ไฟล์โดนเลื่อน / กระเป๋าตังค์หาย/ พาสปอตหายตามมา/ ไปสถานีตำรวจ 2 รอบ / ไปสถานทูต / final call / เคลมประกัน นี่คือประสบการณ์จากการเที่ยวครั้งนี้ ไม่น่าจะหาได้ง่ายๆ แต่มันก็มาได้ง่ายนะ
มันจะดีมากถ้านี่ไม่ใช่การไป เที่ยว ต่าง ประ เทศ ครั้ง แรก !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
แผนการที่โดนปรับแต่งซะยุ่งเหยิงของเรา
แผนวันที่ 1
-เอาเป๋าไปฝาก รร.>กินข้าว>วัดอะซากุสะ>สวนอุเอโนะ>ตลาดอเมโยโกะ (ตัดโอไดบะออกไปเพราะเลทมากมายไปไม่ทันชัวร์)
แผนวันที่ 2
พระราชวังอิมพีเรียล > สถานีโตเกียว > โอนิสึกะโตเกียว > บุฟเฟ่ปู > ชิบุย่า โอนิสึกะอีกครั้ง > วัดเมจิ(ปิดแล้วตอน16.00) > shopping ชินจุกุถึงเที่ยงคืน > รถไฟขบวนสุดท้าย
แผนวันที่ 3
นั่งบัสชิบูย่า ไปคาวากุชิโกะ> ดูฟูจิ > เป๋าตังค์เพื่อนหาย> ดูฟูจิ >นั่งบัสกลับชินจูกุ > ไปสถานีตำรวจชินจูกุ > เพิ่งรู้ตัวพาสปอตหายเที่ยงคืนกว่า >”<
แผนวันที่ 4
ไปสถานีตำรวจชิบูย่า > ถ่ายรูปติดพาสปอตที่ตู้ในสถานีชิบูย่า > ไปสถานทูต > ไปดิสนีแลน > นอน
แผนวันที่ 5
Check in online > รถไฟไปสนามบิน terminal1 > โหลดเป๋า > ผ่าน ตม. (ช่องพิเศษ) > Final call > ต่อเครื่องเวียดนาม โดนตรวจอีกรอบ > ตม.ไทยนานสุดดดด
เริ่มการผจญภัย ณ บัดนาว
จากสโลแกน การท่องเที่ยวคือกำลังใจในการทำงาน(อันเหนื่อยยาก) แตะมือกับเพื่อนสาวจะไปเกาหลีกันแต่ดันมีโรคเมิร์ส(ยังมีคนเที่ยวอยู่นะแต่เรากลัว><) ทริปเราเลยทำท่าจะล่ม >__< เลยตัดสินใจรีบเก็บเงินเพิ่มอีกนิด (เป็นนิดที่ดูเยอะ) ไปญี่ปุ่นก่อนละกัน
3 เดือนก่อนไป วางแผนคร่าวๆ ต้องซื้อตั๋วบิน เพื่อนสาวหยุดได้แค่ช่วง 13-22 ตุลาเท่านั้น เลยเล็งหาสายการบินที่ประหยัด เพราะเราจำกัดวันเวลาเดินทางไปนิด ตอนนั้นมีราคาดีๆไม่มาก ได้สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ ไปต่อเครื่อง สอง-สาม ชม. ที่เวียดนาม ราคาคนละ 12,470 บาท full service (สายการบินอื่นๆ เมื่อรวมค่า นน.เป๋าต่างๆแ ล้วยังแพงกว่าเลยยอมต่อเครื่องค่า) จองผ่าน expedai ง่ายดีค่ะ แต่อันนี้จะใช้แอพ Tripcase ในการอัพเดพดูข้อมูล e-ticket ค่ะ
2 เดือนก่อนไป ค่า รร. เริ่มราคาพุ่งขึ้นเอา ขึ้นเอา เริ่มเต็ม!!! ควานหา รร.ที่ใกล้ใต้ดิน (เราใช้รถไฟฟ้าใต้ดินเป็นหลักค่ะ) จองผ่าน expedia เหมือนเดิม ได้ รร.Sakura Hotel Jimbocho เป็นห้องน้ำรวมค่า ชั้นสองมีห้องน้ำ 4 ห้อง ห้องอาบน้ำ 2 ห้อง อ่างล้างหน้าแยกมา 4 อ่าง มีไดร์เป่าผม 2อัน แชมพู ครีมอาบน้ำให้ ห้องค่อนข้างแคบมีเตียงใหญ่กับพื้นที่วางกระเป๋าเดินทาง เต็มห้องพอดี >”< โดยรวมคือสะอาดมาก ห้องน้ำสะอาดแทบไม่ต้องต่อคิว พนักงานดี มีอาหารเช้า ที่สำคัญเดินไม่เกิน 200 เมตรจากใต้ดิน ใกล้มากจริงๆ ราคา 4 คืน= 7,490.12 บาท ตกคนละ 3,745.06 บาท
http://www.sakura-hotel.co.jp/jimbocho
รูปเอามาจากเว็บไซต์ รร. ค่ะ ห้องแคบจริงๆลืมถ่ายรูปมา วางของปุ๊ปเต็มห้องพอดี >__<
1 เดือนก่อนไป เตรียมเอกสารต่างๆ ใบรับรองเงินเดือน (เห็นเค้าว่า ตม.โหด) ใบจองรร. ตั๋วบินกลับ ซื้อตั๋วดิสนี่แลนด์กับทาง HIS ประกันการเดินทาง เช่า pocket wifi ทยอยแลกเงินมาเรื่อยๆ อ่านรีวิวพันทิปจนเบลอเลย
แผนก่อนไป ลอกคนอื่นๆมาปรับ แผนนี้ทำไม่ได้555555
ปรับมาเป็นแผนนี้แทน เพราะหลงทางรถไฟใต้ดินบ้าง ไปไม่ทันเวลา เราก้าวเดินช้าๆ เคลื่อนตัวช้าๆ ต่างๆ นาๆ
3 วันก่อนไป ได้รับอีเมลล์ว่ามีการเลื่อนไฟล์ทบิน ใจหล่นลงไปที่ตาตุ่ม ตั้งสติอ่านอีเมลล์ไม่ได้แย่อะไร แค่เลื่อนเที่ยวออกจากไทยไปเวียดนามจากทุ่มครึ่ง เป็นสองทุ่มว่า >>ทำให้ใช้เวลาไปรอต่อเครื่องที่โฮจิมินน้อยลง การดีเลย์ไฟล์ทครั้งนี้ก็ไม่ได้มีอะไรแย่ แค่ตื่นเต้นเท่านั้นเอง อิอิ อันนี้ถือว่าดี ฟุ่....รอดตัวไป
วันเดินทาง นัดเจอเพื่อนสาวที่ BTS Bearing พ่อเราไปส่งที่สนามบิน เผื่อเวลาเดินทาง ช่วงเช็คอินประมาณ 2-3ชม.จะดีมากๆค่ะสำหรับคนมาครั้งแรก หาจุดเช็คอินจากป้ายบอร์ดใหญ่ๆ สายการบินนี้ได้ นน.เป๋า 30 kg ทั้งไปและกลับนะคะ เค้าจะออกตั๋วให้สองใบเลย
จาก สุวรรณภูมิ>>โฮจิมินท์ และ จากโฮจิมินท์>>นาริตะ อันนี้ขอที่นั่งฝั่งซ้ายเค้าว่าจะเห็นฟูจิซัง คิคิ
Check in เสร็จไปจุดรับ Pocket wifi ของ wifi Plus+ หาง่ายมากเป็นเค้าเตอร์หลังจุด Check in L K เช่าออนไลน์ช่วงที่อาแปะเอาโปรมาแนะนำได้ราคาวัน 120/วัน เค้านับ 6 วัน (นับตั้งแต่วันที่ไทยบุยยย) รวม 720 บาท หาร2 ตกคนละ 360 บาท
แต่ถ้าราคาหน้าเค้าเตอร์จะตกวันละ 250บาท จะได้เป็นกระเป๋าเล็กๆใส่ไวไฟ สายชาตแบต มีค่ามัดจำตัวเครื่อง 2000บาทจะได้คืนตอนกลับมานะฮ้า (ส่วนตัวไม่เคยใช้ไวไฟแบบพกพามาก่อน ตัวนี้ถ้าแบต 100% อยู่ได้ทั้งวันจริงๆ อึดมาก)
เตรียมขึ้นเครื่องที่หน้าเกท 8 จะเป็นพนักงานต้อนรับของการบินไทยมายืนส่ง (ไม่รู้มะกันว่าทำไม หรือเค้าใช้การบินไทยทุกสายการบินเลย 555) ขึ้นเครื่องได้แว้วว พร้อม!!! ขึ้นไปก็แจกอาหาร >_< นั่งแค่ 1ชมครึ่ง ก็ลง เอิ่มมแจกก็กินค่ะเป็นซีฟู๊ดมีลก็กินได้ค่ะ ไม่รู้ว่าอร่อยไหมกินหมดค่า แฮ่ๆ
แปปเดียวเองถึงละ ก็มองป้าย Tranfer จะเป็นจุดนั่งรอหน้า Gate อีกครั้ง คราวนี้สองชม.กว่าๆ ก็เรียกขึ้นเครื่องค่ะ
จุดนี้หาจุดชาตแบตยากนิดนุงค่ะ เผื่อคนที่มือถือแบตจิหมด มีที่เดียวสองรู (เราไปทัน 1 รูพอดี อิอิ)
รอสักพักใหญ่ๆ ประตูเกทก็เปิดเรียกขึ้นเครื่องเช็คเอกสารอีกเล็กน้อย เครื่องลำนี้ใหญ่กว่า มีหน้าจอให้ดูหนังฟังเพลง เล่นเกม เอาตามสะดวก แต่ที่นั่งชั้นประหยัดอะนะ เอนได้สุดแค่นี้ละ55555
อารมคล้ายนั่งรถทัวร์มีจอเล็กๆให้ฟังเพลง
ขึ้นเครื่องก็หลับได้เลยค่ะ เดวเค้าจะแจกข้าวอีกสักชม. สองชม. ก่อนลงนาริตะ รีบกิน รีบอึ ห้องน้ำจะมีคนใช้บ่อยช่วงกินๆ ก่อนลงนี่ละค่ะ
ซูมๆๆ
[CR] บันทึกการเดินทาง 5 Days in Japan 15-20 Oct 2015 เที่ยวเองหลงเอง ประการณ์ไม่รู้ลืม
มันจะดีมากถ้านี่ไม่ใช่การไป เที่ยว ต่าง ประ เทศ ครั้ง แรก !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
แผนการที่โดนปรับแต่งซะยุ่งเหยิงของเรา
แผนวันที่ 1
-เอาเป๋าไปฝาก รร.>กินข้าว>วัดอะซากุสะ>สวนอุเอโนะ>ตลาดอเมโยโกะ (ตัดโอไดบะออกไปเพราะเลทมากมายไปไม่ทันชัวร์)
แผนวันที่ 2
พระราชวังอิมพีเรียล > สถานีโตเกียว > โอนิสึกะโตเกียว > บุฟเฟ่ปู > ชิบุย่า โอนิสึกะอีกครั้ง > วัดเมจิ(ปิดแล้วตอน16.00) > shopping ชินจุกุถึงเที่ยงคืน > รถไฟขบวนสุดท้าย
แผนวันที่ 3
นั่งบัสชิบูย่า ไปคาวากุชิโกะ> ดูฟูจิ > เป๋าตังค์เพื่อนหาย> ดูฟูจิ >นั่งบัสกลับชินจูกุ > ไปสถานีตำรวจชินจูกุ > เพิ่งรู้ตัวพาสปอตหายเที่ยงคืนกว่า >”<
แผนวันที่ 4
ไปสถานีตำรวจชิบูย่า > ถ่ายรูปติดพาสปอตที่ตู้ในสถานีชิบูย่า > ไปสถานทูต > ไปดิสนีแลน > นอน
แผนวันที่ 5
Check in online > รถไฟไปสนามบิน terminal1 > โหลดเป๋า > ผ่าน ตม. (ช่องพิเศษ) > Final call > ต่อเครื่องเวียดนาม โดนตรวจอีกรอบ > ตม.ไทยนานสุดดดด
เริ่มการผจญภัย ณ บัดนาว
จากสโลแกน การท่องเที่ยวคือกำลังใจในการทำงาน(อันเหนื่อยยาก) แตะมือกับเพื่อนสาวจะไปเกาหลีกันแต่ดันมีโรคเมิร์ส(ยังมีคนเที่ยวอยู่นะแต่เรากลัว><) ทริปเราเลยทำท่าจะล่ม >__< เลยตัดสินใจรีบเก็บเงินเพิ่มอีกนิด (เป็นนิดที่ดูเยอะ) ไปญี่ปุ่นก่อนละกัน
3 เดือนก่อนไป วางแผนคร่าวๆ ต้องซื้อตั๋วบิน เพื่อนสาวหยุดได้แค่ช่วง 13-22 ตุลาเท่านั้น เลยเล็งหาสายการบินที่ประหยัด เพราะเราจำกัดวันเวลาเดินทางไปนิด ตอนนั้นมีราคาดีๆไม่มาก ได้สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ ไปต่อเครื่อง สอง-สาม ชม. ที่เวียดนาม ราคาคนละ 12,470 บาท full service (สายการบินอื่นๆ เมื่อรวมค่า นน.เป๋าต่างๆแ ล้วยังแพงกว่าเลยยอมต่อเครื่องค่า) จองผ่าน expedai ง่ายดีค่ะ แต่อันนี้จะใช้แอพ Tripcase ในการอัพเดพดูข้อมูล e-ticket ค่ะ
2 เดือนก่อนไป ค่า รร. เริ่มราคาพุ่งขึ้นเอา ขึ้นเอา เริ่มเต็ม!!! ควานหา รร.ที่ใกล้ใต้ดิน (เราใช้รถไฟฟ้าใต้ดินเป็นหลักค่ะ) จองผ่าน expedia เหมือนเดิม ได้ รร.Sakura Hotel Jimbocho เป็นห้องน้ำรวมค่า ชั้นสองมีห้องน้ำ 4 ห้อง ห้องอาบน้ำ 2 ห้อง อ่างล้างหน้าแยกมา 4 อ่าง มีไดร์เป่าผม 2อัน แชมพู ครีมอาบน้ำให้ ห้องค่อนข้างแคบมีเตียงใหญ่กับพื้นที่วางกระเป๋าเดินทาง เต็มห้องพอดี >”< โดยรวมคือสะอาดมาก ห้องน้ำสะอาดแทบไม่ต้องต่อคิว พนักงานดี มีอาหารเช้า ที่สำคัญเดินไม่เกิน 200 เมตรจากใต้ดิน ใกล้มากจริงๆ ราคา 4 คืน= 7,490.12 บาท ตกคนละ 3,745.06 บาท
http://www.sakura-hotel.co.jp/jimbocho
รูปเอามาจากเว็บไซต์ รร. ค่ะ ห้องแคบจริงๆลืมถ่ายรูปมา วางของปุ๊ปเต็มห้องพอดี >__<
1 เดือนก่อนไป เตรียมเอกสารต่างๆ ใบรับรองเงินเดือน (เห็นเค้าว่า ตม.โหด) ใบจองรร. ตั๋วบินกลับ ซื้อตั๋วดิสนี่แลนด์กับทาง HIS ประกันการเดินทาง เช่า pocket wifi ทยอยแลกเงินมาเรื่อยๆ อ่านรีวิวพันทิปจนเบลอเลย
แผนก่อนไป ลอกคนอื่นๆมาปรับ แผนนี้ทำไม่ได้555555
ปรับมาเป็นแผนนี้แทน เพราะหลงทางรถไฟใต้ดินบ้าง ไปไม่ทันเวลา เราก้าวเดินช้าๆ เคลื่อนตัวช้าๆ ต่างๆ นาๆ
3 วันก่อนไป ได้รับอีเมลล์ว่ามีการเลื่อนไฟล์ทบิน ใจหล่นลงไปที่ตาตุ่ม ตั้งสติอ่านอีเมลล์ไม่ได้แย่อะไร แค่เลื่อนเที่ยวออกจากไทยไปเวียดนามจากทุ่มครึ่ง เป็นสองทุ่มว่า >>ทำให้ใช้เวลาไปรอต่อเครื่องที่โฮจิมินน้อยลง การดีเลย์ไฟล์ทครั้งนี้ก็ไม่ได้มีอะไรแย่ แค่ตื่นเต้นเท่านั้นเอง อิอิ อันนี้ถือว่าดี ฟุ่....รอดตัวไป
วันเดินทาง นัดเจอเพื่อนสาวที่ BTS Bearing พ่อเราไปส่งที่สนามบิน เผื่อเวลาเดินทาง ช่วงเช็คอินประมาณ 2-3ชม.จะดีมากๆค่ะสำหรับคนมาครั้งแรก หาจุดเช็คอินจากป้ายบอร์ดใหญ่ๆ สายการบินนี้ได้ นน.เป๋า 30 kg ทั้งไปและกลับนะคะ เค้าจะออกตั๋วให้สองใบเลย
จาก สุวรรณภูมิ>>โฮจิมินท์ และ จากโฮจิมินท์>>นาริตะ อันนี้ขอที่นั่งฝั่งซ้ายเค้าว่าจะเห็นฟูจิซัง คิคิ
Check in เสร็จไปจุดรับ Pocket wifi ของ wifi Plus+ หาง่ายมากเป็นเค้าเตอร์หลังจุด Check in L K เช่าออนไลน์ช่วงที่อาแปะเอาโปรมาแนะนำได้ราคาวัน 120/วัน เค้านับ 6 วัน (นับตั้งแต่วันที่ไทยบุยยย) รวม 720 บาท หาร2 ตกคนละ 360 บาท
แต่ถ้าราคาหน้าเค้าเตอร์จะตกวันละ 250บาท จะได้เป็นกระเป๋าเล็กๆใส่ไวไฟ สายชาตแบต มีค่ามัดจำตัวเครื่อง 2000บาทจะได้คืนตอนกลับมานะฮ้า (ส่วนตัวไม่เคยใช้ไวไฟแบบพกพามาก่อน ตัวนี้ถ้าแบต 100% อยู่ได้ทั้งวันจริงๆ อึดมาก)
เตรียมขึ้นเครื่องที่หน้าเกท 8 จะเป็นพนักงานต้อนรับของการบินไทยมายืนส่ง (ไม่รู้มะกันว่าทำไม หรือเค้าใช้การบินไทยทุกสายการบินเลย 555) ขึ้นเครื่องได้แว้วว พร้อม!!! ขึ้นไปก็แจกอาหาร >_< นั่งแค่ 1ชมครึ่ง ก็ลง เอิ่มมแจกก็กินค่ะเป็นซีฟู๊ดมีลก็กินได้ค่ะ ไม่รู้ว่าอร่อยไหมกินหมดค่า แฮ่ๆ
แปปเดียวเองถึงละ ก็มองป้าย Tranfer จะเป็นจุดนั่งรอหน้า Gate อีกครั้ง คราวนี้สองชม.กว่าๆ ก็เรียกขึ้นเครื่องค่ะ
จุดนี้หาจุดชาตแบตยากนิดนุงค่ะ เผื่อคนที่มือถือแบตจิหมด มีที่เดียวสองรู (เราไปทัน 1 รูพอดี อิอิ)
รอสักพักใหญ่ๆ ประตูเกทก็เปิดเรียกขึ้นเครื่องเช็คเอกสารอีกเล็กน้อย เครื่องลำนี้ใหญ่กว่า มีหน้าจอให้ดูหนังฟังเพลง เล่นเกม เอาตามสะดวก แต่ที่นั่งชั้นประหยัดอะนะ เอนได้สุดแค่นี้ละ55555
อารมคล้ายนั่งรถทัวร์มีจอเล็กๆให้ฟังเพลง
ขึ้นเครื่องก็หลับได้เลยค่ะ เดวเค้าจะแจกข้าวอีกสักชม. สองชม. ก่อนลงนาริตะ รีบกิน รีบอึ ห้องน้ำจะมีคนใช้บ่อยช่วงกินๆ ก่อนลงนี่ละค่ะ
ซูมๆๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น