[CR] รีวิว ทริปกาญฯ นะจ๊ะบุรี (ไม่จน ไม่รวย ไม่ซีด)

รีวิวที่2 สำหรับผม จุดเริ่มต้นมาจากเพื่อนคนเดิมชวนไปเที่ยว
และเหมือนเดิมว่าผมตอบตกลงแบบไม่คิดอะไรเลย
และเหมือนเดิมยิ่งกว่าคือเราไปแบบไม่มีแผนการอะไรทั้งนั้น

เราออกเดินทางในเช้าวันเสาร์ กลางเดือนตุลาคม โดยขับรถไป
ที่พักเพื่อนผมจองให้แล้ว ที่Jungle raft  เป็นแพรีสอร์ทตามชื่เลยครับ
ลอยลำกลางลำน้ำแคว ราคาหัวละ1200 รวมอาหารเข้าเย็น ไม่อั้น
ที่เด็ดคือไม่มีไฟฟ้า ที่เด็ดกว่าคือไม่มีประตูห้องน้ำจ้า

นั่นคือสิ่งที่พวกเรารู้ แต่ก็สนที่ไหนล่ะ หลังจากทราบพิกัดคนมาครบก็ล้อหมุนได้!!

กติกาสำคัญของการเดินทางเราคือเราจะคุมงบ ไม่น้อยไป และไม่ใช้เกิน
เราเลยเอาเงินมากองรวมกันคนละพัน เป็นกองกลาง ทุกการใช้จ่ายหลังจากนี้
เราจะเบิกจากเหรัญญิกเท่านั้น หมดแล้วหมดเลย เหลือหารคืน

เราเปิดแผนที่ไปเดินทางไป จุดหมายแรกที่เราผ่าน และเราตัดสินใจแวะคือ..

สะพานข้ามแม่น้ำแคว กับทางรถไฟสายมรณะ

ความจริงรูปเยอะ แต่ส่วนมากรูปพวกเรากันเองครับ ขอไม่ลงละกัน
กลัวทุกท่านจะเสียบรรยากาศ (ฮา)

แดดแรงมากนะครับ และคนก็เยอะมาก แต่ถ้าท่านอยากได้รูปที่โล่งๆคนไม่มี
แนะนำให้ท่านเดินเข้าไปให้สุดจนข้ามแม่น้ำไปเลยครับ คนส่วนมากกลับตอนครึ่งทาง

หลังนั้นเราก็ออกเดินทางต่อครับ อีกจุดนึงที่เราเฉียดๆ อยู่บนเส้นทาง ก็คือ...
ปราสาทสิงห์ครับ สวยงามตามท้องเรื่อง



มันเงียบสงบมากครับ อาจเพราะวันที่ผมไป ช่วงเย็นพระเทพเสด็จมาด้วย เขาเตรียมงานกัน
พวกโบราณวัตถุ ถูกย้ายไปที่พิพิทธภัณฑ์หมด และสร้างองค์จำลองมาตั้งให้เราเห็นภาพ

ยิ่งใหญ่และสวยงามครับ

หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทางไปเป้าหมาย แวะพักทานข้าวที่น้ำตกไทรโยกน้อยครับ
คนเยอะมาก และหิวมาก เลยไม่ค่อยได้ลั่นชัตเตอร์เลย ขอข้ามเลยละกันครับ
อ้อมีเมนูที่ผมสนใจ เลยถ่ายมา คือโรตีมะพร้าวครับ เอามาฝาก


เลยจากน้ำตกไทรโยกน้อยมาไม่กี่กิโล เราก็มาถึงแพ ที่เราจะขึ้นเรือเพื่อไปรีสอร์ทครับ
นั่งเรือไปราวๆ20นาที มาถึงแพก็แจ้งชื่อกับทางแพ เขามีรายชื่อแขกของแต่ละรีสอร์ทไว้ละ
บรรยากาศทั้ง2ฝั่งเป็นลำน้ำแคว โอบล้อมด้วยหน้าผาหิน และไผ่มากมายบนภูเขา


เรามาถึงกันก็เย็นเลยครับ 5โมง ก็รีบไปเล่นน้ำ เพราะหลัง6 โมงห้ามลงแล้ว
เราก็ยังงงๆ และถามว่า โดดลงเองนอกเวลาได้ไหม เขาก็ห้ามครับ ก็ลืมคิดไป
นั่นมันแม่น้ำ ไม่ใช่บ่อ ไม่ใช่คลอง-*-


อันนี้ขอเตือนว่าอันตรายมากนะครับ และผมประมาทในการท่องเที่ยวมาก
คือไม่ใส่ชูชีพ โดดน้ำ ตีลังกาเล่น ครั้งที่3ที่ผมโดดลงไป ผมลอยไปกลางแม่น้ำ
และกระแสน้ำแรงมาก ผมว่ายเข้าฝั่งไม่ได้ และสติแตกจนเกือบจะลืมลอยตัว
ใช้เวลาไม่กี่วิ ผมลอยไปสุดแพ จากห้องพัก1 ถึง20กว่า
ไปเกาะได้ก็แพท้ายๆพอดีครับ รีบวิ่งกลับมาเอาชูชีพใส่เลย T T



เรารีบมากและไม่ได้ถ่ายภาพห้องพักมา เอาเป็นว่าสวย ใช้ตะเกียงแทนไฟฟ้า
มีน้ำสะอาด อาบได้ดีมาก ไม่มีประตูห้องน้ำ เวลาอาบหามุมวางตะเกียงดีๆ
ถ้าหากท่านไม่อยากเล่นละครเงาให้เพื่อนท่านดูครับ

ห้องพักเราจะมีที่นั่งและเปล นอกจากนี้หลังห้องก็มีระเบียง และเปลส่วนตัวด้วยครับ

มื้อเย็น ก็ทามกลางแสงตะเกียง มือจนถ่ายภาพมาได้นิดหน่อย
จะยิงแฟรชก็คงจะแยงตาโต๊ะอื่นเขา งั้นเก็บไว้
อาหารที่นี่เป็นอาหารไทยนะครับ เสริฟเรื่อยๆไม่อั้น ทำและบริการโดยชาวมอญ




ชาวมอญนิสัยดีมาก และหลังจากที่เราตื่นแล้วเราก็รีบไปเยี่ยมชาวมอญกันแต่เช้าเลยครับ
ตอนเช้าก็มีหมอกลง กลืนภูเขาให้หายไปสวยงามครับ




หมู่บ้านที่นี่มีรายได้จากการทำงานกับรีสอร์ท กิจวัตรของคนที่นี่ก็ ตกแต่งหมู่บ้าน ดูแลรีสอร์ท
ทำไร่ ทำสวน และยึดวิถีชีวิตเดิมๆไว้ครับ น่าสนใจมาก

ส่วนที่พัฒนาหมู่บ้าน ก็เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เดินขึ้นมา แต่มันทำให้ที่นี่น่าอยู่มากครับ
อย่างเช่นทางเดินตลอดทั้งหมู่บ้าน กันฝนกันแดดกันไป


เราไปตอนทุกคนทานข้าวครับ เลยมีแต่เรา ไม่มีนักท่องเที่ยว
คนในหมู่บ้านส่วนมากก็ไปช่วยที่แพกันอยู่
ที่นี่มีวัด มีถ้ำ มีโรงเรียน มีปางช้างเล็กๆ ที่มีช้างอยู่2เชือกครับ




แล้วเราก็รีบกลับไปที่รีสอร์ท เพราะช้างที่เราอยากเจอ กำลังไปอาบน้ำอยู่ข้างแพครับ

พวกเราก็ไปขอพวกเปลือกสัปรด หรืออะไรที่ช้างทานได้ เอามาป้อนมันครับ

หลังจากที่ร่ำลาคุณช้างก็มาทานข้าวครับ แน่นอนว่าไม่เหลือใครแล้ว เขาไปหมู่บ้านมอญกัน
เราไปเขาอยู่ เรามาเขาไป (ฮา) อาหารเช้าเป็น ABF ครับ ไม่อั้น แต่ไม่ได้มีไลน์ให้ไปตักนะครับ
เหมือนมื้อเย็นครับ คือทานทีบะจาน หมดสั่งใหม่ดีครับ ไม่ทิ้งขว้างดี


หลังจากเราทานเสร็จก็ไปอาบน้ำครับ แขกห้องอื่นๆก็กลับมาและเช็คเอาท์ออกไปกันหมดเลย
เหลือแค่พวกเรากลุ่มสุดท้าย แปลกแยกตลอด (ฮา)
ก่อนกลับเราตัดสินใจขึ้นไปหมู่บ้านมอญอีกครั้งครับ และนั่นมันดีมากๆ
เราไปเจอช้าง 2เชือก ที่ปาง ครับ และใกล้ๆคือโรงเรียน และตอนนี้เต็มไปด้วยเด็กๆ
ตอนที่เราเปลี่ยนใจจากช้างไปหาเด็กๆ ช้างก็เดินมาหาเราครับ
เราเลยได้แลกเปลี่ยนความรู้สึกกันผ่านการสัมผัส ขี้อ้อนมากกกก เหมือนเลี้ยงหมา
มาไซร์ มาจับ พอเอามือวางก็นิ่ง พริ้มเลยครับ เหมือนหมาที่บ้าน ที่ชอบให้ลูบ


หลังจากลาคุณช้าง ก็ไปหาน้องๆที่โรงเรียนครับ น้องๆกำลังเล่นการละเล่นมอญพื้นบ้าน
พวกผมก็ไปเล่นกับน้องๆ สนุก มากครับ ซับซ้อน สมบูรณ์ ใช้แรงกายและสมองได้ดีมาก
สนุกกว่าการละเล่นไทย หรือการละเล่นพื้นบ้านใดที่ผมนึกออก
ที่น่าสนใจสุดคือเราได้คุยกับคุณครูครับ ครูเล่าว่า
เขาเป็นคนพม่า ที่ทางรีสอร์ทจ้างมา ไม่รู้จริงเท็จนะครับเขาเล่าว่า
เด็กที่นี่ จะไปเรียนกับทางรัฐ วันจันทร์-ศุกร์ เรียนหลักสูตรภาษาไทย
เด็กพวกนี้ฟังมอญได้ แต่ไม่พูด จะพูดไทย หรือเวลาเรียนภาษามอญ ก็จะสะกดการออกเสียงด้วยคำไทย
ไม่ใช้มอญครับ เจ้าของรีสอร์ท เลยจ้างเขามา ให้มาสอนเด็กๆวันเสาร์อาทิตย์
ใครอยากเรียนก็จะมาที่โรงเรียนเพื่อเรียน จะสอนภาษาอังกฤษ ภาษาพม่า และภาษามอญ
จะเริ่มเรียนกันก็9โมงสิบโมง จะเริ่มจากสอนการละเล่นพื้นบ้าน ต่างๆก่อน
แล้วเมื่อ10โมงจะสวดมนต์ หลังจากนั้นก็จะเรียน อีกชั่วโมงนึงครับในแต่ละวัน


หลังจากร่ำลาน้องๆและคุณครู เราก็ออกเดินทาง เก็บข้าวใส่กระเป๋าความทรงจำใส่สมอง
จบแล้วครับทริปนี้ สุดท้ายเราก็หารเงินคืนกัน คนละ300กว่าบาทได้ครับ
สรุปทริปนี้เราหมดไป 2000ต่อคนครับ รวมอาหาร ที่พัก ค่าน้ำมัน 2วัน1คืน
พบกันใหม่ทริปหน้าครับ^^


กล้องที่ใช้เป็น 550D เลนส์ Fix50mm, Kit18-55mm+ filter wide ทำเอง
ภาพที่โค้งๆขอบมันเลยเบลอๆนะครับ
Process โดย Light room ครับ
ชื่อสินค้า:   Jungle Rafts Resort
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่