คือแฟนมีอาการป่วยทางจิตอ่ะครับ คืออยากช่วยเขามากแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง ต้องทำตัวยังไงถึงดีที่สุดครับ ส่วนเรื่องราวคราวๆเดียวเล่าให้ฟังนะครับ
วันนั้นผมไปต่างจังหวัดกะว่าจะนัดเจอกันหลังจากผมกลับมา แต่หลังลงจากเครื่องโทรหาเขาไม่ติดคือติดต่อเขาไม่ได้เลย หลังจากนั้นสามสัปดาห์ก็ยังติดต่อเขาไม่ได้ ผมเลยทำใจว่าเขาคงไม่อยากให้ผมยุ่งกับเขาละ เลยเลิกความพยายาม แต่หลังจากสามสัปดาห์เขาก็โทรมาบอกว่าพึ่งออกจากโรงพยาบาล เป็นผู้ป่วยทางจิตเวช ผมก็รู้สึกโกรธนะแต่ก็โอเคเขาป่วย แต่ได้ประมาณสามวันเขาโทรมาบอกเลิก ผมก็งงๆแต่ก็โอเคถ้าเขาอยากเลิก แต่หลังจากได้สองวันเขาก็โทรมาใหม่บอกว่ายังคิดถึงยังรักเหมือนเดิม ที่นี้ผมก็เลยถามว่าทำไม อยากให้เขาเล่าให้หมด
เขาเลยเล่าว่า ก่อนเข้าโรงพยาบาลเขาเล่าเรื่องการที่เขามีแฟนให้ครอบครัวเขาฟัง ซึ่งครอบครัวเขาไม่ปลื้มมากเพราะไม่อยากให้มีแฟน(ครอบครัวเขาไม่รู้จักผมครับ) และบอกว่าถ้าติดโรคจะไล่ออกจากบ้าน เขาเลยเครียด(ปกติเขาก็เครียดเรื่องเรียนอยู่แล้วซึ่งเทอมนี้เรียนหนักมาก) และอาการกลัวติดโรคทำให้เขากลัวมากขึ้นเพราะครั้งล่าสุดที่เรามีอะไรกันเขาเจ็บคอ (คือป้องกันทุกครั้งที่มีอะไรกัน) เขาเลยเหมือนทรุดไปเลย เข้าเรียนไม่รู้เรื่อง มีอาการเมอลอย ได้ยินเสียงแววในหู เขาเลยกลับบ้าน คนที่บ้านบอกว่าเขาโดนแฟนทำของใส่ (ซึ่งที่นี้มันก็ไปมีน้ำหนักในจิตใจเขาอีกเพราะตอนที่เดตครั้งแรกเราไปวัด แล้วกลางคืนเขาฝันเห็นเปรตซึ่งหน้าเหมือนผม) เขาเลยทรุดหนัก ช๊อกและอาละวาดด่าพ่อตัวเอง ได้ยินเสียวลอยมากระทบหูตลอดเลยต้องเข้าโรงพยาบาล ซึ่งอาการก็ดีขึ้นแล้วเลยออกแต่ใช้เวลาเกือบ 20 วันก็คงหนักน่าดู ซึ่งหมอที่นั่นวินิจฉัยว่าเขาเป็นโรค จิตเฉียบพลัน
เขาเล่าแบบนี้แล้วผมก็เข้าใจเขา บอกว่าพร้อมอยู่เคียงข้างเขาเสมอ หลายวันต่อมาเขาอยากมาหาผมที่มหาวิทยาลัย ผมก็ให้เขามา ซึ่งผมไม่รู้หรอกว่าวันนั้นเขามาบอกเลิกกับผมเป็นทางการ ซึ่งผมถามเหตุผลเขาบอกว่าครอบครัวเขาอยากให้เลิกเพราะกลัวถ้าเกิดเราเลิกกันวันหนึ่งอาการเขาจะทรุดลง และขอร้องผมอย่าให้หายไปจากชีวิตเขา ผมก็โอเค คืออะไรที่ทำให้เขาสบายใจและหายป่วยผมก็ยอมหมดแหละ
และต่อมาเขาก็ยังโทรหาผมบอกว่ายังรักยังคิดถึง ผมเลยถามว่าเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม เขาก็โอเคและดูท่าว่าครอบครัวเขาเหมือนจะไม่แอนตี้แล้ว ซึ่งทุกวันนี้เขาคุยโทรศัพท์กับผมต่อหน้าครอบครัวเขาได้แล้ว บางทีผมคิดว่าเขาดีขึ้นมากแล้วก็แสดงอาการแบบแฟนที่มีโกรธมีงอนอะไรประมาณนี้ แต่พึ่งมารู้ว่าเขายังไม่ดีขึ้นมากหรอก ยังมืนๆยังปวดหัวอยู่
ผมเลยอยากทราบว่าผมจะต้องวางตัวยังไงให้เขาสบายใจและกระทบจิตใจเขามากน้อยที่สุด ทุกวันนี้ได้แค่คุยและให้เขาเล่าอะไรๆให้ฟังเผื่อเขาจะได้สบายใจขึ้น
ส่วนอาการป่วยที่หมอวินิจฉัยจะใส่วัยในสปอยนะคับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หมอบอกว่าเขาเกิดจากการมีความเครียดสะสมมาตั้งแต่เด็ก คือตอนเด็กครอบครัวเขาส่งเขาไปในโรงเรียนม.ปลาย อันดับหนึ่งของประเทศทั้งทีครอบครัวเขาไม่ได้ร่ำรวยอะไร เขาเลยไม่ค่อยมีเพื่อน และหลังเลิกเรียนเขาต้องกลับมาช่วยงานขายของช้ำที่บ้าน เป็นแบบนี้จนถึงม.6 เขาเลยสอบจะเข้าจุฬาแต่สอบเข้าไม่ได้ แล้วพี่สาวเขาก็พูดประมาณว่าให้ไปเรียนตั้งโรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดแล้วยังสอบเข้าจุฬาไม่ได้ เขาเหมือนจะเก็บกดจากตรงนี้ด้วย เขาเลยสอบเข้ามหาลัยอีกทีหนึ่งที่เป็นท๊อป3ของไทยนี้แหละ และสอบได้ที่นี้ ความเป็นอยู่ของเขาก็ไม่ได้ดีขึ้น เขาต้องช่วยที่บ้านทำงาน ขณะที่ที่มหาลัยมีการแข่งขันสูงเขาเลยไม่ค่อยมีเพื่อน ซึ่งดูภายนอกเขาไม่ได้เป็นไรแต่หมอบอกว่าเป็นความเครียดสะสมไปใต้จิตสำนึก จนขึ้นปีสามซึ่งภาควิชาเขาโดยมากแล้วจะไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศหนึ่งปี เขาเลยขอครอบครัวไปซึ่งค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณสามแสนบาท แต่ปรากฏว่าก่อนไปพ่อเขาป่วยหนักเลยไม่มีเงินไป เขาต้องไปส่งเพื่อนขึ้นเครื่องขณะที่เขาไม่ได้ไป ความเครียดเลยสะสมมาเรื่อยๆจนมาระเบิดตอนที่คบกับผมได้ไม่นานนี้แหละครับ ทุกวันนี้เขายังกินยาอยู่ และไปตรวจอีกที่หนึ่ง หมอคนใหม่บอกว่าเป็นโรค Bipolar แบบอ่อนๆ ซึ่งการวินิจฉัยต่างจากหมอคนแรก ทุกวันนี้เขาเป็นคนที่สมาธิสั้น คือนั่งเรียนได้แค่ครึ่งชั่วโมงแล้วก็ต้องเดินเล่นเรื่อยๆ คืออยู่นิ่งๆไม่ได้ และมีอาการปวดหัวตอนเช้าด้วย แต่เขาเหมือนคนปกติและเป็นคนที่ไม่โกรธอะไรง่ายครับ ตั้งแต่คบกันไม่เคยเห็นเขาโกรธอะไรเลย ออกจะบ้าๆบอๆขี้เล่น
ซึ่งผมเองเข้าใจอาการเขามากนะเพราะผมเคยโดนมาแบบนั้นทั้งรู้สึกตัวเองด้อยกว่าคนอื่น(คนในครอบครัวผมนี้แหละเป็นคนยัดเหยียดความรู้สึกนี้ให้) แต่ก็ไม่รู้จะวางตัวยังไง อยากช่วยเขามาก
แฟนป่วยเป็นโรคจิตเวช ต้องวางตัวยังไงครับ
วันนั้นผมไปต่างจังหวัดกะว่าจะนัดเจอกันหลังจากผมกลับมา แต่หลังลงจากเครื่องโทรหาเขาไม่ติดคือติดต่อเขาไม่ได้เลย หลังจากนั้นสามสัปดาห์ก็ยังติดต่อเขาไม่ได้ ผมเลยทำใจว่าเขาคงไม่อยากให้ผมยุ่งกับเขาละ เลยเลิกความพยายาม แต่หลังจากสามสัปดาห์เขาก็โทรมาบอกว่าพึ่งออกจากโรงพยาบาล เป็นผู้ป่วยทางจิตเวช ผมก็รู้สึกโกรธนะแต่ก็โอเคเขาป่วย แต่ได้ประมาณสามวันเขาโทรมาบอกเลิก ผมก็งงๆแต่ก็โอเคถ้าเขาอยากเลิก แต่หลังจากได้สองวันเขาก็โทรมาใหม่บอกว่ายังคิดถึงยังรักเหมือนเดิม ที่นี้ผมก็เลยถามว่าทำไม อยากให้เขาเล่าให้หมด
เขาเลยเล่าว่า ก่อนเข้าโรงพยาบาลเขาเล่าเรื่องการที่เขามีแฟนให้ครอบครัวเขาฟัง ซึ่งครอบครัวเขาไม่ปลื้มมากเพราะไม่อยากให้มีแฟน(ครอบครัวเขาไม่รู้จักผมครับ) และบอกว่าถ้าติดโรคจะไล่ออกจากบ้าน เขาเลยเครียด(ปกติเขาก็เครียดเรื่องเรียนอยู่แล้วซึ่งเทอมนี้เรียนหนักมาก) และอาการกลัวติดโรคทำให้เขากลัวมากขึ้นเพราะครั้งล่าสุดที่เรามีอะไรกันเขาเจ็บคอ (คือป้องกันทุกครั้งที่มีอะไรกัน) เขาเลยเหมือนทรุดไปเลย เข้าเรียนไม่รู้เรื่อง มีอาการเมอลอย ได้ยินเสียงแววในหู เขาเลยกลับบ้าน คนที่บ้านบอกว่าเขาโดนแฟนทำของใส่ (ซึ่งที่นี้มันก็ไปมีน้ำหนักในจิตใจเขาอีกเพราะตอนที่เดตครั้งแรกเราไปวัด แล้วกลางคืนเขาฝันเห็นเปรตซึ่งหน้าเหมือนผม) เขาเลยทรุดหนัก ช๊อกและอาละวาดด่าพ่อตัวเอง ได้ยินเสียวลอยมากระทบหูตลอดเลยต้องเข้าโรงพยาบาล ซึ่งอาการก็ดีขึ้นแล้วเลยออกแต่ใช้เวลาเกือบ 20 วันก็คงหนักน่าดู ซึ่งหมอที่นั่นวินิจฉัยว่าเขาเป็นโรค จิตเฉียบพลัน
เขาเล่าแบบนี้แล้วผมก็เข้าใจเขา บอกว่าพร้อมอยู่เคียงข้างเขาเสมอ หลายวันต่อมาเขาอยากมาหาผมที่มหาวิทยาลัย ผมก็ให้เขามา ซึ่งผมไม่รู้หรอกว่าวันนั้นเขามาบอกเลิกกับผมเป็นทางการ ซึ่งผมถามเหตุผลเขาบอกว่าครอบครัวเขาอยากให้เลิกเพราะกลัวถ้าเกิดเราเลิกกันวันหนึ่งอาการเขาจะทรุดลง และขอร้องผมอย่าให้หายไปจากชีวิตเขา ผมก็โอเค คืออะไรที่ทำให้เขาสบายใจและหายป่วยผมก็ยอมหมดแหละ
และต่อมาเขาก็ยังโทรหาผมบอกว่ายังรักยังคิดถึง ผมเลยถามว่าเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม เขาก็โอเคและดูท่าว่าครอบครัวเขาเหมือนจะไม่แอนตี้แล้ว ซึ่งทุกวันนี้เขาคุยโทรศัพท์กับผมต่อหน้าครอบครัวเขาได้แล้ว บางทีผมคิดว่าเขาดีขึ้นมากแล้วก็แสดงอาการแบบแฟนที่มีโกรธมีงอนอะไรประมาณนี้ แต่พึ่งมารู้ว่าเขายังไม่ดีขึ้นมากหรอก ยังมืนๆยังปวดหัวอยู่
ผมเลยอยากทราบว่าผมจะต้องวางตัวยังไงให้เขาสบายใจและกระทบจิตใจเขามากน้อยที่สุด ทุกวันนี้ได้แค่คุยและให้เขาเล่าอะไรๆให้ฟังเผื่อเขาจะได้สบายใจขึ้น
ส่วนอาการป่วยที่หมอวินิจฉัยจะใส่วัยในสปอยนะคับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้