เข้าเรื่องเลยนะครับ อันนี้เริ่มต้นเป็นความผิดพลาดของเพื่อนของคนรู้จัก ได้ยินเรื่องราวมาเฉยๆ ด้วยความไว้ใจเพื่อนร่วมงาน
ทำการซื้อรถโดยให้ยืมชื่อ เพื่อทำสัญญาเช่าซื้อไฟแนนท์ สาเหตุจากเพื่อนติดขึดปัญหาบางประการ
เริ่มต้นไม่มีสัญญาผูกมัดใดๆ (พลาดประการที่สอง) ไม่มีสัญญาเช่าซื้อ สัญญาจะซื้อจะขาย สัญญาเช่ายืม
พลาดอย่างที่สาม ให้เขาไปหมดเลย ทั้งสัญญาเช่าซื้อจากไฟแนนท์ กุญแจตัวจริง สำรอง
ยังดีที่จิ้กสำเนาเล่ม กับสำเนาบัตรประชาชนมาได้
ปัญหามันเริ่มต้นที่ทะเลาะกัน ญาติก็เรียกเพื่อนมาเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อกับไฟแนนท์ เคลียร์ยอดหนี้กับไฟแนนท์แล้วปิดสัญญาไป
หรือไม่ก็มาเซ็นสัญญาเช่ายืมให้เป็นเรื่องเป็นราว
อีกฝ่ายก็แย่ บ่ายเบี่ยงมาตลอด เพราะคิดว่าถือไพ่เหนือกว่า รถอยู่ที่เขา ยอดหนี้ยังมีอยู่เยอะ ถ้ารถไม่ผ่อนไฟแนนท์ก็ไปทวงกะญาติผมอะสิ
พยายามให้หลายๆฝ่ายช่วย ตำรวจก็ไม่ช่วย ปัดว่าเป็นเรื่องทางแพ่ง เขาไม่ยุ่ง ขนาดให้ไปแค่ไกล่เกลี่ยที่บ้านคู้กรณียังไม่ไปเลย
ไฟแนนท์ก็ไม่อะไรทั้งสิ้น บอกจะปิดสัญญาให้มายึดรถ ก็ไม่ได้ต้องเอารถไปคืนที่ไฟแนนท์เอง
จะยึดรถก็ต้องรอขาดส่งสี่เดือนซะก่อน แล้วถ้ารถหายสาปสูญละ ใครซวย
สรุปนะฮะ อัตตาหิ อัตตาโนนาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน...
มาถึงเรื่องที่จะแนะแนวทาง
เช็คเลยว่า ได้ทำสัญญาเช่ายืม เช่าซื้อ จะซื้อจะขาย หรือเซ็นเอกสารโอนลอยอะไรไว้มั้ย ถ้าไม่มี..สบาย เรื่องนี้ง่าย
เจอรถจอดที่สาธารณะที่ใดๆก็ตาม กุญแจไม่มีไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมาก
เตรียมเอกสารคัดสำเนาจากไฟแนนท์ให้ครบๆ เจอรถที่ไหน เรียกรถยกมายกเลยครับ ยกแล้วเอาไปเปลี่ยนกุญแจที่ศูนย์
แล้วค่อยเปิดเจรจา Action First Talk After..
ใครจะขู่ว่าจะโดนฟ้องเรียกสิทธของรถ ว่าเขาเป็นคนผ่อน ไม่ต้องกลัวครับ ยังทวงสิทธอะไรกันเวลานั้นไม่ได้
มันเป็นเรื่องหลังจากนี้ ที่คนผ่อนต้องไปจ้างทนาย ฟ้องศาลเอา นาน..ยาว..มหากาพย์..บอกเลย
แล้วฝ่ายนั้นเองก็ต้องไปหาหลักฐานการผ่อนชำระอีก ซึ่งก็ยากเองสำหรับเขาเช่นกัน
เบ็ดเสร็จหักลบกลบหนี้ หักค่าเช่า ค่าเสื่อม เราก็ไม่เสียอะไรหรอก อาจจะแค่เสมอตัว
เรื่องหลักๆ ที่ต้องจัดการคือ
รถชื่อเรา มันต้องอยู่กับเรา เรื่องอื่นช่างมันไว้ก่อน
รถไม่ผ่อน ไฟแนนท์มันทวงกับเรา ไม่ได้ทวงกับคนที่ผ่อน
เรื่องตลกเกี่ยวกับความเข้าใจกฏหมายคนไทย ก็คือ
มักมีคนเข้าใจว่า ถ้าอีกฝ่ายผ่อน ก็จะมีสิทธในรถไปด้วย ตลกมั้ย...โคตรตลก
ทีตอนรถผ่อน แม่มเผือก มีสิทธกันหมด ทั้งคนขับ คนผ่อน คนจ่าย
ต่อไปอิพนักงานเซเว่นที่โอนเงินเขาแบงค์ คงอ้างสิทธด้วย
แต่พอตอนรถขาดส่ง ไฟแนนท์ดันตามกะคนเช่าซื้อคนเดียว ตลกมากกกกกกกกก!!!!!
ความเป็นจริงก็คือ ใครเช่าซื้อ คนนั้นมีสิทธทุกประการ สิทธคนเดียวด้วย
ส่วนเรื่องอีกคนผ่อน ผมเคยอ่านแว้ปๆว่า
ศาลท่านตัดสิน กรณีผู้ผ่อนอ้างสิทธในตัวรถ ว่า
เป็นการชำระหนี้โดยที่รู้ว่า มิใช้หนี้สินของตนเอง
แปลภาษาบ้านๆก็คือ เผือกโง่ผ่อนหนี้ใครคนอื่นเอง ประมาณนั้น ยกฟ้อง จบปิ้ง..
แนวทางการแก้ปัญหา เพื่อนยืมชื่อซื้อรถแล้วไม่ผ่อน
ทำการซื้อรถโดยให้ยืมชื่อ เพื่อทำสัญญาเช่าซื้อไฟแนนท์ สาเหตุจากเพื่อนติดขึดปัญหาบางประการ
เริ่มต้นไม่มีสัญญาผูกมัดใดๆ (พลาดประการที่สอง) ไม่มีสัญญาเช่าซื้อ สัญญาจะซื้อจะขาย สัญญาเช่ายืม
พลาดอย่างที่สาม ให้เขาไปหมดเลย ทั้งสัญญาเช่าซื้อจากไฟแนนท์ กุญแจตัวจริง สำรอง
ยังดีที่จิ้กสำเนาเล่ม กับสำเนาบัตรประชาชนมาได้
ปัญหามันเริ่มต้นที่ทะเลาะกัน ญาติก็เรียกเพื่อนมาเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อกับไฟแนนท์ เคลียร์ยอดหนี้กับไฟแนนท์แล้วปิดสัญญาไป
หรือไม่ก็มาเซ็นสัญญาเช่ายืมให้เป็นเรื่องเป็นราว
อีกฝ่ายก็แย่ บ่ายเบี่ยงมาตลอด เพราะคิดว่าถือไพ่เหนือกว่า รถอยู่ที่เขา ยอดหนี้ยังมีอยู่เยอะ ถ้ารถไม่ผ่อนไฟแนนท์ก็ไปทวงกะญาติผมอะสิ
พยายามให้หลายๆฝ่ายช่วย ตำรวจก็ไม่ช่วย ปัดว่าเป็นเรื่องทางแพ่ง เขาไม่ยุ่ง ขนาดให้ไปแค่ไกล่เกลี่ยที่บ้านคู้กรณียังไม่ไปเลย
ไฟแนนท์ก็ไม่อะไรทั้งสิ้น บอกจะปิดสัญญาให้มายึดรถ ก็ไม่ได้ต้องเอารถไปคืนที่ไฟแนนท์เอง
จะยึดรถก็ต้องรอขาดส่งสี่เดือนซะก่อน แล้วถ้ารถหายสาปสูญละ ใครซวย
สรุปนะฮะ อัตตาหิ อัตตาโนนาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน...
มาถึงเรื่องที่จะแนะแนวทาง
เช็คเลยว่า ได้ทำสัญญาเช่ายืม เช่าซื้อ จะซื้อจะขาย หรือเซ็นเอกสารโอนลอยอะไรไว้มั้ย ถ้าไม่มี..สบาย เรื่องนี้ง่าย
เจอรถจอดที่สาธารณะที่ใดๆก็ตาม กุญแจไม่มีไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมาก
เตรียมเอกสารคัดสำเนาจากไฟแนนท์ให้ครบๆ เจอรถที่ไหน เรียกรถยกมายกเลยครับ ยกแล้วเอาไปเปลี่ยนกุญแจที่ศูนย์
แล้วค่อยเปิดเจรจา Action First Talk After..
ใครจะขู่ว่าจะโดนฟ้องเรียกสิทธของรถ ว่าเขาเป็นคนผ่อน ไม่ต้องกลัวครับ ยังทวงสิทธอะไรกันเวลานั้นไม่ได้
มันเป็นเรื่องหลังจากนี้ ที่คนผ่อนต้องไปจ้างทนาย ฟ้องศาลเอา นาน..ยาว..มหากาพย์..บอกเลย
แล้วฝ่ายนั้นเองก็ต้องไปหาหลักฐานการผ่อนชำระอีก ซึ่งก็ยากเองสำหรับเขาเช่นกัน
เบ็ดเสร็จหักลบกลบหนี้ หักค่าเช่า ค่าเสื่อม เราก็ไม่เสียอะไรหรอก อาจจะแค่เสมอตัว
เรื่องหลักๆ ที่ต้องจัดการคือ
รถชื่อเรา มันต้องอยู่กับเรา เรื่องอื่นช่างมันไว้ก่อน
รถไม่ผ่อน ไฟแนนท์มันทวงกับเรา ไม่ได้ทวงกับคนที่ผ่อน
เรื่องตลกเกี่ยวกับความเข้าใจกฏหมายคนไทย ก็คือ
มักมีคนเข้าใจว่า ถ้าอีกฝ่ายผ่อน ก็จะมีสิทธในรถไปด้วย ตลกมั้ย...โคตรตลก
ทีตอนรถผ่อน แม่มเผือก มีสิทธกันหมด ทั้งคนขับ คนผ่อน คนจ่าย
ต่อไปอิพนักงานเซเว่นที่โอนเงินเขาแบงค์ คงอ้างสิทธด้วย
แต่พอตอนรถขาดส่ง ไฟแนนท์ดันตามกะคนเช่าซื้อคนเดียว ตลกมากกกกกกกกก!!!!!
ความเป็นจริงก็คือ ใครเช่าซื้อ คนนั้นมีสิทธทุกประการ สิทธคนเดียวด้วย
ส่วนเรื่องอีกคนผ่อน ผมเคยอ่านแว้ปๆว่า
ศาลท่านตัดสิน กรณีผู้ผ่อนอ้างสิทธในตัวรถ ว่า
เป็นการชำระหนี้โดยที่รู้ว่า มิใช้หนี้สินของตนเอง
แปลภาษาบ้านๆก็คือ เผือกโง่ผ่อนหนี้ใครคนอื่นเอง ประมาณนั้น ยกฟ้อง จบปิ้ง..