
ในซอยราชครูเชื่อมกับอารีย์สัมพันธ์ ย่านนี้มีซอยเล็ก ๆ มากมายและก็มีร้านอาหารแฝงอยู่เยอะพอสมควร ซึ่งตรงซอยอารีย์ 6 มีร้านเล็ก ๆ อยู่ร้านนึงที่มีความน่าสนใจอยู่หน้าซอยเลย ทั้งการตกแต่งที่ดูดิบ ๆ แต่ดูแล้วอบอุ่นเป็นกันเอง อีกทั้งเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ซ้ำใคร ทำให้ร้านนี้น่าสนใจมาก ๆ ใครที่ชอบสังสรรค์ กินดื่ม แฮ็งค์เอ้าท์ กับเพื่อน ๆ และชอบความเป็นส่วนตัว ผมว่าร้านนี้ตอบโจทย์นะ ร้านที่ว่านี้ชื่อ Shaka Grill & Bar ครับ

Shaka เป็นคำทักทายของชาวฮาวาย (อีกนัยนึงก็แปลว่าความสำเร็จ) ที่ทางร้านอยากตั้งเป็นชื่อร้านแสดงถึงการทักทายทุกท่านอย่างอบอุ่นนั่นเอง

Shaka Grill & Bar เกิดจากกลุ่มเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่อยากเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ ที่เป็นกันเอง ไว้บริการอาหารที่กินง่าย ๆ คู่กับเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่ทางร้านมีให้เลือกมากมาย ปัจจุบันร้านเปิดมาได้ประมาณ 3-4 เดือนแล้วครับ

ร้าน Shaka Grill & Bar อยู่บนถนนพระราม 6 ซอย 30 ที่เชื่อมกับซอยราชครู(พหลโยธินซอย 7) ถ้าใครที่มาจากถนนพระราม 6 เลี้ยวเข้าพระราม 6 ซอย 30 มา ขับเลยกระทรวงการคลังและกรมประชาสัมพันธ์ทางซ้ายมือมาให้สังเกตทางซ้าย จะเจอร้าน Shaka Grill & Bar อยู่หน้าซอยอารีย์ 6 เลยจากนั้นก็ตระเวนหาที่จอดในละแวกนั้นเอาครับ เพราะทางร้านไม่มีที่จอดให้ ที่จอดที่ทางร้านแนะนำก็เป็นริมถนนแถวนั้นครับ หลัง 6 โมงจอดได้ครับ

ร้าน Shaka Grill & Bar เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 17.30 – 24.00 น. ร้านมี 2 ชั้น ที่สามารถกั้นเป็นโซนส่วนตัวไว้จัดงานปาร์ตี้ต่าง ๆ ได้ครับ ทั้งร้านสามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 60 ท่าน

รูปแบบการตกแต่งร้านเป็นสไตล์ Rustic Industry คือจะดูดิบ ๆ แต่ก็มีการล้อกับแสงไฟสีส้ม โต๊ะไม้สีเข้ม และกระจก ทำให้ดูมีอะไรและให้ความรู้สึกที่อบอุ่นดี เพดานที่ร้านจะเตี้ยหน่อย แต่ก็ทำให้บรรยากาศนั้นดูใกล้ชิดกันดี รวม ๆ ผมว่าบรรยากาศของร้านนั้นเก๋ดีครับ ถ้าได้มาสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน ๆ น่าจะเวิร์คมาก
ต่อไปเป็นส่วนพื้นที่ชั้น 2 ที่สามารถกั้นหรือเหมาโซนได้ครับ

เนื่องจากรูปแบบร้านเป็นแนว Grill & Bar ฉะนั้นก็จะต้องมีเครื่องดื่มที่น่าสนใจ และเมนูย่าง ๆ ที่น่าประทับใจแน่นอน เรื่องเครื่องดื่มนั้น ที่ร้านก็มีทุกอย่างครับ แต่ที่เน้นเห็นจะเป็นเรื่องของเบียร์และค็อกเทล เพราะที่ร้านมีทั้ง เบียร์ทั่วไป, เบียร์สด และ คราฟท์เบียร์ ที่สามารถเลือกกินกันได้แบบไม่ซ้ำชนิดกันทั้งคืนได้สบาย ๆ

และค็อกเทลเท่าที่ได้ลองในวันนี้ก็เป็นสูตรที่กลิ่นและรสชาติค่อนข้างลงตัวและกินง่ายมาก เหมาะกับสาว ๆ นะผมว่า

Lychee Martini – 230 BHT
เป็นเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นมาก ยิ่งกินตอนที่เครื่องดื่มเย็นจัดยิ่งอร่อยสดชื่นเลยครับ เพราะมีส่วนผสมของ Vanilia Vodka, Elderflower Syrup, มะนาว, น้ำและเนื้อลิ้นจี่ ฟังแค่นี้ก็รู้สึกได้ถึงความหวานหอม สดชื่นมากแล้วครับ
Italian Soda – 80 BHT
แก้วนี้ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ แต่เก๋ไม่แพ้กัน เพราะรสชาติดีมาก ขอบอกว่าดีมาก ส่วนผสมหลักจะเป็นน้ำเสาวรสและน้ำมะม่วง แล้วตัดด้วยเลม่อนเล็กน้อย เพิ่มความซาบซ่าด้วยโซดาเข้าไป ก็สามารถทำให้คนที่ได้ลองตกหลุมรักแก้วนี้ได้อย่างไม่ยาก และความเก๋อีกอย่างของเครื่องดื่มของที่ Shaka Grill & Bar คือสามารถปรึกษาและบอกความต้องการหรือความชอบของเราได้ บาร์เทนเดอร์ก็จะปรุงมาให้เราได้เลยครับ เพราะมีหุ้นส่วนท่านนึงของร้านเป็น Mixologist ครับ
เรื่องเมนูอาหารก็เป็นเมนูที่กินง่าย ๆ สบาย ๆ สามารถใช้มือหยิบกินได้ แบบไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรครับ ซึ่งสไตล์อาหารก็เป็นการผสมผสานของหลาย ๆ สัญชาติ ทั้ง America, Mexican, Italian, France เป็นต้น แต่ผมถามคำจำกัดความของอาหารของที่ร้านมาทางเจ้าของร้านแจ้งว่าเป็นอาหารสไตล์ American Europe Comfort food คืออยากให้เป็นอะไรที่กินง่ายทานสะดวก เข้ากับการพบปะสังสรรค์เป็นอย่างดี ถ้ารู้แบบนี้แล้วใครที่ยังสงสัยก็ลองดูเมนูที่ผมไปรีวิวมากันเลยแล้วกันครับ
Quesadilla – 199 BHT (Recommend)
เมนูนี้เป็นเมนูสัญชาติแม็กซิกันครับ ใครที่เคยกิน แล้วจำความรู้สึกแบบต้นตำรับได้ ผมขอแนะนำให้มาลองที่นี่ครับ แป้งด้านนอกกรอบ ไส้ข้างในหอมชุ่มฉ่ำ เพราะไส้ข้างในเป็นผักโขมอบชีส ที่มีชีส 3 ชนิดคือ พาเมซาน, มอสซาเรลล่า และ เชดด้า ครับ กลิ่นและรสชาติจึงกลมกล่อมมาก

ถือว่าเป็นการดัดแปรงผสมผสานระหว่างอาหารสไตล์แม็กซิกันและอิตาเลี่ยนได้อย่างลงตัว กินแทบไม่ต้องจิ้มเลย แต่เมื่อลองจิ้มก็จะให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงพิซซ่ามาก ๆ อร่อยไปอีกแบบครับ
Burger Marvel (pork) – 279 BHT
เมนูนี้ดูหน้าตาแล้วก็จะคล้ายเบอร์เกอร์ปกติ แต่จริง ๆ แล้วต้นแบบคือแซนวิช เพราะตัวเบอร์เกอร์จะใช้สันคอหมูบาร์บีคิวไปย่างให้สุกหอมแล้วมาฉีกสไลด์เป็นเส้น ๆ คลุกกับซอสแล้วมาวางแทนก้อนเบอร์เกอร์กินกับผัก และซอสที่ทางร้านใส่ไว้ให้ ประกบด้วยแป้งขนมปังสีดำนุ่ม ๆ ที่ใช้หมึกของปลาหมึกผสมเข้าไป

รสชาติโดยรวมผมเฉย ๆ ส่วนตัวอยากได้ก้อนเบอร์เกอร์มากกว่า และแนะนำว่าให้กินร้อน ๆ จะได้ความนุ่นและกลิ่นที่หอมดีครับ
Carbonara Egg Lava – 260 BHT (Recommend)
ใครที่มีเมนูนี้อยู่ในดวงใจ ผมวอนให้มาลองที่นี่ครับ เพราะเชฟเข้าใจความเป็นต้นตำรับ และความต้องการของผู้ที่รักคาโบนาร่าเป็นอย่างดี ผมเป็นอีกคนที่ชอบเมนูนี้มาก แต่หลัง ๆ หาร้านที่เข้าใจและปรุงเมนูนี้ออกมาได้ดีค่อนข้างยาก จนได้มาลอง Shaka Grill & Bar นี่ ประทับใจมาก

คือทางร้านเข้าใจสูตรต้นตำรับดีว่าคาโบนาร่าจะไม่ใส่นมหรือครีมเลย จะใช้แค่ไข่แดง แต่มันจะกินยากสำหรับคนไทย เชฟจึงปรับสูตรให้แตกต่างจากต้นตำรับนิดหน่อยโดยการใช้ครีมแต่ใช้ไม่เยอะ ส่วนไข่ก็ไม่ได้ตีรวมกับครีม แต่จะแยกออกมาเป็น poach egg โปะมาด้านบนก่อนกินก็เจาะให้ไข่แดงไหลออกมาเพิ่มความเยิ้มให้เมนูนี้กินง่ายมากขึ้น

เบค่อนที่นี่จะมีทั้งแบบนุ่มและกรอบกลิ่นหอม เส้นนุ่มกำลังดี ครีมก็ใช้ในปริมาณที่พอดี ไม่เยอะและไม่น้อยเกินไป รสชาติดี ทุกอย่างโอเคถูกใจมากครับ
Skewers (Beef with Summer time sauce) – 359 BHT (Recommend)
เป็นเมนูที่ดูแล้วนึกถึงช่วงเวลาของการสังสรรค์มาก ๆ ถ้าได้ ทะเล เบียร์ และเพื่อน ๆ มาเคียงคู่กับเมนูนี้ มันสุดยอดมากครับ เมนูนี้ใช้เนื้อสันและผักต่าง ๆ มาเสียบไม้ แล้วย่างด้วยหินภูเขาไฟ(หินลาวา) ป้ายซอสที่ทางร้านปรุงขึ้นมาพิเศษชื่อ Summer Time sauce ที่จะมีส่วนผสมของ Tabasco, มะนาว, ขิง, น้ำผึ้ง และผงบูคาจัน รสชาติของซอสให้ความรู้สึกที่สดชื่นแบบเผ็ดร้อน มีความเข้มข้นของซอสพริก และได้กลิ่นหอมของน้ำผึ้งเกรียม ๆ เคลือบอยู่ที่ผิวของเนื้อสันนุ่ม ๆ ที่สุกกำลังดี อร่อยและเพลิดเพลินดีครับ
Rip Eye Steak – 559 BHT (Recommend)
ถือว่าเป็นสเต็กที่ดีเลยทีเดียว เนื้อเป็นเนื้อนำเข้ามีการบ่มไว้เล็กน้อย เนื้อนุ่มกลาง ๆ แต่ไม่เหนียวเลย มีความชุ่มฉ่ำมาก(juicy สุด ๆ ) และเชฟได้มีการปรุงด้วยเครื่องเทศ เกลือ พริกไท มาในระดับที่กำลังดีอยู่แล้ว เวลากิน ไม่ต้องใส่อะไรเพิ่มเลย อร่อยมากครับ แนะนำว่าต้องลองครับ ราคาก็ไม่แรงมาด้วย กับเนื้อสเต็กดี ๆ ก้อนนี้น่าจะประมาณ
Spare Rips – 550 BHT
เมนูนี้ก็จะต้องมีการเตรียมกันไว้ก่อน ไม่งั้นเนื้อจะไม่นุ่ม ซึ่งทางร้านก็มีการ Slow Cook ก่อน แล้วจึงนำมาหมักซอส แล้วค่อยเอาไปย่างด้วยหินลาวา จนซอสเคลือบและซึมเข้าไปในตัวซี่โครงเลยครับ รสชาติใช้ได้ แต่จะกลิ่นแรงสักหน่อยเพราะมีผงบูคาจัน ใส่อยู่ด้วย และผมคิดว่าถ้าทำให้นุ่มกว่านี้สักนิด และย่างให้กระดูกกับเนื้อร่อนออกจากกันได้อีกสักหน่อยจะดีมากเลยครับ

สรุป Shaka Grill & Bar เป็นร้านที่เมื่อเข้าไปนั่งแล้วรู้สึกสบาย ๆ บรรยากาศเป็นส่วนตัวดี ค่อนข้างเป็นกันเอง สิ่งที่โดดเด่นผมคิดว่าเป็นสูตรอาหารที่ทางร้านคิดค้นพัฒนาจากประสบการณ์ของเชฟซึ่งเข้มข้นทั้งรสชาติและกลิ่นของเครื่องเทศ หลาย ๆ เมนูที่ได้ลองในวันนี้ก็อร่อยมาก และเป็นเมนูอาหารที่ประณีตในการปรุง เพราะทุกจานทุกเมนูเป็นโฮมเมดทั้งสิ้นอาหารที่ออกมาจึงสะท้อนความใส่ใจของเชฟได้เป็นอย่างดี เรื่องเครื่องดื่มก็เป็นอีกเรื่องที่ขอชื่นชมครับ ทางร้านทำออกมาได้รสชาตินุ่มนวล ลงตัว และสดชื่นดีมาก ดื่มแล้วเหมือนได้รีเฟรชตัวเองหลังจากทำงานมาทั้งวัน สิ่งที่ผมว่าเป็นอุปสรรคนิดหน่อยคือเรื่องที่จอดรถที่เราต้องหาจอดริมถนนเอาเองครับ แต่ถ้าใครที่ไปรถแท็กซี่ก็สบายครับเพราะร้านอยู่ติดถนนในซอยเลยครับ เรื่องการบริการส่วนใหญ่ที่ร้านจะเป็นเจ้าของมาบริการเองครับ จึงไม่ต้องกังวลเลย เรื่องราคาผมว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้นะครับ เพราะร้านแนวบาร์หรือบิสโทรหลาย ๆ ที่ ราคาสูงกว่านี้เยอะ แล้วราคาในเมนูของที่นี่ก็เป็นราคาสุทธิแล้วด้วย ดังนั้นใครที่มองหาร้านที่จะนัดคุย นัดดื่มสังสรรค์กัน กับบรรยากาศชิลล์ ๆ อาหารกินง่าย รสชาติเข้มข้น ผมว่าลองมาที่ร้าน Shaka Grill & Bar นี้ดูครับน่าสนใจมาก ๆ ครับ
[SR] ประสบการณ์ใหม่ ๆ กับเมนูเฉพาะตัวสไตล์ American Europe Comfort food ที่ร้าน Shaka Grill & Bar
ในซอยราชครูเชื่อมกับอารีย์สัมพันธ์ ย่านนี้มีซอยเล็ก ๆ มากมายและก็มีร้านอาหารแฝงอยู่เยอะพอสมควร ซึ่งตรงซอยอารีย์ 6 มีร้านเล็ก ๆ อยู่ร้านนึงที่มีความน่าสนใจอยู่หน้าซอยเลย ทั้งการตกแต่งที่ดูดิบ ๆ แต่ดูแล้วอบอุ่นเป็นกันเอง อีกทั้งเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ซ้ำใคร ทำให้ร้านนี้น่าสนใจมาก ๆ ใครที่ชอบสังสรรค์ กินดื่ม แฮ็งค์เอ้าท์ กับเพื่อน ๆ และชอบความเป็นส่วนตัว ผมว่าร้านนี้ตอบโจทย์นะ ร้านที่ว่านี้ชื่อ Shaka Grill & Bar ครับ
Shaka เป็นคำทักทายของชาวฮาวาย (อีกนัยนึงก็แปลว่าความสำเร็จ) ที่ทางร้านอยากตั้งเป็นชื่อร้านแสดงถึงการทักทายทุกท่านอย่างอบอุ่นนั่นเอง
Shaka Grill & Bar เกิดจากกลุ่มเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่อยากเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ ที่เป็นกันเอง ไว้บริการอาหารที่กินง่าย ๆ คู่กับเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่ทางร้านมีให้เลือกมากมาย ปัจจุบันร้านเปิดมาได้ประมาณ 3-4 เดือนแล้วครับ
ร้าน Shaka Grill & Bar อยู่บนถนนพระราม 6 ซอย 30 ที่เชื่อมกับซอยราชครู(พหลโยธินซอย 7) ถ้าใครที่มาจากถนนพระราม 6 เลี้ยวเข้าพระราม 6 ซอย 30 มา ขับเลยกระทรวงการคลังและกรมประชาสัมพันธ์ทางซ้ายมือมาให้สังเกตทางซ้าย จะเจอร้าน Shaka Grill & Bar อยู่หน้าซอยอารีย์ 6 เลยจากนั้นก็ตระเวนหาที่จอดในละแวกนั้นเอาครับ เพราะทางร้านไม่มีที่จอดให้ ที่จอดที่ทางร้านแนะนำก็เป็นริมถนนแถวนั้นครับ หลัง 6 โมงจอดได้ครับ
ร้าน Shaka Grill & Bar เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 17.30 – 24.00 น. ร้านมี 2 ชั้น ที่สามารถกั้นเป็นโซนส่วนตัวไว้จัดงานปาร์ตี้ต่าง ๆ ได้ครับ ทั้งร้านสามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 60 ท่าน
รูปแบบการตกแต่งร้านเป็นสไตล์ Rustic Industry คือจะดูดิบ ๆ แต่ก็มีการล้อกับแสงไฟสีส้ม โต๊ะไม้สีเข้ม และกระจก ทำให้ดูมีอะไรและให้ความรู้สึกที่อบอุ่นดี เพดานที่ร้านจะเตี้ยหน่อย แต่ก็ทำให้บรรยากาศนั้นดูใกล้ชิดกันดี รวม ๆ ผมว่าบรรยากาศของร้านนั้นเก๋ดีครับ ถ้าได้มาสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน ๆ น่าจะเวิร์คมาก
ต่อไปเป็นส่วนพื้นที่ชั้น 2 ที่สามารถกั้นหรือเหมาโซนได้ครับ
เนื่องจากรูปแบบร้านเป็นแนว Grill & Bar ฉะนั้นก็จะต้องมีเครื่องดื่มที่น่าสนใจ และเมนูย่าง ๆ ที่น่าประทับใจแน่นอน เรื่องเครื่องดื่มนั้น ที่ร้านก็มีทุกอย่างครับ แต่ที่เน้นเห็นจะเป็นเรื่องของเบียร์และค็อกเทล เพราะที่ร้านมีทั้ง เบียร์ทั่วไป, เบียร์สด และ คราฟท์เบียร์ ที่สามารถเลือกกินกันได้แบบไม่ซ้ำชนิดกันทั้งคืนได้สบาย ๆ
และค็อกเทลเท่าที่ได้ลองในวันนี้ก็เป็นสูตรที่กลิ่นและรสชาติค่อนข้างลงตัวและกินง่ายมาก เหมาะกับสาว ๆ นะผมว่า
Lychee Martini – 230 BHT
เป็นเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นมาก ยิ่งกินตอนที่เครื่องดื่มเย็นจัดยิ่งอร่อยสดชื่นเลยครับ เพราะมีส่วนผสมของ Vanilia Vodka, Elderflower Syrup, มะนาว, น้ำและเนื้อลิ้นจี่ ฟังแค่นี้ก็รู้สึกได้ถึงความหวานหอม สดชื่นมากแล้วครับ
Italian Soda – 80 BHT
แก้วนี้ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ แต่เก๋ไม่แพ้กัน เพราะรสชาติดีมาก ขอบอกว่าดีมาก ส่วนผสมหลักจะเป็นน้ำเสาวรสและน้ำมะม่วง แล้วตัดด้วยเลม่อนเล็กน้อย เพิ่มความซาบซ่าด้วยโซดาเข้าไป ก็สามารถทำให้คนที่ได้ลองตกหลุมรักแก้วนี้ได้อย่างไม่ยาก และความเก๋อีกอย่างของเครื่องดื่มของที่ Shaka Grill & Bar คือสามารถปรึกษาและบอกความต้องการหรือความชอบของเราได้ บาร์เทนเดอร์ก็จะปรุงมาให้เราได้เลยครับ เพราะมีหุ้นส่วนท่านนึงของร้านเป็น Mixologist ครับ
เรื่องเมนูอาหารก็เป็นเมนูที่กินง่าย ๆ สบาย ๆ สามารถใช้มือหยิบกินได้ แบบไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรครับ ซึ่งสไตล์อาหารก็เป็นการผสมผสานของหลาย ๆ สัญชาติ ทั้ง America, Mexican, Italian, France เป็นต้น แต่ผมถามคำจำกัดความของอาหารของที่ร้านมาทางเจ้าของร้านแจ้งว่าเป็นอาหารสไตล์ American Europe Comfort food คืออยากให้เป็นอะไรที่กินง่ายทานสะดวก เข้ากับการพบปะสังสรรค์เป็นอย่างดี ถ้ารู้แบบนี้แล้วใครที่ยังสงสัยก็ลองดูเมนูที่ผมไปรีวิวมากันเลยแล้วกันครับ
Quesadilla – 199 BHT (Recommend)
เมนูนี้เป็นเมนูสัญชาติแม็กซิกันครับ ใครที่เคยกิน แล้วจำความรู้สึกแบบต้นตำรับได้ ผมขอแนะนำให้มาลองที่นี่ครับ แป้งด้านนอกกรอบ ไส้ข้างในหอมชุ่มฉ่ำ เพราะไส้ข้างในเป็นผักโขมอบชีส ที่มีชีส 3 ชนิดคือ พาเมซาน, มอสซาเรลล่า และ เชดด้า ครับ กลิ่นและรสชาติจึงกลมกล่อมมาก
ถือว่าเป็นการดัดแปรงผสมผสานระหว่างอาหารสไตล์แม็กซิกันและอิตาเลี่ยนได้อย่างลงตัว กินแทบไม่ต้องจิ้มเลย แต่เมื่อลองจิ้มก็จะให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงพิซซ่ามาก ๆ อร่อยไปอีกแบบครับ
Burger Marvel (pork) – 279 BHT
เมนูนี้ดูหน้าตาแล้วก็จะคล้ายเบอร์เกอร์ปกติ แต่จริง ๆ แล้วต้นแบบคือแซนวิช เพราะตัวเบอร์เกอร์จะใช้สันคอหมูบาร์บีคิวไปย่างให้สุกหอมแล้วมาฉีกสไลด์เป็นเส้น ๆ คลุกกับซอสแล้วมาวางแทนก้อนเบอร์เกอร์กินกับผัก และซอสที่ทางร้านใส่ไว้ให้ ประกบด้วยแป้งขนมปังสีดำนุ่ม ๆ ที่ใช้หมึกของปลาหมึกผสมเข้าไป
รสชาติโดยรวมผมเฉย ๆ ส่วนตัวอยากได้ก้อนเบอร์เกอร์มากกว่า และแนะนำว่าให้กินร้อน ๆ จะได้ความนุ่นและกลิ่นที่หอมดีครับ
Carbonara Egg Lava – 260 BHT (Recommend)
ใครที่มีเมนูนี้อยู่ในดวงใจ ผมวอนให้มาลองที่นี่ครับ เพราะเชฟเข้าใจความเป็นต้นตำรับ และความต้องการของผู้ที่รักคาโบนาร่าเป็นอย่างดี ผมเป็นอีกคนที่ชอบเมนูนี้มาก แต่หลัง ๆ หาร้านที่เข้าใจและปรุงเมนูนี้ออกมาได้ดีค่อนข้างยาก จนได้มาลอง Shaka Grill & Bar นี่ ประทับใจมาก
คือทางร้านเข้าใจสูตรต้นตำรับดีว่าคาโบนาร่าจะไม่ใส่นมหรือครีมเลย จะใช้แค่ไข่แดง แต่มันจะกินยากสำหรับคนไทย เชฟจึงปรับสูตรให้แตกต่างจากต้นตำรับนิดหน่อยโดยการใช้ครีมแต่ใช้ไม่เยอะ ส่วนไข่ก็ไม่ได้ตีรวมกับครีม แต่จะแยกออกมาเป็น poach egg โปะมาด้านบนก่อนกินก็เจาะให้ไข่แดงไหลออกมาเพิ่มความเยิ้มให้เมนูนี้กินง่ายมากขึ้น
เบค่อนที่นี่จะมีทั้งแบบนุ่มและกรอบกลิ่นหอม เส้นนุ่มกำลังดี ครีมก็ใช้ในปริมาณที่พอดี ไม่เยอะและไม่น้อยเกินไป รสชาติดี ทุกอย่างโอเคถูกใจมากครับ
Skewers (Beef with Summer time sauce) – 359 BHT (Recommend)
เป็นเมนูที่ดูแล้วนึกถึงช่วงเวลาของการสังสรรค์มาก ๆ ถ้าได้ ทะเล เบียร์ และเพื่อน ๆ มาเคียงคู่กับเมนูนี้ มันสุดยอดมากครับ เมนูนี้ใช้เนื้อสันและผักต่าง ๆ มาเสียบไม้ แล้วย่างด้วยหินภูเขาไฟ(หินลาวา) ป้ายซอสที่ทางร้านปรุงขึ้นมาพิเศษชื่อ Summer Time sauce ที่จะมีส่วนผสมของ Tabasco, มะนาว, ขิง, น้ำผึ้ง และผงบูคาจัน รสชาติของซอสให้ความรู้สึกที่สดชื่นแบบเผ็ดร้อน มีความเข้มข้นของซอสพริก และได้กลิ่นหอมของน้ำผึ้งเกรียม ๆ เคลือบอยู่ที่ผิวของเนื้อสันนุ่ม ๆ ที่สุกกำลังดี อร่อยและเพลิดเพลินดีครับ
Rip Eye Steak – 559 BHT (Recommend)
ถือว่าเป็นสเต็กที่ดีเลยทีเดียว เนื้อเป็นเนื้อนำเข้ามีการบ่มไว้เล็กน้อย เนื้อนุ่มกลาง ๆ แต่ไม่เหนียวเลย มีความชุ่มฉ่ำมาก(juicy สุด ๆ ) และเชฟได้มีการปรุงด้วยเครื่องเทศ เกลือ พริกไท มาในระดับที่กำลังดีอยู่แล้ว เวลากิน ไม่ต้องใส่อะไรเพิ่มเลย อร่อยมากครับ แนะนำว่าต้องลองครับ ราคาก็ไม่แรงมาด้วย กับเนื้อสเต็กดี ๆ ก้อนนี้น่าจะประมาณ
Spare Rips – 550 BHT
เมนูนี้ก็จะต้องมีการเตรียมกันไว้ก่อน ไม่งั้นเนื้อจะไม่นุ่ม ซึ่งทางร้านก็มีการ Slow Cook ก่อน แล้วจึงนำมาหมักซอส แล้วค่อยเอาไปย่างด้วยหินลาวา จนซอสเคลือบและซึมเข้าไปในตัวซี่โครงเลยครับ รสชาติใช้ได้ แต่จะกลิ่นแรงสักหน่อยเพราะมีผงบูคาจัน ใส่อยู่ด้วย และผมคิดว่าถ้าทำให้นุ่มกว่านี้สักนิด และย่างให้กระดูกกับเนื้อร่อนออกจากกันได้อีกสักหน่อยจะดีมากเลยครับ
สรุป Shaka Grill & Bar เป็นร้านที่เมื่อเข้าไปนั่งแล้วรู้สึกสบาย ๆ บรรยากาศเป็นส่วนตัวดี ค่อนข้างเป็นกันเอง สิ่งที่โดดเด่นผมคิดว่าเป็นสูตรอาหารที่ทางร้านคิดค้นพัฒนาจากประสบการณ์ของเชฟซึ่งเข้มข้นทั้งรสชาติและกลิ่นของเครื่องเทศ หลาย ๆ เมนูที่ได้ลองในวันนี้ก็อร่อยมาก และเป็นเมนูอาหารที่ประณีตในการปรุง เพราะทุกจานทุกเมนูเป็นโฮมเมดทั้งสิ้นอาหารที่ออกมาจึงสะท้อนความใส่ใจของเชฟได้เป็นอย่างดี เรื่องเครื่องดื่มก็เป็นอีกเรื่องที่ขอชื่นชมครับ ทางร้านทำออกมาได้รสชาตินุ่มนวล ลงตัว และสดชื่นดีมาก ดื่มแล้วเหมือนได้รีเฟรชตัวเองหลังจากทำงานมาทั้งวัน สิ่งที่ผมว่าเป็นอุปสรรคนิดหน่อยคือเรื่องที่จอดรถที่เราต้องหาจอดริมถนนเอาเองครับ แต่ถ้าใครที่ไปรถแท็กซี่ก็สบายครับเพราะร้านอยู่ติดถนนในซอยเลยครับ เรื่องการบริการส่วนใหญ่ที่ร้านจะเป็นเจ้าของมาบริการเองครับ จึงไม่ต้องกังวลเลย เรื่องราคาผมว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้นะครับ เพราะร้านแนวบาร์หรือบิสโทรหลาย ๆ ที่ ราคาสูงกว่านี้เยอะ แล้วราคาในเมนูของที่นี่ก็เป็นราคาสุทธิแล้วด้วย ดังนั้นใครที่มองหาร้านที่จะนัดคุย นัดดื่มสังสรรค์กัน กับบรรยากาศชิลล์ ๆ อาหารกินง่าย รสชาติเข้มข้น ผมว่าลองมาที่ร้าน Shaka Grill & Bar นี้ดูครับน่าสนใจมาก ๆ ครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น