ก่อนไปต่อทะเบียนก็ต้องไปตรวจสภาพรถก่อนครับ เมื่อไปถึงที่ตรวจสภาพรถ ก็เห็นป้ายว่า ที่นี่สามารถต่อ พรบ และ ทะเบียน ได้ด้วย ซึ่งผมก็คิดว่าดีแฮะ ไม่ต้องเสียเวลาไปกรมขนส่งอีก (ซึ่งมันก็อยู่ไม่ห่างกันมาก) ผมสอบถามไปทางเจ้าหน้าที่ A ว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ที่เท่าไหร่ เค้าก็แจ้งว่าไม่เกิน 500 บาท (ปีที่แล้วผมไปต่อที่กรมขนส่งก็ประมาณนี้) แล้วบอกเจ้าหน้าที่ว่า งั้น ต่อทะเบียนกับ พรบ ให้ผมด้วยเลยแล้วกัน
พอเสร็จเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ B (อีกคน คนนี้อายุประมาณ 50 กว่าๆ) ก็แจ้งว่าทั้งหมด 580 บาท ผมก็งง ไหนตอนแรกบอกว่าไม่เกิน 500 เจ้าหน้าที่ B ก็ถามว่าใครบอก ผมก็ตอบไปว่าเจ้าหน้าที่ A ผู้หญิงผมยาว อายุประมาณ 40 เป็นคนบอก ทางเจ้าหน้าที่ A แจ้งว่าเจ้าหน้าที่ B คงบอกผิด (ทำงานอยู่ทุกวันแล้วมาบอกผิดเนี่ยนะ)
ผมก็ถามเจ้าหน้าที่ B ไปว่า 580 บาทนี่คือค่าอะไรบ้าง
ค่าตรวจสภาพรถ 60 บาท
พรบ 350 บาท
ต่อทะเบียน 170 บาท
ผมก็เลยบอกว่าผมขอยกเลิกแล้วกันเพราะ ราคามันไม่น่าจะถึง 580 และทางเจ้าหน้าก็บอกราคาผิดพลาดเอง
ทางเจ้าหน้าที่ B ก็บอกว่า พรบ ยกเลิกไม่ได้เนื่องจากต่อไปแล้ว ผมจึงจ่ายเงินไป 410 บาท เป็นค่าตรวจสภาพรถ และ พรบ
หลังจากนั้นผมก็มาที่กรมขนส่ง พบว่าที่กรมขนส่งคิดราคา ต่อทะเบียนแค่ 100 บาทเท่านั้น ส่วน พรบ ก็ก็มีบริษัทให้เลือกถึง 3 บริษัท ซึ่งราคาอยู่ที่ 326 บาท
สรุปคือ ถ้าผมมาต่อ พรบ และทะเบียนที่กรมขนส่ง ผมจะประหยัดเงินไป 94 บาท ซึ่งผมว่าเป็นส่วนต่างที่ค่อนข้างเยอะเลยนะ
จากที่ผมลองนับรถคร่าวๆ ใน 1 ชม. (ช่วงบ่าย) มีรถมอไซค์เข้ามาไม่ต่ำกว่า 10 คัน ซึ่งตลอดบ่าย คงไม่ต่ำกว่า 15 คัน หรือ 1 วันคงไม่ต่ำกว่า 30 คัน
สมมุติทุกคันต่อ พรบ และทะเบียน 30 x 94 = 2820 / วัน
ใน 1 เดือนคิดอย่างต่ำๆ 20 วัน, 20 x 2820 = 56400
ใน 1 ปี 12 x 56400 = 676800 บาท
มันเป็นเงินไม่น้อยเลยนะครับ สำหรับส่วนต่างตรงนี้
เพิ่มเติมครับ
ทะเบียน ที่กรมขนส่ง 100 บาท, ที่ตรวจสภาพรถ 170 บาท
ส่วนต่างแค่ 70 บาท ดูไม่เยอะใช่ไหมครับ บางทีเราทานข้าวมื้อนึงมากกว่านี้อีก
แต่ถ้าลองคิดเป็น % ผมต้องจ่ายเพิ่มถึง 70 % เลยนะครับ
ทั้งๆที่ พรบ ส่วนต่างแค่ 7.36 % เท่านั้น
ที่ผม แชร์ประเด็นนี้ขึ้นมาเนื่องจากคิดว่าส่วนต่าง มันเยอะเกินไปรึเปล่าครับ
ไม่มีมาตรการกำกับราคาส่วนนี้เหรอครับ ทางที่ตรวจรถสามารถคิดราคาตามใจฉันได้เลยเหรอ
หลายคนคิดว่าเอาสะดวก อันนั้นก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลครับ ทำแค่ปีละครั้ง
แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าช่วงว่างราคาตรงนี้ ผู้ประกอบการสามารถหากำไรเพิ่มได้ไม่น้อยเลยนะครับ
ถ้าปีหน้า เพิ่ม จาก 170 เป็น 180 เพิ่มแค่ 10 บาท มันเล็กน้อยมาก
เค้าก็จะได้กำไรเพิ่มอีก 72000 แบบสบายๆเลย
วันนี้ไปต่อทะเบียนรถมอไซค์มาครับ และผมได้เห็นอะไรบางอย่าง
พอเสร็จเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ B (อีกคน คนนี้อายุประมาณ 50 กว่าๆ) ก็แจ้งว่าทั้งหมด 580 บาท ผมก็งง ไหนตอนแรกบอกว่าไม่เกิน 500 เจ้าหน้าที่ B ก็ถามว่าใครบอก ผมก็ตอบไปว่าเจ้าหน้าที่ A ผู้หญิงผมยาว อายุประมาณ 40 เป็นคนบอก ทางเจ้าหน้าที่ A แจ้งว่าเจ้าหน้าที่ B คงบอกผิด (ทำงานอยู่ทุกวันแล้วมาบอกผิดเนี่ยนะ)
ผมก็ถามเจ้าหน้าที่ B ไปว่า 580 บาทนี่คือค่าอะไรบ้าง
ค่าตรวจสภาพรถ 60 บาท
พรบ 350 บาท
ต่อทะเบียน 170 บาท
ผมก็เลยบอกว่าผมขอยกเลิกแล้วกันเพราะ ราคามันไม่น่าจะถึง 580 และทางเจ้าหน้าก็บอกราคาผิดพลาดเอง
ทางเจ้าหน้าที่ B ก็บอกว่า พรบ ยกเลิกไม่ได้เนื่องจากต่อไปแล้ว ผมจึงจ่ายเงินไป 410 บาท เป็นค่าตรวจสภาพรถ และ พรบ
หลังจากนั้นผมก็มาที่กรมขนส่ง พบว่าที่กรมขนส่งคิดราคา ต่อทะเบียนแค่ 100 บาทเท่านั้น ส่วน พรบ ก็ก็มีบริษัทให้เลือกถึง 3 บริษัท ซึ่งราคาอยู่ที่ 326 บาท
สรุปคือ ถ้าผมมาต่อ พรบ และทะเบียนที่กรมขนส่ง ผมจะประหยัดเงินไป 94 บาท ซึ่งผมว่าเป็นส่วนต่างที่ค่อนข้างเยอะเลยนะ
จากที่ผมลองนับรถคร่าวๆ ใน 1 ชม. (ช่วงบ่าย) มีรถมอไซค์เข้ามาไม่ต่ำกว่า 10 คัน ซึ่งตลอดบ่าย คงไม่ต่ำกว่า 15 คัน หรือ 1 วันคงไม่ต่ำกว่า 30 คัน
สมมุติทุกคันต่อ พรบ และทะเบียน 30 x 94 = 2820 / วัน
ใน 1 เดือนคิดอย่างต่ำๆ 20 วัน, 20 x 2820 = 56400
ใน 1 ปี 12 x 56400 = 676800 บาท
มันเป็นเงินไม่น้อยเลยนะครับ สำหรับส่วนต่างตรงนี้
เพิ่มเติมครับ
ทะเบียน ที่กรมขนส่ง 100 บาท, ที่ตรวจสภาพรถ 170 บาท
ส่วนต่างแค่ 70 บาท ดูไม่เยอะใช่ไหมครับ บางทีเราทานข้าวมื้อนึงมากกว่านี้อีก
แต่ถ้าลองคิดเป็น % ผมต้องจ่ายเพิ่มถึง 70 % เลยนะครับ
ทั้งๆที่ พรบ ส่วนต่างแค่ 7.36 % เท่านั้น
ที่ผม แชร์ประเด็นนี้ขึ้นมาเนื่องจากคิดว่าส่วนต่าง มันเยอะเกินไปรึเปล่าครับ
ไม่มีมาตรการกำกับราคาส่วนนี้เหรอครับ ทางที่ตรวจรถสามารถคิดราคาตามใจฉันได้เลยเหรอ
หลายคนคิดว่าเอาสะดวก อันนั้นก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลครับ ทำแค่ปีละครั้ง
แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าช่วงว่างราคาตรงนี้ ผู้ประกอบการสามารถหากำไรเพิ่มได้ไม่น้อยเลยนะครับ
ถ้าปีหน้า เพิ่ม จาก 170 เป็น 180 เพิ่มแค่ 10 บาท มันเล็กน้อยมาก
เค้าก็จะได้กำไรเพิ่มอีก 72000 แบบสบายๆเลย