ความขี้เกียจของเราหมายถึง ขี้เกียจเที่ยวคะ
โดยนิสัยจริงๆเป็นคนที่ขี้เกียจเที่ยวมากๆ
เที่ยวธรรมชาตินี่ บอกผ่านเลย
เพราะไปเชียงใหม่ ยังไปแค่นิมมาน ให้ขึ้นดอยดูพระอาทิตย์นี่ อย่าหวัง อย่าปลุก
ความเป็นมาของทริป แบบขี้เกียจๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จริงๆ ทริปนี้เป็นทริปครอบครัวคะ เมื่อคนทางไกลบอกว่าคิดถึง
เพิ่งจะกลับจากภูเรือ !! ผู้มีพระคุณของดิ เอง ที่ไปใช้ชีวิต slow life หลังเกษียน @ภูเรือ สัก2ปี เห็นจะได้
คือแบบ ไปภูเรือ ขี้เกียจอ่ะ
แน่นอน จะขี้เกียจมาก ที่ต้องไปภูเรือ เพราะห่างจากตัวเมือง เกือบๆ 50กม.
และลักษณะทาง เป็นทางคดโค้งไปตามทิวเขา แต่วิวสวยนะ
สรุปที่บ้านต้องเปลี่ยนไปเชียงคาน
ไม่เคยไปจริงๆ เชียงคาน มันมีไร เห็นเค้าว่าสวย ว่าชิล
หาข้อมูลคร่าวๆ แต่ก็ไม่ได้จองที่พักอะไร กะเดินๆหาที่นั่น
เชียงคาน เป็นเส้นทางที่ ขับไม่ยาก ห่างจากตัวเมืองประมาณเกือบ 50 กม.
เราก็หาข้อมูลรีวิวต่างๆจากเว็บ chiangkhan.com รวมถึงแผนที่ด้วย ดูแล้วเข้าใจดี
การเดินทางไปเชียงคาน เท่าที่ทราบ
สายรีบ
1.ลงเครื่อง ที่ท่าอากาศยานเลย ปัจจุบันมีของ Airasia และ Nokair
- เหมาแท็กซี่ ไปเชียงคาน ราคาอยู่ที่
600 บาท มากัน 3-4 คน หารค่ารถกันสบายๆ ราคานี้
ราคาจะประมาณนี้แหละคะ เราไปภูเรือ ก็ราคานี้ เรามีเจ้าที่ใช้ประจำอยู่
2 ใช้บริการ Airasia city transfer มันเป็นราคาแพ็คอะนะ
ตัวเครื่องบิน + รถบัส รับส่ง เชียงคาน ราคาเช็คตามหน้าเว็บแอร์เอเชียเลย คือถ้าไม่ใช่ราคาโปร เราว่า ราคามันแพงอยู่
จุดจอดรถ อยู่ ดิโอลด์เชียงคาน บูติกโฮเทล ถ.ชายโขง ถนนที่เป็นที่พักริมโขง และ ตอนเย็นมันเป็นถนนคนเดิน นะแหละ
สายชิล
ไม่ว่า คุณจะมาเครื่องบิน หรือ รถทัวร์
ต้องการนั่งรถจากตัวเมืองมาเรื่อยๆ ต้องไปต่อรถไป อ.เชียงคานที่ขนส่ง
นั่งเครื่องมาก็ เรียก
สามล้อ หัวละ 50 บาท / แท็กซี่ก็หัวละ60 บาท ส่วนมากพี่ๆแท็กซี่ใจดี คุยราคาเหมาๆกันได้ 2คน 100 ไรงี้
1. รถบรรทุก 6ล้อ หวานเย็น ไปเรื่อยๆ แวะรับตลอด นานเลยแหละ ไม่รู้เหมือนกันจอดตรงไหน คนแถวนั้นเค้าบอกมา
2. รถของนครชัยขนส่ง (ย้ำไม่ใช่นครชัยแอร์) โทรถามเวลากันได้ พี่เค้าตอบดี เพิ่งโทรถามก่อนรีวิว
คนเลยเป็นคนใจดี
เลย-เชียงคาน 042-814-551 มีรอบ 6.30/11.00 / 14.00/16.00 / 17.00/20.00/23.00
เชียงคาน - เลย 042-821-595 , 042-821-905
เราลงเครื่องมา 5โมงเย็นนิดๆ (เวลาแบบนี้คือราคาโปรฯ) ไม่ได้คาดหวังว่าเชียงคาน จะมีอะไรมากมายอะไร
รอบนี้ที่บ้านมารับ เพื่อขับรถเรื่อยๆ ไปเชียงคาน ถึงประมาณ 6โมงกว่าๆ
เอกลักษณ์ที่บอกว่าถึงแล้วนะเชียงคาน คือ
การผสมผสานระหว่างความทันสมัยและสไตล์ดั้งเดิม ที่แต่ละเจ้า ต่างแข่งขัน กันออกแบบและตกแต่งร้าน
เราเลือกที่จะจอดรถไว้ที่วัดท่าครก ไม่มีใครเดินมาเก็บค่าจอด แต่มีกล่องให้บริจาค
เป็นการทำบุญกันไป
แล้วเดินมาที่
ถนน ชายโขง (ถนนคนเดินนั่นแหละ ) เฮ้ยยยย ชิลว่ะ ถนนเส้นนี้คุณจะพบกับ ที่พัก สุดชิค ชุดชิลขนาบซ้ายขวา
เลือกเอาตามอัธยาศัย มีทั้งที่ติดฝั่งแม่น้ำโขง คือจะ ได้วิวที่เห็นแม่น้ำโขง ราคาก็แพงขึ้นนิดนึง
หรือฝั่งตรงข้าม ที่พักก็มีแนวๆ สวยงาม ไม่แพ้กัน ตามซอย ต่างๆก็มีที่พักอีกนะ คือมันเยอะมาก
แต่เห็นที่พักเยอะๆแบบนี้ ตั้งแต่วันหยุดยาวนี้ เสาร์ทิตย์ เต็มทุกที่นะจ๊ะ คนไม่ชอบความพลุกพล่าน และความเป็นมนุษย์เงินเดือน ที่มีวันหยุดอย่างจำกัด อย่างพวกเรา แนะนำให้มาอีกที หลังกลางๆเดือน ม.ค.
หลังจากที่เดินชม และเลือกที่พัก ไอ้ที่หาๆข้อมูลมาอ่ะ ห้องเห็นวิวโขงเนี่ย เต็มหมด มาทั้งทีต้องได้ห้อง วิวโขงเฟ้ย
เดินถึงซอย14 เจอทีพักนี้ with a view ว่างอยู่ จัดไป
รูปถ่ายนี่ทำใจ หน่อยนะ เอียงมั้ง แสงจ้าบ้าง อย่าถือสา ใครๆก็ชอบด่า ถ่ายไรมาฟ่ะ
คืนแรก มืดละ เดินๆ ไปเรื่อยเปื่อย ชิลดีนะ รู้สึกสนุกสนาน เหมาะกับการจิบเครื่องดื่ม เย็นๆๆ และปล่อยให้เวลามันผ่านไป
ตื่นเช้ามา อย่าได้ฝันจะไปดูภูทอก เพราะดูภูเรือ มาบ่อยละ นอนต่อซิคะ
ถึงแม้ว่าจะได้ยินเสียง พระมาบิณฑบาตร ผู้คนใส่บาตรข้าวเหนียว ก็ไม่เป็นอุปสรรค ในการนอนแต่อย่างใด
ถ่ายเก็บ รีวิวที่พักสักหน่อย ตอนเช้ารูปค่อยดี ขึ้นมาบ้าง
ไม่ได้ส่วนลด อะไรแต่อย่างใด แต่ชอบน้องที่ดูแล ดูแลต้อนรับและอัธยาศัยดี ถึงแม้จะเจอ -- คุณพรรณี (ที่คนทั่วไปอาจเรียกมนุษย์ป้า) ถามเยอะ
นางก็จะตอบอย่างใจเย็น
บันไดนี่สวยงามนะ แต่เดินลงยาก จริงๆ คุณพรรณี ไม่ค่อยปลื้ม
กิจกรรมยามตื่นมา คือกินโจ้กและหาร้านกาแฟ
ร้านกาแฟ อยู่ตรงหัวมุม ฝั่งเลนปั่นจักรยานที่ติดริมโขง เดินไปอีกนิดก็สวนเฉลิมพระเกียติ
Chiang Khan Coffee Mae Khong
จากนั้นไปนวด และ หาของกินมื้อกลางวัน
ป้าร้านนวด แกบอกว่า ร้านนี้ข้าวปุ้น อร่อยสุด ร้านอยู่ข้างๆร้านนวดแกไง
ตำด๋องแด๋ง หรือ ตำข้าวปุ้น หรือ ตำซั่วเส้นสด แล้วแต่จะเรียก นะ
รสชาติดี ปลาร้าอร่อย ไก่ย่างร้านข้างๆ ที่นางไปดีลมาขาย ก็อร่อย
ร้านอยู่ ซอย 17
กินเสร็จ ก็เดินหาที่พัก เอาไว้มาพักทริปหน้า
คือบรรยากาศ มันดีจริง ท้องฟ้าสวยงาม ตัดกับแม่น้ำโขง
คือมันทำให้เราอยากเดินดูไปเรื่อยๆ คือหายขี้เกียจอ่ะ คิดเลยว่า ตอนเย็นนี่ต้องปั่นจักรยาน
ปั่นจักรยานไปเรื่อยเปื่อย ตามหาร้าน ที่เค้ารีวิว กัน
Hostel นี้น่าสนใจ อยู่ฝั่งถนนศรีเชียงคาน
เห็นคนปั่นจักรยานจากที่นี่กันเยอะ เลยตามหา ที่มา
เมื่อยละ กลับที่พัก นั่งดูวิว
ตอนเย็นกินข้าวเปียกเส้น ในซอย14 ชื่อร้านแม่งามอิ่มอร่อย อร่อยดี
ไม่ผิดหวัง ไม่ต้องแย่ง เห็นว่าถ้าร้านเสร็จจะไปอยู่ริมถนน
อิ่มแล้วก็ควรเดินเล่นถนนคนเดิน
ถนนคนเดินมีทุกวันนะคะ แต่ของจะเยอะวันเสาร์ ดูคึกคัก
ข้างล่างเป็นร้านกาแฟ เราชอบที่พักที่อยู่ด้านบน
วันเสาร์จะมีน้องๆ มาหารายได้พิเศษ เล่นดนตรีบ้าง เต้นบ้าง ทั้งเดี่ยว ดูโอ้ หรือ มาเป็นกรุ๊ป
ก็ให้น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ เป็นกำลังใจในการทำกิจกรรม แสดงออกในสิ่งที่ถูกต้องอย่างนี้กันต่อไป
ถึงเวลากลับที่พัก มาชิลต่อ
ปิดท้ายเชียงคานในวันฝนพรำ มันช่าง...
ก่อนกลับกรุงเทพ ก็ต้องแวะมาบ้านที่ภูเรือก่อน ฝนพรำอากาศเย็น อยู่ที่ 12 องศา
แต่ด้วยฟ้าที่มืด สลัว ฝนตก
เลยเก็บตก ภาพที่มาเมื่อ ต้นเดือน ก.ย. มาฝากคะ อากาศช่วงนั้นก็เย็นสบายในตอนกลางคืน ประมาณ22 องศา
ตอนนั้นกลับไปเยี่ยมที่บ้าน กิจกรรมช่วงเย็นก็ไปวิ่งออกกำลังกาย การออกกำลังกาย เป็นวิธีทำลายตัวขี้เกียจจริงๆนะ
โชว์วิว ชวนวิ่งกันสักหน่อย
เป้าหมายคือวิ่งขึ้นไปวัดด้านบนภูเรือ
มุมที่มองลงมาจากวัด
และ... ทำอะไรวะเนี่ย
เบื่อขึ้นภูแล้ว ก็มาพื้นๆ กันบ้าง
และอันนี้คือชอบสุด ออกกำลังกายไป ดูวิวไป
ฝากถึงคนที่ต้องอยู่ไกลจากครอบครัว
ห่างไกลพ่อแม่ ไม่ว่าคุณจะขี้เกียจยังไงก็ตามแต่ อย่าลืม หาเวลาไปเยี่ยมคนที่รักคุณบ้างนะคะ
[CR] ธรรมชาติทำให้คนขี้เกียจเปลี่ยนไป เมื่อคนขี้เกียจ ไปเที่ยวเชียงคาน ภูเรือ $$ หนาวนี้ถือว่าโดน
โดยนิสัยจริงๆเป็นคนที่ขี้เกียจเที่ยวมากๆ
เที่ยวธรรมชาตินี่ บอกผ่านเลย
เพราะไปเชียงใหม่ ยังไปแค่นิมมาน ให้ขึ้นดอยดูพระอาทิตย์นี่ อย่าหวัง อย่าปลุก
ความเป็นมาของทริป แบบขี้เกียจๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เชียงคาน เป็นเส้นทางที่ ขับไม่ยาก ห่างจากตัวเมืองประมาณเกือบ 50 กม.
เราก็หาข้อมูลรีวิวต่างๆจากเว็บ chiangkhan.com รวมถึงแผนที่ด้วย ดูแล้วเข้าใจดี
การเดินทางไปเชียงคาน เท่าที่ทราบ
สายรีบ
1.ลงเครื่อง ที่ท่าอากาศยานเลย ปัจจุบันมีของ Airasia และ Nokair
- เหมาแท็กซี่ ไปเชียงคาน ราคาอยู่ที่ 600 บาท มากัน 3-4 คน หารค่ารถกันสบายๆ ราคานี้
ราคาจะประมาณนี้แหละคะ เราไปภูเรือ ก็ราคานี้ เรามีเจ้าที่ใช้ประจำอยู่
2 ใช้บริการ Airasia city transfer มันเป็นราคาแพ็คอะนะ
ตัวเครื่องบิน + รถบัส รับส่ง เชียงคาน ราคาเช็คตามหน้าเว็บแอร์เอเชียเลย คือถ้าไม่ใช่ราคาโปร เราว่า ราคามันแพงอยู่
จุดจอดรถ อยู่ ดิโอลด์เชียงคาน บูติกโฮเทล ถ.ชายโขง ถนนที่เป็นที่พักริมโขง และ ตอนเย็นมันเป็นถนนคนเดิน นะแหละ
สายชิล
ไม่ว่า คุณจะมาเครื่องบิน หรือ รถทัวร์
ต้องการนั่งรถจากตัวเมืองมาเรื่อยๆ ต้องไปต่อรถไป อ.เชียงคานที่ขนส่ง
นั่งเครื่องมาก็ เรียก สามล้อ หัวละ 50 บาท / แท็กซี่ก็หัวละ60 บาท ส่วนมากพี่ๆแท็กซี่ใจดี คุยราคาเหมาๆกันได้ 2คน 100 ไรงี้
1. รถบรรทุก 6ล้อ หวานเย็น ไปเรื่อยๆ แวะรับตลอด นานเลยแหละ ไม่รู้เหมือนกันจอดตรงไหน คนแถวนั้นเค้าบอกมา
2. รถของนครชัยขนส่ง (ย้ำไม่ใช่นครชัยแอร์) โทรถามเวลากันได้ พี่เค้าตอบดี เพิ่งโทรถามก่อนรีวิว
คนเลยเป็นคนใจดี
เลย-เชียงคาน 042-814-551 มีรอบ 6.30/11.00 / 14.00/16.00 / 17.00/20.00/23.00
เชียงคาน - เลย 042-821-595 , 042-821-905
เราลงเครื่องมา 5โมงเย็นนิดๆ (เวลาแบบนี้คือราคาโปรฯ) ไม่ได้คาดหวังว่าเชียงคาน จะมีอะไรมากมายอะไร
รอบนี้ที่บ้านมารับ เพื่อขับรถเรื่อยๆ ไปเชียงคาน ถึงประมาณ 6โมงกว่าๆ
เอกลักษณ์ที่บอกว่าถึงแล้วนะเชียงคาน คือ
การผสมผสานระหว่างความทันสมัยและสไตล์ดั้งเดิม ที่แต่ละเจ้า ต่างแข่งขัน กันออกแบบและตกแต่งร้าน
เราเลือกที่จะจอดรถไว้ที่วัดท่าครก ไม่มีใครเดินมาเก็บค่าจอด แต่มีกล่องให้บริจาค
เป็นการทำบุญกันไป
แล้วเดินมาที่ถนน ชายโขง (ถนนคนเดินนั่นแหละ ) เฮ้ยยยย ชิลว่ะ ถนนเส้นนี้คุณจะพบกับ ที่พัก สุดชิค ชุดชิลขนาบซ้ายขวา
เลือกเอาตามอัธยาศัย มีทั้งที่ติดฝั่งแม่น้ำโขง คือจะ ได้วิวที่เห็นแม่น้ำโขง ราคาก็แพงขึ้นนิดนึง
หรือฝั่งตรงข้าม ที่พักก็มีแนวๆ สวยงาม ไม่แพ้กัน ตามซอย ต่างๆก็มีที่พักอีกนะ คือมันเยอะมาก
แต่เห็นที่พักเยอะๆแบบนี้ ตั้งแต่วันหยุดยาวนี้ เสาร์ทิตย์ เต็มทุกที่นะจ๊ะ คนไม่ชอบความพลุกพล่าน และความเป็นมนุษย์เงินเดือน ที่มีวันหยุดอย่างจำกัด อย่างพวกเรา แนะนำให้มาอีกที หลังกลางๆเดือน ม.ค.
หลังจากที่เดินชม และเลือกที่พัก ไอ้ที่หาๆข้อมูลมาอ่ะ ห้องเห็นวิวโขงเนี่ย เต็มหมด มาทั้งทีต้องได้ห้อง วิวโขงเฟ้ย
เดินถึงซอย14 เจอทีพักนี้ with a view ว่างอยู่ จัดไป
รูปถ่ายนี่ทำใจ หน่อยนะ เอียงมั้ง แสงจ้าบ้าง อย่าถือสา ใครๆก็ชอบด่า ถ่ายไรมาฟ่ะ
คืนแรก มืดละ เดินๆ ไปเรื่อยเปื่อย ชิลดีนะ รู้สึกสนุกสนาน เหมาะกับการจิบเครื่องดื่ม เย็นๆๆ และปล่อยให้เวลามันผ่านไป
ตื่นเช้ามา อย่าได้ฝันจะไปดูภูทอก เพราะดูภูเรือ มาบ่อยละ นอนต่อซิคะ
ถึงแม้ว่าจะได้ยินเสียง พระมาบิณฑบาตร ผู้คนใส่บาตรข้าวเหนียว ก็ไม่เป็นอุปสรรค ในการนอนแต่อย่างใด
ถ่ายเก็บ รีวิวที่พักสักหน่อย ตอนเช้ารูปค่อยดี ขึ้นมาบ้าง
ไม่ได้ส่วนลด อะไรแต่อย่างใด แต่ชอบน้องที่ดูแล ดูแลต้อนรับและอัธยาศัยดี ถึงแม้จะเจอ -- คุณพรรณี (ที่คนทั่วไปอาจเรียกมนุษย์ป้า) ถามเยอะ
นางก็จะตอบอย่างใจเย็น
บันไดนี่สวยงามนะ แต่เดินลงยาก จริงๆ คุณพรรณี ไม่ค่อยปลื้ม
กิจกรรมยามตื่นมา คือกินโจ้กและหาร้านกาแฟ
ร้านกาแฟ อยู่ตรงหัวมุม ฝั่งเลนปั่นจักรยานที่ติดริมโขง เดินไปอีกนิดก็สวนเฉลิมพระเกียติ
Chiang Khan Coffee Mae Khong
จากนั้นไปนวด และ หาของกินมื้อกลางวัน
ป้าร้านนวด แกบอกว่า ร้านนี้ข้าวปุ้น อร่อยสุด ร้านอยู่ข้างๆร้านนวดแกไง
ตำด๋องแด๋ง หรือ ตำข้าวปุ้น หรือ ตำซั่วเส้นสด แล้วแต่จะเรียก นะ
รสชาติดี ปลาร้าอร่อย ไก่ย่างร้านข้างๆ ที่นางไปดีลมาขาย ก็อร่อย
ร้านอยู่ ซอย 17
กินเสร็จ ก็เดินหาที่พัก เอาไว้มาพักทริปหน้า
คือบรรยากาศ มันดีจริง ท้องฟ้าสวยงาม ตัดกับแม่น้ำโขง
คือมันทำให้เราอยากเดินดูไปเรื่อยๆ คือหายขี้เกียจอ่ะ คิดเลยว่า ตอนเย็นนี่ต้องปั่นจักรยาน
ปั่นจักรยานไปเรื่อยเปื่อย ตามหาร้าน ที่เค้ารีวิว กัน
Hostel นี้น่าสนใจ อยู่ฝั่งถนนศรีเชียงคาน
เห็นคนปั่นจักรยานจากที่นี่กันเยอะ เลยตามหา ที่มา
เมื่อยละ กลับที่พัก นั่งดูวิว
ตอนเย็นกินข้าวเปียกเส้น ในซอย14 ชื่อร้านแม่งามอิ่มอร่อย อร่อยดี
ไม่ผิดหวัง ไม่ต้องแย่ง เห็นว่าถ้าร้านเสร็จจะไปอยู่ริมถนน
อิ่มแล้วก็ควรเดินเล่นถนนคนเดิน
ถนนคนเดินมีทุกวันนะคะ แต่ของจะเยอะวันเสาร์ ดูคึกคัก
ข้างล่างเป็นร้านกาแฟ เราชอบที่พักที่อยู่ด้านบน
วันเสาร์จะมีน้องๆ มาหารายได้พิเศษ เล่นดนตรีบ้าง เต้นบ้าง ทั้งเดี่ยว ดูโอ้ หรือ มาเป็นกรุ๊ป
ก็ให้น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ เป็นกำลังใจในการทำกิจกรรม แสดงออกในสิ่งที่ถูกต้องอย่างนี้กันต่อไป
ถึงเวลากลับที่พัก มาชิลต่อ
ปิดท้ายเชียงคานในวันฝนพรำ มันช่าง...
ก่อนกลับกรุงเทพ ก็ต้องแวะมาบ้านที่ภูเรือก่อน ฝนพรำอากาศเย็น อยู่ที่ 12 องศา
แต่ด้วยฟ้าที่มืด สลัว ฝนตก
เลยเก็บตก ภาพที่มาเมื่อ ต้นเดือน ก.ย. มาฝากคะ อากาศช่วงนั้นก็เย็นสบายในตอนกลางคืน ประมาณ22 องศา
ตอนนั้นกลับไปเยี่ยมที่บ้าน กิจกรรมช่วงเย็นก็ไปวิ่งออกกำลังกาย การออกกำลังกาย เป็นวิธีทำลายตัวขี้เกียจจริงๆนะ
โชว์วิว ชวนวิ่งกันสักหน่อย
เป้าหมายคือวิ่งขึ้นไปวัดด้านบนภูเรือ
มุมที่มองลงมาจากวัด
และ... ทำอะไรวะเนี่ย
เบื่อขึ้นภูแล้ว ก็มาพื้นๆ กันบ้าง
และอันนี้คือชอบสุด ออกกำลังกายไป ดูวิวไป
ฝากถึงคนที่ต้องอยู่ไกลจากครอบครัว
ห่างไกลพ่อแม่ ไม่ว่าคุณจะขี้เกียจยังไงก็ตามแต่ อย่าลืม หาเวลาไปเยี่ยมคนที่รักคุณบ้างนะคะ