'ภูกระดึง' กับ 'เธอคนนั้น' ที่อยากรู้จัก☺

กระทู้สนทนา
นี่เป็นกระทู้แรกของเราน๊า ผิดพลาดก็ขอโทดด้วยน๊าา เราเชื่อว่าวันหยุดหลายๆคน คงจะหาที่พักผ่อน เราก็เลือกที่จะไปพิชิตภูกระดึง วันที่ 23 ตุลาคม  58 เราเดินทางขึ้นภูกระดึง เริ่มเดินตั้งแต่เวลา เกือบๆ 9 โมงเช้า หลายๆคนคงรู้ว่าระยะทางของภูกระดึงนั้นไกลมากกว่าจะถึงที่พัก เราก็เริ่มเดินไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักบ้าง ระหว่างทางก็มีผู้คนเดินผ่านมากมาย คนขึ้นภูประมาณ 2300 กว่าคน ก็เจอกลุ่มที่มากับเพื่อนบ้าง มากับครอบครัวบ้าง แต่ที่น่าอิจฉาก็ไม่พ้นคู่รักที่เดินจับมือกัน เช็ดเหงื่อให้กันและกัน เห็นแล้วอิจฉาาา คือเรามากับเพื่อนไง 555+ ต่อๆ พอเดินมาถึงซำแคร่ เป็นซำสุดท้ายที่จะถึงหลังแป ทางขึ้นซำนี้มันชันและมีบันไดที่ชันในระดับหนึ่ง เราก็พอรู้นะว่ามี ผช คนหนึ่งเดินยุข้างหลังเรา แต่ด้วยความที่เหนื่อยมากไม่สนใจใครเลย ณ ตอนนั้น พอทางที่จะขึ้นบันได ก็มียายคนหนึ่งอยู่ข้างหน้าเรา ยายก็บ่นๆตามวัยของยาย แต่พอเราหันหลังกลับไป เราเห็น ผช คนนั้น อมยิ้มแล้วแอบหัวเราะ คือยิ้มของเค้าแบบน่ารัก อะ ณ ตอนนั้นคือ ความเหนื่อยเริ่มหายไปนิดๆ หรือเค้าอาจจะหัวเราะเรารึป่าวที่เราก็แบบกลัวๆ แล้วก็พูดอะไรสักอย่างนี้แหละ คือตลอดทางซำนั้นมี ผช คนนี้ยุข้างๆเสมอ หันไปทีไรก็ยิ้มให้กัน คือแบบเริ่มเขิลแหละเรา เริ่มคิดไปเองแล้ว อิอิ  พอถึงหลังแป ต่างคนต่างพักและก็ถ่ายรูปกับป้าย เราคือผู้พิชิตภูกระดึง เราก็นั่งพักใกล้ๆกับเค้า เค้าก็รอเพื่อนที่เหลือของเค้าที่ยังมาไม่ถึง เค้าก็หันมาแล้วก็ยิ้มเราก็ยิ้มตอบ สักพักเราเดินไปทางต้นไม้เพื่อยถ่ายรูป เราเห็นเค้าคนนั้นตั้งกล้องมาทางเรา คิดในใจเค้าถ่ายเรารึป่าว มโนมาก อิอิ พอเรากับเพื่อนจะไปถ่ายรูปที่ป้าย กลุ่มเพื่อนเค้าก็เข้าคิวเพื่อถ่าย เพื่อนเราก็ให้เราถ่ายให้ แล้วคนนั้นก็ยืนยุข้างหลังเราเหมือนกดชัดเตอร์ < คิดเอง > เราเริ่มเขิลไม่กล้าไปยืนตรงนั้น สรุปไม่ได้รูปมุมนั้นเขิลยุ55 หลังจากหายเหนื่อยแล้ว เราก็เดินทางต่อเพื่อไปยังที่พักอีก 3กม. แต่ดีที่เป็นทางราบ เพื่อนก็บอกว่าถ่มยรูปให้หน่อยอยากได้มุมนี้ เราก็ได้ๆ พอได้มุมเราก็เตรียมกดกลุ่มคนนั้นก็เดินผ่านมาเรานิรีบกดชัดเตอร์โดยที่ไม่สนใจเพื่อนเลยว่าจะเป็นยังไง เป็นเพื่อนที่น่ารักมาก 555+ แล้วเค้าก็เดินผ่านเราไป ตลอดทางที่เดินหปที่พักเรากับเค้าอยู่ใกล้ๆกันตลอด แรกๆเค้าเดินข้างหน้าเรา สักพักเราเดินนำเค้าไป เราก็เดินๆไปเรื่อยๆ เริ่มรู้สึกแหละว่าคนข้างๆทำไมคุ้นจัง เค้านั่นเอง แต่เอ๊ะทำไมเค้าเดินมาก่อนเพื่อนเค้าละ แล้วอีกอย่างเดินมาข้างๆเราอีก เริ่มคิดอีก <มโนอีก> ก้มหน้าก้มตาเดินต่อไป คือแบบมองแต่เท้าตัวเองไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา แล้วสักพักเหมือนเค้าก็รอเดินพร้อมเพื่อนเค้า เราก็รีบๆเดินไปกับเพื่อน เพื่อนบอกว่าพี่เค้ายิ้มให้บ่อยยุนะ เรานิยิ่งชอบคิดไปเอง อิอิ พอมาถึงที่พักเราก็จอวเต้นท์ไว้แล้ว ก็เลยเดินไปดูว่ายุตรงไหน คือมันอยู่ไกลเกือบๆสุดท้าย เต้นท์อยู่ตรงนั้นน้อยมาก หลังจากดูเต้นท์เสร็จ เราก็กลับมารอเพื่อนที่ยังมาไม่ถึงที่ศาลา พร้อมรอกระเป๋า เจอเค้าอีกแล้ว หันมาทางนี้ด้วย <มโน> เวลาที่เราเดินสวนทาง หรือ อยู่ใกล้ๆเราจะพลาดทุกครั้งที่เค้ายิ้ม เนื่องจากไม่กล้ามอง เพื่อนก็บอกอีกว่าเค้ายิ้มให้พวกเราตลอด เวลาผ่านไป เค้าก็มาหาทางกางเต้นท์ แต่เอ๊ะ ยุดีๆเค้าก็มากางเต้นท์ใกล้เรา เดินไม่ถึง 20 ก้าวอะ เรานี่คิดอีก พรหมลิขิตรึป่าววะ อิอิ คนตั้งเยอะมาใกล้กันอีก พอประมาณ 4 โมงเย็น ฝนก็ตก เค้าก็ออกมาคลุมเต้นท์ เรามองไปเฮ้ย บ๊อกเซอร์ตัวเดียว เปียกฝนอีก เซ็กซี่ๆ เรานิรีบหันกลับเลย อิอิ ตลอดเวลาที่อยู่บนนั้น เหมือนเราเจอแต่กลุ่มเค้ารึเราตั้งใจอยากเจอไม่รู้ 555+ คือเราเริ่มคิดแหละอยากรู้จักจัง ได้แต่คิดในใจ ตอนเช้าเรายุในเต้นท์หันไป สบตากับเค้าพอดีเรานิรีบหันกลับ ถึงเวลาที่เราต้องกลับลงภูแล้ว แอบใจหวิวๆที่จะไม่ได้เจอเค้าแล้ว ทำไงดีวะ สุดท้ายก็ไม่ได้ทำไร ตลอดเวลาที่เดินทางลงจากภู มองข้างตลอดหวังว่าจะเจอเค้า แต่ก็ไม่เจอ พอลงมาถึงข้างล่างเรานิรีบค้นหาเค้าจากแฮชแท็กทุกอย่างทุกแอพหวังว่าจะเจอ นั่งรถมาตลอดทางยังหา หาอยู่นั้นแหละจนถึงวันนี้ก็ยังไม่เจอ แต่ในใจนิคิดถึงตอนที่อยู่บนภูมาก ดูรูปที่ถ่ายติดเค้ามา เหมือนคนบ้า555+  ตามหาทุกอย่าง นี่สินะ รักแรกพบ ฮ่า แม้แต่ชื่อยังไม่รู้จักเลย หวังว่าจะเจอกันอีกนะคะ ความหวังอันแสนน้อยมากกกก แต่ก็ยังแอบหวัง ☺ เหมือนใจตัวเองแปลกๆ มาอ่านด้วยนะคนนั้นอะ ถ้าความบังเอิญทำให้เราได้พบกัน คงต้องมีความบังเอิญครั้งที่ 2 เกิดขึ้น ใน 77 จังหวัด😂
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่