พระมหากษัตริย์ภาคพื้นอุษาคเนย์ในอดีตจะมีความเชื่อคติจักราวาทินหรือพระมหาจักรพรรดิราชที่ต้องแสดงพระราชอำนาจ บุญญาบารมี ที่เป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์ในภูมิภาค ซึ่งมักขยายพระราชอำนาจจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออกเสมอ
ยกตัวอย่างกษัตริย์พม่า พระเจ้าบุเรงนอง พระเจ้าอลองพญา พระเจ้ามังระ พระเจ้าปดุง เมื่อสามารถจัดการเรื่องภายในแล้วมักจะยายอำนาจมาทางทิศตะวันออกเสมอ คือ จะขยายอำนาจมาทางอยุธยา ล้านนา ล้านช้าง
ในทางกลับกันกษัตริย์อยุธยา เจ้าสามพระยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อบ้านเมืองเริ่มสงบสุข หมดภัยสงครามจากพม่า จะขยายอิทธิพลไปยังเขมรพระนคร ล้านช้าง โดยเสมอมา ยกเว้นในสมัยสมเด็จพระนเรศวรเพียงพระองค์เดียวที่นำทัพไทยไปตีอังวะแต่ก็ไม่สำเร็จ
ประเด็นข้อสังเกต
ทำไมปริมณฑลแห่งอำนาจของกษัตริย์ไทยจะรวมเอาเขมรพระนคร ล้านช้าง เข้ามาในขอบอำนาจ แต่ไม่คิดรวมเอาพื้นที่ตะวันตกเข้ามาในพระราชอำนาจ ส่วนกษัตริย์พม่าถือว่าลุ่มน้ำเจ้าพระยาอยู่ในขอบปริมณฑลแห่งอำนาจแต่ก็ไม่เคยคิดจะรวมเอาพื้นที่เลยมณีปุระมาอยู่ในพระราชอำนาจ
อะไรเป็นปัจจัยดังกล่าวข้างต้น อยากฟังความคิดเห็นของทุกคนครับ
ทำไมการขยายพระราชอำนาจตามคติจักรวาทินหรือคติราชาธิราชในภาคพื้นอุษาคเนย์ถึงมีลักษณะเคลื่อนย้ายจากประจิมทิศไปบูรพาทิศ
ยกตัวอย่างกษัตริย์พม่า พระเจ้าบุเรงนอง พระเจ้าอลองพญา พระเจ้ามังระ พระเจ้าปดุง เมื่อสามารถจัดการเรื่องภายในแล้วมักจะยายอำนาจมาทางทิศตะวันออกเสมอ คือ จะขยายอำนาจมาทางอยุธยา ล้านนา ล้านช้าง
ในทางกลับกันกษัตริย์อยุธยา เจ้าสามพระยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อบ้านเมืองเริ่มสงบสุข หมดภัยสงครามจากพม่า จะขยายอิทธิพลไปยังเขมรพระนคร ล้านช้าง โดยเสมอมา ยกเว้นในสมัยสมเด็จพระนเรศวรเพียงพระองค์เดียวที่นำทัพไทยไปตีอังวะแต่ก็ไม่สำเร็จ
ประเด็นข้อสังเกต
ทำไมปริมณฑลแห่งอำนาจของกษัตริย์ไทยจะรวมเอาเขมรพระนคร ล้านช้าง เข้ามาในขอบอำนาจ แต่ไม่คิดรวมเอาพื้นที่ตะวันตกเข้ามาในพระราชอำนาจ ส่วนกษัตริย์พม่าถือว่าลุ่มน้ำเจ้าพระยาอยู่ในขอบปริมณฑลแห่งอำนาจแต่ก็ไม่เคยคิดจะรวมเอาพื้นที่เลยมณีปุระมาอยู่ในพระราชอำนาจ
อะไรเป็นปัจจัยดังกล่าวข้างต้น อยากฟังความคิดเห็นของทุกคนครับ