั่นจักรยานขึ้นเนินแล้วยิ้มได้ แต่ที่ยิ้มไม่ได้คือหลายที่บนนี้ห้ามถ่ายรูป !!!
ฟักทองในตำนาน
ชายหาดของเกาะยามเย็น
ประติมากรรมที่เข้าไปลุยข้างในได้
ตกลงฟักทองหรือเต่าทอง
เช้าวันที่ 6 เราก็เดินทางด้วยชินคันเซนกลับเมืองโอซาก้า ผมแยกตัวจากกลุ่มใหญ่ เพื่อมาพบกับภรรยาที่ตามมาสมทบ กว่าภรรยาจะถึงก็ดึกมากๆ ผมเลยถือโอกาสไปลุย NAMBA ก่อน เพื่อนถ่ายภาพแถวย่านตึกกูลิโกะ
คนเยอะจนน่าตกใจ ได้ยินเสียงคนไทยแว่วๆมาตลอดทาง ก็บอกแล้วว่าฤดูตั๋วถูก
กลับมาเริ่มต้นที่ รร.ในสนามบินคันไซอีกครั้ง ได้พบภรรยาแล้ว เตรียมตัวมุ่งสู่ "ภาคใต้ของญี่ปุ่น" ในวันรุ่งขึ้น
เช้าวันที่ 7 ตื่นเร็วสุดๆเพื่อไปรับ JR PASS SANYO SANIN เพื่อเดินทางไปยังเกาะคิวชู ผมกับภรรยากระเตงกระเป๋าขึ้นรถไฟชินคันเซน ไปลงที่เมือง FUKUOKA ที่สถานี HAKATA แล้วรับรถเช่าที่ติดต่อเอาไว้ เป็นรถมาสด้าคันจิ๋วคล่องตัว น้ำมันเต็มถังมุ่งสู่เมือง KUMAMOTO โดยพลัน
เมืองคุมาโมโตะ มีเทือกเขานึงชื่อว่า ASO ที่รวบรวมภูเขาหลายลูกสวยๆไว้ด้วยกัน ก่อนหน้าเราจะมาที่นี่เพิ่งจะมีข่าวว่า ASO ภูเขาไฟที่เราอยากมาดันปะทุขึ้นส่งควันไฟไปยังพื้นที่ใกล้เคียงจนญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยระดับ 2 ตอนนั้นใจแป้วมาก แต่ก็ตามข่าวอยู่เรื่อยๆจนรู้ว่ายังเที่ยวรอบๆได้อยู่
อันนี้เป็นภูเขาไฟน้องใหม่ในย่าน ASO ชื่อว่า KOMEZUKA เราตั้งชื่อเล่นให้มันว่า พุดดิ้ง
ข้างๆพุดดิ้งมีภูเขาสวยๆแปลกตาอีกลูก มีขนมโคลอน เกลื่อนพื้นเลยทีเดียว
ขับรถเลยมาอีกหน่อยจะถึงทุ่งหญ้า KUSASENRI เป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ มองเห็นได้กว้างมาก และจุดนี้เป็นจุดสุดท้ายที่เขาอนุญาตให้เข้าเพราะยังคงมีควันไฟจากภูเขาไฟลูกที่ปะทุลอยเกลื่อนบนภูเขาลูกถัดไป

วันนี้ขับรถไปหลายร้อยกิโล เหนื่อยสุดๆ ตกดึกแอบแวะไปสถานีรถไฟคุมาโมโตะหาของกินเล่น คุมาโมโตะเป็นเมืองที่ไม่น่าขับรถเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะตอนกลางคืน เพราะแยกไฟแดงเยอะ บวกกับผังเมืองสับสนวุ่นวาย เลี้ยวแบบกระชั้นๆบ่อยมาก GPS บนรถไม่ช่วยอะไรเราเลย !!!
ม้วนที่ 3 LUCKY RED 200
เช้าวันที่ 8 จุดหมายของเราอยู่ที่จังหวัด OITA ที่เมือง YUFUIN แต่วันนี้มีที่แวะรายทางเยอะมาก ที่แรกผมเรียกไม่ถูกว่ามันชื่ออะไร แต่คนแถวนั้นเรียกถนนที่ตัดผ่านว่า "MILK ROAD" เส้นทางที่ผมว่ามีระยะทางเพียง 5 กม. เท่านั้น แต่เส้นทางสูงชันแคบ และคดเคี้ยว สุดๆ พิกัดเริ่มประมาณนี้ 32.955911,131.016697 ไปจบที่ 5 กม. ที่พิกัดนี้ 32.963328, 130.999552 ผมรับรองว่าสวยสุดๆแน่นอน แต่โชคร้ายก็มาเยือนเราทั้งคู่ เพราะขณะขับไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ทางเริ่มแคบลง จนประมาณ กม ที่ 3 ก็เจอเจ้าหน้าที่ปิดถนน บอกว่ามีดินถล่ม !!!!! อดครับ ต้องอ้อมไปอีกทางระยะกว่า 20 กม. เพื่อไปเดินลงมาจากพิกัดปลายทางแทน แม่เจ้า อดเลยถนนในฝัน ได้แต่ถ่ายรูปทางเข้าด้านบนมานิดหน่อย
เราเดินทางไปเมืองยูฟุอินต่อ ระหว่างทางมีแต่วิวภูเขาที่สวยงามมากๆ เป็นเส้นที่น่าขับรถสุดๆแล้วครับ กว่าจะมาถึงยูฟุอินก็เย็นมากแล้ว เลยหาที่จอดรถแล้วลงเดินไปยัง แม่น้ำ OITAGAWA
มีจุดถ่ายรูปเด่นๆก็ตรงนี้แหละครับ ข้างหน้าแม่น้ำข้างหลังภูเขา

เซเว่น คุณค่าที่คุณคู่ควร

เช้าวันที่ 9 หมอกยามเช้าที่ทะเลสาบ KINRIN

จากนั้นเดินทางไปยังเมือง BEPPU ครับ เป็นเมืองแห่งบ่อน้ำร้อนบรรยากาศระหว่างทางงดงามมาก

บ่อน้ำร้อนแบบโคลนเดือด

ที่เบปปุผมเปลี่ยนฟิล์มม้วนที่สี่ แต่ยังถ่ายได้ไม่กี่รูปครับเลยยังไม่ได้ล้าง คืนนั้นเราขับรถมาคืนและเดินทางไปยัง HIROSHIMA แล้วเช้าวันที่10ก็ไปOSAKAเพื่อเที่ยวสถานที่ต่างๆจนเย็นและบินกลับ กทมตอนค่ำ
-เหนื่อยแต่สนุกครับญี่ปุ่นกับฟิล์ม-
ฟิล์ม 3 ม้วน ป่วนเจแปน
สวัสดีครับ
"ฤดูตั๋วถูก" ทำให้เห็นคนไทยทยอยเดินทางออกนอกประเทศกันจนเครื่องบินหนักอึ้งกันเลยทีเดียว ผมเองก็ด้วย ได้มีโอกาสไปญี่ปุ่น10วันในเดือนตุลาคม ก็จะช้าอยู่ใยเก็บของสิครับ !! และทุกครั้งไปเที่ยวทั้งที ต้องมีปัญหาว่าจะเอากล้องอะไรไปถ่ายรูป และทุกครั้งอีกครั้งก็เอามันไปทุกตัวอยู่ดีงวดนี้หวยมาออกที่ กล้องฟิล์ม Nikon FM2,Nikon D90,Gopro และที่เยอะนี่ไม่ใช่ว่าถ่ายรูปเก่งนะครับ คือถ่ายเยอะๆไว้ก่อน เดี๋ยวมันมันต้องสวยซักรูปละน่า
ในส่วนนี้ขอพูดถึงกล้องฟิล์มอย่างเดียวนะครับผม คราวนี้ขนฟิล์มไป10ม้วนกะว่าวันละม้วนเลยสบายๆแต่เอาเข้าจริงๆ ด้วยความที่ต้องขนของเยอะ บวกกับสถานที่ที่ต้องเดินทางไปก็หลากหลายและรวดเร็ว เลยทำให้กล้องฟิล์มของผมมีข้อจำกัดที่ข้ามยากอยู่หลายจุด สุดท้ายถ่ายไปได้แค่ 3 ม้วนเท่านั้น การเดินทางครั้งนี้ไปด้วยหลายวิธีทั้ง การเช่ารถ,นั่งเรือ,แท็กซี่,รถเมล์,จักรยานธรรมดา,จักรยานมีมอเตอร์,รถไฟ จนถึงการเดินที่บางวันมากกว่า 20 กม. และเดินทางไปในหลายที่ โดยเริ่มจาก OSAKA>KYUTO>OKAYAMA>KAGAWA>KUMAMOTO>OITA>FUKUOKA>HIROSHIMA
โอเคครับขอเริ่มเลยนะครับ
ม้วนที่ 1 FUJICOLOR 100 (JAPAN VERSION)
วันแรกของการเดินทางจาก ดอนเมืองถึงโอซาก้าและไปยังเกียวโตเข้าที่พักแล้วหลับยาวๆเพื่อเติมพลัง
เช้าวันที่สอง ตื่นแต่เช้าเด้งขึ้นมาแล้วออกมายืนบนถนนหนาวๆกับบรรยากาศแห่งความกะทัดรัด
เมืองที่พักวันนี้อยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟ SHICHIJO แถวนั้นมีแม่น้ำสวยๆและกิจกรรมเยอะแยะ
ผมดูน้าเค้าเย่อกับปลาในแม่น้ำอยู่นานมาก จนสุดท้ายพอลากปลามาใกล้แล้วเอากระชอนมาตัก เดินเข้าไปถามเค้าเป็นภาษางูๆและปลาๆ ประมาณว่าคุณจะกินมันเหรอ น้าเค้าส่ายหน้า จากนั้นก็ถอดเบ็ดจากปากปลาแล้วปล่อยกลับคืนสู่แม่น้ำ คือจะบอกว่าปลาของน้าเค้าตัวใหญ่มากจริงๆ แม่น้ำตื้นๆแบบนี้มีปลาใหญ่ระดับนี้ แม่น้ำบ้านน้าต้องสะอาดมากๆเลยนะ!!!
พอตกสายๆก็ออกไปเช่าจักรยานเพื่อเดินทางไปวัด KAMOMIOYA-JINJA
บรรยากาศในวัดที่เก็บได้
จากนั้นก็ไปต่อกันที่ NIJO CASTLE
ปราสาทแห่งนี้ห้ามถ่ายภาพด้านในเลยอดตามระเบียบ ที่นี่มีทางเดินในการชมยาวมากกินระยะทางเป็นกิโลๆเลย
จากนั้นก็ปั่นจักรยานต่อไปที่วัดยอดฮิต KINKAKU-JI TEMPLE
เคยมาที่วัดนี้หนนึงแล้ว วันนี้ก็ยังเหมือนเดิมคือ คนเป็นล้าน หามุมถ่ายยากมากๆ แต่ก็ครื้นเครงดีครับ
ไม่ไหวเหนื่อย อยู่เมืองไทย ปั่นจักรยานไกลสุดวันละ 200 กม. มาเจอที่เกียวโต จักรยานเช่าดีนะแต่เบาะสั้นไปหน่อยทำให้คนขายาวอย่างผมต้องงอขาปั่นเป็นระยะทางหลาย กม. ในวันนี้ ทำให้บอบช้ำไปพอสมควร ไว้พรุ่งนี้จะลองนั่งรถไฟดูบ้าง
ม้วนที่ 2 AGFA VISTA PLUS 200
กว่าจะได้เริ่มม้วนที่สองก็ปาไปวันที่ 4 แล้ว การเดินทางเปลี่ยนมาใช้รถไฟ ทั้ง JR และ SUBWAY ต่างๆในเมือง ก็ไปทำบัตร JR PASS ไว้นะแต่เดินทาง
เข้าออกตามซอกซอยโน้นนี้ จนมันต้องใช้บริการรถไฟที่ไม่ใช่ JR จนทำให้สับสนช้าวุ่นวายไปหมดในเมืองเกียวโต ทั้งย่านกีออน ย่านเมืองเก่าเกียวโต
ไปชมป่าไผ่ ไปชมวัดเก่าแก่ ต่างๆนานา เหล่านั้นล้วนเสร็จกล้องดิจิตอลทั้งหมด
เช้าวันที่ 4 ได้ฤกษ์เปลี่ยนที่นอนไปเมืองอื่นบ้าง เราเดินทางจาก KYUTO นั่งชินคันเซน ไปยังเมือง OKAYAMA แล้วต่อเรือไปที่เกาะ TESHIMA
เกาะนี้มีที่เที่ยวหลักๆคือ TESHIMA ART MUSEUM ที่ห้ามถ่ายรูป เป็นสถานที่ที่อธิบายยาก บอกไปเดี๋ยวรู้หมด แนะนำให้มานะครับถ้าใครมีเวลา มันสุดยอดจริงๆ มิวเซียมนี้ เราเที่ยวที่เกาะนี้ทั้งวันอย่างเหน็ดเหนื่อยเพราะต้องลากกระเป๋าขึ้นรถเมล์ และกล้องฟิล์ม ก็อดเก็บภาพกันตามระเบียบ เราเดินทางสู่ที่พักใหม่ในเมือง TAKAMATSU รอเช้าวันใหม่เดินทางอีกรอบ
เช้าวันที่ 5 ข้ามไปเกาะอีกครั้ง คราวนี้ไปอีกเกาะชื่อว่า NAOSHIMA เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีจุดชมโน้นนี่นั่นเต็มไปหมด ต้องใช้เวลาทั้งวันจริงๆ แต่วันนี้เรามีพาหนะใหม่คือ จักรยานไฟฟ้า ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเราขึ้นเนิน อธิบายง่ายๆเหมือนเราปั่นแล้วมีคนลากเราไปข้างหน้าอย่างแรง เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ปั่นจักรยานขึ้นเนินแล้วยิ้มได้ แต่ที่ยิ้มไม่ได้คือหลายที่บนนี้ห้ามถ่ายรูป !!!
ฟักทองในตำนาน
ชายหาดของเกาะยามเย็น
ประติมากรรมที่เข้าไปลุยข้างในได้
ตกลงฟักทองหรือเต่าทอง
เช้าวันที่ 6 เราก็เดินทางด้วยชินคันเซนกลับเมืองโอซาก้า ผมแยกตัวจากกลุ่มใหญ่ เพื่อมาพบกับภรรยาที่ตามมาสมทบ กว่าภรรยาจะถึงก็ดึกมากๆ ผมเลยถือโอกาสไปลุย NAMBA ก่อน เพื่อนถ่ายภาพแถวย่านตึกกูลิโกะ
คนเยอะจนน่าตกใจ ได้ยินเสียงคนไทยแว่วๆมาตลอดทาง ก็บอกแล้วว่าฤดูตั๋วถูก
กลับมาเริ่มต้นที่ รร.ในสนามบินคันไซอีกครั้ง ได้พบภรรยาแล้ว เตรียมตัวมุ่งสู่ "ภาคใต้ของญี่ปุ่น" ในวันรุ่งขึ้น
เช้าวันที่ 7 ตื่นเร็วสุดๆเพื่อไปรับ JR PASS SANYO SANIN เพื่อเดินทางไปยังเกาะคิวชู ผมกับภรรยากระเตงกระเป๋าขึ้นรถไฟชินคันเซน ไปลงที่เมือง FUKUOKA ที่สถานี HAKATA แล้วรับรถเช่าที่ติดต่อเอาไว้ เป็นรถมาสด้าคันจิ๋วคล่องตัว น้ำมันเต็มถังมุ่งสู่เมือง KUMAMOTO โดยพลัน
เมืองคุมาโมโตะ มีเทือกเขานึงชื่อว่า ASO ที่รวบรวมภูเขาหลายลูกสวยๆไว้ด้วยกัน ก่อนหน้าเราจะมาที่นี่เพิ่งจะมีข่าวว่า ASO ภูเขาไฟที่เราอยากมาดันปะทุขึ้นส่งควันไฟไปยังพื้นที่ใกล้เคียงจนญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยระดับ 2 ตอนนั้นใจแป้วมาก แต่ก็ตามข่าวอยู่เรื่อยๆจนรู้ว่ายังเที่ยวรอบๆได้อยู่
อันนี้เป็นภูเขาไฟน้องใหม่ในย่าน ASO ชื่อว่า KOMEZUKA เราตั้งชื่อเล่นให้มันว่า พุดดิ้ง
ข้างๆพุดดิ้งมีภูเขาสวยๆแปลกตาอีกลูก มีขนมโคลอน เกลื่อนพื้นเลยทีเดียว
ขับรถเลยมาอีกหน่อยจะถึงทุ่งหญ้า KUSASENRI เป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ มองเห็นได้กว้างมาก และจุดนี้เป็นจุดสุดท้ายที่เขาอนุญาตให้เข้าเพราะยังคงมีควันไฟจากภูเขาไฟลูกที่ปะทุลอยเกลื่อนบนภูเขาลูกถัดไป
วันนี้ขับรถไปหลายร้อยกิโล เหนื่อยสุดๆ ตกดึกแอบแวะไปสถานีรถไฟคุมาโมโตะหาของกินเล่น คุมาโมโตะเป็นเมืองที่ไม่น่าขับรถเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะตอนกลางคืน เพราะแยกไฟแดงเยอะ บวกกับผังเมืองสับสนวุ่นวาย เลี้ยวแบบกระชั้นๆบ่อยมาก GPS บนรถไม่ช่วยอะไรเราเลย !!!
ม้วนที่ 3 LUCKY RED 200
เช้าวันที่ 8 จุดหมายของเราอยู่ที่จังหวัด OITA ที่เมือง YUFUIN แต่วันนี้มีที่แวะรายทางเยอะมาก ที่แรกผมเรียกไม่ถูกว่ามันชื่ออะไร แต่คนแถวนั้นเรียกถนนที่ตัดผ่านว่า "MILK ROAD" เส้นทางที่ผมว่ามีระยะทางเพียง 5 กม. เท่านั้น แต่เส้นทางสูงชันแคบ และคดเคี้ยว สุดๆ พิกัดเริ่มประมาณนี้ 32.955911,131.016697 ไปจบที่ 5 กม. ที่พิกัดนี้ 32.963328, 130.999552 ผมรับรองว่าสวยสุดๆแน่นอน แต่โชคร้ายก็มาเยือนเราทั้งคู่ เพราะขณะขับไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ทางเริ่มแคบลง จนประมาณ กม ที่ 3 ก็เจอเจ้าหน้าที่ปิดถนน บอกว่ามีดินถล่ม !!!!! อดครับ ต้องอ้อมไปอีกทางระยะกว่า 20 กม. เพื่อไปเดินลงมาจากพิกัดปลายทางแทน แม่เจ้า อดเลยถนนในฝัน ได้แต่ถ่ายรูปทางเข้าด้านบนมานิดหน่อย
เราเดินทางไปเมืองยูฟุอินต่อ ระหว่างทางมีแต่วิวภูเขาที่สวยงามมากๆ เป็นเส้นที่น่าขับรถสุดๆแล้วครับ กว่าจะมาถึงยูฟุอินก็เย็นมากแล้ว เลยหาที่จอดรถแล้วลงเดินไปยัง แม่น้ำ OITAGAWA
มีจุดถ่ายรูปเด่นๆก็ตรงนี้แหละครับ ข้างหน้าแม่น้ำข้างหลังภูเขา
เซเว่น คุณค่าที่คุณคู่ควร
เช้าวันที่ 9 หมอกยามเช้าที่ทะเลสาบ KINRIN
จากนั้นเดินทางไปยังเมือง BEPPU ครับ เป็นเมืองแห่งบ่อน้ำร้อนบรรยากาศระหว่างทางงดงามมาก
บ่อน้ำร้อนแบบโคลนเดือด
ที่เบปปุผมเปลี่ยนฟิล์มม้วนที่สี่ แต่ยังถ่ายได้ไม่กี่รูปครับเลยยังไม่ได้ล้าง คืนนั้นเราขับรถมาคืนและเดินทางไปยัง HIROSHIMA แล้วเช้าวันที่10ก็ไปOSAKAเพื่อเที่ยวสถานที่ต่างๆจนเย็นและบินกลับ กทมตอนค่ำ
-เหนื่อยแต่สนุกครับญี่ปุ่นกับฟิล์ม-