พอเริ่มโตมาหน่อย น่าจะประมาณ ม.3
ฉายาใหม่ตอนเรียนสมัยมัถยม อีดำ กระดานโต้คลื่น(หน้าอกแบน) จมูกบาน เหมือนเป็นปมด้อยเหมือนกันนะ เราดำไม่สวย และเพื่อนๆในกลุ่มก็ต่างมีแฟน ทำให้เราเหมือนเป็นแกะดำ หลังจากนั้นเริ่มหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น

พอเรียนปี 3 เก็บตังค์ได้หน่อยก็เริ่มกระแดะอยากจัดฟัน ตอนนั้นไม่มีปัญหาอะไรกับฟันเลยนะ แต่ที่อยากจัดฟันเพราะเห็นว่าคนอื่นจัดแล้วใส่เหล็กดัดฟันมันดูน่ารัก ( ตามเทนด์ว่างั้นเหอะ ) แต่ความสวยนั้นก็ต้องแลกกับความเจ็บตัว กว่าจะได้จัดฟันโดนถอนฟันไป 4 ซี่ บน 2 ล่าง 2 ไม่เคยคิดเลยว่ากว่าจะได้ใส่เหล็กนี่ ชั้นต้องเจ็บตัวขนาดนี้เลยเหรอ
คุณหมอก็ถามว่าจะแบ่งถอนมั้ย อาทิตย์นี้ถอนข้างบน อาทิตย์หน้าค่อยมาถอนข้างล่าง ด้วยความคิดว่าไหนๆจะเจ็บตัวแล้วขอทีเดียวเลยล่ะกัน จัดไปเลยหมอ บน-ล่าง ( แทบตาย )
ขากลับแวะซื้อโจ๊กมากิน เชื่อมั้ยว่าหมูสับนิ่มๆ ยังไม่มีปัญาเคี่ยวเลย สุดยอดที่สุดในชีวิตเลยตอนนั้น อดข้าวเป็นอาทิตย์เลยกินได้แต่น้ำข้าว กับนม
หลังจากนั้นประมาณ 1 ปี 555 มีตะกร้อครอบปากแล้ว แต่ชั้นไม่เห็นแบ๊วเหมือนคนอื่นเลยว่ะเวลาถ่ายรูป
เรียนจบป.ตรีแล้ว เริ่มมีความคิดเก็บเงินทำจมูกดีกว่า ถือว่าเป็นความฝันสูงสุดของชะนีภูธรอย่างเรา
เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำจมูกในห้องแป้ง จีบัน ดั้งโด่งบ้างละ ว่าราคาเท่าไหร่ หมอไหนดัง ไหนเก่ง ทรงไหนดี
พอดีช่วงนั้น อาออมเค้าไปแก้จมูกที่เคยทำมาแล้ว 10 กว่าปี นางอยากเปลี่ยนทรงจมูกเพราะแบบเก่ามันใหญ่ไป
ก็เลยขอคำแนะนำจากนาง อุ้ยทำแล้วดูดีเชอะ ไปมั้งดีกว่า ก่อนไปหยิบแบบนิตยสารไปด้วย ( กลัวคุยกับหมอไม่รู้เรื่อง )
เมื่อไปถึงสอบถามเรื่องราคาก่อน ขอปรึกษาคุณหมอก่อนได้มั้ย พี่เค้าก็ดูคิวให้บอกรอสักครู่
เชิญพบหมอได้เลยค่ะ ตื่นเต้นที่สุดในสามโลก คุณหมอค่ะ หนูอยากได้ทรงจมูกแบบ ปูไปรยาค่ะ คุณหมอพูดน้อยมาก แล้วก็จับจมูกดูทรง แล้วก็ดูซิลิโคน
หมอบอกนอนเลยครับ ทำได้ทรงนี้ หนูไม่อยากได้ยาชา หนูขอยาสลบได้มั้ยค่ะหนูกลัวเข็มค่ะ ผู้ช่วยหมอบอกคลีนิคเราไม่มีค่ะ มีแต่ยาชา
เอาก็เอาว่ะ อยากสวยนี่หว่า
ระหว่างทำก็ใจจดใจจ่อ โดนฉีดยาที่จมูก 4 เข็ม ชาไปหมด หมอก็เหลาซิลิโคนรอ ระหว่างรอให้ชา เริ่มทำไปสักพัก หมอหันมาถามว่าตัดปีกด้วยเลยมั้ย
เพราะทรงปู ไปรยาเค้าไม่บานนะ จะได้เหมือนปูไปรยา หมอว่าไงหนูก็ว่าตามนั้นค่ะ ทำแล้วหนูจะเหมือนปูใช่มั้ยค่ะ แต่จะไม่เป็นแผลเป็นใช่มั้ยค่ะ
เพราะดุจากรีวิวหลายๆคน เค้าทำแล้วเป็นแผลเป็น บ้างเจ้าก็รูจมูกไม่เท่ากัน หนูกลัว เอ้าหมอทำก็ทำ
เสร็จแล้วครับ หมอบอกให้ตื่นแล้วไปนั่งพัก แล้วผู้ช่วยก็มาประคบเย็นให้ หลังจากนั้นก็กลับบ้านมาพัก
ตอนนั้นไม่เจ็บเลยนะ พอถึงบ้านเท่านั้นแหละระบมไปทั้งเบ้าหน้า ใต้ตาบวมและช้ำมาก เราประคบเย็นแล้วไม่ยุบซะที
เลยเอาข้าวสุกใส่ถุง แล้วมาประคบใต้ตา เอ้ย...ไม่ถึงวันรอยคล้ำหายไปเลยอ่ะ

หลังจากนั้นประมาณ 1 ปีเริ่มเข้าที่แล้ว
หลังจากที่ได้จมูกมาสมใจ ก็หันมาดูแลผิวพรรณ ด้วยการขัดผิวบ้าง ทาไวท์เทนนิ่งบ้าง อะไรที่ว่าดีเอาหมด
ความเปลียนเเปลงจากอดีตอ้วนดำ

รูปปัจุบัน
หวังว่าเพื่อนๆที่อ่านคงจะชอบการเขียนกระทู้นี้นะค่ะ ออมยังมีทริคในการดูแลตัวเองอีกเยอะ เอาไว้ติดตามกันครั้งหน้านะค่ะ หรือติดตามเพจ
https://www.facebook.com/Aomsinn-1021353891250796/ ได้เลยคร้า
ขอบคุณที่ติดตาม
พัฒนาความสวย ของชะนีภูธร
พื้นฐานเป็นคนที่แห้ง ผิวคล้ำดำมาก จนญาติเรียกอีดำ อ้วนดำ บ้างล่ะ
ทำให้เราเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
หมอบอกนอนเลยครับ ทำได้ทรงนี้ หนูไม่อยากได้ยาชา หนูขอยาสลบได้มั้ยค่ะหนูกลัวเข็มค่ะ ผู้ช่วยหมอบอกคลีนิคเราไม่มีค่ะ มีแต่ยาชา
เอาก็เอาว่ะ อยากสวยนี่หว่า
เพราะทรงปู ไปรยาเค้าไม่บานนะ จะได้เหมือนปูไปรยา หมอว่าไงหนูก็ว่าตามนั้นค่ะ ทำแล้วหนูจะเหมือนปูใช่มั้ยค่ะ แต่จะไม่เป็นแผลเป็นใช่มั้ยค่ะ
เพราะดุจากรีวิวหลายๆคน เค้าทำแล้วเป็นแผลเป็น บ้างเจ้าก็รูจมูกไม่เท่ากัน หนูกลัว เอ้าหมอทำก็ทำ
หลังจากนั้นประมาณ 1 ปีเริ่มเข้าที่แล้ว
หวังว่าเพื่อนๆที่อ่านคงจะชอบการเขียนกระทู้นี้นะค่ะ ออมยังมีทริคในการดูแลตัวเองอีกเยอะ เอาไว้ติดตามกันครั้งหน้านะค่ะ หรือติดตามเพจ
https://www.facebook.com/Aomsinn-1021353891250796/ ได้เลยคร้า
ขอบคุณที่ติดตาม