ดิฉันเขียนข้อมูลนี้ขึ้น เผื่อว่าท่านใดอยากออกท่องเที่ยวแต่กังวลในเรื่องงบประมาณนะคะ
สอง(ไม่)สาวไปมาเลเซียเส้นทางปุตราจายา-กัวลาลัมเปอร์-มะละกา-สิงคโปร์
เราบินไปไฟล์ทแรกของเช้าวันอังคาร 13ต.ค. ลงที่KL กลับมาวันอาทิตย์ที่ 18ต.ค.จากสิงคโปร์ค่ะ
1. เราหาตั๋วข้อเสนอนาทีสุดท้ายแอร์เอเชียและรวมโรงแรมไปลงKLจากเวปแอร์เอเชียโกค่ะ โรงแรมเราเลือกV'la Heritage ที่บูกิตบินตัง
ที่เราเลือกบูกิตบินตังเพราะสะดวกทางด้านอาหาร และการเดินทางเนื่องจากมีทั้งโมโนเรล รถเมล์ฟรี และทางเดินเชื่อมไปKLCCค่ะ
ห้องที่เราไปพักก็จะไม่ใหญ่ แต่สะอาดและมีห้องน้ำในตัวค่ะ
-วันที่1-
2. ถึงสนามบินKLIA2แล้ว เรานั่งรถไฟความเร็วสูงไปลงที่สถานีปุตราจายาเลยค่ะ เนื่องจากเราแบกเป้มาแค่คนใบ ถึงปุตราจายาแล้วเราต่อรถเมล์ไปลงด้านหน้ามัสยิดสีชมพูเลยค่ะ ทานอาหารกลางวันในฟู๊ดคอร์ดและชมมัสยิด ช่วงบ่ายแก่ๆเดินผ่านทำเนียบและลัดเลาะไปที่ป้ายรถเมล์ทางด้านหลังเพื่อนั่งกลับมาที่สถานีปุตราจายา
3. จากสถานีปุตราจายา เรานั่งรถไฟความเร็วสูงมาลงที่สถานีBandar Tasik Selatan ที่นี่จะเป็นจุดเชื่อมต่อคมนาคมต่างๆค่ะ ที่สถานีนี้เราซื้อตั๋วไปลงที่บูกิตบินตังได้เลยค่ะ โดยเราจะต้องนั่งรถไฟไปลงที่สถานีHang Tuahก่อนและไปเปลี่ยนเป็นMonorailที่สถานี้นี้ ทางเดินจะเชื่อมต่อกันหมดค่ะ เราจะไม่ต้องออกจากสถานี แป๊บเดียวก็จะถึงบูกิตบินตังค่ะ
4. เราสามารถเดินเล่นแถบบูกิตบินตังและใช้ทางเชื่อมจากห้างPavillionเพื่อเดินไปKLCCได้ค่ะ หรือหากว่าไม่ชอบเดินก็สามารถนั่งรถเมล์ฟรีGoKLได้ค่ะ
ส่วนอาหารการกินรอบค่ำที่ถนน Jalan Alorนี้จะมีทั้งคืนค่ะ ผับบาร์ก็จะเปิดมากมาย ข้อเสียของโรงแรมแถบนี้คือบางที่จะได้ยินเสียงเพลงจากผับบาร์ค่ะ
-วันที่2-
ุ5. เรานั่งโมโนเรลจากบูกิตบินตังไปลงที่สถานีKL Sentral เพื่อต่อรถไฟไปถ้ำบาตู หลังจากเที่ยวถ้ำบาตูแล้วเรานั่งรถไฟมาลงที่สถานีKuala Lumpur จากสถานีนี้เราสามารถเดินไปCentral Market จากนั้นเดินไปMerdeka Square แล้วเลี้ยวไปทางมัสยิดJamekและเดินย้อนกลับมาCentral Marketเพื่อเดินต่อไปChinatownได้ค่ะ
6. หลังจากชมChinatownแล้ว เราสามารถเดินมาขึ้นรถเมล์ฟรีGoKlต้นสายที่Pasar Seniเพื่อกลับมาที่บูกิตบินตังได้ค่ะ
-วันที่3-
7. เราเดินทางจากบูกิตบินตังด้วยโมโนเรลไปลงที่สถานีHang Tuah และต่อรถไฟไปลงที่สถานีBandar Tasik Selatan จากนั้นเดินทางเชื่อมไปTBSเพื่อซื้อตั๋วและต่อรสบัสไปมะละกาค่ะ รถบัสถูกมากไม่ถึง100บาท และดีมากๆเบาะนั่งกว้างขวางสบาย
8.เมื่อถึงสถานีมะละกาเราก็นั่งรถเมล์ไปลงที่Dutch Squareได้เลยค่ะ เดินเที่ยวชมจุดสำคัญต่างๆ
*เราเที่ยวมะละกาแค่ช่วงบ่ายไม่ได้ค้างคืน และช่วงเย็นต่อรถบัสไปสิงคโปร์ เนื่องจากตอนที่เราจองตั๋วแอร์เอเชียโกเราจองแบบไปกลับรวมโรงแรมที่มาเลเซีย แต่หลังจากนั้นเราหาข้อมูลเพิ่มเติมและพบว่าตั๋วรถบัสไปสิงคโปร์จากมะละการาคาไม่ถึง300บาท เราเลยทิ้งตั๋วกลับจากมาเลเซียและเดินทางต่อไปสิงคโปร์ค่ะ*
การไปมาเลเซียด้วยเงินจำนวน2,000บาทสำหรับ3วันโดยไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินและโรงแรมก็สามารถเที่ยวได้สบายๆเลยนะคะ
เนื่องจากการคมนาคมสะดวกสบายและราคาถูกมากๆ อาหารก็จานใหญ่กินหนึ่งจานก็อิ่มมากค่ะ ผู้คนเป็นมิตรและสนทนาภาษาอังกฤษได้
แต่อย่างไรก็ตามดิฉันคิดว่าแม้เราจะแบ็คแพ็คก็ควรมีเงินสำรองส่วนหนึ่งเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินด้วยค่ะ
*สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคนงบน้อยคือการวางแผนก่อนออกเดินทางค่ะ*
สำหรับแบ็คแพ็คเกอร์มือใหม่งบน้อย เส้นทางมาเลเซียก็สนุกได้ค่ะ
สอง(ไม่)สาวไปมาเลเซียเส้นทางปุตราจายา-กัวลาลัมเปอร์-มะละกา-สิงคโปร์
เราบินไปไฟล์ทแรกของเช้าวันอังคาร 13ต.ค. ลงที่KL กลับมาวันอาทิตย์ที่ 18ต.ค.จากสิงคโปร์ค่ะ
1. เราหาตั๋วข้อเสนอนาทีสุดท้ายแอร์เอเชียและรวมโรงแรมไปลงKLจากเวปแอร์เอเชียโกค่ะ โรงแรมเราเลือกV'la Heritage ที่บูกิตบินตัง
ที่เราเลือกบูกิตบินตังเพราะสะดวกทางด้านอาหาร และการเดินทางเนื่องจากมีทั้งโมโนเรล รถเมล์ฟรี และทางเดินเชื่อมไปKLCCค่ะ
ห้องที่เราไปพักก็จะไม่ใหญ่ แต่สะอาดและมีห้องน้ำในตัวค่ะ
-วันที่1-
2. ถึงสนามบินKLIA2แล้ว เรานั่งรถไฟความเร็วสูงไปลงที่สถานีปุตราจายาเลยค่ะ เนื่องจากเราแบกเป้มาแค่คนใบ ถึงปุตราจายาแล้วเราต่อรถเมล์ไปลงด้านหน้ามัสยิดสีชมพูเลยค่ะ ทานอาหารกลางวันในฟู๊ดคอร์ดและชมมัสยิด ช่วงบ่ายแก่ๆเดินผ่านทำเนียบและลัดเลาะไปที่ป้ายรถเมล์ทางด้านหลังเพื่อนั่งกลับมาที่สถานีปุตราจายา
3. จากสถานีปุตราจายา เรานั่งรถไฟความเร็วสูงมาลงที่สถานีBandar Tasik Selatan ที่นี่จะเป็นจุดเชื่อมต่อคมนาคมต่างๆค่ะ ที่สถานีนี้เราซื้อตั๋วไปลงที่บูกิตบินตังได้เลยค่ะ โดยเราจะต้องนั่งรถไฟไปลงที่สถานีHang Tuahก่อนและไปเปลี่ยนเป็นMonorailที่สถานี้นี้ ทางเดินจะเชื่อมต่อกันหมดค่ะ เราจะไม่ต้องออกจากสถานี แป๊บเดียวก็จะถึงบูกิตบินตังค่ะ
4. เราสามารถเดินเล่นแถบบูกิตบินตังและใช้ทางเชื่อมจากห้างPavillionเพื่อเดินไปKLCCได้ค่ะ หรือหากว่าไม่ชอบเดินก็สามารถนั่งรถเมล์ฟรีGoKLได้ค่ะ
ส่วนอาหารการกินรอบค่ำที่ถนน Jalan Alorนี้จะมีทั้งคืนค่ะ ผับบาร์ก็จะเปิดมากมาย ข้อเสียของโรงแรมแถบนี้คือบางที่จะได้ยินเสียงเพลงจากผับบาร์ค่ะ
-วันที่2-
ุ5. เรานั่งโมโนเรลจากบูกิตบินตังไปลงที่สถานีKL Sentral เพื่อต่อรถไฟไปถ้ำบาตู หลังจากเที่ยวถ้ำบาตูแล้วเรานั่งรถไฟมาลงที่สถานีKuala Lumpur จากสถานีนี้เราสามารถเดินไปCentral Market จากนั้นเดินไปMerdeka Square แล้วเลี้ยวไปทางมัสยิดJamekและเดินย้อนกลับมาCentral Marketเพื่อเดินต่อไปChinatownได้ค่ะ
6. หลังจากชมChinatownแล้ว เราสามารถเดินมาขึ้นรถเมล์ฟรีGoKlต้นสายที่Pasar Seniเพื่อกลับมาที่บูกิตบินตังได้ค่ะ
-วันที่3-
7. เราเดินทางจากบูกิตบินตังด้วยโมโนเรลไปลงที่สถานีHang Tuah และต่อรถไฟไปลงที่สถานีBandar Tasik Selatan จากนั้นเดินทางเชื่อมไปTBSเพื่อซื้อตั๋วและต่อรสบัสไปมะละกาค่ะ รถบัสถูกมากไม่ถึง100บาท และดีมากๆเบาะนั่งกว้างขวางสบาย
8.เมื่อถึงสถานีมะละกาเราก็นั่งรถเมล์ไปลงที่Dutch Squareได้เลยค่ะ เดินเที่ยวชมจุดสำคัญต่างๆ
*เราเที่ยวมะละกาแค่ช่วงบ่ายไม่ได้ค้างคืน และช่วงเย็นต่อรถบัสไปสิงคโปร์ เนื่องจากตอนที่เราจองตั๋วแอร์เอเชียโกเราจองแบบไปกลับรวมโรงแรมที่มาเลเซีย แต่หลังจากนั้นเราหาข้อมูลเพิ่มเติมและพบว่าตั๋วรถบัสไปสิงคโปร์จากมะละการาคาไม่ถึง300บาท เราเลยทิ้งตั๋วกลับจากมาเลเซียและเดินทางต่อไปสิงคโปร์ค่ะ*
การไปมาเลเซียด้วยเงินจำนวน2,000บาทสำหรับ3วันโดยไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินและโรงแรมก็สามารถเที่ยวได้สบายๆเลยนะคะ
เนื่องจากการคมนาคมสะดวกสบายและราคาถูกมากๆ อาหารก็จานใหญ่กินหนึ่งจานก็อิ่มมากค่ะ ผู้คนเป็นมิตรและสนทนาภาษาอังกฤษได้
แต่อย่างไรก็ตามดิฉันคิดว่าแม้เราจะแบ็คแพ็คก็ควรมีเงินสำรองส่วนหนึ่งเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินด้วยค่ะ
*สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคนงบน้อยคือการวางแผนก่อนออกเดินทางค่ะ*