ผมมีเรื่องราวในอดีตที่แสนจะเจ็บแค้น มาเล่าสู่กันฟัง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักเมื่อ 2 - 3 ปี ก่อน
เหตุที่เพิ่งคิดจะมาเล่าเพราะ วันนี้ผมไปเจอเรื่องราวที่ผมเคยคิดจะเล่าในช่วงที่เกิดเหตุนั้นแหละ แต่ทำใจไม่ได้
เพราะว่า รู้ว่าถ้าใครมาอ่านก็ต้องมาว่าผมโง่แน่ๆ แต่วันนี้ผมมาอ่านแล้วกลับยิ้มให้กับชีวิตตัวเอง รู้สึกว่า ได้หลุดพ้นมาแล้ว ฮ่าๆๆๆ
แต่ก่อนอื่นที่จะเล่าผมต้องขออนุญาติเซนเซอร์ชื่อตัวละครจริง ให้เป็นตัวสมมุติซะก่อน ^_<
เรื่องราวมันมีอยู่ว่า.....
ตอนนั้นผมอายุ 25 ผมเป็นคนนครสวรรค์ คืออยากจะเล่าเรื่องราวชีวิตผมเกี่ยวกับความรักที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้...
....เรื่องมีอยู่ว่าช่วงนั้นผมเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย พอเรียนเสร็จผมก็ได้บวชทดแทนคุณพ่อแม่ ช่วงที่เรียนจบผมได้คบหากับน้องในมหาวิทยาลัยคนหนึ่ง (ขอใช้ชื่อย่อว่าน้อง K ) น้อง K เรียนเอกฝรั่งเศส อายุห่างจากผม 2-3 ปี ผมก็คบกันเรื่อยมาจนกระทั่งผมได้ลาสิกขา (สึก) ได้สัก 2-3 อาทิตย์ ผมก็ออกห่างจากน้อง K เพราะผมได้ทราบว่าน้องเขายังติดต่อและยังมีเยื้อใยกับคนเก่าอยู่ แต่ตอนที่ออกมาน้องเขาก็ไม่รู้เหตุผลหรอก เรียกง่ายๆคือ ชิ่งออกมา
...หลังจากที่ผมออกห่างจากน้อง K ไปได้ซัก 1-2 อาทิตย์ ผมก็ได้คุยกับเพื่อนเก่าทาง Facebook ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยประถมและเราอยู่หมู่บ้านเดียวกัน (ขอแทนชื่อเธอว่า ป ) ป. เป็นคนบ้านเดียวกับผม แต่ ป. ได้ไปเรียนที่ ม.รามคำแหงฯ และได้ทำงานอยู่ร้านกาแฟ เป็นพนักงานเสิร์ฟ ผมก็ได้คุยกันแซวเล่นๆว่าหาแฟนให้มั้ง หยอกล้อประมาณว่าอยากมีแฟน จนเพื่อนบอกผมว่า ”ก็ลองไปดู เพื่อนใน Facebook ดิ ชอบใครก็บอก ฮ่าๆๆ “
...ผมก็ได้เข้าไปดู ผมไปเจอผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นเพื่อนที่แนะนำ ผมก็เลยเข้าไปดู แว๊บแรกที่ผมเห็น รู้สึกชอบผู้หญิงคนนี้ เลยอยากจะสานสัมพันธ์ 555+ และที่สำคัญผู้หญิงคนนี้เธอได้เป็นเพื่อนใน Facebook กับเพื่อนผมด้วย ผมเลยถามเพื่อนว่ารู้จักคนนี้ไหม โดย Copy Link ให้ดู เพื่อนเลย หัวเราะและบอกว่า “ ...ชอบคนนี้หรอ น้องคนนี้ชื่อ ต. เป็นน้องที่ร้าน... “ (ขอแทนชื่อคู่กรณีว่า ต. ) ผมก็เลยบอกว่า ชอบคนนี้ โสดไหม ? ขอเบอร์ให้มั้ง แต่เพื่อนบอกขอถามน้องเค้าก่อน ต่อมาเพื่อน ป. ก็มาบอกว่า “...น้องเค้าก็บอกว่าโสด แอดไปคุยดิ น้องเค้าไม่ค่อยเล่น Facebook แต่น้องเค้าจะคุยทาง What App หรือ BB เท่านั้น “ (ตอนนั้น Line ยังไม่มีหรือ ยังมามาไม่แน่ใจ)
...จากนั้นผมก็ได้ Add Facebook น้องเค้าไป จนได้คุยกัน ถามชื่อ และก็ได้ขอเบอร์กัน น้อง ต. ที่ผมชอบนี้เค้าอายุห่างจากผม 2 ปี น้องเป็นคน พิษณุโลก แต่มาเรียนและทำงานอยู่ใน กทม. น้อง ต. เค้าทำงานอยู่ร้านกาแฟ ร้านหนึ่งแถวลาดพร้าว เป็นเด็กชอบเที่ยว สูบบุหรี่ กินเหล้า ซึ่งที่ผ่านมาผมแอนตี้เรื่องพวกนี้มาก เพราะผมก็ไม่ได้ดูดบุหรี่ ส่วนเหล้าผมก็เพิ่งเริ่มกินตอนปี 2551 แต่ก็นานๆมากๆ ถึงจะกินที (ปัจจุบันผมกำลังเลิกแล้ว)
...ผมได้ติดต่อกับน้อง ต. มาตั้งแต่ ประมาณวันที่ 7 กรกฎาคม 2555 และผมก็ได้สารภาพว่ารักน้องเค้า เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2555 (เป็นช่วงเวลาที่ไวมาก แต่ผมรู้สึกกับน้องเค้าแบบนั้นจริงๆช่วงนั้น) และวันนั้นนี่เอง เป็นวันที่ผมให้สัญญากับ น้อง ต. ไปว่า 1.ผมจะรักน้องเขาคนเดียว 2.เวลาเรามีปัญหา ผมจะขอเป็นฝ่ายยอมเอง ไม่ว่าผมจะผิดหรือถูก 3.น้อง ต. อยากได้อะไรขอให้บอก และผมก็ยังบอกอีกว่า “ผมเป็นคนที่เกลียดคนโกหกที่สุด เพราะฉะนั้น น้อง ต. อย่าโกหก มีอะไรให้ดูตรงๆ”
...แล้ววันที่ 28 กรกฎาคม 2555 น้อง ต. เค้าก็แวะมาหาผมที่ นครสวรรค์ (เพราะได้กลับไปบ้านที่ พิษณุโลก เลยแวะมาหาเวลาจะกลับ กทม.) มาช่วงเย็นๆใกล้มืด ผมได้ขับรถยนต์ไปรับ และพาไปกินข้าว ขับรถเที่ยวรอบๆเมืองนครสวรรค์ จนถึงเวลา 3 – 4 ทุ่ม ผมก็ได้ส่งน้อง ต. ขึ้นรถกลับ กทม.
...ทุกๆวันผมจะติดต่อกับ น้อง ต. ทางโทรศัพท์ตลอด ช่วงนั้นผมทำงานเป็นลูกจ้างราชการ เงินเดือนแค่ 6,900.- ซึ่งก่อนหน้านั้นผมก็ได้สมัครงานทิ้งไว้หลายที่ จนมีบริษัทหนึ่งโทรนัดผมไปสัมพาษงาน ที่ กทม. (เป็นบริษัทดำเนินกิจการเกี่ยวกับ BTS ) ผมก็ไปสัมพาษงานและช่วงนั้นผมได้บอกกับน้อง ต. ว่าผมจะไปหา น้องเขาก็ตอบตกลง พอถึงวัน เวลา ที่ผมต้องเข้า กทม. เพื่อไปสัมภาษงานผมก็ไปตามปกติ
...หลังจากสัมพาษงานเสร็จผมก็ได้โทรหาน้อง ต. ให้มารับที่ BTS หมอชิต เพราะผมไปไม่ถูก ^^! ผมได้ไปพักกับน้องที่คอนโค แถวลาดพร้าว ผมอยู่คอนโด 2-3 วัน แต่ผมไม่ได้มีอะไรเกินเลยกับน้อง ต. เลยตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน กลางวันน้อง ต. เขาก็ไปทำงาน ผมก็อยู่คอนโดคนเดียว เป็นอย่างนี้ตลอด ว่างๆก็จะออกไปหาอะไรกินแถวๆนั้น เวลากลับก็จะซื้ออาหารแห้ง พวก mama มาติดตู้ไว้ให้น้อง ต. ไว้กินเวลาหิว
...ตอนที่ผมอยู่คอนโดน้อง ต. ผมคิดอุตริอะไรไม่รู้ หรือเพราะรางสังหรณ์ ผมได้ทำกิริยาที่แย่และเลวมาก คือ ผมได้ทำการสืบค้น (ใช้คำดูดีหน่อย) ห้องน้อง ต. เพื่อที่จะได้รู้ว่าน้อง ต. ได้ทำแบบนี้กับผมคนเดียวหรือเปล่า หรือ มีอะไรซ้อนผมอยู่หรือเปล่า (จะว่าไปผมก็มีเซ้นกับเรื่องพวกนี้นะ) เพราะเพื่อเป็นการตัดสินใจในการคบกันต่อไป แต่แล้วผมก็ไม่เจออะไร จนผมถึงเวลาต้องกลับ เพราะว่าลางานได้ไม่นาน แต่ก่อนกลับผมได้ให้เงิน น้อง ต. ยืมไป 2 พัน เพราะเห็นบอกว่าเพื่อนเดือดร้อนและยืมเงินน้องเขาไป (ความจริงเค้าก็ไม่ได้ขอยืมหรอก แต่เค้าพูดมาผมได้ยิน เลยหยินยื่นเสนอให้เอง) หลังจากกลับมาจาก กทม. ผมก็โทรคุยกับน้อง ต. ตลอดเหมือน ทุกวัน ทุกๆเดือน น้อง ต. จะโทรมาขอยืม (ลืม) เงินตลอด เดือนๆหนึ่งรวมแล้วจะอยู่ประมาณ 4 – 6 พัน ต่อเดือน เพราะจะมีค่าทำฟันด้วย แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะผมให้ด้วยเพราะว่าผมรักในช่วงนั้น (หรือหลงก็ไม่รู้ ^^)
...จนมีอยู่ครั้งหนึ่งน้อง ต. ขอบ่อยมากเลยสงสัย ครั้งนั้นเหตุผลในการขอคือ แฟนน้องที่ร้านติดคุกเงินไม่พอประกันตัว เลยมายืม จำนวน 2 พันบาท (ซึ่งในเดือนนั้นได้ยืมไปแล้ว 2 พันบาท) ผมก็ทำเป็นไม่สงสัย ทั้งๆที่ความสงสัยเต็มหัวไปหมด แต่ก็โอนให้ไป และผมก็ได้หาเบอร์น้องคนที่ น้อง ต. อ้างถึงแล้วโทรไปถามจนได้ความจริงว่า น้อง ต. เขาโกหก ผมรู้สึกโกรธมาก วันรุ่งขึ้นผมไม่ไปทำงาน แต่ผมรีบไป กทม.ด่วน โดยไม่ได้โทรบอกน้องเขา เพื่อที่จะไปจับผิด พอไปถึงก็โทรหาบอกว่าผมอยู่ที่คอนโด พอน้องเขารู้เท่านั้นแหละ น้องเขาโกรธผมมาก ไล่ผมต่างๆนาๆ ด่าผม ขึ้นเมิง ขึ้นกู ตลอด ซึ้งก่อนหน้านี้ไม่เคยมี บอกว่า สิ่งที่ผมทำมันเกินไป สรุปวันนั้นน้อง ต. ยอมรับว่าโกหกอ้างว่าไม่มีเงินใช้ (หรืออาจจะยอมเพราะหลักฐานที่ผมรู้) และผมต้องยอมรับว่าผมผิด (ตามที่เคยพูดไป) และนั่งรถกลับ นครสวรรค์ และตกกลางคืนผมก็โทรไปขอโทษ ขอยอมรับผิดทุกอย่าง ทั้งๆที่ความจริงผมตั้งใจจะไปจับผิดเธอ และผมก็ได้สัญญาอีกว่าผมจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว....
เดี๋ยวมาเล่าต่อ... เซ็นเซอร์คำแป๊บ
ทำดีเพราะ " รัก " แต่ตอบแทนด้วย " หลอก " ... เรื่องจริง ไม่อิงนิยาย ของผู้ชายหน้าโง่คนหนึ่ง
เหตุที่เพิ่งคิดจะมาเล่าเพราะ วันนี้ผมไปเจอเรื่องราวที่ผมเคยคิดจะเล่าในช่วงที่เกิดเหตุนั้นแหละ แต่ทำใจไม่ได้
เพราะว่า รู้ว่าถ้าใครมาอ่านก็ต้องมาว่าผมโง่แน่ๆ แต่วันนี้ผมมาอ่านแล้วกลับยิ้มให้กับชีวิตตัวเอง รู้สึกว่า ได้หลุดพ้นมาแล้ว ฮ่าๆๆๆ
แต่ก่อนอื่นที่จะเล่าผมต้องขออนุญาติเซนเซอร์ชื่อตัวละครจริง ให้เป็นตัวสมมุติซะก่อน ^_<
เรื่องราวมันมีอยู่ว่า.....
ตอนนั้นผมอายุ 25 ผมเป็นคนนครสวรรค์ คืออยากจะเล่าเรื่องราวชีวิตผมเกี่ยวกับความรักที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้...
....เรื่องมีอยู่ว่าช่วงนั้นผมเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย พอเรียนเสร็จผมก็ได้บวชทดแทนคุณพ่อแม่ ช่วงที่เรียนจบผมได้คบหากับน้องในมหาวิทยาลัยคนหนึ่ง (ขอใช้ชื่อย่อว่าน้อง K ) น้อง K เรียนเอกฝรั่งเศส อายุห่างจากผม 2-3 ปี ผมก็คบกันเรื่อยมาจนกระทั่งผมได้ลาสิกขา (สึก) ได้สัก 2-3 อาทิตย์ ผมก็ออกห่างจากน้อง K เพราะผมได้ทราบว่าน้องเขายังติดต่อและยังมีเยื้อใยกับคนเก่าอยู่ แต่ตอนที่ออกมาน้องเขาก็ไม่รู้เหตุผลหรอก เรียกง่ายๆคือ ชิ่งออกมา
...หลังจากที่ผมออกห่างจากน้อง K ไปได้ซัก 1-2 อาทิตย์ ผมก็ได้คุยกับเพื่อนเก่าทาง Facebook ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยประถมและเราอยู่หมู่บ้านเดียวกัน (ขอแทนชื่อเธอว่า ป ) ป. เป็นคนบ้านเดียวกับผม แต่ ป. ได้ไปเรียนที่ ม.รามคำแหงฯ และได้ทำงานอยู่ร้านกาแฟ เป็นพนักงานเสิร์ฟ ผมก็ได้คุยกันแซวเล่นๆว่าหาแฟนให้มั้ง หยอกล้อประมาณว่าอยากมีแฟน จนเพื่อนบอกผมว่า ”ก็ลองไปดู เพื่อนใน Facebook ดิ ชอบใครก็บอก ฮ่าๆๆ “
...ผมก็ได้เข้าไปดู ผมไปเจอผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นเพื่อนที่แนะนำ ผมก็เลยเข้าไปดู แว๊บแรกที่ผมเห็น รู้สึกชอบผู้หญิงคนนี้ เลยอยากจะสานสัมพันธ์ 555+ และที่สำคัญผู้หญิงคนนี้เธอได้เป็นเพื่อนใน Facebook กับเพื่อนผมด้วย ผมเลยถามเพื่อนว่ารู้จักคนนี้ไหม โดย Copy Link ให้ดู เพื่อนเลย หัวเราะและบอกว่า “ ...ชอบคนนี้หรอ น้องคนนี้ชื่อ ต. เป็นน้องที่ร้าน... “ (ขอแทนชื่อคู่กรณีว่า ต. ) ผมก็เลยบอกว่า ชอบคนนี้ โสดไหม ? ขอเบอร์ให้มั้ง แต่เพื่อนบอกขอถามน้องเค้าก่อน ต่อมาเพื่อน ป. ก็มาบอกว่า “...น้องเค้าก็บอกว่าโสด แอดไปคุยดิ น้องเค้าไม่ค่อยเล่น Facebook แต่น้องเค้าจะคุยทาง What App หรือ BB เท่านั้น “ (ตอนนั้น Line ยังไม่มีหรือ ยังมามาไม่แน่ใจ)
...จากนั้นผมก็ได้ Add Facebook น้องเค้าไป จนได้คุยกัน ถามชื่อ และก็ได้ขอเบอร์กัน น้อง ต. ที่ผมชอบนี้เค้าอายุห่างจากผม 2 ปี น้องเป็นคน พิษณุโลก แต่มาเรียนและทำงานอยู่ใน กทม. น้อง ต. เค้าทำงานอยู่ร้านกาแฟ ร้านหนึ่งแถวลาดพร้าว เป็นเด็กชอบเที่ยว สูบบุหรี่ กินเหล้า ซึ่งที่ผ่านมาผมแอนตี้เรื่องพวกนี้มาก เพราะผมก็ไม่ได้ดูดบุหรี่ ส่วนเหล้าผมก็เพิ่งเริ่มกินตอนปี 2551 แต่ก็นานๆมากๆ ถึงจะกินที (ปัจจุบันผมกำลังเลิกแล้ว)
...ผมได้ติดต่อกับน้อง ต. มาตั้งแต่ ประมาณวันที่ 7 กรกฎาคม 2555 และผมก็ได้สารภาพว่ารักน้องเค้า เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2555 (เป็นช่วงเวลาที่ไวมาก แต่ผมรู้สึกกับน้องเค้าแบบนั้นจริงๆช่วงนั้น) และวันนั้นนี่เอง เป็นวันที่ผมให้สัญญากับ น้อง ต. ไปว่า 1.ผมจะรักน้องเขาคนเดียว 2.เวลาเรามีปัญหา ผมจะขอเป็นฝ่ายยอมเอง ไม่ว่าผมจะผิดหรือถูก 3.น้อง ต. อยากได้อะไรขอให้บอก และผมก็ยังบอกอีกว่า “ผมเป็นคนที่เกลียดคนโกหกที่สุด เพราะฉะนั้น น้อง ต. อย่าโกหก มีอะไรให้ดูตรงๆ”
...แล้ววันที่ 28 กรกฎาคม 2555 น้อง ต. เค้าก็แวะมาหาผมที่ นครสวรรค์ (เพราะได้กลับไปบ้านที่ พิษณุโลก เลยแวะมาหาเวลาจะกลับ กทม.) มาช่วงเย็นๆใกล้มืด ผมได้ขับรถยนต์ไปรับ และพาไปกินข้าว ขับรถเที่ยวรอบๆเมืองนครสวรรค์ จนถึงเวลา 3 – 4 ทุ่ม ผมก็ได้ส่งน้อง ต. ขึ้นรถกลับ กทม.
...ทุกๆวันผมจะติดต่อกับ น้อง ต. ทางโทรศัพท์ตลอด ช่วงนั้นผมทำงานเป็นลูกจ้างราชการ เงินเดือนแค่ 6,900.- ซึ่งก่อนหน้านั้นผมก็ได้สมัครงานทิ้งไว้หลายที่ จนมีบริษัทหนึ่งโทรนัดผมไปสัมพาษงาน ที่ กทม. (เป็นบริษัทดำเนินกิจการเกี่ยวกับ BTS ) ผมก็ไปสัมพาษงานและช่วงนั้นผมได้บอกกับน้อง ต. ว่าผมจะไปหา น้องเขาก็ตอบตกลง พอถึงวัน เวลา ที่ผมต้องเข้า กทม. เพื่อไปสัมภาษงานผมก็ไปตามปกติ
...หลังจากสัมพาษงานเสร็จผมก็ได้โทรหาน้อง ต. ให้มารับที่ BTS หมอชิต เพราะผมไปไม่ถูก ^^! ผมได้ไปพักกับน้องที่คอนโค แถวลาดพร้าว ผมอยู่คอนโด 2-3 วัน แต่ผมไม่ได้มีอะไรเกินเลยกับน้อง ต. เลยตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน กลางวันน้อง ต. เขาก็ไปทำงาน ผมก็อยู่คอนโดคนเดียว เป็นอย่างนี้ตลอด ว่างๆก็จะออกไปหาอะไรกินแถวๆนั้น เวลากลับก็จะซื้ออาหารแห้ง พวก mama มาติดตู้ไว้ให้น้อง ต. ไว้กินเวลาหิว
...ตอนที่ผมอยู่คอนโดน้อง ต. ผมคิดอุตริอะไรไม่รู้ หรือเพราะรางสังหรณ์ ผมได้ทำกิริยาที่แย่และเลวมาก คือ ผมได้ทำการสืบค้น (ใช้คำดูดีหน่อย) ห้องน้อง ต. เพื่อที่จะได้รู้ว่าน้อง ต. ได้ทำแบบนี้กับผมคนเดียวหรือเปล่า หรือ มีอะไรซ้อนผมอยู่หรือเปล่า (จะว่าไปผมก็มีเซ้นกับเรื่องพวกนี้นะ) เพราะเพื่อเป็นการตัดสินใจในการคบกันต่อไป แต่แล้วผมก็ไม่เจออะไร จนผมถึงเวลาต้องกลับ เพราะว่าลางานได้ไม่นาน แต่ก่อนกลับผมได้ให้เงิน น้อง ต. ยืมไป 2 พัน เพราะเห็นบอกว่าเพื่อนเดือดร้อนและยืมเงินน้องเขาไป (ความจริงเค้าก็ไม่ได้ขอยืมหรอก แต่เค้าพูดมาผมได้ยิน เลยหยินยื่นเสนอให้เอง) หลังจากกลับมาจาก กทม. ผมก็โทรคุยกับน้อง ต. ตลอดเหมือน ทุกวัน ทุกๆเดือน น้อง ต. จะโทรมาขอยืม (ลืม) เงินตลอด เดือนๆหนึ่งรวมแล้วจะอยู่ประมาณ 4 – 6 พัน ต่อเดือน เพราะจะมีค่าทำฟันด้วย แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะผมให้ด้วยเพราะว่าผมรักในช่วงนั้น (หรือหลงก็ไม่รู้ ^^)
...จนมีอยู่ครั้งหนึ่งน้อง ต. ขอบ่อยมากเลยสงสัย ครั้งนั้นเหตุผลในการขอคือ แฟนน้องที่ร้านติดคุกเงินไม่พอประกันตัว เลยมายืม จำนวน 2 พันบาท (ซึ่งในเดือนนั้นได้ยืมไปแล้ว 2 พันบาท) ผมก็ทำเป็นไม่สงสัย ทั้งๆที่ความสงสัยเต็มหัวไปหมด แต่ก็โอนให้ไป และผมก็ได้หาเบอร์น้องคนที่ น้อง ต. อ้างถึงแล้วโทรไปถามจนได้ความจริงว่า น้อง ต. เขาโกหก ผมรู้สึกโกรธมาก วันรุ่งขึ้นผมไม่ไปทำงาน แต่ผมรีบไป กทม.ด่วน โดยไม่ได้โทรบอกน้องเขา เพื่อที่จะไปจับผิด พอไปถึงก็โทรหาบอกว่าผมอยู่ที่คอนโด พอน้องเขารู้เท่านั้นแหละ น้องเขาโกรธผมมาก ไล่ผมต่างๆนาๆ ด่าผม ขึ้นเมิง ขึ้นกู ตลอด ซึ้งก่อนหน้านี้ไม่เคยมี บอกว่า สิ่งที่ผมทำมันเกินไป สรุปวันนั้นน้อง ต. ยอมรับว่าโกหกอ้างว่าไม่มีเงินใช้ (หรืออาจจะยอมเพราะหลักฐานที่ผมรู้) และผมต้องยอมรับว่าผมผิด (ตามที่เคยพูดไป) และนั่งรถกลับ นครสวรรค์ และตกกลางคืนผมก็โทรไปขอโทษ ขอยอมรับผิดทุกอย่าง ทั้งๆที่ความจริงผมตั้งใจจะไปจับผิดเธอ และผมก็ได้สัญญาอีกว่าผมจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว....
เดี๋ยวมาเล่าต่อ... เซ็นเซอร์คำแป๊บ