{Touring ทัวร์หลง}  ขอเสนอ เขื่อนขุนด่านกินเกินร้อยยยยยย 

หลังจากทริปหลงสุดๆที่ขุนสมุทรจีน ครั้งนี้เรามาหลงๆกันอีกครั้งที่ขุนด่าน
ครั้งนี้ทีมเราตั้งใจว่าจะไม่หลงแล้วนะเพราะว่าเส้นทางครั้งนี้ไม่ซับซ้อน

แค่ยกจักรยานขึ้นรถแล้วไปพบกันที่ จุดนัดหมาย โรงเรียนนายร้อยจปร.
กับเส้นทางลัดเลาะเนินเขา มีครบทั้ง เนินจริง เนินซึมและ เนิ๊นเนิน บนเขื่อนขุนด่าน
ทริปนี้ไม่มียก ไม่มีทุ่มจักรยานลงเรือ ท้าทายความสามารถกับการใช้เกียร์
และจังหวะการหายใจไปกับทางขึ้นเขื่อนขุนด่าน มือใหม่ก็เข็นกันไป
กำลังใจจากข้างทางมีเพี๊ยบ
7.00 น. พบกันที่จปร. ระหว่างทางซื้อหมูปิ้งข้างทางเพิ่มพลัง
จากครั้งแรกที่มาเรียนรู้ว่า ท้องอิ่มจึงมีแรง เพิ่มกาแฟกันนิดหน่อย
7.30 ถึงจปร. ครั้งนี้ตั้งใจว่าจะพิชิตปั่นขึ้นแบบไม่มีเข็น ทดลองเกียร์
กับจังหวะ หลังจากฝึกแรงขามายาวนาน
เส้นทางเริ่มจาก จปร. ออกจากจุดบริการศูนย์ท่องเที่ยว
ลัดเลาะริมทางเข้าสู่เส้นทาง “เขื่อนขุนด่านใจเกินร้อย”
ปั่นมาเรื่อยๆ ด่านแรกแค่ยกยานข้ามรั้ว จากนั้นเตรียมแรงขาให้พร้อม
เนินแท้ เนินซึมมีมาทดสอบ แรงขาอยู่เรื่อยๆ
ความสนุกของการขึ้นเขาขึ้นเนิน คือ เทคนิคการปรับเกียร์ และ แรงขา ทดสอบไปมาจนกว่าจะได้จังหวะที่ชอบ
ใครใคร่ปั่นแบบไหนแนะนำไม่ได้ สุดแท้แล้วแต่ความชอบและแรงขาของจริง
จุดแรกถึงแล้ว อ่างเก็บน้ำคลองโบด
จะเข้าอ่างเก็บน้ำนี้ฝึก skill การปั่นลงเนิน บนถนนขรุขระ ค่อยๆ เบรคและเลาะเข้าบนถนนสันอ่างเก็บน้ำ

จากนั้นแวะพักดื่มน้ำที่ร้านค้าชุมชน
รอบนี้พาพี่อีกคนมาเชือด เจอเนินซึมเข้าไปพลังงานหมด

เลยพักให้ทานข้าวเพิ่มพลังซักหน่อย ก่อนกินข้าว น้าบอกว่า ขอนอนก่อน
หน้าซีดปากสั่น คล้ายจะเป็นลม เบชิต้าขาอ่อนครัช
พร้อยลุยไปต่อได้
ปั่นลัดเลาะออกมาเรื่อยๆ พบกับถนนใหญ่ เห็นป้ายทางไปเขื่อนขุนด่านแล้ว
พักทานกาแฟรอสมาชิกอีกคนที่คาดว่าจะหลงทาง
ส่วนคนที่หลงก็มีภาพสวยๆที่เราไม่ได้เจอ



เส้นทางที่หลง บวกเพิ่มอีกห้ากิโล มีอะไรให้ดูเพี๊ยบแต่ก็ไม่เจอต้นไม้เช่นกัน

พร้อมแล้วลุยต่อเพื่อไปที่ขุนด่าน
ถึงแล้วทางขึ้น ถ่ายภาพกันหน่อย

ก่อนไปหน้าตาอย่างกับนกบิน

ปั่นนำพี่ๆขึ้นขุนด่าน ได้ยินเสียง เห้ย เนินขนาดนี้เสียงดูท้อๆได้แต่ขำ
ลองปรับเกียร์ จังหวะการปั่น พอพอกับจังหวะการหายใจ

ปั่นไปพักไป เห้ยเราทำได้
ระหว่างทาง ทั้งจักรยานและรถยนต์ที่สวนทางต่างเปล่งเสีย “สู้ๆ”
เสียงเหล่านั้นไม่ได้ทำให้ใจฮึกเหิม ใจคิดแค่ว่า “ตรูมาทำอะไรที่นี่”

สองเนินแรกหน้าเริ่มซีด
ปั่นไปถึงเนินเลยจอดพักรอสองหนุ่ม ที่ตามมา

สองคนข้างหลังหน้าซีดไปนะ


เย้ๆถึงแล้วในที่สุดก็ปั่นขึ้นได้ แม้ว่าจะหยุดพักบ้าง ไม่ได้เข็นขึ้นตลอดทาง

ขาลงมีเอาไว้อวด ความเร็วสูงสุด AV 40 + ไม่ควรเอาเป็นตัวอย่างนะคะ

  
มาขุนด่านรอบนี้ กินเกินร้อย ระหว่างทางกลับขอแวะร้านลุงเผ่าก๋วยเตี๋ยวเรือกะลาสักหน่อย
ลงจากขุนด่านมาจะเห็นป้ายซ้ายมือ ลุงเผ่า ก๋วยเตี๋ยว เรือกะลา

หมูสะเต๊ะะะะะะะ


ที่นั่งในร้านช่วงนี้กำลังปรับปรุงที่นั่งเลยน้อย


มาแล้วก๋วยเตี๋ยว ชามละสามสิบ เผ็ดได้ใจ

ระหว่างทางแวะดื่มน้ำซื้อของฝากกันที่ร้าน สวนศรีทอง
จุดสังเกตุง่ายๆ จะมีมะยงชิดลูกใหญ่ตั้งอยู่หน้าร้านค่ะ
จากนั้นก็วิ่งกลับเส้นทางเดิม



ของฝากร้านนี้อร่อยจริงๆหลายอย่าง ยกนิ้วให้มะขามเชื่อมละกันกล่องละร้อยค่ะ
ถ้าหน้ามะยงชิดจะมีมะยงชิดลอยแก้วด้วย
ที่นี่ก็มีกาแฟขาย ร้านนนั่งสบายดีค่ะ เหมาะแก่การนั่งเล่น

ปั่นกลับเกือบถึงแยก มีหนึ่งในสมาชิกยางแตก
เนื่องจากเหยียบลูกแก้วไฟบนถนนที่แตกเอียด ใครปั่นเส้นนี้ก็ระวังหน่อยนะคะ
เปลี่ยนยางกันไป ระหว่างเปลี่ยนยางโดนล้อมกรอบด้วยเมฆฝน รออะไรละ ... CO₂ อัดลมโดยพลัน
มือใหม่ว่าไง อัดไปแรงดันเอาไม่อยู่ ยางระเบิดใส่หน้าสิครัช พี่ชายสามคนวงแตก
ปล่อยยางระเบิดใส่หน้าน้องแล้วขำกันหนักมาก ... มันใช่ม่ะ
ดีที่มียางในสำรองอีกเส้น เปลี่ยนเสร็จปุ๊บ ฝนกระหน่ำลงปั๊บ รอกันไปอีกเป็นชั่วโมง

ท้องฟ้าเริ่มแจ่มใส ยิงยาวปั่นกลับทางเดิม เส้นทางหลังฝน สวยงามมาก
จากนั้นลัดเลาะกลับเข้าจปร. จบเส้นทางหลงๆ จปร. – ขุนด่าน เส้นทางกินเกินร้อยจริงๆ
ของกินเยอะมากกกกกก

เก็บตกเขื่อนขุนด่านปราการชล จาก จปร. – ขุนด่าน

ทริปนี้ว่าจะไม่หลงแล้วนะ สมาชิกในทีมหนึ่งรายดั๊นหลงตั้งแต่ทางด่วนยันจปร. และกว่าจะถึงขุนด่านจนได้
รวมระยะทางไปกลับ 50+ ค่ะ เส้นทางนี้ปลายฝนต้นหนาว น่าปั่นมากๆ แนะนำเลยค่ะ