{CR}part2- เมื่อสองเก้งใส่ชุดไทยตะลุยญี่ปุ่นOSAKA_TO_TOKYO แบบชิคๆ10วัน

จากความเดิมตอนที่1 ปฐมบท>>> http://pantip.com/topic/34353394
ตอนที่3 Nara>>> http://pantip.com/topic/34362952
ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามารอชมและติดตามกันค่ะ อาจจะช้าหน่อยนะคะ ภารกิจเก้งรัดตัวเงินเดือนแสนแปด..พาพันขอบคุณ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันที่3 ตุลาคม 2558 (Osaka) ปราสาทโอซาก้า>National Museum Of Art Osaka>Shitennoji Temple>ตะลุย Namba
เก้งทั้งสองตื่นจากหลับไหล(ไม่ได้ไหลตายนะคะ) อาบน้ำแต่งตัวเก๋ๆตามสไตล์เรา วันนี้เก้งมีภารกิจแรกคือไปปราสาทโอซาก้า แหมมาโอซาก้าก็ต้องมาแลนด์มาร์คเค้าสิคะถึงจะถูก เดี๋ยวหาว่ามาไม่ถึงจริง
**เพิ่มเติมจากPart 1นิดนึงค่ะ ตกหล่นไปตอนนึงที่ค้างเอาไว้ว่าเรายังไม่ได้ซื้อซิมการ์ดมาจากสนามบิน ก่อนที่จะเข้านอนเราก็ไปเดินหาซื้อซิมกันค่ะ แบบเดินหารอบนึงก็ยังไม่เจอ จนเดินเข้าไปในห้าง แผนกโทรศัพท์น่าจะมี ซิมการ์ดที่นี่เค้าจะวางป้ายเขียนไว้ว่า อันนี้กี่GB ใช้ได้กี่วันไรแบบนี้ เลือกได้แล้วก็หยิบป้ายเพื่อไปจ่ายเงิน พนักงานก็จะหยิบสินค้ามาให้ หูยเริ่ดนะคะ กลัวเก้งขโมยหรือว่าสินค้ามีจำนวนจำกัดคะคุณขา พอได้ซิมการ์ดมา ไม่ได้เอาที่แงะมาด้วย ไม้จิ้มฟันก็ไม่มี ทำไงล่ะคะ ถึงเวลาต้องใช้หน้าตาอันเป็นมิตรสยามเข้าไปเจรจาขอไม้จิ้มเพื่อจะใส่ซิม (ของเก้งทั้งสองเป็นiPhone6Plus) พนักงานก้ใจดีมากบริการหลังการขายดีเยี่ยมนางก็เอาไม่จิ้มมาให้ใส่ซิมเสร็จแล้วนึกว่าจะเล่นได้เลย ป่าวค่ะ...ต้องตั้งค่า โอ้ยยยย ทำไงดีกว่าจะได้เล่นเน็ตท่องโลกโซเชี่ยวของพี่ยุ่นช่างยากเย็นเหลือเกิน ก็เดินไปขอร้องอ้อนวอนให้พนักงานตั้งค่าให้หน่อย ผลเป็นไง..นางบอกลูกค้าต้องตั้งค่าด้วยตัวเองเท่านั้น เอ๊า เอ๊า เอ๊า....ก็ตรูอ่านญี่ปุ่นไม่ออก ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์หน่อยได้ไหมมมมม ขอร้อง ถือว่าช่วยลูกงูตกน้ำ..เป็นตายร้ายดียังไงนางก็ยืนยันคำเดิมให้ตั้งค่าด้วยตัวเอง.. ได้ค่ะ นังเก้งหันตูดใส่ เดินกลับห้อง เชิ่ดดดด สวยๆ แล้วคืนนั้นก็นั่งตั้งค่ากันหลายชั่วโมงกว่าจะได้ เพราะอะไรคะ..อ่านรีวิวการตั้งค่า เดี๋ยวไว้ลงขอบคุณกระทู้นี้ด้วย ที่ทำให้เก้งได้ใช้โซเชี่ยว..



กลับมาที่ปราสาทโอซาก้า เช้านี้เรานั่งรถไฟJR ใช้บัตรเบ่งเหมือนเดิม หลงได้หลงไปค่ะ ไม่กลัว เพราะมีบัตรนี้ ไม่ต้องเสียเงินค่ะแค่เสียเวลาเท่านั้น เรานั่งมาลงสถานี JR Osakajokoen ก็ถึงปราสาทโอซาก้าแล้ว แต่ต้องเดินไปอีกนะคะกว่าจะได้เข้าตัวปราสาทจริงๆก็เรียกเหงื่อได้ดี ซื้อเบ็นโตะไปนั่งกินก่อนจะถึงตัวปราสาทจะมีที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ คนญี่ปุ่นช่วงเช้าๆแบบนี้ก็จะมาออกกำลังกาย มาวิ่ง ปั่นจักรยาน รำมวย ไท่เก๊ก จูงสุนัขพุดเดิ้น  แหม่มันช่างมีความสุขเสียนี่กระไร รีบกินรีบเดินต่อค่ะ ต้องทำเวลากันนี๊ดนึง เป็นเก้งไทยต้องอดทน และบึกบึน







ถึงละคะปราสาทโอซาก้าเพี้ยนแช๊ะ ความรู้สึกแรกที่เหล่าเก้งเห็น โอเคสวยค่ะ สวยเหมือนในรูป แค่นี้จริงๆ ปราสาทข้างนอกสวยจนเราอยากเข้าไปแต่เอ๊ะทำไมไม่มีคนเข้าไปจึงมโนกันเองว่าวันนี้ปิดแน่เลย...วันเสาร์ด้วย (ปิดก็ดีไม่เสียเงิน ไม่เปลืองชิ) ทันใดเก้งก็ลองเสิร์จอากู๋ดู เห้ยย มันเปิดนี่นา ปราสาทมันเปิด 10โมง โอ้วแม่เจ้า เก้งมาเร็วไปหรือปราสาทเปิดช้าคะ พูด!! นี่เพิ่ง8โมงครึ่งอีกเกือบ2ชั่วโมงไปไหนดี เคใกล้ๆมีพิพิธภัณฑ์ไปตรงนั้นก่อนเดี๋ยว10โมงค่อยกลับมาดูในปราสาทอีกที จากนั้นเก้งก็มู๊ฟตัวเองเดินไปพิพิธภัณฑ์โอซาก้าภายในจัดแสดงประวัติความเป็นมาของเมืองโอซาก้า แหล่งขุดค้นพบ ซากโบราณ ของมีค่า วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีตั้งแต่สมัยอดีตจวบจนถึงปัจจุบัน..ว๊ายยยดูมีความรู้นะคะ เดี๋ยวจะมาเหน็บแนมว่าเก้งมาเที่ยวอย่างเดียวไม่มีสาระ..มีสาระนะคะคุ๊ณ เกรด4ประวัติศาสตร์เชียว



ดูไปถ่ายรูปไปเค้ามีกิจกรรมอะไรให้เล่นก็เล่นกันไป ให้มันถึง10โมงเร็วๆ..เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก แป๊บๆไกล้จะ10โมง มู๊ฟที่คะมู๊ฟลากสังขารอันไม่เที่ยงกลับไปปราสาทเพื่อเข้าดูด้านในกัน เราซื้อตั๋วเข้าประสาทที่พิพิธภัณฑ์ซึ่งจะได้ตั๋วถูกกว่าราคาปกติ ผูกแพ็คเกตในเสร็จสรรพพร้อมใช้  เข้าไปเลยค่ะแถวยาวเลยออกไปด้านนอก ขดกันเป็นงู มันมีช่องลิฟท์ กับช่องเดินบันได ..เก้งเลือกอะไร เดินสิ ใครต่อคิวขึ้นลิฟท์คงได้ขึ้นพรุ่งนี้เช้า ทัวร์จีนมาเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง ดีว่าพวกชั้นเก็บภาพถ่ายช่วงไม่มีคนตอนเช้าแล้ว +555 ไม่ต้องตบตีแย่งชิงวิวปราสาท เดินบันได้ขึ้นไปจำไม่ได้ละชั้นที่เท่าไหร่ด้านบนก็เป็นจุดชมวิวรอบเมืองโอซาก้า ชั้นล่างๆก็จัดแสดงเครื่องใช้สมัยก่อน ดาบซามูไร แต่ห้ามถ่ายรูป ความรู้สึกที่เข้าไปด้านใน..บอกเลยเก้งชอบพิพิธภัณฑ์เมื่อกี้มากกว่าจัดแสดงได้อย่างลงตัว ในตัวปราสาทไม่มีอะไรเลยค่ะ มีดีแค่วิว360ศาแถมยังต้องต่อสู่แทรกตัวกับพวกถ่ายเซลฟี่ ไม่ไหวค่ะ ลง ลง เดี๋ยนไม่ปลื้ม ขาลงชั้นล่างสุดมีให้ทำเหรียณสลัก เป็นกิมหมิกเล็กๆก็จัดสักหน่อย

























รู้ประวัติศาสตร์โอซาก้าพอกรุบกริบอยากสวมวิญญาณเกอิชาสาวไล่ตามชินเน่ม่อนซัง แอร๊ยยย เพี้ยนโบ๊ะหน้านังนี่มโนตลอดเว... ไปต่อกันที่วัดชิเท็นโนจิ(Shitennoji Temple) ลงสถานี JR Tennoji แล้วเดินต่ออีกนิด เม๊ามอยแป๊บๆก็ถึงหน้าวัดแล้ว ทำไมเก้งถึงอยากมาที่นี่ พูดเลยค่ะว่าอยากเข้าวัด ทำบุญ จริงๆเป็นคนชอบทำบุญ รักษาศีล เคร่งศานาค่ะ (พูดดูดีมากกกก) แต่เก้งเข้าวัดได้นะคะ ไม่ร้อน ป๊ะ..ซื้อตั๋วเสร็จเดินเข้าไปโลด มาดูประวัติกันสักนิดเดี๋ยวจะหาว่าเป็นกระทู้ที่มีแต่น้ำไม่มีเนื้อหาสาระให้กับผู้อ่าน(ซึ่งก็จริง+555)
เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น เชื่อกันว่าเป็นวัดพุทธแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นในปี 593 โดยเจ้าชายโชโทคุ ผู้ซึ่งให้การสนับสนุนศาสนาพุทธ แม้ว่าตัวอาคารของวัดจะถูกไฟไหม้หลายต่อหลายครั้ง แต่จะก็มีการซ่อมแซมส่วนต่างๆอย่างละเอียดเพื่อให้คงรูปแบบดั้งเดิมตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 6





บริเวณวัดด้านนอกสามารถเข้าชมได้ฟรี แต่บริเวณวัดชั้นในสวนโกคุราคุ-โจโด และห้องเก็บสมบัติจะต้องเสียค่าเข้าชม ซึ่งเป็นที่แสดงภาพวาดพระคัมภีร์และทรัพย์สินมีค่าอื่น ๆ ของวัด ในส่วนของเจดีย์ 5 ชั้นนั้นสามารถเข้าชมด้านในได้ และนอกจากนั้นยังมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่ประดิษฐานอยู่ให้ห้องโถงหลัก งดงามมาก เห็นม๊ะได้ความรู้อีกจิ้ดนึง...เสียดายไม่ให้ถ่ายรูปต้องไปดูให้เห็นกับตาตัวเองว่าสวยงามขนาดไหน..ตอนที่เราไปวัดกำลังปรับปรุง จะว่าไปเก้งไปที่ไหน ที่นั่นปรับปรุงทุกที ไม่ปิดก็ปรับปรุง เห้อ..ชีวิตเก้งน้อย

















ซื้อธูปซื้อเทียนไหว้พระ ทำจิตใจให้สงบสัก5นาที วัดสงบ ร่มรื่น กว้างใหญ่มาก เหมาะแก่การตรัสรู้มากพูดเลย..ถ้าจะเงียบขนาดนี้ ขอหมอนเถอะค่ะ ง่วง.... จิดใจสงบแล้วก็ไปนอน+555 เก้งเมื่อยขา ขอไปพักขาเอาแรง ตอนเย็นมีอีก1ที่ที่เราจะไปตะลุยกัน นั่นคือย่าน Namba เราจะไปตามล่าหาป้ายคุณลุงกูลิโกะ กับปูยักษ์ กินราเมนข้อสอบร้านดังประจำถิ่นที่เค้าว่าอร่อย....





พอกลับมาสลบเป็นตาย แต่ความคันของเก้งที่จะตามล่าหาผู้ชาย ว๊ายยยย ไม่ใช่ ไม่ใช่ ตามล่าหาของอร่อย ที่เค้าว่าเด็ด เก้งคัดแล้วคัดอีกไม่ใช่อะไรก็ได้ อย่างเราๆจะมากินเบนตงเบนโตะ ข้าวห่อสาหร่ายสามเหลี่ยมทุกวันคงเป็นไปมิได้ค่ะ จัดหนักบ้างไรบ้าง ย่านดดทงโบริมีของให้ช้อปปิ้งเยอะพอสมควรแสงสีเสียง รวมถึงผู้คนไม่ต้องพูดถึงแสนแปด โดยเฉพาะป้ายกูลิโกะ แย่งกันถ่ายสุดริด ใครแซงเดี๋ยนงานนี้มีแจกน้ำกรดนะคะพูดเลย













เราตั้งใจจะมาถ่ายรูปคู่กับกูลิโกะก่อน จากนั้นก็เดินตามหาเจ้าปูยักษ์ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน แล้วเราก็เหลือบไปเห็นคนต่อแถวกันยาวเหยียด นั่นไง กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด ในที่สุดก็หาเจอราเมนข้อสอบ ตอนนี้ได้ถูกทัวร์จีน อาม่า อาอึ่ม เหล่าเจ่ก ยึดพื้นที่หน้าร้านไว้เป็นที่เรียบร้อย ไทกั๋วบ้างประปราย มาถึงนี้แล้ว เอาว่ะ..ลุยยยย ยืนต่อไป แถวขยับๆทีละนิดทีละนิด กดดันอิพวกเข้าไปกินให้รีบออกมา... ระหว่างที่เรายืนรอก็จะมีเจ้าหน้าที่นำข้อสอบหรือเมนูมาให้เรากากบาท วงกลม ก็สุดแล้วแต่ ประมาณว่า ต้องการเส้นใหญ่ เส้นเล็ก เหนียว นุ่มมากน้อยขนาดไหน เอาเผ็ดระดับไหน ประมาณนี้แหละ นางเห็นเราเป็นทัวร์จีนรีไงไม่ทราบเอาจีนมาให้ต้องเดินไปขอเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาที่เราคุ้นเคยและเข้าใจที่สุด(หราาาา)





30นาทีผ่านไปเราเข้ามาในตัวร้านแล้ว เข้าไปข้างในได้เลย เดินตามพนักงานไป จัดให้นั่งตรงไหนก็นั่ง จากนั้นก็เริ่มวางโพยที่ทำเมื่อสักครู่นี้ กดปุ่มเรียกพนักงาน นางก็จะเปิดม่านมารับเมนู จากนั้นก็รอค่ะ รอไม่ทันร้องเพลงเติ้งหลี้จวินจบ ก็มาเสริ์ฟ พร้อมทั้งโค้งคำนับ ปิดม่าน เก้งรออะไรคะ จับตะเกียบ ช้อน โซ้ยให้ดังที่สุดเท่าที่จะดังได้ บอกให้รู้ว่ามัน สุโก้ยยยยยยยยยยยมากเจ้าค่ะ เกิดมาท้องแม่ยังไม่เคยกินราเมนอร่อยแบบนี้เลย (กินอะไรก็อร่อยไปหมดเลยนังนี่) ผ่านไปไม่กี่นาที หมดเกลี้ยง หิวหรืออร่อย พูด!!! แต่ของเค้าอร่อยจริงๆนะ ต้องมาลองกันเอง..



[img]http://f.ptcdn.info/742/036/000/nwrp5pkojHDTNWq86J1-o
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่