สวัสดีค่ะ เราเข้าๆออกๆพันทิปมานานแล้ว เจอกระทู้การเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนอื่นมาบ่อย เราว่ากระทู้แบบนี้มันเยียวยา เป็นกำลังใจ ให้คนที่กำลังท้อได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจึงตัดสินใจถือโอกาสนี้เขียนเรื่องราวของเราเองบ้าง อาจจะใช้คำหรืออะไรที่ไม่เหมาะสมต้องขออภัยไว้ก่อนนะคะ
ตอนเราเด็กๆฐานะทางบ้านจนมาก พ่อแม่ต้องเก็บถ่านเก็บน้ำชันขาย เราโตมากับลุงป้าน้าอาที่สลับกันเลี้ยง ตั้งแต่จำความได้ก็ตามญาติเข้าไร่ ขุดถั่ว เก็บพริกผักกาแฟขาย เราเริ่มมีออมเงินในธนาคารจากส่วนแบ่งตอนขายของ
(เราเองชุดแดง)
(ช่วยพี่เลื้ยงหลาน)
เราอายุ16 พ่อแม่มีสวนยางเป็นของตัวเอง เรามีอิสระในการเลือกที่เรียน เปิดเรียนวันแรกตกใจมากๆเจอคน ขาวสวยผมยาว ต่างกับเราสุดขั่ว เราก็อยากเป็นเหมือนคนอื่น เราได้แอบชอบผู้ชายคนนึงคือเค้าตรงสเป๊กโคตร เพื่อนที่ไม่ชอบเราด่ากระแทกเรา #หน้าขาวตัวดำเหมือนขี้จิ้งจก #ปากอยู่เหมือนอมดูกหมู#ฟันเหยินหุบปากยังไม่เข้า#ฟันหรือจอบ #จะชอบใครหัดดูหน้าตัวเองบ้างนะ
(อื่ม...ดำ ฟันเหยินจริงแฮ่ะ)
จนเราร้องให้แม่ฟัง แม่ก็พาเราจัดฟันในที่สุด เราดีใจมากๆ เราชอบยิ้มตลอดให้คนอื่นเห็นเหล็กของเรา
วันไปเรียนครั้งแรกหลังจัดฟันเราโดนหัวเราะกว่าเดิมอีกเพราะยิ่งมีเหล็กแรกๆมันยิ่งหุบปากไม่เข้า
(มันหุบไม่เข้าจริงๆยิ่งตอนนอนนะ ตื่นเช้ามาน้ำลายเต็มหมอน)
คนที่เราแอบ ก็รู้ว่าเราแอบชอบ ขณะเราเดินผ่านเขาและเพื่อนเขาทุกคนในกลุ่มหัวเราะใส่หน้าเราดังมากเหมือนเราเป็นตัวตลก เราแกล้งเดินต่อทำไม่เห็นไม่ได้ยินแต่เราน้ำตาตกในแล้ว
เราเริ่มเกเรเข้าผับเที่ยวทุกคืนตื่นไปเรียนไม่ทัน ตอนนั้นในหัวคิดเรื่องอยากสวยอย่างเดียวเราตัดสินใจถอนเงินในธนาคารที่เคยสะสมตอนเด็กมาทำศัลยกรรมครั้งแรก คือเสริมคางทำลักยิ้ม แต่แผลเราฟื้นช้ามากเปิดเรียนวันแรกโดนคนเดิมด่าอีกว่า#มีปัญญาทำแล้วมีปัญญาหาเงินแก้ปะวะแล้วหัวเราะ55555 เรากลัวหน้าเรามากมันยาวเหมือนแม่มดยิ่งโดนเพื่อนด่าเรายิ่งอาย(เรารู้สึกชีวิตเราไม่มีอะไรดีสักอย่างขนาดพยายามทำมันให้ดีแล้ว)
(คางยาวไม่เข้ารูปเหมือนแม่มด)
ผ่านไป 6-7 เดือน หน้าเราเริ่มเป็นทรงขึ้น เราชอบซื้อผ้าใหม่ๆทุกสัปดาห์ ชอบถ่ายรูปแต่งรูปขาวๆ ซึ่งชีวิตจริงตัวเราดำมาก และทาบีๆหนา จนเราดูตัวเทาๆเขียวๆ
(รูปนี้ที่แต่งสวยน่ารักกว่าตัวจริงมากๆ)
(รูปจริงๆที่ถูกติดแทร็กหน้าบานตัวดำมากขนาดแต่งแสงช่วยแล้ว)
แต่ก็มีคนชอบเราและเอารูปไปตั้งกระทู้ เกี่ยวกับชอบที่เราแต่งตัวทรงผมผูกพองๆเป็นเอกลักษณ์ และเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็มาถึง เราถูกโจมตีในกระทู้เยอะมาก ที่จำได้ไม่ลืมเลยคือ #สก้อยบางลำพูชัดๆ#ตัวจริงสก้อยมาก#คนอื่นสวยกว่านี้อีกตั้งเยอะ#เด็กแว้นมากๆ #อยู่เหมือนแม่นาคตอนเป็นศพอะ#พอกบีๆได้หนามากสงสัยถ้าเอาช้อนขูดคงได้หลายกิโล#บ้านจนมากๆแต่ทำอวดรวย#บ้านตัดยางจ้างดูทำตัวดิ#น่าสงสารพ่อแม่นะที่มีลูกทำตัวแบบนี้จนแต่ไม่เจียม จนเราต้องแจ้งลบกระทู้นั้นไป
เรารู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยวมาก ไม่คิดว่าการที่เราตัวดำแต่งรูปขาวจะทำให้ชีวิตตกต่ำเพียงนี้ เราท้อหมดแรงไม่อยากใช้ชีวิตในแต่ละวัน เราเลือกที่ไปเรียนป.ตรีในจังหวัดที่เราคิดว่าคงไม่มีคนรู้จักเรา
เราอายุ19 เราเริ่มมีแฟน เข้ามหาลัยแห่งแรก ที่เรียกแบบนี้เพราะเราโดนทายออกนะซิ จากนั้นเราก็โดนด่าโดนนินทาอีกเยอะมาก#บ้าแต่งหน้า#บ้าแต่งตัว#บ้าผู้ชาย
วันนี้แฟนที่เราเคยคบก็ทิ้งเราไปนอนกับคนอื่น เราเลยเข้าใจชีวิตว่าใครที่ดีเสมอต้นเสมอปลายกับเราโดยแท้จริง เราสงสารแม่ที่โดนชาวบ้านด่าเรื่องลูกไม่ตั้งใจเรียนมัวบ้าผู้ชาย แม่ถูกด่าว่าโง่ตามไม่ทันลูกๆหลอกเอานู้นนี้นั้นหมดทุกอย่างสุดท้ายลูกไม่ได้เรื่อง เรียนก็ไม่จบ
เรารู้สึกผิดมากๆที่สุดในชีวิต ที่เราทำให้แม่ผิดหวังเราท้อกับชีวิตกว่าทุกครั้ง ชีวิตเราไม่เคยเจอความเรื่องดีๆสักครั้งในชีวิต แต่อีกใจเราก็รักแม่และสงสารแม่อยู่ เราสำนึกผิดทุกอย่าง ขณะเราโดดเรียน ไม่เข้าเรียน ไม่ทำงานส่ง ไม่ทำข้อสอบ เที่ยวผับแทบทุกคืน มันตรงกับเวลาที่พ่อแม่เรากรีดยางตั้งแต่22.00-07.00น.เพื่อเรา แม่ให้โอกาสเราได้เรียนต่ออีกมหาลัยอีกครั้ง เราอดหลับหลายคืน เพื่อตามงานให้ครบทันเพื่อนที่เค้าเปิดเรียนมาก่อนเรา จนเราทำมันสำเร็จ

(นักศึกษาคณะสาธารณะสุขศาสตร์เป็นคณะที่แม่ภูมิใจมากๆ)
เรื่องราวเลวร้ายมาเยือนเราอีกครั้ง ทางบ้านเราแย่มากๆจากวิกฤตยางตกต่ำ บ้านเรามีรายจ่ายมากกว่ารายรับอีกครั้ง จากเงินที่ได้จากแม่สัปดาห์ละพันกว่ามาเหลือแค่2-3ร้อย เราต้องเอาเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้าที่มีขายมือ2หมดเหลือแค่ชุดใส่อยู่บ้านไม่กี่ตัว
อยู่ๆก็มีพี่คนนึงติดต่อเราไปทำงานพริตตี้เราก็ฟังรายละเอียดเกี่ยวกับการเป็นพริตตี้งาน เค้าแจ้งว่า มันมีอยู่2บูธให้ลง ราคาต่างกันถ้าหน้าอกอึ้มๆจะได้ราคาสูงกว่าอกเล็กๆนะ เราจึงตัดสินใจขอเงินแม่ทำนมด้วยเหตุผลเรื่องงานแม่ก็ควักเงินที่มีจนหมดให้เราทำนม คิดว่าถ้าทำคงมีคนจ้างต่ออีกหลายงาน พอทำเสร็จพี่คนนั้นบอกแคนเซิลงานเรา เพราะเจ้าของงานหาคนอื่นที่สูงและสวยกว่ามืออาชีพกว่ามาได้แล้ว ชีวิตหนอชีวิตเกิดมามีสักเรื่องที่ดีได้ป่าววะ
ผ่านมาไม่กี่เดือนมีพี่คนนึงติดต่อไปทำพริตตี้อีกแถมยังนัดไปติวไปสอนโฟนให้คือดีมากๆแต่เราก็คิดนะ ว่าจะโดนหลอกเล่นๆอีกครั้งมั้ย พอคนขาดพี่เค้าส่งเราไปแทนจริงๆด้วย นี้แหละพริตตี้ค่าตัวหลักพันครั้งแรกในชีวิตเรื่องดีๆในรอบหลายปีของเรา เราดีใจมากๆ และมีคนติดต่องานนู้นนี้นั้นมาให้เราเรื่อยๆ เราเรียนคู่ทำงาน พริตตี้ พรีเซนเตอร์ร้านผ้า ขายยาขาว ขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด พอจ่ายค่าหอค่ากินของตัวเองในแต่ละวัน ภูมิใจ

ๆ
เจ้าของบริษัทยาที่เราขายเห็นความขยันในตัวเราแนะนำเราให้รู้จักโรงงานผลิตครีมหลายแห่ง เราได้ร่วมเขียนสูตรปรับปรุงสูตรกับโรงงานมาเป็นปีๆและทดลองเทสสินค้ากับตัวของเราเอง เราสั่งผลิตสินค้าครั้งแรกด้วยเงินทั้งหมดที่สะสมมาทั้งชีวิต สู่การมีแบรนด์เป็นของตนเองอย่างเต็มตัว เดือนแรกขายไม่ถึง500ชิ้นด้วยซ้ำ แต่ลูกค้ามารีวิวให้และสั่งเพิ่มเยอะทำให้แบรนด์เรามีลูกค้าจากปากต่อปาก ปัจจุบันเรามีตัวแทนหลักร้อยกว่าท่านที่ต้องดูแล เรามีรายรับจากธุรกิจส่วนตัว งานอีเว้นท์ต่างๆเพียงพอที่จะปลดหนี้ธนาคารที่กู้มาตอนบ้านมีปัญหา ดูแลค่ากินอยู่ของทุกคนในครอบครัว เรายังประหยัดใช้จ่ายแต่สิ่งจำเป็น เพราะเรื่องธุรกิจมันไม่มีอะไรที่แน่นอน ชีวิตมีขึ้นมีลง ตอนลงต้องสู้ตอนขึ้นอย่าทะนง ไม่ต้องเป็นคนฉลาดแต่จงเป็นคนขยันกตัญญู ไม่ว่าคุณจะเกิดมาโง่แค่ไหนจนแค่ไหนชีวิตคุณก็ไม่มีวันอดตาย

(นางเอกmv)

(งานดีเจรีมิกเพลง)

(แจกทองตัวแทนที่มียอดขายสูงสุด)

(เป็นสปอนเซอร์ประกวดดาวเดือนมหาลัยต่างๆ)
ไว้กระทู้หน้าจะมาเจอกันกับรีวิวการบำรุงผิวและศัลยกรรมคะ
จบแล้วค่ะการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆของเรา ความสำเร็จไม่ได้อยู่บนฟ้าเพื่อหล่นลงมา แต่อยู่ที่เราใฝ่คว้าแสวงหามัน
[CR] สารพัดเหยียดหยาม หน้าตา สีผิว ฐานะ สู่การเป็นเจ้าของธุรกิจ ด้วยวัย20ปี
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะตอนเราเด็กๆฐานะทางบ้านจนมาก พ่อแม่ต้องเก็บถ่านเก็บน้ำชันขาย เราโตมากับลุงป้าน้าอาที่สลับกันเลี้ยง ตั้งแต่จำความได้ก็ตามญาติเข้าไร่ ขุดถั่ว เก็บพริกผักกาแฟขาย เราเริ่มมีออมเงินในธนาคารจากส่วนแบ่งตอนขายของ
(เราเองชุดแดง)
(ช่วยพี่เลื้ยงหลาน)
เราอายุ16 พ่อแม่มีสวนยางเป็นของตัวเอง เรามีอิสระในการเลือกที่เรียน เปิดเรียนวันแรกตกใจมากๆเจอคน ขาวสวยผมยาว ต่างกับเราสุดขั่ว เราก็อยากเป็นเหมือนคนอื่น เราได้แอบชอบผู้ชายคนนึงคือเค้าตรงสเป๊กโคตร เพื่อนที่ไม่ชอบเราด่ากระแทกเรา #หน้าขาวตัวดำเหมือนขี้จิ้งจก #ปากอยู่เหมือนอมดูกหมู#ฟันเหยินหุบปากยังไม่เข้า#ฟันหรือจอบ #จะชอบใครหัดดูหน้าตัวเองบ้างนะ
(อื่ม...ดำ ฟันเหยินจริงแฮ่ะ)
จนเราร้องให้แม่ฟัง แม่ก็พาเราจัดฟันในที่สุด เราดีใจมากๆ เราชอบยิ้มตลอดให้คนอื่นเห็นเหล็กของเรา
วันไปเรียนครั้งแรกหลังจัดฟันเราโดนหัวเราะกว่าเดิมอีกเพราะยิ่งมีเหล็กแรกๆมันยิ่งหุบปากไม่เข้า
(มันหุบไม่เข้าจริงๆยิ่งตอนนอนนะ ตื่นเช้ามาน้ำลายเต็มหมอน)
คนที่เราแอบ ก็รู้ว่าเราแอบชอบ ขณะเราเดินผ่านเขาและเพื่อนเขาทุกคนในกลุ่มหัวเราะใส่หน้าเราดังมากเหมือนเราเป็นตัวตลก เราแกล้งเดินต่อทำไม่เห็นไม่ได้ยินแต่เราน้ำตาตกในแล้ว
เราเริ่มเกเรเข้าผับเที่ยวทุกคืนตื่นไปเรียนไม่ทัน ตอนนั้นในหัวคิดเรื่องอยากสวยอย่างเดียวเราตัดสินใจถอนเงินในธนาคารที่เคยสะสมตอนเด็กมาทำศัลยกรรมครั้งแรก คือเสริมคางทำลักยิ้ม แต่แผลเราฟื้นช้ามากเปิดเรียนวันแรกโดนคนเดิมด่าอีกว่า#มีปัญญาทำแล้วมีปัญญาหาเงินแก้ปะวะแล้วหัวเราะ55555 เรากลัวหน้าเรามากมันยาวเหมือนแม่มดยิ่งโดนเพื่อนด่าเรายิ่งอาย(เรารู้สึกชีวิตเราไม่มีอะไรดีสักอย่างขนาดพยายามทำมันให้ดีแล้ว)
(คางยาวไม่เข้ารูปเหมือนแม่มด)
ผ่านไป 6-7 เดือน หน้าเราเริ่มเป็นทรงขึ้น เราชอบซื้อผ้าใหม่ๆทุกสัปดาห์ ชอบถ่ายรูปแต่งรูปขาวๆ ซึ่งชีวิตจริงตัวเราดำมาก และทาบีๆหนา จนเราดูตัวเทาๆเขียวๆ
(รูปนี้ที่แต่งสวยน่ารักกว่าตัวจริงมากๆ)
(รูปจริงๆที่ถูกติดแทร็กหน้าบานตัวดำมากขนาดแต่งแสงช่วยแล้ว)
แต่ก็มีคนชอบเราและเอารูปไปตั้งกระทู้ เกี่ยวกับชอบที่เราแต่งตัวทรงผมผูกพองๆเป็นเอกลักษณ์ และเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็มาถึง เราถูกโจมตีในกระทู้เยอะมาก ที่จำได้ไม่ลืมเลยคือ #สก้อยบางลำพูชัดๆ#ตัวจริงสก้อยมาก#คนอื่นสวยกว่านี้อีกตั้งเยอะ#เด็กแว้นมากๆ #อยู่เหมือนแม่นาคตอนเป็นศพอะ#พอกบีๆได้หนามากสงสัยถ้าเอาช้อนขูดคงได้หลายกิโล#บ้านจนมากๆแต่ทำอวดรวย#บ้านตัดยางจ้างดูทำตัวดิ#น่าสงสารพ่อแม่นะที่มีลูกทำตัวแบบนี้จนแต่ไม่เจียม จนเราต้องแจ้งลบกระทู้นั้นไป
เรารู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยวมาก ไม่คิดว่าการที่เราตัวดำแต่งรูปขาวจะทำให้ชีวิตตกต่ำเพียงนี้ เราท้อหมดแรงไม่อยากใช้ชีวิตในแต่ละวัน เราเลือกที่ไปเรียนป.ตรีในจังหวัดที่เราคิดว่าคงไม่มีคนรู้จักเรา
เราอายุ19 เราเริ่มมีแฟน เข้ามหาลัยแห่งแรก ที่เรียกแบบนี้เพราะเราโดนทายออกนะซิ จากนั้นเราก็โดนด่าโดนนินทาอีกเยอะมาก#บ้าแต่งหน้า#บ้าแต่งตัว#บ้าผู้ชาย
วันนี้แฟนที่เราเคยคบก็ทิ้งเราไปนอนกับคนอื่น เราเลยเข้าใจชีวิตว่าใครที่ดีเสมอต้นเสมอปลายกับเราโดยแท้จริง เราสงสารแม่ที่โดนชาวบ้านด่าเรื่องลูกไม่ตั้งใจเรียนมัวบ้าผู้ชาย แม่ถูกด่าว่าโง่ตามไม่ทันลูกๆหลอกเอานู้นนี้นั้นหมดทุกอย่างสุดท้ายลูกไม่ได้เรื่อง เรียนก็ไม่จบ
เรารู้สึกผิดมากๆที่สุดในชีวิต ที่เราทำให้แม่ผิดหวังเราท้อกับชีวิตกว่าทุกครั้ง ชีวิตเราไม่เคยเจอความเรื่องดีๆสักครั้งในชีวิต แต่อีกใจเราก็รักแม่และสงสารแม่อยู่ เราสำนึกผิดทุกอย่าง ขณะเราโดดเรียน ไม่เข้าเรียน ไม่ทำงานส่ง ไม่ทำข้อสอบ เที่ยวผับแทบทุกคืน มันตรงกับเวลาที่พ่อแม่เรากรีดยางตั้งแต่22.00-07.00น.เพื่อเรา แม่ให้โอกาสเราได้เรียนต่ออีกมหาลัยอีกครั้ง เราอดหลับหลายคืน เพื่อตามงานให้ครบทันเพื่อนที่เค้าเปิดเรียนมาก่อนเรา จนเราทำมันสำเร็จ
(นักศึกษาคณะสาธารณะสุขศาสตร์เป็นคณะที่แม่ภูมิใจมากๆ)
เรื่องราวเลวร้ายมาเยือนเราอีกครั้ง ทางบ้านเราแย่มากๆจากวิกฤตยางตกต่ำ บ้านเรามีรายจ่ายมากกว่ารายรับอีกครั้ง จากเงินที่ได้จากแม่สัปดาห์ละพันกว่ามาเหลือแค่2-3ร้อย เราต้องเอาเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้าที่มีขายมือ2หมดเหลือแค่ชุดใส่อยู่บ้านไม่กี่ตัว
อยู่ๆก็มีพี่คนนึงติดต่อเราไปทำงานพริตตี้เราก็ฟังรายละเอียดเกี่ยวกับการเป็นพริตตี้งาน เค้าแจ้งว่า มันมีอยู่2บูธให้ลง ราคาต่างกันถ้าหน้าอกอึ้มๆจะได้ราคาสูงกว่าอกเล็กๆนะ เราจึงตัดสินใจขอเงินแม่ทำนมด้วยเหตุผลเรื่องงานแม่ก็ควักเงินที่มีจนหมดให้เราทำนม คิดว่าถ้าทำคงมีคนจ้างต่ออีกหลายงาน พอทำเสร็จพี่คนนั้นบอกแคนเซิลงานเรา เพราะเจ้าของงานหาคนอื่นที่สูงและสวยกว่ามืออาชีพกว่ามาได้แล้ว ชีวิตหนอชีวิตเกิดมามีสักเรื่องที่ดีได้ป่าววะ
ผ่านมาไม่กี่เดือนมีพี่คนนึงติดต่อไปทำพริตตี้อีกแถมยังนัดไปติวไปสอนโฟนให้คือดีมากๆแต่เราก็คิดนะ ว่าจะโดนหลอกเล่นๆอีกครั้งมั้ย พอคนขาดพี่เค้าส่งเราไปแทนจริงๆด้วย นี้แหละพริตตี้ค่าตัวหลักพันครั้งแรกในชีวิตเรื่องดีๆในรอบหลายปีของเรา เราดีใจมากๆ และมีคนติดต่องานนู้นนี้นั้นมาให้เราเรื่อยๆ เราเรียนคู่ทำงาน พริตตี้ พรีเซนเตอร์ร้านผ้า ขายยาขาว ขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด พอจ่ายค่าหอค่ากินของตัวเองในแต่ละวัน ภูมิใจ
เจ้าของบริษัทยาที่เราขายเห็นความขยันในตัวเราแนะนำเราให้รู้จักโรงงานผลิตครีมหลายแห่ง เราได้ร่วมเขียนสูตรปรับปรุงสูตรกับโรงงานมาเป็นปีๆและทดลองเทสสินค้ากับตัวของเราเอง เราสั่งผลิตสินค้าครั้งแรกด้วยเงินทั้งหมดที่สะสมมาทั้งชีวิต สู่การมีแบรนด์เป็นของตนเองอย่างเต็มตัว เดือนแรกขายไม่ถึง500ชิ้นด้วยซ้ำ แต่ลูกค้ามารีวิวให้และสั่งเพิ่มเยอะทำให้แบรนด์เรามีลูกค้าจากปากต่อปาก ปัจจุบันเรามีตัวแทนหลักร้อยกว่าท่านที่ต้องดูแล เรามีรายรับจากธุรกิจส่วนตัว งานอีเว้นท์ต่างๆเพียงพอที่จะปลดหนี้ธนาคารที่กู้มาตอนบ้านมีปัญหา ดูแลค่ากินอยู่ของทุกคนในครอบครัว เรายังประหยัดใช้จ่ายแต่สิ่งจำเป็น เพราะเรื่องธุรกิจมันไม่มีอะไรที่แน่นอน ชีวิตมีขึ้นมีลง ตอนลงต้องสู้ตอนขึ้นอย่าทะนง ไม่ต้องเป็นคนฉลาดแต่จงเป็นคนขยันกตัญญู ไม่ว่าคุณจะเกิดมาโง่แค่ไหนจนแค่ไหนชีวิตคุณก็ไม่มีวันอดตาย
(นางเอกmv)
(งานดีเจรีมิกเพลง)
(แจกทองตัวแทนที่มียอดขายสูงสุด)
(เป็นสปอนเซอร์ประกวดดาวเดือนมหาลัยต่างๆ)
ไว้กระทู้หน้าจะมาเจอกันกับรีวิวการบำรุงผิวและศัลยกรรมคะ
จบแล้วค่ะการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆของเรา ความสำเร็จไม่ได้อยู่บนฟ้าเพื่อหล่นลงมา แต่อยู่ที่เราใฝ่คว้าแสวงหามัน