คือสมัยเรียนมัธยมมีเพื่อนคนนึง ก็ถือว่าเรียนเก่งระดับนึงแต่ไม่ได้เป็นระดับทอปของสายชั้น สมัยมอต้นพอๆกะเรา แพ้มันบ้าง ชนะมันบ้าง
พอม.ปลายอยุ่ห้องเดียวกับมันอีก นี่แพ้มันรูดเลย
เคยไปนอนบ้านมึนคืนนึง น้องมันบอก เพื่อนเราอ่านหนังสือตั้งกะสามทุ่มถึงเที่ยงคืนทุกวัน (ตอนนั้นม.4)
มันรีบถลึงตาใส่น้องมัน ประมาณว่าจะบอกทำไม ความลับกรู ปกติเราถามมันอ่านหนังสือปะ มันบอกไม่ค่อยอ่าน
แต่เราโคดขี้เกียจมาอ่านตอนใกล้สอบ555
สรุปมันติดแพทย์ จุฬาจ้า มันสละสิทธิ์โควตามช.มาเสี่ยงกะแอดมิชชั่นเลย แล้วที่มันติดจุฬา ไม่ใช่โครงการพิเศษ โครงการชนบทต่างๆ ติดแอดมิชชั่นเลยเพราะจังหวัดเราไม่ได้โควตา คือเพื่อนคนอื่นในโรงเรียนที่ติดโควตาแพทย์มช.ก็อาจติดถ้ายื่นadmission หรืออาจไม่ติดก็ได้(สมัยโน้นปี50-51ประมาณนั้น)แต่เพื่อนส่วนใหญ่เอาโควตาแพทย์ มช.หมด
เลยอยากรู้ว่าละคนอื่นๆที่ติดแพทย์ ขยันกันขนาดไหน
ขอคำตอบแบบไม่กั๊กอะ
ปล.เราเรียนโรงเรียนประจำจังหวัด ที่ต่างจังหวัด บรรยากาศการเรียนไม่ได้ร้อนระอุเหมือนรร.ในกทม.
ถามคนที่เป็นหมอ มีญาติเป็นหมอ ต้องขยันอ่านหนังสือขนาดไหนถึงติดแพทย์
พอม.ปลายอยุ่ห้องเดียวกับมันอีก นี่แพ้มันรูดเลย
เคยไปนอนบ้านมึนคืนนึง น้องมันบอก เพื่อนเราอ่านหนังสือตั้งกะสามทุ่มถึงเที่ยงคืนทุกวัน (ตอนนั้นม.4)
มันรีบถลึงตาใส่น้องมัน ประมาณว่าจะบอกทำไม ความลับกรู ปกติเราถามมันอ่านหนังสือปะ มันบอกไม่ค่อยอ่าน
แต่เราโคดขี้เกียจมาอ่านตอนใกล้สอบ555
สรุปมันติดแพทย์ จุฬาจ้า มันสละสิทธิ์โควตามช.มาเสี่ยงกะแอดมิชชั่นเลย แล้วที่มันติดจุฬา ไม่ใช่โครงการพิเศษ โครงการชนบทต่างๆ ติดแอดมิชชั่นเลยเพราะจังหวัดเราไม่ได้โควตา คือเพื่อนคนอื่นในโรงเรียนที่ติดโควตาแพทย์มช.ก็อาจติดถ้ายื่นadmission หรืออาจไม่ติดก็ได้(สมัยโน้นปี50-51ประมาณนั้น)แต่เพื่อนส่วนใหญ่เอาโควตาแพทย์ มช.หมด
เลยอยากรู้ว่าละคนอื่นๆที่ติดแพทย์ ขยันกันขนาดไหน
ขอคำตอบแบบไม่กั๊กอะ
ปล.เราเรียนโรงเรียนประจำจังหวัด ที่ต่างจังหวัด บรรยากาศการเรียนไม่ได้ร้อนระอุเหมือนรร.ในกทม.